ตอนที่ 75 คนจนที่ทำตัวรวย
ตาของสาวๆทุกคนในห้องเป็นประกาย
ในฐานะไอดอลพวกเธอต้องอยากให้คนรู้จักพวกเธอมากขึ้นอยู่แล้ว พวกเธอจะทำเงินได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการดูของพวกเขา สุดท้ายแล้วสัญญาของพวกเธอที่เซ็นกับเย่เทียนก็ไม่ต่างจากกระดาษเปล่าใบหนึ่ง
เจียงเซิ่งเฟิง “ตอนนี้มีปัญหาแล้วล่ะคุณเย่...ถ้าเราไปเตรียมเรื่องสงครามร้อยกองทหาร รายการขีดจำกัดเทียนเกิร์ลกรุ๊ปคงไม่ได้ออกอากาศไปสักพัก ในสงครามร้อยกองทหารไม่มีทีมไหนอ่อนแอเลย พวกเรามีจื่อฉีเป็นแกนนำและหนิงเสี่ยวถงเป็นคนเต้น การปรากฏตัวของหยางจิ่นลี่ไม่ได้มีปัญหาแต่ความสามารถของคนอื่นๆต่ำเกินไป คนดูจะมองว่านี่ไม่ใช่เกิร์ลกรุ๊ปแบบดั้งเดิม คงต้องให้พวกเธอฝึกหนักมาขึ้น”
เย่เทียนพยักหน้า “ไปหาพี่เลี้ยงที่สุดมาสอนพวกเธอตัวต่อตัว เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา”
เจียงเซิ่งเฟิง “ฉันส่งคนไปเชิญพี่เลี้ยงชั้นนำมาแล้ว คุณเย่วางใจได้เลย”
“ต้องฝากเทียนเกิร์ลกรุ๊ปไว้ที่นายแล้ว”
เขาตบไหล่เจียงเซิ่งเฟิงแล้วมองที่สาวๆ “มั่นใจกันใช่ไหม?”
“แน่นอน!!” โหยวฉินเสี่ยวเหยาตะโกนออกมา “ฉันจะไม่ทำให้พี่ชายผิดหวังแน่นอน!”
“ขอมอบหัวใจนี้ให้คุณเย่!”
หนิงเสี่ยวถงและสาวๆคนอื่นทำความเคารพพร้อมกัน ส่วนหยางจิ่นลี่ก็ยังช้าเหมือนเคย สุดท้ายเย่เทียนก็ทนไหวจนต้องหัวเราะออกมา
“เอาล่ะเอาล่ะ พวกเธอไม่ต้องทำแบบนั้นแล้ว พอเห็นแบบนั้นมันจะทำทำให้ขนลุก พวกเธอไปแข่งกันเถอะ ฉันจะคอยให้กำลังใจพวกเธอเอง!”
“อื้ม!”
ต่อมาที่ระเบียงบนชั้นสอง เย่เทียนเห็นหยางจิ่นลี่ที่กำลังดูดวงจันทร์อยู่คนเดียว “เธอกังวลอะไรอยู่หรือเปล่า? หรือกลัวว่าจะร้องเพลงไม่ได้หรือเต้นไม่ดี?”
“ใช่...” หยางจิ่นลี่พยักหน้า “ในช่วงไม่กี่ปีที่มานี้นับตั้งแต่ที่ฉันเดบิวต์ ส่วนใหญ่ฉันจะยุ่งอยู่กับการถ่ายโฆษณาหรือไม่ก็มีส่วนร่วมในรายการวาไรตี้ ฉันไม่ได้ฝึกเต้นมานานแล้ว”
“อา แฟนๆของเธอไม่ได้สนใจความสามารถในการร้องเพลงและการเต้นของเธอ แต่เป็นจิตวิญญาณของเธอต่างหาก”
หยางจิ่นลี่ยิ้มอย่างขมขื่น “ฉันก็คิดอย่างนั้นแต่ฉันไม่อยากให้แฟนๆผิดหวัง ฉันจะฝึกเต้นและร้องเพลงอย่างหนัก ฉันจะแสดงให้พวกเขาเห็นตัวตนใหม่ของฉันและให้พวกเขารู้ว่าไม่ได้ติดตามคนผิด”
“เธอคิดมากไปเอง” เย่เทียนส่ายหัว “เธอกดดันตัวเองมากเกินไป”
...
ข่าวเรื่องสงครามร้อยกองทหารยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ บริษัทที่มีอำนาจต่างๆก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างเงียบๆ
เหล่าศิลปินที่ดังมานานก็ตกเป็นเป้าในการฉกฉวย ในขณะเดียวกันบริษัทที่ไม่เป็นที่รู้จักในวงการบันเทิงอย่างเอ็มเพอร์เรอร์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ก็กลายเป็นความมืดที่มาแรงที่สุด เจียงเซิ่งเฟิงที่เป็นผู้ควบคุมบริษัทก็ได้รับความสนใจไปช่วงหนึ่ง
เนื่องจากบริษัทบันเทิงแห่งนี้จ่ายเงินเป็นจำนวนมากเพื่อจ้างซุปเปอร์สตาร์อย่าง หานไป๋ เจียหลุน เฟยเฉิง อู๋ฟานและซือเทามาเป็นพี่เลี้ยงที่รับผิดชอบการฝึกให้สมาชิกของเกิร์ลกรุ๊ป
เมื่อสื่อรายงานข่าวนี้ มันก็ทำให้เกิดพายุในวงการบันเทิง
ต้องรู้ก่อนว่าซุปเปอร์สตาร์ที่กล่าวถึงข้างต้นอยู่ในวงการบันเทิงมาหลายปีและถึงกับครองยุคอยู่สมัยหนึ่ง แน่นอนว่าค่าตัวของพวกเขาสูงมาก
“ข่าวนี้ไม่น่าเชื่อถือเลย ค่าใช้จ่ายในการจ้างพี่เลี้ยงห้าคนของเอ็มเพอร์เรอร์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์เกินสิบหลัก...”
“สงครามร้อยกองทหารกำลังจะเริ่ม เอ็มเพอร์เรอร์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์เป็นคนแรกที่เหนี่ยวไก ขีดจำกัดเทียนเกิร์ลกรู๊ปจะต้องชนะแน่!”
“จื่อฉีประกาศเข้าขีดจำกัดเทียนเกิร์ลกรุ๊ป! เพลงต่อไปจะเป็นเพลงใหม่!”
“เอ็มเพอร์เรอร์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์มีความทะเยอทะยานมากจริงๆ!”
“ทำไมเอ็มเพอร์เรอร์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ถึงยังเป็นบริษัทบันเทิงอันดับสามอยู่?! คนที่อยู่เบื้องหลังเป็นใครกันแน่?!”
“รายการนี้จะพาคุณไปไขความลับเบื้องหลังของเศรษฐีลึกลับที่จ้างพี่เลี้ยงให้เกิร์ลกรุ๊ปโดยใช้เงินไปมากกว่าพันล้าน!”
“...”
โพสต์เกี่ยวกับเอ็มเพอร์เรอร์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์และเกิร์ลกรุ๊ปบนอินเทอร์เน็ตเป็นที่โด่งดังมาก
แน่นอนว่าไม่ว่าจะดังแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้โยงมาถึงเย่เทียนที่เป็นคนอยู่เบื้อหลัง
เขาแค่ใช้เงินและปล่อยให้คนอื่นทำแทนเขา
อันที่จริงความสามารถของรองหัวหน้าเหล่านี้ในทำงานได้ค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็นเจียงเซิ่งเฟิง ผางเหว่ย ฉินเยี่ยนหรือแม้แต่ประธานหลิวหรูเยียนและเซียวหรง พวกเขาล้วนเป็นคนที่อยู่ในสายงายแบบนี้มาหลายปีซึ่งแต่ละคนสามารถจัดการงานได้ด้วยตัวเอง
เย่เทียนได้สร้างทีมผู้นำขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวและนี่ก็เป็นสิ่งที่เขาคิดไม่ถึงเช่นกัน
พลังแห่งเงินนั้นไร้เทียมทาม!
เช้าวันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าและสีขาว ดวงอาทิตย์ก็ส่องแสง
เย่เทียนขี่รถสามล้อไปที่ร้าน 4S
ทำไมเขาถึงไม่ขับเคอนิกเส็กก์?
เพราะทำตัวโปรไฟล์ต่ำ?
หรือเพราะชอบขี่สามล้อ?
ไม่ใช่เลย!
ทั้งหมดเป็นเพราะผางเหว่ย
เด็กคนนี้อยากได้ซูเปอร์คาร์คันนี้มาโดยตลอด เขามายืมแบบบังคับตั้งแต่เช้าตรู่
ทางเข้าร้าน 4S
เย่เทียนที่เพิ่งจอดรถสามล้อได้ยินบทสนทนาที่น่ารังเกียจระหว่างคู่รักที่อยู่ข้างหลังเขา “ที่รัก คุณใจดีกับฉันมากเลย~”
“เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วที่จะจ่ายเงินให้คนที่เรารัก เธออยากได้อะไรก็บอกเลยเดี๋ยวฉันจ่ายเอง”
“อืม~” ระหว่างการสนทนา ทั้งคู่เดินเฉียดผ่านเย่เทียน
กลิ่นฉุนของน้ำหอมที่เล็ดลอดมาจากผู้หญิงคนนั้นเกือบทำให้เย่เทียนอาเจียน
“เชิญเลยครับคุณผู้หญิง ทั้งสามท่านต้องการดื่มอะไรไหมครับ”
ในเวลานี้ พนักงานสาวก็เข้ามาทักทายพวกเขาอย่างอบอุ่น
เย่เทียนเข้ามาในร้านพร้อมกับคู่รักกัน พวกเขาจึงถูกเข้าใจผิดว่ามาด้วยกัน
โดยไม่ต้องรอให้เย่เทียนอธิบาย ชายคนนั้นก็พูดอย่างไม่พอใจ “ตาของเธอมีปัญหาหรือไง? ใครมันจะไปอยู่กับไอ้คนขายเครปกระจอกๆแบบนี้? เห็นว่าฉันแต่งตัวเหมือนมันหรือไง?”
โดนด่าแบบนี้เย่เทียนก็อึ้งไปเลย
นายคุยกับคนอื่นแบบนี้หรอ?
ยากจนหรือเปล่าก็เรื่องหนึ่ง...แล้วการแต่งตัวล่ะ?
เขาดูเสื้อผ้า กางเกง และรองเท้าของ...
ทั้งหมดที่เขาใส่เป็นของใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ใหญ่ๆ ไม่ว่าชุดจะแย่แค่ไหนอย่างน้อยมันก็มีมูลค่ามากกว่า 200,000 หยวน
คู่รักฝ่ายหญิงรู้สึกตลกกับท่าทางของเย่เทียน “อย่าบอกนะว่าชุดที่นายใส่เป็นของเกรดA ถึงมันจะเป็ฯของแท้แต่ก็ซ่อนกลิ่นตัวของนายไม่ได้หรอก”
คู่รักฝ่ายชายหัวเราะ “ที่รักพูดได้ดีมาก พวกคนจนมักจะมีกลิ่นของคนจนติดตัว ต่อให้ใส่ของดีแค่ไหนก็ซ่อนความจนไม่ได้”
เวร!
ต่อให้เย่เทียนจะอารมณ์ดีขนาดไหนก็ทนไม่ได้ “นี่ฉันไปวุ่นวายกับพวกนายหรือไง? แล้วพวกนายจะมายุ่งเรื่องของฉันทำไม? ฉันใส่อะไรแล้วมันก็เงินของฉันไม่ใช่เหรอ? แล้วแกเอาตาที่ไหนมามองว่าฉันแต่งตัวดูแย่?”
คู่รักฝ่ายชายยิ้มเยาะเย้ยแล้วหยิบซิการ์ขึ้นมา “โกรธเหรอ นี่ใช่ไหมที่เรียกว่าพวกมั่นใจในตัวเอง? ความจนไม่ได้น่ากลัว แต่ที่น่ากลัวคือจนแล้วยังแกล้งทำเป็นรวย”
คู่รักฝ่ายหญิงพูดอย่างมีความสุข “อย่าไปพอได้แล้วที่รัก เดี๋ยวน้องชายขายเครปจะร้องไห้เอา”
“ฮ่าฮ่า...”
สายตาเย่อหยิ่งหายไปเมื่อพวกเขาเห็นชายหนุ่มชุดสูทตัวตรง ชายหนุ่มคนนั้นเดินมาเขาทางพวกเขา ตราที่หน้าอกของเขาเขียนไว้ว่า : ผู้จัดการทั่วไปเขตไห่จิง, อู๋ตี๋!”
“คุณอู๋!” คู่รักฝ่ายชายคนนี้รู้จักอู๋ตี๋ เขายิ้มทักทายด้วยความเคารพ