ตอนที่ 1173-1174 ไม่มีความสุขเหรอ?
ท้ายที่สุด ป้าสะใภ้รองของเขาต้องการให้เหมาซิงซู่รับหลานชายของเธอมาเป็นลูกบุญธรรม เอได้วางตัวหลานชายของเธอไว้ในบริษัทของอารองเพื่อให้เขาได้รับตำแหน่งสำคัญ
เขาไม่สามารถพูดแบบนั้นออกไปต่อหน้าเฉียวเมียนเมียนได้
หากเฉียวเมียนเมียนรู้นิสัยของป้าสะใภ้รองแล้วล่ะก็เธอต้องอดเป็นห่วงเฉียวเฉินไม่ได้อย่างแน่นอน
เหมาเยซื่อไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้
หญิงสูงวัยยังคงกระวนกระวายใจมากและไม่สามารถสงบลงได้ในทันที
“อย่ารอช้ากับเรื่องนี้ ไหน ๆ ผลก็ออกมาว่าเฉินเฉินเป็นคนของตระกูลเหมาของเราแล้ว ต้องรีบบอกเรื่องนี้ให้เขาได้รู้โดยเร็ว แล้วใครกันเล่าจะเป็นบอกเรื่องนี้กับเฉินเฉิน”
เหมาเยซื่อคิดอยู่ครู่หนึ่ง “คุณย่าครับ ให้ผมกับเมียนเมียนเป็นคนบอกเขาน่าจะดีกว่าครับ ในเมื่อเราจะบอกเรื่องนี้กับเขา พวกคุณย่าก็เตรียมตัวไว้ก่อนเลยครับ เราจะโทรหาอีกทีในวันพรุ่งนี้ เมื่อเราได้เจอเขา”
“ได้ ได้ได้ แต่อาซื่อ หลานคิดว่าเฉินเฉินจะยอมรับตัวตนของเขาได้ไหม?” หญิงสูงวัยมีความสุข หลังจากตื่นเต้นอยู่พักหนึ่ง เธอก็เริ่มวางแผนไว้ล่วงหน้า “เขาจะโทษเราไหม? เขายังเด็กมาก แต่ต้องกลายไปเป็นเด็กกำพร้า”
“หลานคิดว่าเราควรทำยังไง ถ้าเขาปฏิเสธ ไม่ยอมรับตัวตนของเขาในฐานะสมาชิกในครอบครัวเหมาของเรา?”
“ไม่ง่ายเลยนะที่อารองของหลานจะมีลูกชาย และย่าเองก็ชอบเฉินเฉินมากด้วย...”
“คุณย่าครับไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ไปครับ เฉินเฉินเป็นเด็กฉลาดมาก ตราบใดที่เราบอกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น ผมเชื่อว่าเขาจะไม่กล่าวโทษใคร”
“เฮ้อ ย่าก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ถ้าเขาต่อว่าขึ้นมาจริง ๆ ย่าก็เข้าใจได้”
เหมาเยซื่อพูดอีกสองสามประโยคกับคุณผู้หญิงเหมาอาวุโส ก่อนที่จะวางสายไป
เขาหันไปมองเฉียวเมียนเมียน “ผลออกมาแล้วล่ะ เฉินเฉินเป็นลูกของอารองจริง ๆ”
เฉียวเมียนเมียนรู้สึกงงงวยกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
ความรู้สึกมันซับซ้อนปนเปกันไปเสียหมด
เธอมีความสุขกับเฉียวเฉิน ทว่าเธอก็รู้สึกเศร้าอยู่บ้าง
แม้ว่าเฉียวเฉินจะเป็นน้องชายแท้ ๆ ของเธอหรือไม่ก็ตาม มันไม่ได้กระทบความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องของเธอเลย แต่เธอก็ยังรู้สึกเศร้า
เธอคิดเสมอว่าเฉียวเฉินคือน้องชายที่แท้จริงของเธอ
เมื่อกี้ยังเป็นแบบนั้นอยู่เลย...
เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่ได้รับผลกระทบต่อความรู้สึกเลย
เธอมีความสุขกับเฉียวเฉินเพราะเมื่อเขายอมรับครอบครัวที่แท้จริงของเขา เขาจะมีสถานะที่น่ารับถือในอนาคต
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันก็ดีกว่าการเป็นลูกชายของตระกูลเฉียวพันเท่า
ตระกูลเหมาสามารถให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่เขาได้
เส้นทางในอนาคตของเขาจะราบรื่นและดีขึ้น
เธอมองดูเหมาเยซื่ออย่างมึนงงโดยไม่พูดอะไร
“คุณไม่มีความสุขหรอกเหรอ” เหมาเยซื่อรู้สึกว่าเธอรู้สึกแย่อยู่บ้าง เขาเอื้อมมือไปแตะศีรษะของเธอและพูดเบา ๆ ว่า “คุณกังวลว่าเฉียวเฉินจะเลิกติดต่อกับคุณ หากเขากลับเข้าตระกูลเหมาอย่างงั้นเหรอ?”
เฉียวเมียนเมียนเม้มริมฝีปากและเงียบ
เธอ...กังวลเช่นนั้นจริง ๆ
เธอรู้ดีไม่ว่าเฉียวเฉินจะเป็นลูกของตระกูลเหมาหรือตระกูลเฉียว ในสายตาเธอ เขาก็ยังคงเป็นน้องชายของเธอ
ความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขายังเหมือนเดิม
แต่นั่นเป็นเพียงความคิดของเธอ
เธอไม่รู้ว่าเฉียวเฉินจะคิดอย่างไร
หากเขารู้ว่าพวกเขาไม่ใช่พี่น้องโดยสายเลือด เขาจะปฏิบัติต่อเธออย่างใกล้ชิดเหมือนเมื่อก่อนหรือเปล่า?
แม้ว่าเธอจะรู้ว่าเฉียวเฉินเป็นคนแบบไหน
ทว่าเธอก็ยังกังวลใจ
__
เธอกังวลเพราเธอแคร์เขามากเกินไป
“ไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นรหอก คุณไม่รู้หรือไงว่าเฉินเฉินรู้สึกยังไงต่อคุณ?” เหมาเยซื่อดึงเธอขึ้นมาและปลอบโยนเธออย่างอ่อนโยน “ที่จริงแล้ว ไม่ว่าเฉินเฉินจะเป็นน้องชายที่แท้จริงของคุณไหม คุณก็ยังเป็นครอบครัวเดียวกัน”
“ตอนนี้คุณแต่งเข้าตระกูลเหมาของเราแล้ว ถ้าเขาเติบโตมากับเรา เขาก็ต้องเรียกคุณว่าพี่สะใภ้ อีกอย่าง ผมรู้สึกว่าสายสัมพันธ์ทางสายเลือดมีความสำคัญ แต่ความเป็นเพื่อนและการดูแลเอาใจใส่มาอย่างยาวนานสำคัญกว่า เฉินเฉินอาจเป็นลูกชายของอารอง แต่สำหรับเขา อารองเป็นเพียงคนแปลกหน้าเท่านั้น ทำไมจู่ ๆ เขาจะห่างเหินกับคุณเพราะเพราะเขาไม่ได้เป็นคนจากตระกูลเฉียวล่ะ?”
“ผมบอกได้เลยว่าเฉินเฉินมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อคุณ คุณกังวลมากเกินไปแล้ว มันจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน”
ถ้าเฉียวเฉินไม่มีจิตสำนึกจริง ๆ เขาคงไม่ต้องการน้องเขยแบบนี้
สำหรับเหมาเยซื่อแล้ว ไม่มีใครสำคัญไปกว่าภรรยาของเขา
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับภรรยาของเขา
เฉียวเมียนเมียนหยุดเดินและมองมาที่เขา “เหมาเยซื่อคะ อารองของคุณเป็นคนแบบไหน? ถ้าเราปล่อยให้เฉินเฉินรู้เกี่ยวกับชาติกำเนิดของเขา เขาจะปฏิบัติต่อเฉินเฉินดีหรือเปล่า? ถ้าเฉินเฉินกลายเป็นลูกชายของเขา ต่อไปเขาจะมีความสุขไหม?”
แม้ว่าเธอรู้ว่ามันยากสำหรับทุกคนที่จะเข้าใกล้ตระกูลเหมา และเฉียวเฉินจะมีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแน่นอนในฐานะนายน้อยตระกูลเหมา เฉียวเมียนเมียนก็ยังคงเป็นกังวล
เธอขมวดคิ้วอย่างกังวลและพูดว่า “ถ้าเขาได้รับการยอมรับ ครอบครัวของอารองที่เหลือจะยอมรับเขาไหมคะ? ฉันหมายถึง..อารองของคุณมีลูกคนอื่นอีกหรือเปล่า พวกเขายินดีต้อนรับเฉินเฉินหรือเปล่าคะ?”
ย้อนกลับไปแล้ว เฉียวอันซินเข้ามาในตระกูลเฉียว หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ไม่มีชีวิตที่สงบสุขอีกเลย
เฉียวเมียนเมียนอดไม่ได้ที่จะกังวลเกี่ยวกับเฉียวเฉิน
“อารองของผมเขาไม่มีลูก หลังจากที่ได้เฉินเฉินคืนมา เขาจะกลายเป็นลูกชายคนเดียวของเขา” เหมาเยซื่อปลอบเธอและอธิบายต่อไปว่า “คุณย่าเพิ่งบอกผมว่าหลังจากผลการทดสอบออกมา ลุงรองร้องไห้ด้วยความยินดี ถ้าเฉินเฉินกลับไป เขาคงปฏิบัติต่อเฉินเฉินเหมือนสมบัติล้ำค่าอย่างแน่นอน”
“อารองเป็นคนอ่อนโยนและใจดีมาก ผมคิดว่าบุคลิกของเฉินเฉินคล้ายกับเขามาก ต่อไปพวกเขาน่าจะเข้ากันได้ดี”
เฉียวเมียนเมียนโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย
หากเหมาซิงซู่ไม่มีลูกคนอื่น เธอก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความยากลำบากของเฉียวเฉิน
“แล้วน้าสะใภ้ของคุณล่ะคะ? เธอจะยินดีต้อนรับเฉินเฉินไหม?”
เหมาเยซื่อเงียบ
เขาไม่ต้องการนิ่งเฉยต่อหน้าเฉียวเมียนเมียน ดังนั้นเขาจึงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และพูดกับเธอด้วยคำพูดที่ดีที่สุด “อารองจะคุยกับท่านเอง ถ้าทุกอย่างพร้อม เราจะบอกให้เฉินเฉินรู้เกี่ยวกับชาติกำเนิดของเขา”
“คุณไม่ต้องกังวลว่าเฉินเฉินจะถูกใครรังแก แม้ว่าอารองของผมจะเป็นคนสุภาพและใจดี แต่เขาก็มีหลักการของเขา นอกจากนี้ยังมีผมและมีคุณย่า เราจะไม่ปล่อยให้เฉินเฉินต้องตกที่นั่งลำบาก”
“แน่นอน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเฉินเฉินต้องเต็มใจที่จะกลับเข้ามาในตระกูลเหมาไหมด้วย”
เฉียวเมียนเมียนเข้าใจสิ่งที่เหมาเยซื่อพูด
ดูเหมือนว่าน้าสะใภ้ของเขาจะไม่เต็มใจที่จะยอมรับเฉียวเฉินเป็นลูกชายของเธอ
เฉียวเมียนเมียนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจ “ค่ะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เฉินเฉินมีสิทธิ์ที่จะรู้เรื่องนี้ ส่วนจะเลือกยังไง ก็แล้วแต่เขาตัดสินใจ”
...
วันถัดมา
เฉียวเมียนเมียนได้รับโทรศัพท์จากลินดาแจ้งว่าเธอจะต้องเข้าร่วมงานการกุศลในตอนเช้า