ตอนที่แล้วตอนที่ 219+220 เลื่อนการประชุม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 223+224 เข้าร่วมประชุม

ตอนที่ 221+222 ใช้เงิน


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 221 ใช้เงิน

หลังจากที่ได้ยินที่หลินเฉียวอยู่พูด เด็กสาวอีกห้าคนก็หันมาจ้องมองหน้าท้องที่แบนราบของเจียงเหยา

“นี่ นี่ หยุดจ้องที่ท้องฉันได้แล้ว!” เจียงเหยาปิดหน้าท้องของเธอและขมวดคิ้ว รอยยิ้มของมัวสะท้อนออกมาจากกระเป๋า เธอขดฝ่ามือกำหมัดต่อยกระเป๋าสองครั้ง จากนั้นรู้สึกพอใจเมื่อมัวส่งเสียงร้อง “อุ๊ย!” ออกมา

“ฉันไม่ได้ท้อง พวกเธอจินตนาการไปไกลแล้ว” เจียงเหยาชี้ไปที่กระเป๋าของเธอและพูดว่า “ฉันซื้อให้มัว ช่วงนี้มันไม่ชอบกินปลาแห้งหรืออาหารแมว”

“แมวกินได้ด้วยเหรอ” เหวินเสวี่ยฮุ่ยขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

“ใช่ ตอนที่อยู่บ้านเรา เราก็ให้มันกินแบบนั้นแหละ ไม่เป็นไรหรอก”

เจียงเหยาพูดเรื่องโกหกได้ค่อนข้างรวดเร็ว เธอไม่แม้แต่จะกะพริบตาหรือหน้าแดงเมื่อพูดโกหก

“อ้อเข้าใจแล้ว” ในทางกลับกัน หลินเฉียวอยู่เป็นคนที่หน้าแดงขึ้นมาอย่างอาย ๆ “ฉันขอโทษนะ ฉันคิดมากไป”

อันที่จริง มันเป็นเรื่องปกติสำหรับหลินเฉียวอยู่ที่จะคิดแบบนั้น ท้ายที่สุดเจียงเหยาก็แต่งงานแล้ว และดูเหมือนว่าเธอจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสามีของเธอด้วย ดังนั้นเมื่อเธอสังเกตเห็นว่าความอยากอาหารของเจียงเหยาเพิ่มขึ้นอย่างมาก เธอก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงการรับประทานอาหารมากอย่างน่าตกใจของพี่สะใภ้ระหว่างที่เธอตั้งครรภ์

“พอพูดถึงมัน ฉันสังเกตว่ามันไม่ได้กินอะไรเลยในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา มันไม่แตะอาหารแมวหลังจากกินเพียงสองคำ ฉันไม่ได้ดูปลาด้วยสิว่าเหลือไหม” โจวเสี่ยวเซี่ยอุทานว่า “แมวของเธอนี่พิเศษจริง ๆ”

ทันทีที่พวกเขากลับมาถึงหอพัก หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว ก่อนที่เจียงเหยาจะเก็บกระเป๋าของเธอไว้ มัวก็กระโดดออกจากกระเป๋าของเจียงเหยาและกระตุ้นให้เธอแกะกล่องอาหาร สิ่งแรกที่เธอทำคือเทอาหารกลางวันลงในชามใส่อาหารขนาดใหญ่พิเศษของมัว

ในที่สุดเจียงเหยาก็ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับมัวอีกครั้ง – ไม่เพียงแต่เป็นแมวขี้เรื้อนเท่านั้น แต่ยังเป็นแมวตะกละด้วย!

แค่ดูสิ่งที่มันเลือกสำหรับอาหารกลางวัน! ซี่โครงหมูผัดเปรี้ยวหวาน! ซี่โครงทอด! ซี่โครงตุ๋น! มันเลือกกินแต่ซี่โครงในมื้อนี้มื้อเดียว เธอสงสัยว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับอาหารไม่ย่อยขณะที่ซี่โครงเหล่านี้ผ่านระบบย่อยอาหารเล็ก ๆ ของมันได้หรือไม่

โจวเสี่ยวเซี่ยนั่งยอง ๆ อยู่ข้างมัว เฝ้าดูมันรับประทานอาหารกลางวันด้วยความยินดี หลังจากเฝ้าดูอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ถอนหายใจอย่างสบาย ๆ และพูดว่า “เจียงเหยา อาหารแมวของเธอดีกว่าอาหารของพวกเรารวมกันเสียอีก”

เนื้อแต่ละชามราคาไม่ถูกเลย แม้ว่าจะเป็นอาหารจากโรงอาหารก็ตาม ส่วนใหญ่ทุกคนมีเงินรายเดือนที่จำกัด เมื่อต้องออกจากบ้านมาเรียนหนังสือ พวกเขาไม่มีความหรูหราที่จะกินเนื้อในแต่ละวันได้ แต่สัตว์เลี้ยงของเจียงเหยา กลับได้กินเนื้อถึงสามอย่างในมื้อเดียว

โจวเสี่ยวเซี่ยเพียงคร่ำครวญเกี่ยวกับความจริงที่ว่าสัตว์เลี้ยงของคนรวยมีชีวิตที่ดีกว่าพวกเขาเสียอีก แต่ก็ไม่ได้เกิดความอิจฉาที่เป็นอันตรายอะไร เธอตระหนักและเข้าใจถึงความเหลื่อมล้ำทางสังคมระหว่างคนรวยและคนจน เธอรู้สึกขอบคุณที่เธอได้มาที่นี่เพื่อเรียนหนังสือและได้รับเงินรายเดือนจากครอบครัวให้เพียงพอที่จะอยู่ได้อย่างสบาย

หลี่อี้และหลินเฉียวอยู่ได้ยินเสียงถอนหายใจของโจวเสี่ยวเซี่ยและพวกเขาก็พบว่ามัวกำลังมีเนื้อสามอย่างในชาม พวกเขาเหลือบมองเจียงเหยาที่กำลังเก็บหนังสือและกระเป๋าของเธอ

ตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาเจอ ก็สามารถบอกได้ว่าเจียงเหยามาจากครอบครัวที่ร่ำรวย แต่พวกเขาไม่เคยคาดหวังว่าเธอจะรวยได้ขนาดนี้ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ต้องวิตกกังวลหรือหงุดหงิดที่จะหาอาหารกลางวันมากมายให้กับสัตว์เลี้ยงของเธอ

ในฐานะที่เป็นสัตว์ มัวไม่ได้สนใจเรื่องของราคา มันสนใจเพียงแค่ว่าอาหารนี่ดึงดูดใจมันหรือไม่เท่านั้น

ก่อนที่เจียงเหยาจะเดินทางไปเรียน ญาติของเธอก็ให้เงินจำนวนมากเพื่อใช้เป็นค่ากินอยู่ พ่อแม่ของเธอให้เงินค่าขนม แม้แต่พี่ชายทั้งสองก็ให้เงินเป็นจำนวนมากเพื่อให้เธอไว้ใช้จ่ายในมหาวิทยาลัย เธอสามารถใช้ชีวิตได้อย่างหรูหราและสะดวกสบาย

ตอนที่อยู่สนามบิน ลู่ชิงสีก็ยังให้เงินแก่เธออีก

อีกอย่างสมุดบัญชีธนาคารของลู่ชิงสีก็อยู่ที่เธอ เขาฝากเงินเดือนไว้ในบัญชีตั้งแต่เข้าทำงานแรก ๆ และไม่เคยถอนออกมาใช้ มันเป็นเงินจำนวนมากพอควร ด้วยเงินทั้งหมดที่เธอได้รับจากคนที่รักเธอ เธอไม่ต้องแตะต้องเงินในบัญชีธนาคารของเขาเลยด้วยซ้ำ

__

ตอนที่ 222 ครอบครัวที่อบอุ่นและห่วงใย

เจียงเหยาคิดและสันนิษฐานว่าพระเจ้าคงใช้เวลากับเธอมากขึ้น

ในครอบครัวเดิมของเธอ พ่อแม่และพี่น้องของเธอต่างชื่นชอบเธอ

ในครอบครัวของสามี เธอก็เป็นลูกสะใภ้ที่น่าหวงแหน และมีสามีที่คอยเอาอกเอาใจ

ครอบครัวของเธอไม่ได้ร่ำรวยมาก เมื่อพี่น้องต้องไปโรงเรียน เมื่อมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่าง ๆ พ่อแม่ของเธอจะให้เงินกับเธอก่อน จากนั้นพวกเขาจะไปขอยืมเงินเพื่อเพื่อให้กับพี่ ๆ ของเธอ ครูมักจะลงโทษนักเรียนที่ไม่ได้ชำระค่าธรรมเนียมภายในเวลาที่กำหนดให้ยืนอยู่ข้างทางเดิน พี่ชายของเธอถูกลงโทษหลายครั้งด้วยเหตุนี้ เธอรู้ว่ามันต้องน่าอับอายและน่าขายหน้ามาก แม้ว่าเธอจะไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนก็ตาม

ครอบครัวของเจียงเหยาไม่ได้ร่ำรวย แต่ไม่มีใครเคยปล่อยให้ลูกสาวเพียงคนเดียวในครอบครัวต้องเศร้าและเสียใจเพราะเรื่องเงิน

เมื่อเธอคิดถึงอดีต เธอก็คิดถึงบ้าน เธอคิดถึงพ่อแม่สามีและพี่น้องของเธอ

“ฉันขอออกไปโทรศัพท์ที่ระเบียงนะ” เจียงเหยาพูดกับเพื่อนร่วมห้องของเธอ ขณะที่เธอหยิบโทรศัพท์และเดินไปที่ระเบียง

“กำลังจะโทรหาใครน๊า ~” เหวินเสวี่ยฮุ่ยแซวและหัวเราะคิกคัก

“ฉันกำลังจะโทรหาที่บ้าน” เจียงเหยายอมจำนน จากนั้นเธอก็โทรไปที่เบอร์บ้านของตระกูลลู่

หลังจากเสียงโทรศัพท์ดัง 2-3 ครั้ง แม่ลู่ก็รับสาย เธอเพิ่งทานอาหารกลางวันเสร็จและยังไม่ได้งีบหลับ

“แม่คะ หนูเองค่ะ” เจียงเหยากล่าว “เป็นยังไงบ้างคะ? แม่กับพ่อทานข้าวกันแล้วรึยัง”

แม่ลู่ตกตะลึงเมื่อได้ยินเสียงของเจียงเหยาทางโทรศัพท์ แต่เธอก็ยินดีเช่นกัน “ทานแล้วล่ะ พวกเราเพิ่งจะทานกันเสร็จนี่แหละ เธอล่ะเป็นยังไงบ้าง? ที่มหาวิทยาลัยเป็นยังไงบ้าง? มีเพื่อนร่วมห้งอและเพื่อนร่วมชั้นแล้วใช่ไหม? พวกเขาดีกับเธอหรือเปล่า? มีเงินพอใช้จ่ายไหม? ถ้าไม่พอ จะเอาเพิ่มก็บอกพวกเราได้นะ”

“ค่ะ พอแล้วค่ะ” เจียงเหยาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “อันที่จริง ชิงสี เขาให้สมุดบัญชีเงินเดือนกับหนูก่อนที่จะมาเรียนมหาวิทยาลัยค่ะ”

แม่ลู่ตกใจกับคำพูดดังกล่าว แต่เธอไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้

“เอ่อ แม่คะ นี่เบอร์โทรของหนูนะคะ ชิงสีเขาซื้อโทรศัพท์ให้หนูตอนเปิดเรียนค่ะ เขาบอกว่าจะได้ติดต่อกันสะดวกขึ้น” เจียงเหยากล่าว “แม่จดเบอร์หนูไว้ด้วยนะคะ แม่สามารถโทรหาหนูได้ทุกเมื่อที่ต้องการเลยค่ะ”

“อา! ได้ ได้! ทุกวันนี้มีโทรศัพท์อยู่กับตัวก็สะดวกมากจริง ๆ” แม่ลู่ตอบ เธอไม่ได้คิดว่ามันเป็นการสิ้นเปลืองสำหรับลูกชายของเธอที่จะใช้เงินซื้อโทรศัพท์มือถือ แต่เธอคิดว่ามันเป็นการซื้อมาเพื่อใช้งานได้จริง

เจียงเหยารู้ว่าแม่สามีของเธอชอบงีบหลับหลังจากรับประทานอาหารกลางวัน ดังนั้นเธอจึงคุยอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะวางสาย

แม่ลู่กลับไปที่ห้องของเธอหลังจากวางสาย สามีของเธอถาม “ใครโทรมา?”

“เหยาเหยาน่ะ” แม่ลู่กล่าว “เธอบอกว่าชิงสีซื้อโทรศัพท์มือถือให้”

“ก็ดี” พ่อลู่มีปฏิกิริยาเดียวกับแม่ลู่ “เธออยู่ต่างจังหวัดคนเดียว จะสะดวกและง่ายกว่าสำหรับเธอที่จะติดต่อใคร ๆ”

“และชิงสีก็ให้สมุดบัญชีเงินเดือนกับเธอด้วย” เมื่อแม่ลู่พูดเรื่องนี้ เธอไม่ได้อารมณ์เสีย แต่มีความรู้สึกคลุมเครือว่าลูกชายของเธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว และในที่สุดเขาก็มีครอบครัวเล็ก ๆ ของตัวเอง ความรู้สึกนั้นมีรสชาติขมอมเปรี้ยวอยู่บ้าง

“ไม่ว่าจะยังไง ก็เป็นเรื่องของพวกเขา เราไม่ควรเข้าไปยุ่งกับการตัดสินใจของพวกเขา เราไม่ได้ต้องการให้ชิงสีเขาสนับสนุนด้านการเงินกับพวกเขานี่ เขาอยู่ในกองทัพก็ไม่ได้ใช้เงิน เหยาเหยากำลังเรียนอยู่ เธอจำเป็นต้องใช้เงิน เป็นเรื่องปกติที่ลูกชายของเราจะมอบสมุดเงินฝากให้กับเธอ”

พ่อลู่หันกลับมาถามเมื่อเห็นสีหน้าแปลก ๆ ของภรรยา “ทำไมล่ะ? มีอะไรผิดปกติงั้นรึ? คุณกลัวว่าเสี่ยวเหยาจะใช้จ่ายฟุ่มเฟื่อยเหรอ?”

“ไม่ ไม่ใช่อย่างแน่นอน”

แม่ลู่รู้จักเจียงเหยาเป็นอย่างดี เธอเป็นคนประหยัดและไม่ค่อยใช้เงิน

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง แม่ลู่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก สามีของเธอพูดถูก ลูกๆ ก็โตกันแล้ว มันขึ้นอยู่กับพวกเขาที่จะคิดเรื่องของตัวเอง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด