บทที่ 76 ผู้ชายเจ้าเสน่ห์อันดับหนึ่ง
เขาจึงทำได้เพียงพูดอย่างโกรธเคืองว่า “ซูเชิ่งจิ่ง ในเมื่อนายตัดสินใจแล้ว นายก็ต้องดูแลเสี่ยวจิ่วแทนฉันให้ดีเข้าใจไหม? ไม่อย่างนัั้น ฉันจะไปคิดบัญชีกับนายแน่❗️”
ซูเชิ่งจิ่งพ่นลมหายใจออกมา “อย่าทำเหมืิอนว่านี่คือลูกสาวของนาย เพราะเสี่ยวจิ่วเป็นลูกสาวของฉัน”
“อะไร? ถ้าไม่ใช่เพราะนาย ฉันคงจะไม่ปล่อยให้เธออยู่ที่นั่นกับนายหรอก? ไม่อย่างนั้น ฉันคงลักพาตัวเธอกลับบ้านมาตั้งนานแล้ว❗️”
“โอ้ ด้วยความสามารถของนาย นายก็สามารถให้กําเนิดเด็กน้อยได้เหมือนกันนะ”
เชิ่งเทียนสื่อ "..."
แกมันเป็นคนเหี้ยมโหด❗️
วันรุ่งขึ้น หยางฟางผิงโทรหาซูเชิ่งจิ่ง และบอกรายละเอียดเกี่ยวกับรายการ และสิ่งที่จะเกิดขึ้น
รายการนี้มีชื่อว่า "ป๊ะป๋า เราไปกันเล้ย❗️" และแขกรับเชิญที่ได้รับการยืนยันแล้วก็มีอยู่สองคู่ นั่นคือนักแสดงชื่อดังหานเซียวและลูกชาย ส่วนอีกคู่ก็คือนักเปียโนชื่อดังเซียวยางและลูกชายของเขานั่นเอง
อีกสองคู่ยังอยู่ในระหว่างการติดต่อ และน่าจะตอบตกลงกันได้ในไม่ช้า
ในวันที่หนึ่งเดือนหน้า แขกรับเชิญจะต้องเดินทางไปที่เมืองเล็กๆทางตอนใต้ เพื่อบันทึกตอนแรก แต่ก่อนหน้านั้น พวกเขาต้องถ่ายทําหนังนําร่องเพื่อกระตุ้นความอยากอาหารของผู้ชมเสียก่อน
ครึ่งเดือนหลังจากการถ่ายทําหนังนำร่อง หยางฟางผิงขอให้ซูเชิ่งจิ่งทํางานด้านความคิดกับซูจิ่ว เพื่อให้เธอได้เตรียมจิตใจไว้ให้พร้อม เผื่อว่าเมื่อถึงตอนนั้น เธอจะตกใจเมื่อพบเจอผู้คนจำนวนมาก
แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ ซูจิ่วไม่กลัวเลยสักนิด แต่กลับอดใจรอจนแทบไม่ไหว
## ?????
แต่ในขณะที่ยังพอมีเวลา ทางที่ดีเธอควรจะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของป๊ะป๋า เพื่อสร้างความประทับใจให้ผู้ชมเหล่านั้นก่อน
ซูเชิ่งจิ่งในปัจจุบันพูดได้ว่าไม่ค่อยน่าชมสักเท่าไร เพราะรูปร่างของเขายังคงอ้วนฉุอยู่บ้างเล็กน้อย ส่วนใบหน้าหล่อเหลา และกล้ามหน้าท้องซิกแพคก่อนหน้านี้ก็หายไปจนหมดแล้ว จึงทำให้รูปลักษณ์ภายนอกที่สง่างามของเขาลดลงไปอย่างมาก
ซูจิ่วรู้ดีว่าไม่ว่าจะเป็นดาราชายหรือดาราหญิง รูปร่างถือว่าเป็นสิ่งสําคัญมาก ถึงแม้ว่าจะสามารถประสบความสำเร็จโดยไม่ต้องเพิ่งรูปลักษณ์ภายนอก แต่ก็ยังคงเป็นชนกลุ่มน้อยอยู่ดี
รูปร่างของซูเชิ่งจิ่งนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่น่าเสียดายที่จะต้องเสียมันไปโดยเปล่าประโยชน์ และถ้าหากเขากลับมาเป็นหนุ่มหล่อที่สุดในโรงเรียนแห่งชาติได้ และทําตัวดีๆในรายการอีกครั้ง เธอไม่เชื่อว่าเขาจะไม่สามารถมีแฟนคลับได้อีกครั้ง❗️
ดังนั้น ในขณะที่กำลังทานอาหารกันอยู่ จู่ๆซูจิ่วพูดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจว่า “ป๊ะป๋า ลุงหยางบอกว่าป๊ะป๋าของเด็กคนอื่นๆในรายการ เป็นนักแสดงและนักเปียโนใช่ไหม?”
ซูเชิ่งจิ่งรับโทรศัพท์ในขณะที่กำลังเปิดลำโพงอยู่ ดังนั้น เขาจึงไม่รู้สึกแปลกใจอะไรที่เกี๊ยวน้อยถามออกมาแบบนั้น แต่จู่ๆหัวใจของเขาก็รู้สึกอึกอัดเล็กน้อย “ใช่ ลูกคิดว่าป๊ะป๋าของคนอื่นนั้นยอดเยี่ยมมากไหม?”
เขาคิดว่าเธอเป็นเด็กน้อยที่กำลังอิจฉาเด็กคนอื่นอยู่
ซูจิ่วส่ายหน้าและพูดขึ้นว่า “ไม่❗️ เพราะหนูรู้สึกว่าป๊ะป๋าของหนูแข็งแกร่งที่สุด❗️”
ซูเชิ่งจิ่งรู้สึกละอายใจ และเมื่อเธอเห็นป๊ะป๋าของคนอื่น บางทีเธออาจจะไม่คิดอย่างนั้นอีกต่อไป
“ป๊ะป๋า ลุงนักแสดงและลุงนักเปียโนมีหน้าตาเป็นยังไง?”
ซูเชิ่งจิ่งเคยเจอพวกเขาในงานอีเวนต์มาก่อน และเมื่อคิดย้อนกลับไปเขาจึงพูดว่า “หล่อมาก”
โดยเฉพาะนักแสดงนําอย่างหานเซียว นักแสดงที่ดีที่สุด ซึ่งผู้ชายคนนี้ติดอันดับ 100 ผู้ชายที่มีเสน่ห์มากที่สุดทุกปี ถึงแม้ว่าเขาจะแต่งงานมาหลายปีแล้ว แต่ก็ยังมีแฟนคลับผู้หญิงจํานวนนับไม่ถ้วนที่ตะโกนว่าอยากให้กําเนิดลิงกับเขาอยู่เลย
ซูจิ่วถามอีกครั้งว่า “เขาหล่อกว่าป๊ะป๋าไหม?”
“หล่อกว่าป๊ะป๋า”
“ไม่❗️” ซูจิ่วปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา “ป๊ะป๋าของหนูหล่อที่สุด เพียงแต่มีเนื้อมากไปหน่อยเท่านั้นเอง แต่ถ้าไม่มีเนื้อตรงนี้จะต้องหล่อที่สุดแน่ๆ”
“แค่ก❗️” ซูเชิ่งจิ่งเกือบสําลักตัวเองตาย
ขนาดเกี๊ยวน้อยที่น่ารักของเขายังรังเกียจที่เขามีเนื้อเยอะเกินไป
แต่เมื่อเธอเตือนขึ้นมาแบบนั้น จู่ๆซูเชิ่งจิ่งก็ตระหนักได้ว่าตัวเองจะต้องบันทึกรายการแล้ว จึงจําเป็นต้องลดไขมันและดูแลภาพลักษณ์ของตัวเองให้ดี ไม่อย่างนั้นเขาจะทำให้ลูกสาวที่น่ารักต้องอับอายจากการยืนอยู่เคียงข้างพ่อที่หล่อเหลาและดูดีพวกนั้นใช่หรือไม่?