ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 17 ภรรยาสุดที่รักของคงหนิง
ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 17 ภรรยาสุดที่รักของคงหนิง
เขตชานหลานนั้น จะว่าใหญ่ก็ไม่ใช่ จะว่าเล็กก็ไม่เชิง
ในฐานะสมาชิกของศาลาว่าการในยุคก่อนอุตสาหกรรมเช่นนี้ คงหนิงก็เหมือนกับชาวบ้านคนอื่นๆ ที่สามารถจำชื่อคนส่วนใหญ่ภายในเขตได้ ในสมัยก่อน เมื่อเดินไปที่ใดในเมือง ย่อมสามารถเรียกขานชื่อกันได้ไม่ยากเย็น
นี่เป็นครั้งแรกที่คงหนิงได้เห็นชายร่างกำยำที่นั่งตะโกนอยู่หน้ารั้วคนนี้
เขาแปลกใจเล็กน้อย “แม่ ผู้ใดกัน? เพื่อนจากต่างเมืองหรือ?”
พ่อแม่ของเขานั้นไม่มีญาติภายในเขตชานหลาน พวกเขาย้ายมาจากที่อื่น คงหนิงจึงไม่เคยเห็นหน้าตาของญาติพี่น้องคนใดเลย
บางทีชายผู้ฉุนเฉียวเมื่อครู่อาจจะเป็นญาติฝั่งพ่อไม่ก็ฝั่งแม่ของเขาที่มาจากเมืองอื่น?
คงหนิงเผยให้เห็นความสงสัยใคร่รู้
แต่พ่อไม่ได้สนใจคงหนิง หยิบหนังสือเล่มเก่าสีเหลืองโทรมๆ ขึ้นมาอ่านต่อ
มีเพียงแม่ที่ผมบนหัวขาวโพลนเท่านั้นที่ยิ้มอย่างใจดีแล้วกล่าวว่า “ก็แค่พ่อค้าเร่คนหนึ่งที่เคยรู้จักกันมาก่อนน่ะ หนิงเอ๋อไม่ต้องสนใจหรอก ไปกินข้าวเถอะ นอนมาทั้งวันคงจะหิวน่าดู”
เสียงของแม่นั่นอ่อนโยนและใจดีเสมอมา
อารมณ์หงุดหงิดของคงหนิงแต่เดิมพลันสงบลงอย่างไม่สามารถอธิบายได้
เขายิ้มออกมาพร้อมกับพยักหน้า “ได้เลย”
คงหนิงเลิกสนใจชายร่างกำยำแปลกๆ คนนั้น และหันหลังกลับไปที่ลานบ้าน
ภายในห้องครัวฟุ้งไปด้วยกลิ่นหอมของอาหาร คงหนิงที่นั่งอยู่ในห้องก็ไม่ได้รออยู่นานนัก ปีศาจแมงป่องในชุดสีฟ้าก็เดินนำจานมาทีละใบ
รวมทั้งหมดมีสามจาน และซุปหนึ่งถ้วย ดูเป็นมื้ออาหารที่อู้ฟู่
“สามีกินเยอะๆ เลย ตอนนี้ท่านต้องได้รับสารอาหารให้มากเข้าไว้” หญิงสาวยื่นจานผักให้คงหนิงด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
คงหนิงพยักหน้ารับอย่างไร้ความรู้สึก ไม่กล้าพูดเรื่องไร้สาระหากไม่จำเป็น
อาหารพร่องลงไปอย่างรวดเร็ว
ขณะที่คงหนิงกำลังจะลุกขึ้น หญิงชุดสีฟ้าด้านข้างก็พูดขึ้น
น้ำเสียงดูสบายๆ อย่างยิ่ง “จริงสิ......สามี ตอนบ่ายที่ท่านนอนหลับ ฉือหยงและภรรยาจากโรงสีจานหินได้นำถุงเส้นบะหมี่มาให้ บอกว่าท่านลืมนำกลับมาด้วย”
“แล้วยังนำขนมอบตามฤดูกาลมาฝากท่านหนึ่งกล่องด้วย กล่าวขอบคุณที่ช่วยเหลือน้องชายของเขา จึงนำของขวัญมาแสดงความจริงใจให้แก่ท่าน”
“แต่สามี ท่านช่วยน้องชายของเขา......”
หญิงในชุดสีฟ้าจับปลายคางด้วยมือข้างหนึ่ง มองไปที่แผ่นหลังแข็งทื่อของคงหนิงด้วยรอยยิ้ม หมุนตะเกียบในมือขวาไปมา หัวเราะเบาๆ “สามี ท่านไม่ได้บอกว่าท่านสังหารตัวกินวิญญาณร่วมกับคนอื่นๆ จากศาลาว่าการหรอกหรือ? ทำไมสถานการณ์ที่ฉือหยงกล่าวถึง.......จึงแตกต่างไปจากที่สามีเล่ามาล่ะ?”
ร่างกายของคงหนิงแข็งทื่อ
ความเย็นยะเยือกแผ่ซ่านไปทั่วร่างในทันที
ปีศาจที่อยู่ด้านหลังของเขาปล่อยจิตสังหารอันเยือกเย็นออกมา ราวกับมีดแหลมคมบาดลึกเข้ามาในหัวใจ ทำให้เขาหายใจลำบากยิ่ง
ฉือหยง!
มารดามันเถอะ!
ภายในจิตใจของคงหนิงแทบคลั่ง และหวังว่าเขาจะสามารถเดินไปโรงสีจานหินและลากฉือหยงออกมาทุบตี
พวกเขาทั้งหมดไม่ได้รับอนุญาตให้บอกใครว่าเกิดอะไรขึ้นภายในโรงสี ไม่อนุญาตให้เปิดเผยเรื่องราวให้ใครทราบ
แต่ไอ้สารเลวนั่นก็พลั้งปากออกไปจริงๆ......สิ่งที่แย่ที่สุดคือดันพลั้งปากต่อหน้าปีศาจในบ้านตนนี้!
แม้เขาจะรู้ว่านี่ไม่ใช่ความผิดของฉือหยง ใครจะคาดเดาได้ว่าภรรยาที่เพิ่งตบแต่ง รักกันหวานฉ่ำกับคงหนิงมากว่าครึ่งปีจนในที่สุดก็ตัดสินใจแต่งงานกันจะเป็นปีศาจ?
แต่ปากที่เผลอไผลไปของฉือหยงเพียงครู่เดียว กลับทำร้ายคงหนิงอย่างสมบูรณ์
พร้อมกับมอบของขวัญตอบแทนคุณ......ข้าล่ะซาบซึ้งใจพวกเจ้าทั้งครอบครัวจริงๆ!
คงหนิงกัดฟันแน่น ไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้
ตอนนี้สิ่งที่คอยสนับสนุนเขาอยู่คือไหสีดำลึกลับภายในตันเถียน รวมไปถึงพลังปีศาจที่ไหสีดำนำมาให้
หากปีศาจแมงป่องรู้ความลับนี้ คงหนิงนึกไม่ออกเลยว่าปีศาจที่แสนจะโหดร้ายตนนี้จะทรมานและสังหารเขาอย่างไร......
และปีศาจแมงป่องที่อยู่เบื้องหลังก็ถามเข้าประเด็นสำคัญโดยไม่ทันตั้งตัว
“สามีวิ่งโร่ไปที่โรงสีจานหินตามลำพังและบังเอิญเข้าไปพบตัวกินวิญญาณ ทั้งยังฟันมันจนตาย......เป็นไปได้ไหมว่าสามีจะรู้ล่วงหน้าว่าตัวกินวิญญาณซ่อนตัวอยู่ที่ไหน?”
หญิงสาวชุดฟ้ากล่าวออกมา อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “คงจะไม่ได้มีปรมาจารย์ลึกลับที่คอยชี้แนะ สั่งสอนสามีถึงวิธีสังหารและกำจัดปีศาจหรอกกระมัง?”
“และปีศาจกินวิญญาณตนนี้ก็อ่อนแอเป็นที่สุด เหมาะที่จะเป็นเป้าหมายแรกให้สามีของข้าฝึกฝน......ฮิฮิ......ปีศาจกินวิญญาณช่างน่าเวทนาจริงๆ”
หญิงสาวที่สวมชุดสีฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงกึ่งหยอกเย้ากึ่งจริงจัง ทำให้หัวใจของคงหนิงเย็นเยียบมากขึ้นไปอีก
ปีศาจตนนี้แอบรู้อะไรบางอย่างมาหรือไม่?
คงหนิงพยายามพูดอย่างใจเย็นที่สุด “มันเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ สุดท้ายข้าก็มีประสบการณ์เกี่ยวกับปีศาจที่คอยทำร้ายผู้คนอยู่บ้าง หลังจากที่ได้ยินฉือหยงเล่ามา ข้าก็เดาว่านกของฉือกุ้ยจะต้องมีบางอย่างผิดปกติ”
“ส่วนเรื่องการปกปิดนั้น ก็เป็นเพราะเสียงข้างมากภายในศาลาว่าการเท่านั้นเอง การตั้งไม้ในที่โล่งมีแต่จะถูกทำลายโดยลมป่า ถ้าข้าทำตัวโดดเด่นเสียทุกครั้งไป........ใครเล่าจะรู้ว่าปีศาจเหล่านั้นมีเพื่อนฝูงหรือไม่? จะมีการแก้แค้นกันภายหลังหรือไม่? ข้าไม่ต้องการที่จะตายเร็วจนเกินไป”
น้ำเสียงนิ่งๆ ของคงหนิงทำให้เรื่องราวทั้งหมดสมบูรณ์แบบ
ภายในห้องเงียบไปนาน
จากนั้นปีศาจสาวก็หัวเราะออกมา “สามี ก็แค่ถามอย่างสบายๆ ด้วยความเป็นห่วงเท่านั้นเอง ทำไมท่านจึงประหม่านักเล่า ก็แค่สังหารตัวกินวิญญาณ ไม่ใช่ออกไปหาหญิงอื่นเสียหน่อย.......หยานเอ๋อจะไปทำให้ท่านทุกข์ใจได้หรือ?”
หญิงในชุดสีฟ้ายืนขึ้นแล้วพูดว่า “เอาล่ะ สามีไปพักผ่อนเถอะ ดูเหมือนท่านจะเหนื่อยมามากแล้ว ถ้าไม่พักผ่อนให้เต็มที่ พัฒนาการของลูกในครรภ์จะได้รับผลกระทบไปด้วย”
หลังจากพูดจบและเห็นคงหนิงกำลังจะเดินจากไป ซูหยานก็กล่าวเสริมว่า “นอกจากนี้ ตอนที่หยานเอ๋อกลับมา ก็เห็นสามีของตนนอนอยู่ห้องด้านข้าง.......มันแปลกอยู่นะ สามี หยานเอ๋อทำอะไรผิดหรือเปล่า? เพิ่งแต่งงานกันทำไมถึงย้ายไปนอนห้องอื่น? ถ้าคนนอกรู้เข้าว่าเราที่เพิ่งจะแต่งงานกัน แต่สามีกลับนอนแยกห้อง หยานเอ๋อจะวางตัวลำบาก”
น้ำเสียงของซูหยานดูสบายๆ แต่คงหนิงไม่กล้าที่จะไม่เชื่อฟังนาง พยักหน้าแล้วตอบกลับไปว่า “ข้าทราบแล้ว”
คงหนิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องกลับไปที่ห้องหอ และนอนบนเตียงแต่งงาน
แม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่ได้ง่วงแล้ว แต่ปีศาจเรียกให้เขาเข้านอน เขาก็ไม่กล้าไม่นอน
หากแค่เรื่องเล็กน้อยยังทนไม่ไหว ต่อไปจะทำการใหญ่ได้อย่างไร ในเวลาเช่นนี้ ยิ่งมีเรื่องขัดแย้งกับปีศาจตนนี้ให้น้อยได้เท่าไหร่ก็ยิ่งดี ต้องรักษาสภาวะเช่นนี้กับปีศาจแมงป่องไว้ให้มั่นคงเท่านั้น จึงจะมีโอกาสเติบโตต่อไปอย่างช้าๆ
บนเตียงแต่งงาน คงหนิงหายใจเข้าออกยาวๆ เริ่มโคจรพลังปราณโลหิตและพลังปีศาจตามแขนขารวมถึงกระดูกกลับไปยังตันเถียน
ในระหว่างที่ต่อสู้กับวิญญาณฝันร้ายก่อนหน้านี้ คงหนิงบังเอิญค้นพบว่ามรดกเคล็ดวิชาที่สืบทอดต่อมาภายในครอบครัว สามารถควบคุมพลังปีศาจภายในร่างได้ บางทีอาจจะเป็นเพราะพลังปีศาจถูกรวมเข้ากับเลือดเนื้อไปแล้ว?
ในช่วงเวลาสั้นๆ หลังจากที่คงหนิงรู้เรื่องนี้ เขาก็ชักนำพลังปีศาจตามเคล็ดวิชาที่สืบทอดมาในครอบครัว นี่เพราะคงหนิงยังไม่มีวิธีการบ่มเพาะส่วนตัว เคล็ดวิชานี้จึงเป็นสิ่งเดียวที่เขาใช้ได้
แม้ว่าพลังปีศาจที่เพิ่มขึ้นจากการฝึกฝนด้วยเคล็ดบ่มเพาะนี้จะได้มายากมาก น้อยกว่าที่ได้จากไหดำลึกลับ แต่มันก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย ยุงตัวเล็กแค่ไหนก็ยังนับเป็นเนื้อ คงหนิงไม่กล้าพักผ่อนแม้เพียงครู่เดียว
และไม่นานหลังจากที่คงหนิงส่งพลังปีศาจทั้งหมดกลับไปที่ตันเถียน ประตูห้องหอก็เปิดออก
หญิงในชุดสีฟ้าซึ่งเก็บจานชามตะเกียบบนโต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้ามา ถอดชุดของนางออกไว้ที่ด้านข้าง
ท้ายที่สุด หญิงสาวก็เหลือแค่ชุดชั้นใน ห่อตนเองไว้ในผ้าห่ม โอบกอดคงหนิงเบาๆ
“สามี~” หญิงสาวโน้มตัวไปที่ข้างหูของคงหนิงแล้วกระซิบคำ “หยานเอ๋อเหนื่อยเหลือเกิน ขอหยานเอ๋อดูดกลืนพลังหยางของท่านหน่อยได้หรือไม่? หยานเอ๋ออาจจะทำให้ท่านเจ็บปวดสักหน่อย แต่แน่นอนว่าท่านจะไม่ปฏิเสธหรอกใช่ไหม?”
นิ้วเรียวยาวของปีศาจเลื่อนไปที่หน้าอกของคงหนิง
สัมผัสเย็นเยียบจากปลายนิ้วของอีกฝ่ายทำให้ร่างกายของคงหนิงแข็งทื่อไปเล็กน้อย “ดะ.......ได้......”
ในเวลานี้ นอกจากตกลง เขามีทางเลือกอื่นอยู่อีกหรือ?
หญิงสาวกอดคงหนิงอย่างมีความสุขแล้วพูดว่า “ขอบคุณสามี! หยานเอ๋อจะกินให้เต็มที่เลย~~”
จากนั้น ก็ได้ยินเสียงของชายผู้หนึ่งกรีดร้องระงมไปทั่วห้องหอ.......