ตอนที่แล้วตอนที่ 223+224 เข้าร่วมประชุม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 227+228 คัดค้าน

ตอนที่ 225+226 นั่นที่นั่งของฉัน


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 225 นั่นที่นั่งของฉัน

“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามหาวิทยาลัยแพทย์หนานเจียงจะมีนักศึกษาที่ไม่ให้ความเคารพต่อผู้อาวุโสเช่นนี้!” หน้าของนายฉินมืดลง แต่เขาก็ยังเลือกที่จะลุกขึ้นยืนในวินาทีสุดท้าย เขาไม่แน่ใจว่าเจียงเหยาจะจริงจังหรือไม่ เธอจะหันหน้าและเดินจากไปเมื่อครบสามวินาที หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ผู้ถือหุ้นที่เหลืออาจจะตำหนิเขาที่ทำให้การประชุมพังไม่เป็นท่า

“ฉันควรจะเรียกชายผู้นี้ว่าอย่างไรคะ” เจียงเหยามองไปที่ผู้อำนวยการและถาม

“นี่คือคุณฉิน เขาถือหุ้นหนึ่งในสิบของเราครับ” ผู้อำนวยการอธิบายทันที

เจียงเหยามองไปทางด้านข้างของคุณฉิน เธอคิดกับตัวเองว่า ‘หุ้นเหลือเพียงสี่สิบเปอร์เซ็นต์ และคุณฉินคนเดียวถือหุ้นอยู่สิบเปอร์เซ็นต์ ไม่แปลกที่เขาจะทำตัวกร่างขนาดนี้’

อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นเพียงคนเดียวที่มีอัตราส่วน 1 ใน 10 กล้าที่จะนั่งบนเก้าอี้ของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่ถือหุ้น 60 เปอร์เซ็นต์ ผู้ชายคนนี้ไม่ทำเกินไปหน่อยเหรอ?

“โอ้ คุณคือคุณฉินเหรอคะ” เจียงเหยาหัวเราะเบา ๆ “ฉันเข้ามหาวิทยาลัยแพทย์หนานเจียงด้วยความสามารถที่แท้จริงและมารยาทที่ดีของฉันก็เป็นที่รู้จักกันในหมู่อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยด้วยค่ะ”

เจียงเหยาเรียกนายฉิน แล้วใช้นิ้วชี้แตะไปบนโต๊ะ เธอมองดูชายคนนี้อย่างดูถูก “นี่คือห้องประชุมสำหรับผู้ถือหุ้น สำหรับตัวตนของเราในตอนนี้ เราไม่ใช่หมอ ไม่ใช่ทั้งนักเรียนหรืออาจารย์ ตอนนี้เราเป็นนักธุรกิจ เห็นได้ชัดว่าฉันไม่ใช่นักศึกษาของคุณและคุณไม่ใช่อาจารย์ของฉัน เราไม่ได้เกี่ยวข้องกันและคุณกำลังสอนให้เคารพผู้อาวุโส คุณแน่ใจแล้วเหรอว่าไม่จำเป็นที่จะแวะไปตรวจสองที่แผนประสาทสักหน่อย?”

“คุณเจียงพูดถูก อายุไม่สำคัญสำหรับธุรกิจ” คุณเฟิงเป็นคนแรกที่พูดขึ้น เมื่อเทียบกับความเย่อหยิ่งของคุณฉินแล้ว คุณเฟิงสามารถอ่านใจคนได้ดีกว่า เขาสามารถบอกว่าหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่ใช่คนที่จะไปยุ่งกับคนอื่นได้ง่าย ๆ

ดังนั้นเขาจึงเชื่อว่าไม่จำเป็นต้องทะเลาะกันด้วยเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ จะเสียเวลาในกระประชุมกันไปเปล่า ๆ

“คุณเฟิงเข้าใจพูดจริง ๆ ค่ะ ให้ทุกท่านลืมเรื่อง ‘การเคารพผู้อาวุโส’ สำหรับธุรกิจไปเสียดีกว่าค่ะ ไม่อย่างนั้นเราจะกลายเป็นตัวตลกไปเสียเปล่า ๆ และจะคิดว่าเราไม่รู้จักคิด” เจียงเหยาพูดในขณะที่เดินอย่างมั่นใจไปยังที่ที่คุณฉินได้นั่งอยู่เมื่อสักครู่

อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้นั่งลงบนเก้าอี้ตัวนั้น เธอผลักเก้าอี้ที่คุณฉินเคยนั่งออกด้วยความรังเกียจ เธอยืนอยู่เหนือพวกเขา และเหลือบมองไปยังผู้ถือหุ้นซึ่งนั่งอยู่ในที่นั่งของตนเอง ทุกคนในห้องอายุมากกว่าเธอ แต่เธอได้บอกว่าอายุไม่เกี่ยวอะไรกับธุรกิจ เธอคือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดและเธอต้องการสิทธิ์สูงสุดที่จะพูดต่อหน้าคนอื่น และสั่งในฐานะผู้บริหารสูงสุด

ตลอดชีวิตของเธอ ไม่มีใครรังแกเธอแบบนี้มาก่อน ตระกูลจางที่เคยรักแกเธอได้ ‘สลายไป’ จากโลกใบนี้แล้ว

“คุณฉิน ไม่ต้องยืนค่ะ เรานั่งประชุมกันแบบนี้แหละ ไม่อย่างนั้นคุณจะมาต่อว่า ว่าฉันไม่เคารพผู้อาวุโสอีกที่ปล่อยให้คุณยืนตลอดการประชุม” เจียงเหยาชี้ไปที่ที่นั่งว่างอยู่ เธอพูดถูกและแนะนำคุณฉิน พอคุณฉินนั่งลงแล้ว เธอก็พูดอีกครั้ง “ใช่แล้วค่ะ คุณคนต่างก็มีที่นั่งของตัวเอง เราจะไม่ยุ่งกัน ไม่งั้นทุกอย่างก็คงจะพัง”

“หืม สั่งเหรอ! ไม่ละอายใจบ้างเหรอที่มาออกคำสั่งกับพวกเรา?” ใบหน้าของคุณฉินมืดลงเพราะความโกรธ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนที่ไม่เคารพ เยาะเย้ย และเย้ยหยันคนอื่นขนาดนี้

คุณฉินเชื่อว่าเจียงเหยารู้จักสถานะของตัวเอง เธอควรนั่งบนที่นั่งที่เขาจองไว้ให้เธอเมื่อเธอเดินเข้ามาในประตู อย่างไรก็ตาม หญิงสาวคนนี้ทำให้เขาอับอายและเยาะเย้ยเขาต่อหน้าทุกคน ยังบอกว่าเขาปัญญาอ่อนอีก ใครบ้างจะไม่เข้าใจว่าเจียงเหยาหมายถึงอะไรที่บอกให้เขาไปตรวจที่แผนกประสาท!

คุณเฟิงดึงคุณฉินเบา ๆ เขาต้องการให้เขาสงบสติอารมณ์และดำเนินการประชุมต่อแทนที่จะพยายามอย่างไร้ประโยชน์

__

ตอนที่ 226 สติแตก

เหตุที่พวกเขาจัดประชุมผู้ถือหุ้นในวันนี้ก็เพราะพวกเขาต้องการดูความสามารถของเจียงเหยา รวมถึงบุคลิกและวิธีจัดการกับสิ่งต่าง ๆ หากเป็นไปได้พวกเขาต้องการสูบเลือดของตัวเองเข้ามาในฝ่ายบริหารของโรงพยาบาล

ให้เราเอาตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาล อย่างที่ตระกูลฉีเคยเป็นประธานกรรมการและแต่งตั้งผู้อำนวยการคนปัจจุบันเข้ามารับตำแหน่ง ตอนนี้ตระกูลฉีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลนี้อีกต่อไปแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงจับจ้องไปที่ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลและต้องการให้พวกเขาแต่งตั้งคนใหม่

“เกิดอะไรขึ้น พูดออกมาสิ?” เลือดขึ้นหน้าคุณฉิน เขาเดือดและเหวี่ยงมือของคุณเฟิงออก เขาชี้นิ้วไปที่เจียงเหยา และพูดว่า “คุณเอาพนักงานใหม่เข้ามาทำงานที่โรงพยาบาลทันทีที่คุณเข้ารับตำแหน่ง คุณกล้าพูดเรื่องระเบียบได้อย่างไร คนที่คุณนำเข้ามาผ่านขั้นตอนการจ้างงานอย่างถูกต้องหรือไม่เล่า?”

เจียงเหยามีความสุขที่เห็นการตอบสนองด้วยความโกรธของคุณฉิน หลังจากพูดคุยเป็นเวลานาน เขาก็ไม่พอใจกับการให้อู๋จงเข้ามาทำงานในแผนกรักษาความปลอดภัย

โรงพยาบาลแห่งนี้ใหญ่โตและมีพนักงานประมาณ 1,000 คน รวมทั้งแพทย์และพยาบาล แม้ว่าเธอจะพูดถึงพนักงานคนอื่นโดยไม่เอ่ยถึงงานที่ต้องได้รับใบอนุญาต เช่น แพทย์และพยาบาล เจียงเหยาก็ไม่เชื่อว่าไม่มีคนของพวกเขา หรือที่นี่ไม่เคยอนุญาตให้คนของพวกเขาใช้เส้นสายเข้ามาทำงานเลย!

และเขากำลังพูดถึงขั้นตอนการปฏิบัติงานมาตรฐานกับเธอเนี้ยนะ?

“ถ้าคุณฉินต้องการจะพูดกับฉันในเรื่องนี้...” เจียงเหยาพยักหน้าและเลิกคิ้วเล็กน้อย “ได้”

เมื่อเธอพูดแบบนั้น เจียงเหยาก็หันไปพูดกับผู้อำนวยการว่า “แจ้งแผนกบุคคลเช้าวันพรุ่งนี้ ให้พวกเขาตรวจสอบพนักงานทุกคนของโรงพยาบาลนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน หากมีใครที่ถูกว่าจ้างโดยไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนการรับเข้าทำงานให้ไล่ออกให้หมด ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นหมอหรือคนทำความสะอาดก็ตาม เสร็จแล้ว ค่อยให้อู๋จงคนที่ฉันพามาออกได้!”

“คุณ!”

“คุณเสียสติไปแล้วเหรอ!”

เมื่อเจียงเหยาพูดคำของเธอ ทุกคนในห้องประชุมต่างลุกจากที่นั่ง

ใครบ้างที่ไม่มีญาติพี่น้องที่ต้องการความช่วยเหลือในการหางานทำ สำหรับคนอย่างเขาที่ไม่มีทรัพย์สินใหญ่โตแต่มีทรัพย์สินเล็ก ๆ น้อย ๆ มากมาย ไม่ใช่เรื่องปกติที่พวกเขาจะหางานให้ญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงหรกเหรอ?

โรงพยาบาลเป็นทรัพย์สินที่ทำกำไร เพื่อจองตำแหน่งว่างในโรงพยาบาล มีใครในพวกเขาบ้างที่ไม่เคยใช้วิธีเช่นนี้พาคนเข้ามาทำงานที่นี่?

คุณฉินโกรธจัด เขาเคยเห็นแต่คนที่พยายามผลักคนอื่นไปที่ขอบหน้าผา แต่เขาไม่เคยเห็นคนที่พยายามผลักคนอื่นออกจากหน้าผาเหมือนเจียงเหยามาก่อน

“คนที่เราพามาทำงานที่โรงพยาบาลล้วนมีประโยชน์ต่อโรงพยาบาลทั้งนั้น! แล้วคุณล่ะ คุณเจียง คุณพาคนพิการมาเพื่ออะไร คุณคิดว่าเราทำการกุศลหรือยังไง หรือคุณคิดว่าเราเป็น ‘ศูนย์ช่วยเหลือผู้ทุพพลภาพหรือ?’ ผมน่ะไม่กลัวว่าคุณเจียงจะเด็กเกินไปที่จะตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยในโรงพยาบาลแห่งนี้ จริงไหม มีพนักงานหลายพันคนและผู้ป่วยอีกประมาณหนึ่งหมื่นคนในโรงพยาบาลแห่งนี้...”

ปัง!

ได้ยินเสียงปังดัง เมื่อเจียงเหยาปัดมือของเธอไปยังกองเอกสารที่วางไว้บนโต๊ะ เป็นเอกสารที่เตรียมไว้สำหรับการประชุมตกลงบนพื้นด้วยเสียงดังกระหน่ำ เธอตัดบทคุณฉินโดยตรงอย่างไร้ความปรานี

คุณฉินต้องคิดว่าตัวเองโชคดีที่เจียงเหยายังคงสามารถควบคุมอารมณ์ของเธอได้ในตอนนี้ ไม่อย่างนั้น เธอคงไม่เพียงแค่ปัดเอกสารให้ปลิวว่อนลงจากโต๊ะ เธอคงจะเตะเก้าอี้ที่เขานั่ง และทำให้เขาลงไปนั่งกองอยู่บนพื้น

“ว่ามาสิ ทำไมไม่พูดต่อล่ะ” เจียงเหยากระแทกโต๊ะและมันดังกว่าครั้งเมื่อกี้เสียอีก

ฝ่ามือของเธอฟาดลงบนโต๊ะ เกิดเสียงดัง ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วฝ่ามือของเธอ

ความเจ็บปวดไม่สามารถหยุดความโกรธที่โหมกระหน่ำในหัวใจของเธอได้แม้แต่น้อย หรือลดความเกรี้ยวกราดในหัวใจของทหารที่ชื่อเฉินจื่อบิ่นเลย

ไม่มีใครควรใช้คำว่า ‘คนพิการ’ ดูถูกทหารปลดประจำการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเป็นทหารที่เสียสละขาข้างหนึ่งของเขาเพื่อประเทศชาติ!

บางทีการแสดงออกทางสีหน้าของเจียงเหยาอาจจะเย็นชาอย่างมาก จนทำให้คุณฉินตกตะลึงจนไม่สามารถพูดอะไรต่อได้ เขาถูกรัศมีของเจียงเหยาทำให้แน่นิ่งและพูดไม่ออก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด