ตอนที่แล้วตอนที่ 73 เลือดหยดที่สอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 75 คนจนที่ทำตัวรวย

ตอนที่ 74 สงครามร้อยกองทหาร


กำลังโหลดไฟล์

หลังจากพักผ่อนอยู่ที่บ้านสักพัก เย่เทียนก็ไปที่วิลล่าB1แต่น่าเสียดายที่สาวๆทุกคนออกไปถ่ายตอนใหม่ของรายการคนที่อยู่เลยมีแค่พนักงานทำความสะอาด

เมื่อเย่เทียนไม่เจอคนที่อยากเจอเขาจึงจะกลับไป แต่เมื่อเขาหันกลับตาของเขาก็หรี่ลงและมองไปที่พนักงานทำความสะอาดอายุน้อย พนักงานทำความสะอาดหญิงคนนั้นตกใจแล้วรีบก้มหน้าลง

เย่เทียนพูดด้วยรอยยิ้ม “ครอบครัวขาดเงินหรอ?”

“เอ่อ...เปล่าค่ะ” พนักงานทำความสะอาดหญิงรีบพูด

“ถ้าไม่ขาดเงินแล้วทำไมขโมยภาชนะบนโต๊ะล่ะ?” เย่เทียนถาม

พนักงานทำความสะอาดหญิงเป็นเหมือนแมวที่โดนเหยียบหาง เธอตัวสั่นแล้วเริ่มขอความเมตตา “เจ้านายฉัน...ฉันจะไม่ทำอีกแล้ว”

เย่เทียนเมินเฉยต่อคำขอร้องของหญิงสาวและเรียกอากวงมา เพียงห้านาทีอากวงก็มาถึง “เจ้านาย”

“นายเป็นอะไรกับผู้หญิงคนนี้?” เย่เทียนชี้ที่พนักงานทำความสะอาดหญิงที่ดูมีอายุยี่สิบต้นๆ

อากวงขมวดคิ้ว “เกาเจี๋ย เธอทำอะไร?”

เกาเจี๋ยพูดด้วยตาสีแดง  “ฉัน...ฉันหมกมุ่นอยู่กับเรื่องมากเกินไปจนขโมยภาชนะบนโต๊ะอาหารและเครื่องประดับเล็กๆน้อยๆจากวิลล่า”

“ทำไมเธอถึงทำแบบนี้?” อากวงมีสีหน้าสับสน เนื่องจากเย่เทียนเพิ่มเงินเดือนให้พวกเขาเป็นสองเท่า สมาชิกทุกคนในทีมSilentจึงมีชีวิตที่ดีขึ้นมาก ถึงจะเทียบกับเศรษฐีไม่ได้แต่ด้วยรายได้หลายแสนหยวนต่อปีก็เรียกได้ว่าพวกเขาไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้า และไม่จำเป็นต้องไปขโมยของด้วย

เกาเจี๋ยก้มหน้าลงไม่พูดอะไร

“ไม่พูด? ถ้าอย่างนั้นฉันคงต้องโทรแจ้งตำรวจ”

อากวงเป็นคนเด็ดขาด เขารีบโทรแจ้งตำรวจทันที

เกาเจี๋ยตื่นตระหนกเมื่อเห็นว่าอากวงจะโทรแจ้งตำรวจ “อย่า... อย่าโทรหาตำรวจ ฉันผิดไปแล้ว! ขอโอกาสให้ฉันอีกครั้งเถอะ”

“ทำไมเธอถึงขโมยของ” อากวงตะโกน

เกาเจี๋ยก้มหน้าลงพูดด้วยเสียงเบา “ฉันต้องการเงินสำหรับค่าครู...”

“ครูสอนอะไร?”

“เต้นกับร้องเพลง...” เกาเจี๋ยก้มหน้าและเริ่มปลดกระดุมออก “ฉันอยากเข้าร่วมการแสดงความสามารถ...”

เย่เทียนเรียกให้ทั้งสองคนให้เข้าไปในห้อง เขานั่งลงบนโซฟา “เงินเดือนที่ฉันจ่ายให้เธอมากกว่าคนทำความสะอาดทั่วไปหลายเท่า เงินเท่านั้นยังไม่พอกับค่าจ้างครูอีกเหรอ?”

เกาเจี๋ยพูดอย่างอ่อนแรง “ฉันส่งเงินส่วนใหญ่ไปให้พ่อแม่ที่บ้านเกิด เงินที่เหลืออยู่มีแค่พอใช้รายวันเท่านั้น ครูพวกนั้นคิดเงินเป็นรายชั่วโมงและฉันก็ไม่มีเงินมากพอที่จะจ่าย”

“เธอจ่ายไม่ไหวเลยมาขโมยของ?” อากวงพูดอย่างโกรธเคือง “ฉันเสียใจจริงๆสอนเธอกับมือแล้วพาเธอที่เข้าทีมSilent ! เธอทำกับฉันแบบนี้เนี่ยนะ? เธอมันเป็นความอัปยศของทีม!”

“พี่กวง!”

เกาเจี๋ยน้ำตาไกลพราก “ฉันหมกมุ่นอยู่กับเงินมาสักพักแล้ว...ให้โอกาสฉันอีกครั้งเถอะนะ!”

“นี่เป็นเรื่องของหลักการ ไม่ต้องมาพูดเรื่องความสัมพันธ์!”

เมื่อเห็นว่าเย่เทียนไม่พูดอะไร อากวงจึงโทรแจ้งตำรวจ...

มีหน่วยงานราชการ(ตำรวจ)เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมงติดกับอ่าวอิมพีเรียล หลังจากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มหนึ่งก็มาจับเกาเจี๋ยไปสอบสวน

ตั้งแต่ต้นจนจบเย่เทียนไม่ได้ช่วยเธอเลย

หลังจากพิจารณาคดีรอบแรกเขาก็ถึงกับสะดุ้ง ในเวลาเพียงเดือนกว่าเกาเจี๋ยก็ฉวยโอกาสขโมยภาชนะเงินและของประดับเล็กๆน้อยๆมูลค่ากว่า 500,000 หยวนไป ต่อมาตำรวจCก็เจอของที่ถูกขโมยแต่ยังไม่ได้ขายซึ่งรวมแล้วมีมูลค่ากว่า 1 ล้าน เรื่องนี้เป็นอาชญากรรมร้ายแรงและต้องโทษจำคุกไม่ต่ำกว่า 5 ปี

หลังจากออกจากสำนักงานเย่เทียนก็พูดกับอากวง “อากวง ส่งคนไปตรวจสอบครอบครัวของเกาเจี๋ยสักสองสามคน ถ้ามันแย่อย่างที่เธอพูดก็ไม่ต้องเอาของที่ขโมยคืนมา”

อางกวงถอนหายใจ “ทีมSilentไปตรวจสอบแล้วครับ ครอบครัวของเกาเจี๋ยเป็นอย่างที่เธอพูดมา พ่อแม่ของเธอมีสุขภาพไม่ค่อยดีและเธอมีน้องชายเรียนอยู่มัธยมปลาย แต่นี่มันไม่ใช่เหตุผลที่เธอต้องก่ออาชญากรรม ฉันรู้ว่าเจ้านายใจดีแต่โปรดอย่าให้ความใจดีของคุณเป็นจุดอ่อนในสายตาของผู้ไม่หวังดี”

เย่เทียนยกยิ้มเล็กน้อย

“เจ้านาย ฉันที่เป็นหัวหน้าต้องโทษสำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย ฉันจะหักเงินเดือนพนักงานทั้งหมดสามเดือน” อากวงยืนตัวตรง

“ช่างมันเถอะ”

เย่เทียนพูดอย่างเมินเมย “ไปบอกให้พวกเขาลงโทษเธอสองสามเดือนแล้วปล่อยไป ยังไงแล้วเธอก็ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ ไม่มีใครที่ไม่เคยทำผิดพลาด ช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดของหญิงสาวมีแค่ไม่กี่ปีและเธอไม่ควรใช้เวลานั้นอยู่ในคุก”

“เข้าใจแล้วครับ” อากวงพยักหน้า ตาของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม

ตอนที่เย่เทียนเดินกลับเขาก็บังเอิญเจอจื่อฉีที่กลับมาจากที่ทำงานพอดี จื่อฉีหันมาทักทายเขา “เย่เทียน”

“พึ่งเลิกงานเหรอ?” เย่เทียนขึ้นไปนั่งบนรถจื่อฉี

จื่อฉี “เปล่า ช่วงนี้ฉันต้องตั้งใจแต่งเพลงกับซ้อมเพลงเพราะงานเยอะมาก ฉันได้ข้อมูลมาจากเพื่อนวงในว่าโรงงานลูกพีช(อ้าย*อี้) ห่าน(เ*นเซ็นต์) หมาป่า(ไป่*) และหมู(เน็ต*)ร่วมมือกันแล้ว หลังจบการแสดงความสามารถเกิร์ลกรุ๊ปฉันวางแผนจะเข้าร่วมเกิร์ลกรุ๊ปและตัวเลือกแรกคือเทียนเกิร์ลกรุ๊ป นายห้ามปฏิเสธนะเพราะเราเป็นเพื่อนกัน”

“หลังจบการแสดงความสามารถ? ไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการแสดงความสามารถเต็มไปหมด แล้วคนดังแบบเธอยังต้องเข้าร่วมอีกเหรอ?” เย่เทียนหัวเราะ จื่อฉีเป็นคนที่มีพรสวรรค์ เธออยากเป็นนักร้องและนักแต่งเพลง ด้วยสถานะดาราดังของเธอถ้าเธอร้องเพลงได้ดีสะสมไปสักสองสามปีเธอย่อมได้เป็นนักร้องแน่นอน

จื่อฉี “ศิลปินอย่างพวกเราใครบ้างที่ไม่อยากดังกว่าเดิม? มันก็เหมือนกับเงินที่ไม่มีวันเยอะเกินไปนั่นแหละ คราวนี้การแสดงความสามารถที่จัดขึ้นโดยโรงงานทั้งสี่แห่งต่างไปจากเดิม พวกเขาจะเลือกตัวแทนหญิงจากเกิร์ลกรุ๊ปสามทีม”

“เอ๋? เธอหมายความว่านี่จะเป็นการแข่งทีมเกิร์ลกรุ๊ปใช่ไหม?” ตาของเย่เทียนเป็นประกาย

“ใช่ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมากลุ่มชายและหญิงในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ ตามสถิติที่แล้วจำนวนกลุ่มเกิร์ลกรุ๊ปในประเทศที่มีอยู่ถึง 20,000 กลุ่ม โรงงานใหญ่สี่แห่งจะเลือกกลุ่มเกิร์ลกรุ๊ปที่ดีที่สุดจากกลุ่มเกิร์ลกรุ๊ป 20,000 กลุ่ม ตอนนี้ข่าวยังถูกปิดเอาไว้อยู่แต่อีกไม่กี่วันก็คงออกมาประกาศแล้วล่ะ”

ทั้งสองกลับไปที่วิลล่าB1 บังเอิญว่าสาวๆเพิ่งกลับมาจากการถ่ายทำพอดี เจียงเซิ่งเฟิงรีบเดินมาพูดกับเย่เทียน “มีข่าวดีพี่เย่! โรงงานใหญ่สี่แห่งร่วมกันจัดสงครามร้อยกองทหาร...”

“ฉันรู้แล้ว” เย่เทียนพยักหน้า

เจียงเซิ่งเฟิงอึ้งอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็โล่งใจ

ตัวตนของเย่เทียนคืออะไร?

มหาเทพอย่างเขาต้องมีแหล่งข่าวอยู่แล้ว

แต่เขาคงคิดไม่ถึงว่าเย่เทียนพึ่งจะรู้จากจื่อฉีเหมือนกัน

“เข้าไปคุยกันในห้องเถอะ”

เย่เทียนเดินเข้าไปแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “โรงงานทั้งสี่นั้นไม่ธรรมดา เรตติ้งของรายการนี้ต้องสูงลิ่วแน่”

“แล้วเราจะเข้าร่วมด้วยไหม?” เจียงเซิ่งเฟิงถามด้วยความไม่แน่ใจ

“ทำไมจะไม่ล่ะ?”

เย่เทียนกวาดสายตามองสาวๆ “ไม่ใช่แค่เข้าร่วม แต่ต้องได้อันดับที่ดีด้วย”