ตอนที่แล้ว390 - ญาณวิเศษลึกลับทั้งเก้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป392 - คางคกอยากกินเนื้อหงส์

391 - พบผังป๋อ


กำลังโหลดไฟล์

391 - พบผังป๋อ

ในขณะนี้เย่ฟ่านและจักรพรรดิดำต่างก็เร่งการโจมตีเข้าหาผังป๋อไม่หยุดไม่หย่อนโดยหวังจะสังหารวิญญาณชั่วร้ายที่อยู่ในร่างของผังป๋อให้ได้

“พวกเรามาตายพร้อมกันเถอะ!”

ผังป๋อก็ดูเหมือนจะคุ้มคลั่งถึงขีดสุด เขาถือดอกบัวสีฟ้าคำรามและร่างกายถูกโจมตีจนสั่นสะท้านครั้งแล้วครั้งเล่า

ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็แตกออกเป็นชิ้นๆ

นี่ไม่ใช่อาการบาดเจ็บจากการโจมตีของเย่ฟ่านและจักรพรรดิดำ แต่มันเป็นการใช้พลังขั้นสูงสุดของญาณวิเศษจักรพรรดิอสูรเก้าบาดแผลซึ่งพลังของมันอยู่ที่การฉีกร่างกายของตัวเองออกเป็นเก้าส่วน

"บาดแผลนี้ ข้าไม่เคยใช้มาก่อนในชีวิต ในเมื่อพวกเจ้าบังคับข้าเองพวกเจ้าก็เตรียมรับผลที่ตามมาไว้ด้วย” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาที่เต็มไปด้วยความโกรธ

เย่ฟ่านรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก วิชาโบราณที่ถูกสร้างขึ้นจากคัมภีร์จักรพรรดิอสูรนั้นจะรุนแรงมากแค่ไหน? มิหนำซ้ำวิชานี้ยังถูกสร้างขึ้นจากการเผาผลาญพลังชีวิตของตัวเองอีกด้วย

"ไม่น่าแปลกใจที่จักรพรรดิอสูรสามารถกวาดล้างโลก แม้กระทั่งสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของภาคกลางก็ยังถูกแย่งชิงมา" จักรพรรดิดำก็มีสีหน้าบิดเบี้ยวเช่นกัน

“มาดูกันว่าก่อนที่เจ้าจะทำสำเร็จพวกเราจะสามารถฆ่าเจ้าได้หรือไม่!” แม้ว่าจักรพรรดิดำจะหวาดกลัวอยู่บ้างแต่ระฆังสีทองของมันก็ยังเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

“บูม”

ในเวลาเดียวกันเย่ฟ่านกระตุ้นเก้าญาณวิเศษลึกลับเป็นครั้งที่สามและประสานอินด้วยตัวอักษร “เจี๋ย” เพื่อปลดปล่อยทะเลคลั่งสีทองออกจากหว่างคิ้วของเขาไปด้วย

คราวนี้ไม่มีอะไรต้องสงสัยอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้ผังป๋อถูกบังคับให้ระเบิดตัวเอง หากเขาทำสำเร็จพวกเย่ฟ่านจะต้องตายอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง แต่หากเขาไม่มีเวลาพอเขาจะเป็นคนที่ตายแทน

“บูม”

เย่ฟ่านนั่งอยู่ในหม้อขนาดใหญ่และขับเคลื่อนมันพุ่งไปข้างหน้า!

“ต่อให้ข้าไม่ได้คัมภีร์จักรพรรดิอสูรก็ต้องฆ่าเจ้าก่อน” จักรพรรดิดำตะโกน

“เย่ฟ่านเป็นเจ้าหรือเปล่า” ทันใดนั้นเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นในหัวของเย่ฟ่าน

“ผังป๋อ!” เย่ฟ่านตกใจเป็นอย่างมากเขารู้ว่านี่คือผังป๋อตัวจริง

"อย่าเสียสมาธิ จิตวิญญาณของพวกเขาไม่ได้สอดประสานกันขอเพียงเราฆ่าอสูรเฒ่าตัวนี้ได้เขาจะถูกปลดปล่อยทันที!" จักรพรรดิดำเตือนด้วยสีหน้าร้อนรน

เย่ฟ่านพยักหน้า เก้าญาณวิเศษลึกลับนั้นทรงพลังมากจนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขามีขนาดใหญ่ขึ้นมากกว่าสิบเท่า มันทำให้เขาสามารถสัมผัสได้ถึงวิญญาณของผังป๋อ

“บูม!”

หม้อวิเศษของเย่ฟ่านบินเข้าหาดอกบัวสีเขียวเครื่องขยายใหญ่ขึ้นในขณะเดียวกันระฆังสีทองของจักรพรรดิดำก็ครอบลงไปที่เศษชิ้นส่วนร่างกายผังป๋อพร้อมกับเสียงระเบิดดังกึกก้อง

"กลั่นดอกบัวนี้ก่อน แม้ว่ามันจะไม่ใช่อาวุธระดับเต๋าสุดขั้วแต่ก็เป็นอาวุธที่อยู่ในระดับรองลงมานิดหน่อยเท่านั้น" ดวงตาของ จักรพรรดิดำฉายแสงเต็มไปด้วยความโล�

"หากเจ้ากล้าใช้มันรับรองว่าเผ่าพันธุ์อสูรจะตามล่าเจ้าไปทั่วโลก!" เย่ฟ่านเตือน เพราะเกรงว่าสุนัขสีดำตัวใหญ่จะทำเรื่องโง่ๆ

การโจมตีครั้งนี้ไม่ได้รุนแรงอย่างที่คิด แม้ว่าวิญญาณชั่วร้ายในตัวของผังป๋อจะต้องการระเบิดทะเลวิญญาณของตัวเองเพื่อสังหารพวกเขาทั้งสอง

แต่เมื่อระฆังสีทองครอบลงมาร่างกายของเขาและดอกบัวสีเขียวก็ถูกตัดการเชื่อมต่อในทันที

"ต่อให้…..พวกเจ้า…ออกไปได้….ทายาทของข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้า.." วิญญาณอสูรร้ายที่อยู่ในตัวผังป๋อกล่าวอย่างกระท่อนกระแท่น

“ผังป๋อ เจ้าอยู่ที่ไหน”

“อยู่ตรงนี้..”

หลังจากค้นหาอยู่พักหนึ่งนิ้วของเย่ฟ่านก็ทะลวงเข้าไปในหน้าผากของอสูรที่ครอบครองร่างกายผังป๋อ

ข้างในนั้นเขาเห็นว่าในทะเลแห่งจิตสำนึกของฝ่ายตรงข้าม ผังป๋อตัวจริงได้ถูกล่ามโซ่ไว้ในกรงเล็กๆที่อยู่ในจุดลึกและมืดที่สุด

“เสี่ยวเย่” ผังป๋อหัวเราะแต่น้ำตาของเขาไหลไม่หยุด

เย่ฟ่านก็รู้สึกตื่นเต้นและเจ็บปวดอยู่ข้างใน ผังป๋อติดคุกมาหลายปีแล้ว เขาใช้ชีวิตโดยไม่มีโอกาสเห็นเดือนเห็นตะวัน ชีวิตเช่นนี้เลวร้ายยิ่งกว่าความตายซะอีก

“มันจบแล้ว ข้าจะปกป้องเจ้าเอง!” เย่ฟ่านลงมือตัดกรงและทำลายห่วงโซ่สีเงินทั้งหมด

หลังจากผ่านไปชั่วครู่ทีเย่ฟ่านและจักรพรรดิดำก็ออกจากทะเลแห่งจิตสำนึกของผังป๋อและผังป๋อก็กลับมาควบคุมร่างกายของตัวเองได้อีกครั้ง

“ไม่กี่ปีมานี้ช่างมืดมนและมืดมนเสียจริง ความสนุกเพียงอย่างเดียวของข้าคือการสาปแช่งอสูรเฒ่าตัวนั้น...”

ผังป๋อเป็นคนมองโลกในแง่ดี แม้จะเผชิญทุกข์ยากลำบากมาหลายปีเขาก็ยังสามารถกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เย่ฟ่านคุยกับผังป๋อถึงได้รู้ว่าอสูรเฒ่าตัวนั้นแก่นแท้แห่งชีวิตได้หมดลงไปแล้ว จนกระทั่งราชามังกรเขียวและราชานกยูงได้พบวังโบราณอู่จิงและทุกอย่างเปลี่ยนไป

ครึ่งปีที่แล้วอสูรตัวนั้นมีพลังแก่กล้าขึ้นและเขาก็สามารถครอบครองร่างกายนี้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ หากพวกเย่ฟ่านไม่เข้ามาช่วยเหลือเกรงว่าอีกครึ่งปีผังป๋อคงต้องตายอย่างแน่ชัด

“สาเหตุที่อสูรเฒ่าตัวนั้นปล่อยข้าไว้ก็เพราะมันต้องการคนความลับอีกฟากหนึ่งของทะเลแห่งดวงดาว”

“อะไรนะ!” เย่ฟ่านตกใจ

"ด้วยเหตุนี้เอง ข้าจึงสามารถอยู่รอดได้" ผังป๋อถอนหายใจ

อสูรตอนนั้นให้ความสำคัญกับอีกฟากหนึ่งของทะเลแห่งดวงดาว นั่นเป็นสาเหตุที่มันเจ็บตัวผังป๋อไว้สอบสวนอย่างช้าๆ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาสำหรับผังป๋อเป็นความทุกข์ที่เกินจะบรรยายได้ แต่ก็โชคดีที่เขาถือมันเป็นการฝึกฝนชนิดหนึ่ง

ในตอนแรกเขาและอสูรตัวนั้นอาศัยอย่างเท่าเทียมกันในร่างกายนี้ แต่หลังจากมาที่วังโบราณอู่จิงเมื่ออสูรตัวนั้นแข็งแกร่งขึ้นความเร็วในการฝึกฝนของเขาก็น่าทึ่งตามไปด้วย

ท้ายที่สุดอสูรตัวนั้นก็เป็นหนึ่งในบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าพันธุ์อสูร ความเข้าใจในด้านกฎและเต๋าแห่งสวรรค์ของเขาก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้สูงสุดธรรมดาจะสามารถทำความเข้าใจได้

"สุนัขตัวนี้น่าทึ่งมาก!" ผังป๋ออุทานด้วยความชื่นชมหลังจากที่เลือกมองไปยังจักรพรรดิดำ

"มันตัวใหญ่กว่าที่เจ้าเคยเลี้ยงตอนอยู่หอพักซะอีก"

“เจ้าบ้า ข้าไม่ได้ถูกเลี้ยงมาโดยเด็กน้อยเย่ฟ่าน ข้าวางแผนที่จะรับเขาเป็นสัตว์เลี้ยงมนุษย์ต่างหาก” ใบหน้าของสุนัขตัวใหญ่สีดำก็เปลี่ยนเป็นสีดำในทันใด

เย่ฟ่านก็มีเส้นสีดำบนหน้าผากเช่นกัน

“รีบไปให้พ้นหน้าข้าก่อนที่ข้าจะจับเจ้ามาตุ๋น!”

"เด็กน้อยเจ้าข้ามแม่น้ำเสร็จก็คิดจะรื้อสะพานอย่างนั้นหรือ?"

สุนัขสีดำตัวใหญ่อารมณ์เสียมาก อสูรตอนนั้นทำให้มันได้รับบาดเจ็บสาหัส เชื่อว่าหลายเดือนต่อจากนี้อาการบาดเจ็บของมันก็ไม่อาจฟื้นตัวได้

“ที่นี้ไม่ใช่ที่สำหรับพูดคุย พวกเราควรจะออกไปโดยเร็ว” เย่ฟ่านยืนขึ้น

“ข้าไปกับเจ้าไม่ได้” ผังป๋อส่ายหัว

"เจ้ากังวลเรื่องอะไร?" เย่ฟ่านถาม

“ถ้าข้าออกไป เผ่าพันธุ์อสูรจะตามล่าเจ้าไปทั่วโลก

ตอนนี้ชีวิตของเขาไร้กังวลและเขาสามารถจากไปด้วยตัวเอง เพียงแต่ว่าเขาไม่อาจอยู่ร่วมกับพวกเย่ฟ่านได้

“ข้ารู้จักอสูรพวกนี้ พวกเขาไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร มิหนำซ้ำตอนนี้ข้าก็กลายเป็นเผ่าพันธุ์อสูรไปแล้ว” ผังป๋อยืนกรานที่จะอยู่ต่อ

หลังจากนั้นพวกเขาทั้งสามก็สนทนาความลับกันอยู่ชั่วครู่ก่อนจะส่งเสียงหัวเราะดังลั่น

"ตกลงตามที่เจ้ากล่าว พวกเราคนหนึ่งอยู่กับพวกมนุษย์ อีกคนอยู่กับพวกอสูร ในอนาคตพวกเราจะหาทางกลับบ้านให้ได้!" เย่ฟ่านเห็นชอบกับข้อเสนอนี้

“ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าน่าจะออกจากที่นี่ไปช่วยเจ้าฆ่าศัตรูสัก 2-3 คนหลังจากนั้นพวกเราค่อยค้นหาเส้นทางกลับบ้าน” ผังป๋อกล่าวด้วยความมุ่งมั่น

ไม่ไกลนักจักรพรรดิดำมองทั้งสองคนด้วยดวงตาที่เปล่งประกายและพึมพำกับตัวเองเบาๆว่า

“เจ้าเด็กสองคนนี้ไม่ใช่ตัวดีอย่างแน่นอน!”

ผังป๋อไม่เหมาะที่จะออกไปจริงๆ ไม่เช่นนั้นเขาจะทำให้เกิดความวุ่นวายต่อเย่ฟ่านเป็นอย่างมาก อีกทั้งตอนนี้เขายังมีคัมภีร์จักรพรรดิอสูรและทรัพยากรมากมาย มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะตัดใจจากไปได้

"ถ้าร่ำลากันเสร็จแล้วพวกเราก็ไปสักที"

สุนัขสีดำตัวใหญ่เร่งเร้าด้วยความรำคาญในขณะที่มันประคองระฆังสีทองที่ใส่วิญญาณของอสูรเฒ่าตัวนั้นด้วยความระมัดระวัง

"ทิ้งดอกบัวสีฟ้าไว้ของชิ้นนี้พวกเราเอาไปด้วยไม่ได้" เย่ฟ่านรับดอกบัวสีเขียวและส่งมันคืนให้กับผังป๋อ

สุนัขสีดำตัวใหญ่มีสีหน้าเจ็บปวดอย่างยิ่ง แต่มันก็เข้าใจเหตุผลเช่นกัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด