ตอนที่ 1171-1172 เหมือนได้เห็นเขาตอนวัยเด็ก
เฉียวเฉินและเหมาซิงซู่ดูคล้ายกันจนน่าตกใจ
เหมาเยซื่อกล่าวว่าเฉียวเฉินดูคล้ายอารองของเขาเมื่อตอนที่เขายังหนุ่ม
ทว่าตอนนี้ แม้หน้าตาจะไม่เหมือนเดิม แต่ดูเหมือนว่าใบหน้าของพวกเขาแทบจะเป็นพิมพ์เดียวกัน
เหมาซิงซู่แก่แล้ว ในขณะที่เฉียวเฉินยังหนุ่ม
อย่างไรก็ตาม หากมีใครมาเห็นพวกเขาก็ต้องสงสัยว่าพวกเขาเป็นพ่อลูกกัน
เพราะทั้งสองคนคล้ายกันจนเกินไป
เหมาซิงซู่ถูกหญิงสูงวัยเรียกให้มาหา เขารู้สึกตกใจเมื่อเห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ หญิงชรา
เขามองไปที่เฉียวเฉินด้วยความตกใจ เดิมทีหญิงสูงวัยต้องการให้เขาตรวจดีเอ็นเอ
ก่อนที่จะมา เหมาซิงซู่ไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก
เขาไม่ได้หวังว่าจะเจอลูกชายของตนเองแล้ว
เขาเคยส่งคนไปสืบมาหลายปี ทว่าไม่พบเบาะแสใด ๆ เลย
ในใจเขา เขาคิดว่าลูกชายที่เขาไม่เคยพบมาก่อน ไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้ว
คุณผู้หญิงเหมาอาวุโสเพียงขอให้เขามาตรวจดีเอ็นเอ เพราะเธอเห็นว่าเด็กคนนี้หน้าตาคล้ายเขาอยู่บ้าง
แต่ทันทีที่เขาเห็นเฉียวเฉิน เหมาซิงซู่ก็เข้าใจว่าทำไมคุณผู้หญิงเหมาอาวุโสถึงดึงดันจะให้เขามาให้ได้
เมื่อเขามองไปที่เฉียวเฉิน ดูเหมือนว่าเขาจะเห็นตัวเองสมัยที่ยังวัยรุ่น
หากเขาไม่ได้มาเห็นด้วยตาของตัวเอง เขาคงไม่มีวันเชื่อว่าจะมีคนที่คล้ายกับเขามากขนาดนี้อยู่บนโลกใบนี้
เหมาซิงซู่จ้องมองเฉียวเฉินด้วยดวงตาที่ว่างเปล่า ตอนแรกเขาไม่ได้หวังอะไร ทว่าตอนนี้เขารู้สึกว่าเฉียวเฉินอาจจะเป็นลูกชายของเขาก็ได้
อารมณ์สงบของเขาเริ่มกระวนกระวายใจ
เขามองไปที่เฉียวเฉินด้วยความตื่นเต้น
ในเวลาเดียวกัน เมื่อเฉียวเฉินเห็นเหมาซิงซู่ ใบหน้าของเขาก็แสดงความประหลาดใจอย่างเปิดเผย
“ซิงซู่ มาแล้วเหรอ” คุณผู้หญิงเหมาอาวุโสเห็นเหมาซิงซู่จ้องมองไปที่เฉียวเฉินท่าทางตกใจ เธออดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “นี่ลูกไม่เคยพบเมียนเมียนกับเฉินเฉินมาก่อนใช่ไหม? แม่จะแนะนำให้ นี่หลานสะใภ้คนรองของลูก เมียนเมียน และนี่คือน้องชายของเธอ ชื่อเฉินเฉิน”
“เฉินเฉิน?”
เหมาซิงซู่หันไปมองเฉียวเมียนเมียนอย่างรวดเร็วแล้วมองไปที่เฉียวเฉิน เมื่อเห็นว่าเฉียวเฉินตกใจพอ ๆ กัน เขาจึงลดเสียงลงและถามอย่างนุ่มนวลว่า “เธอชื่อเฉียวเฉินเหรอ?”
เฉียวเฉินหยุดนิ่งและพยักหน้า
“เฉินเฉิน ทำไมนายถึงมีผมขาวตั้งแต่อายุยังน้อยล่ะ” ตอนนี้เอง เหมาเยซื่อเดินเข้ามาใกล้และเอื้อมมือไปดึงผมของเฉียวเฉินออกมาสองเส้น “ฉันจะช่วยดึงออกให้เอง”
เฉียวเฉินตกตะลึงอีกครั้ง แต่เขาไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ เขาหันไปหาเหมาเยซื่อและพูดว่า “ขอบคุณฮะ พี่เขย”
หลังจากที่เหมาเยซื่อถอนผมเขาออกแล้ว ก็เก็บมันไว้ในฝ่ามืออย่างเงียบ ๆ
เมื่อหญิงสูงวัยเห็นแล้ว เธอยิ้มและตบไหล่เฉียวเฉิน “เฉินเฉิน นี่ลูกชายคนที่สองของย่าเอง เรียกเขาว่าอารองสิ ย่ามีเรื่องจะคุยกับอารองตามลำพังเสียหน่อย พรุ่งนี้เธอยังมีเรียนใช่ไหม งั้นรีบกลับกันเถอะ?”
จากนั้นคุณผู้หญิงเหมาอาวุโสก็มองไปที่เหมาเยซื่อ “อาซื่อ ไปส่งเฉินเฉินกลับหอพักได้แล้ว”
เมื่อเห็นว่าดึกมากแล้ว และหญิงสูงวัยกำลังยุ่ง เฉียวเฉินจึงพยักหน้าและกล่าวว่า “ครับ ไว้ผมจะมาเยี่ยมคุณย่าอีกนะฮะ”
“ได้ ได้ เด็กดี ต้องมาหาย่าอีกนะ ย่าจะให้คนเตรียมอาหารจานโปรดของเธอไว้ ดูสิผอมจะแย่แล้ว ต้องกินให้เยอะ ๆ ตอนที่ไม่มีเรียน ย่าอยากให้เธอย้ายมาอยู่กับย่า ย่าจะได้ช่วยดูแลเรื่องอาหารการกินให้”
__
หลังจากส่งเฉียวเฉินกลับไปที่โรงเรียนแล้ว เฉียวเมียนเมียนและเหมาเยซื่อก็กลับ
ทันทีที่เขากลับถึงบ้าน เหมาเยซื่อได้รับโทรศัพท์จากบ้านตระกูลเหมา
เสียงตื่นเต้นและสั่นเทาของหญิงชราดังลอดมาจากโทรศัพท์ เธอทำเหมือนว่าเธอกำลังร้องไห้ “อาซื่อ ย่าเดาถูกล่ะ เฉินเฉินเป็นลูกหลานของตระกูลเหมาของเรา ผลดีเอ็นเอออกแล้ว มีความเป็นไปได้ของเขากับอารองของหลานที่จะเป็นพ่อลูกกันถึง 99%”
ผู้ประเมิน DNA รออยู่ที่บ้านตระกูลเหมาอยู่แล้ว
ผมสองสามเส้นที่เหมาเยซื่อดึงมาจากศีรษะของเฉียวเฉินเพียงพอที่จะระบุว่าเขาและเหมาซิงซู่เป็นพ่อลูกกันหรือไม่
การทดสอบความเป็นพ่อ ลูกผ่าน DNA นั้นน่าเชื่อถือมากที่สุด เมื่อผลลัพธ์ออกมา ความแม่นยำสูงถึง 99.9%
ดังนั้นเฉียวเฉินจึงมาจากตระกูลเหมาจริง ๆ
เหมาเยซื่อไม่แปลกใจที่ได้ยินเรื่องนี้มากนัก ทว่าลึก ๆ แล้วหลังจากยืนยันตัวตนของเฉียวเฉินเขาก็ยังประหลาดใจอยู่ดี
เขาได้ยินเสียงตื่นเต้นของคุณผู้หญิงเหมาอาวุโสอีกครั้ง “ย่ารู้แล้ว เฉินเฉินต้องเป็นหลานชายของย่าอย่างแน่นอน เขาเชื่อฟังและมีเหตุผล ย่าเองก็อยากให้เขาเป็นหลานของย่า อาซื่อคิดว่าเราควรทำอย่างไรดี? ที่ผ่านมาเฉินเฉินได้ความลำบากมามากเกินไป เดิมทีเขาเป็นลูกหลานของตระกูลเหมาและควรจะมีชีวิตที่สุขสบายตั้งแต่เด็ก ๆ แต่กลับถูกส่งตัวไปอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและกลายเป็นเด็กกำพร้า ไม่นานหลังจากที่เขาเข้าไปในครอบครัวเฉียว พ่อของเขาก็มีแม่เลี้ยง แม่เลี้ยงคนนั้นไม่ได้ปฏิบัติต่อเขาและเมียนเมียนเป็นอย่างดีเช่นกัน เขาไม่ได้รับความรักจากแม่มากนัก ต่อมายังป่วยหนักจนร่างกายทรุดโทรมอีก”
“เมื่อนึกถึงว่าเด็กคนนี้ต้องทนทุกข์ทรมานขนาดไหนตั้งแต่เด็ก ย่าล่ะรู้สึกเสียใจมากจริง ๆ ตอนนี้ย่าอยากจะชดเชยให้กับเขา แต่ย่าไม่รู้จะต้องทำอย่างไรดี?”
“คุณย่าครับ ใจเย็น ๆ ก่อนครับ” เหมาเยซื่อสามารถเข้าใจความรู้สึกของหญิงสูงวัยในตอนนี้ได้ แต่เขาก็ยังกังวลว่าอารมณ์ที่แปรปรวนของหญิงสูงวัยจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเธอ
“ตอนนี้สิ่งที่ต้องกังวลมากที่สุดคือจะบอกเฉินเฉินอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ดี และที่สำคัญที่สุดคือจะทำอย่างไรดีให้เขายอมรับกับเรื่องนี้”
เฉียวเมียนเมียนเดาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเธอได้ยินบทสนทนาของเหมาเยซื่อและคุณผู้หญิงเหมาอาวุโส
แม้ว่าเหมาเยซื่อจะบอกเธอก่อนแล้ว แต่เธอก็ยังแปลกใจมากอยู่ดี
เฉียวเฉิน..เป็นลูกของตระกูลเหมาจริง ๆ เหรอ?
ตอนนี้ตระกูลเหมาได้ยืนยันตัวตนของเขาแล้ว เขาจะยอมรับครอบครัวและคนในครอบครัวของเขาได้หรือเลป่า?
ในทางกลับกัน คุณผู้หญิงเหมาอาวุโสเงียบไปครู่หนึ่งหลังจากได้ยินคำพูดของเหมาเยซื่อ จากนั้นเธอก็พูดว่า “หลานคิดว่ายังไงล่ะ สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการทำให้เฉินเฉินยอมรับเรื่องนี้ ย่าเพิ่งจะคุยกับอารองของหลาน เขาต้องการให้เฉินเฉินรู้เรื่องนี้ให้เร็วที่สุด”
“หลานไม่รู้อะไร อารองของหลานน่ะตื่นเต้นขนาดไหน ที่ผ่านมาย่าขอให้เขารับเลี้ยงลูกบุญธรรมแต่เขาก็ไม่ยอม ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาไม่มีความตั้งใจจะมีลูก ย่าคิดว่าเขาไม่ชอบเด็กเสียอีก แต่หลังจากผลการทดสอบออกมาแล้ว เขามีความสุขมากจนร้องไห้ออกมาเลยล่ะ”
“ในที่สุด เขาก็มีลูกชายที่แท้จริงของตัวเอง”
เหมาเยซื่อขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อนึกถึงป้ารองที่ขี้หึงอย่างมาก
เขาเชื่อว่าหากเฉียวเฉินกลับไปหาตระกูลเหมา อารองของเขาต้องปฏิบัติกับเฉียวเฉิยอย่างดีอย่างแน่นอน
ท้ายที่สุดเขาอายุเกือบ 50ปีแล้ว ในที่สุดก็ได้ลูกชาย ไม่จำเป็นต้องพูดถึงความรู้สึกของเขาอีกต่อไป
เรื่องนี้คงเป็นของขวัญจากสวรรค์เฉพาะเหมาซิงซู่
แต่สำหรับภรรยาของเขา นี่คงเป็นข่าวร้าย