ตอนที่แล้วตอนที่ 221+222 ใช้เงิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 225+226 นั่นที่นั่งของฉัน

ตอนที่ 223+224 เข้าร่วมประชุม


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 223 เข้าร่วมประชุม

หลังจากนั้น เธอก็โทรหาพ่อแม่และพี่ ๆ ของเธอต่อที่ระเบียง พอรู้ว่าเธอมีโทรศัพท์มือถือแล้ว พ่อแม่ต่างส่งเสียงเชียร์อย่างร่าเริง พวกเขาชื่นชมลู่ชิงสีที่มีน้ำใจและรู้จักคิด พวกเขาถึงกับยกย่องลูกเขยที่ห่วงใยและรักใคร่ในตัวเจียงเหยาไม่ตระหนี่เหนียวกับของฟุ่มเฟือย

แม้พวกเขาจะมีความสุข ทว่าต่อมากลับรู้สึกหดหู่เมื่อรู้ว่าเจียงเหยาจะไปเยี่ยมลู่ชิงสีที่กองทัพในวันหยุดวันชาติ เพราะนั่นหมายความว่าพวกเขาจะไม่ได้เจอเธอ และจะได้เจอกันอีกทีก็ช่วงปิดเทอมฤดูหนาวเท่านั้น

สุดท้ายเจียงเหยาได้โทรหาลู่อี้ชิง หลังจากที่ลู่อี้ชิงหย่าร้างกับสามี เธอห่วงใยความเป็นอยู่ของพี่สะใภ้เพราะเธอเป็นคือคนแรกที่เจียงเหยาได้ช่วยเปลี่ยนชะตาชีวิต หลังจากที่เธอกลับมาเกิดใหม่

ลู่อี้ชิงไม่แปลกใจเลยสักนิดที่ลู่ชิงสีซื้อโทรศัพท์ให้กับเจียงเหยา เพราะครั้งล่าสุดที่เขากลับมาบ้าน เขาพกโทรศัพท์กลับมาด้วย เธอรู้ว่าน้องชายของเธอ เป็นสามีที่ดีทุ่มเทให้กับเจียงเหยามากขนาดไหน และพวกเขาจะได้พูดคุยหรือส่งข้อความหากันได้ทุกวันด้วย

ในสายตาของใคร ๆ ลู่ชิงสีเป็นคนเงียบขรึมและไม่ค่อยพูด ทว่าลู่อี้ชิงรู้จักน้องชายของเธอเป็นอย่างดี ลู่ชิงสีจะเปลี่ยนไปเป็นอีกคนเมื่อเขาอยู่กับเจียงเหยา

เมื่อเจียงเหยาถามเธอว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง ลู่อี้ชิงหัวเราะและพูดว่า “ฉันไม่เป็นไร วันทั้งวันก็ใช้เวลา ทุ่มเทให้กับการทำงาน รู้สึกดีจริง ๆ ที่น่าตลกนะ ลูกนอกสมรสของจ้าวจวนซ่งคลอดแล้ว มีอาการหัวใจพิการ เด็กคนนั้นป่วยหนัก เกือบไม่รอด แต่ครอบครัวจ้าวไม่มีเงินค่ารักษาพยาบาล ไอ้บ้านั่นและครอบครัวของฝ่ายหญิงไม่เต็มใจจะจ่ายค่ารักษาเด็ก พวกงั่งนั่นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพาลูกไปขอเงินช่วยเหลือทุกวัน พวกเขายังกล้ามาหาฉันเพื่อขอเงินด้วยนะ พูดบ้า ๆ ออกมาว่า เราเคยเป็นครอบครัวเดียวกันและหวังให้ฉันเห็นอกเห็นใจ เพื่อประโยชน์ลูกของจ้าวจวนซ่ง โอ้ คุณพระคุณเจ้า พวกเขาช่างน่าขันเสียจริง”

ลู่อี้ชิงพ่นน้ำลายไม่หยุด “ถ้าเด็กคนนั้นเป็นเด็กถูกทอดทิ้งหรืออะไรก็ตาม ฉันยังอาจจะรู้สึกสงสารให้เงินช่วยเหลือถือว่าทำบุญอยู่บ้าง แต่เด็กคนนั้นเป็นลูกนอกสมรสของจ้าวจวนซ่งกับผู้หญิงไร้ยางอายนั่น! ความเป็นอยู่ของเขามันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะจริงไหม ยายเฒ่าบ้านนั้นยังกล้าพูดอีกว่าเธอจะมาหาฉันอีก ถ้าฉันปล่อยให้ทายาทเพียงคนเดียวของพวกเขาตาย!”

เจียงเหยาไม่ใช่คนแปลกที่ไม่รู้ถึงการกระทำที่ไร้ยางอายของตระกูลจ้าว ดังนั้นหลังจากตกใจระยะหนึ่ง เธอก็หัวเราะกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เจียงเหยารู้ว่าลู่อี้ชิงเป็นผู้หญิงที่จิตใจอ่อนโยน ในชีวิตที่แล้ว เธอจำได้ว่าลู่อี้ชิงเลี้ยงดูลูกด้วยความพยายามและความรักอย่างยิ่งใหญ่ แม้ว่าตัวตนของเด็กจะถูกเปิดเผย เธอก็ทนเห็นเด็กต้องทุกข์จากอาหารเจ็บป่วยไม่ได้และคอยส่งเงินช่วยเหลือเขาต่อไป

อย่างไรก็ตาม สิ่งต่าง ๆ ในชีวิตนี้พลิกผันไปอย่างบ้าคลั่ง ลู่อี้ชิงไม่เคยเห็นหรือแม้แต่จะติดต่อกับเด็ก ดังนั้นเธอจึงไม่มีความรู้สึกผูกพันใด ๆ กับเด็ก อีกทั้งยังรู้สึกขุ่นเคืองต่อตระกูลจาง และสามีเก่าของเธอ เธอจึงไม่มีความเห็นอกเห็นใจเด็กไปด้วย

เจียงเหยารู้ว่าเด็กคนนี้ไร้เดียงสา แต่น่าเสียดายที่เด็กคนนี้ดันมาเกิดเป็นลูกของจ้าวจวนซ่งและชู้รักของเขา เป็นไปไม่ได้ที่จะแยกเด็กออกจากเรื่องนี้ไปด้วย

ไม่มีใครใจบุญ หรือใจกว้างสำหรับเหตุผลเช่นนี้

ไม่มีใครมีหน้าที่รับผิดชอบในผลของการกระทำ ที่ผู้อื่นได้กระทำผิดไป

เจียงเหยาโล่งอกหลังจากรู้ว่าลู่อี้ชิงอยู่ในสภาพที่ดี

เธองีบหลับหลังจากโทรติดต่อกับทางบ้าน หลังจากเลิกเรียน เจียงเหยาได้รับโทรศัพท์จากผู้อำนวยการและแจ้งกับเธอว่าคนขับรถมารอเธอที่ทางเข้าหลักแล้ว

เธอเก็บกระเป๋าของเธอ และเพราะมัวต้องการไปติดตามไปด้วย เธอจึงยัดมันลงในกระเป๋า เธอเข้าไปในรถที่โรงพยาบาลจัดมารับ

“คุณเจียง” นายฟาง ชายหนุ่มอายุ 20ต้น ๆ คือคนขับรถมารับเธอ แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเจียงเหยาอายุน้อยกว่าเขา แต่เขาก็ยังรู้สึกประหลาดใจ เมื่อได้พบเธอ

__

ตอนที่ 224 ไปกับเธอ

“ไปโรงพยาบาลเลยนะครับ” มันค่อนข้างอึดอัดใจสำหรับคนที่อายุมากกว่าเธอพูดกับเธออย่างเป็นทางการเช่นนี้ แต่เธอก็ไม่ได้ห้ามเขาเช่นกัน

รถหยุดที่ทางเข้าโรงพยาบาล ทันทีที่เจียงเหยาลงจากรถ เธอได้ยินเฉินจื่อบิ่นเรียกเธอ

“เจียงเหยา!” เฉินจื่อบิ่นวิ่งเข้ามาหาเธอ พร้อมกับพูดว่า “ผมได้ยินว่าจะมีการประชุมผู้ถือหุ้น คุณมาคนเดียวเหรอ?”

“ใช่ ฉันควรพาคนมากลุ่มหนึ่ง พร้อมรบอย่างงั้นเหรอ?” เจียงเหยาหัวเราะอย่างสนุกสนาน

“งั้น ผมจะไปกับคุณ!” เฉินจื่อบิ่นตกใจที่เจียงเหยายังมีอารมณ์ล้อเล่นอีก “ผมไม่สบายใจน่ะ ถ้าต้องปล่อยให้คุณไปคนเดียว จ่าก็ไม่อยู่ด้วย ผมจะไปเพื่อปกป้องคุณเอง!”

เฉินจื่อบิ่นค่อนข้างรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เพราะเขาอยู่ที่โรงพยาบาล ตลอดทั้งวัน แพทย์และพยาบาลกำลังพูดถึงเรื่องแปลกที่จะเกิดขึ้นในสำนักงานของผู้อำนวยการ ผู้ถือหุ้นรายย่อยหลายคนนั่งอยู่ในห้องทำงาน ตะโกนและสาปแช่งขอให้ที่นี่เกิดความเสียหาย เฉินจื่อบิ่นรู้ว่าเจียงเหยาจะมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมประชุม

เจียงเหยาไตร่ตรองสถานการณ์และตัดสินใจปล่อยให้เฉินจื่อบิ่นไปกับเธอด้วย

เซียวฟางพาเจียงเหยาและเฉินจื่อบิ่นไปที่ห้องประชุมและจากไป เจียงเหยาเดินเข้ามาและพบกับที่นั่งที่ว่างเพียงที่เดียว

ห้องประชุมเต็มไปด้วยเสียงพูดคุย แต่เมื่อเจียงเหยาเดินเข้ามาในห้อง ทุกคนพร้อมใจกันเงียบและหันมามองเธอ

เจียงเหยายืนอยู่ข้างประตูและมองไปที่ชายอ้วนสี่สิบคนที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้

“คุณเจียง” ผู้อำนวยการทักทายเธออย่างรวดเร็ว และเช็ดเหงื่อของเขาอย่างกังวล ขณะที่ดวงตาที่ไม่พอใจของเธอมองไปที่คุณฉิน

ในบรรดาผู้ถือหุ้นรายย่อยเหล่านี้ คุณฉินมีหุ้นอยู่มากที่สุด เมื่อพวกเขาเข้ามาในห้อง เขาก็เดินไปยังที่นั่ง และไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่ตอนที่ผู้อำนวยการบอกกับเขาเบา ๆ

“คุณเจียง ดีใจที่คุณมา ~” คุณฉินที่นั่งไขว้ขาหันเก้าอี้มาและมองเจียงเหยา เขาคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มีพลังและมีเสน่ห์มาก แต่ที่ทำให้เขาแปลกใจ เธอไม่ได้เป็นอะไรนอกจากเด็กสาวที่เปราะบางและเยือกเย็น ดังนั้นคุณฉินจึงทำตัวโอ้อวดและอวดดียิ่งขึ้นไปอีก

เจียงเหยาจ้องมองเขาอย่างเย็นชาสักครู่แล้วเดินไปหาคุณฉิน พร้อมกับเคาะโต๊ะตรงหน้าเขา “ฉันไม่สนหรอกนะว่าคุณเป็นใคร แต่ผู้ใหญ่อย่างคุณคงไม่ต้องการให้ฉันเตือน ว่านี่ไม่ใช่ที่ที่คุณควรนั่งไม่ใช่เหรอคะ”

เจียงเหยาไม่รู้จักผู้ถือหุ้นเหล่านี้ แต่เธอรู้สิ่งหนึ่ง – นอกเหนือจากหุ้นส่วนใหญ่ที่อยู่ในมือของเธอ ส่วนที่เหลือของหุ้นถูกถือครองด้วยหกหรือเจ็ดคนที่อยู่ในห้องนี้

พูดตามตรง เมื่อเธอมองดูผู้คนที่อยู่ในห้องประชุมครั้งแรก เธอรู้สึกกระวนกระวายใจที่น่าจะจบด้วยอาการปวดหัว

เธอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาไร้อารมณ์ ใบหน้าของเธอเคร่งขรึมและมืดมน

“ฉันมีทางเลือกให้คุณสองทางเลือกค่ะ ลุกขึ้นและคืนที่นั่งให้กับฉัน สองจบการประชุมเพียงเท่านี้ เราจะประชุมกันอีกครั้ง เมื่อพวกคุณทุกคนเรียนรู้ที่จะให้ความเคารพฉัน แม้ว่าฉันจะอายุน้อยกว่าทุกคนในห้องนี้ แต่หุ้นส่วนใหญ่เป็นของฉัน”

จากนั้นเจียงเหยาก็ก้าวถอยหลังมายืนข้างเฉินจื่อบิ่น เธอยกแขนขึ้นและมองดูนาฬิกา พร้อมทั้งยกสามนิ้วขึ้น พร้อมกับหดนิ้วกลับทุกวินาที

การกระทำของเธอชัดเจน – เธอให้เวลาคุณฉินเพียงสามวินาทีในการพิจารณาทางเลือกของเขา

ด้วยแผนการอันแยบยลในใจของเขา คุณฉินไม่เคยคิดมาก่อนว่าเด็กผู้หญิงในวัยรุ่นตอนปลายจะมีทัศนคติที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่นได้เช่นนี้ เธอหนักแน่นในการถ่ายทอดคำพูดของตัวเอง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด