ตอนที่แล้วตอนที่ 209+210 ไปที่สนามบิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 213+214 รังเกียจ

ตอนที่ 211+212 การโน้มน้าวใจ


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 211 การโน้มน้าวใจ

ลู่ชิงสีไม่กลัวนักการเมืองใด ๆ ตรงกันข้าม เขาเป็นนักสู้มากกว่าที่จะซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด เขาได้จบชีวิตของผู้คนจำนวนมากเกินไป ทำให้เขามีศัตรูมากมายตลอดทาง ทันทีที่เขาเริ่มเป็นทหาร เขาก็รู้ว่าการเดินเส้นทางนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ เจียงเหยาก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น เธอรู้สึกว่าลู่ชิงสีกังวลจริง ๆ ว่าเธอจะได้บาดเจ็บจากภาพลักษณ์ตลอดหลายปีของเขา

“แต่ถึงอย่างนั้น ก็อย่ารู้สึกว่าถูกจำกัดนั่นนี่ไปล่ะ ให้ทุกคนได้รู้ไปว่าคุณมีคนที่สนับสนุนคุณอยู่ที่เมืองจินโด ใครหาเรื่องคุณก็ต้องผ่านผมก่อน ใครก็ตามที่ต้องการค้นหาว่าผมเป็นใครจะต้องได้รับบทเรียนจากผม” เมื่อสองไปที่การแสดงออกที่จริงจังของเจียงเหยา เขารู้ว่าเธอตกใจ “จำไว้นะ ภรรยาของผม คุณสามารถใช้ชีวิตของคุณได้ตามที่คุณต้องการ ใครก็ตามที่ขวางทางคุณ ผมจะทำให้พวกเขาพบกับจุดจบที่ไม่สวยนัก”

เฉินซวีเหยาเหลือบมองทั้งคู่จากกระจกมองหลังและคิดว่า ‘เขาไม่ได้กลัวว่าเจียงเหยาจะกลัวกับการเปิดเผยความรักที่แรงกล้ากับเธอหรอกเหรอ?’

“ที่รัก อย่าลืมเรื่องนี้ คุณสามารถใช้ตระกูลฉีได้แต่ไม่สามารถไว้ใจพวกเขาได้ ตระกูลหวงมีความน่าเชื่อถือมากกว่าตระกูลฉี แต่อย่าพึ่งพาพวกเขาจนเกินไป เมื่อใดก็ตามที่คุณจะใช้ใครสักคน คิดให้ดี สังเกตและกดดันพวกเขา” ลู่ชิงสีเชื่อเสมอในการไว้วางใจสัญชาตญาณของตัวเองและเขาก็ทำเช่นนั้นมาโดยตลอด

ใครก็ตามที่มีประโยชน์กับเขา เขายินดีที่จะจัดการกับพวกเขา เขาทำสิ่งนี้เพียงเพื่อใช้ประโยชน์จากคนที่เขาไม่สนิทด้วย ดึงมูลค่าสูงสุดจากพวกเขาออกมาใช้

เมื่อต้องติดต่อกับเพื่อนร่วมงานที่ใกล้ชิด เขาจะสังเกตอย่างใกล้ชิดว่าพวกเขาทำงานเป็นอย่างไร จากนั้น เพื่อเพิ่มศักยภาพสูงสุด เขาจะให้พวกเขาทำงานตามจุดแข็งของพวกเขา

เจียงเหยาตั้งใจฟังและพยักหน้าตาม ขณะที่ลู่ชิงสีกำลังสอนเธอถึงวิธีใช้ประโยชน์จากผู้คนเพื่อปกป้องตัวเอง เขาใช้ความพยายามอย่างมาก เพราะเขาเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอจริง ๆ

“งั้นก็อย่าทิ้งฉันไปแทนไม่ได้เหรอ?” เจียงเหยางัวเงียใกล้ ๆ ลู่ชิงสี หลังจากที่เขาอธิบายให้เธอฟังจบแล้ว ด้วยความเป็นผู้หญิงขี้อายและสงวนตัว ปกติเธอจะไม่ทำเช่นนี้ อย่างไรก็ตามอารมณ์ของเธอเริ่มดีขึ้น ในทันใดนั้น เธอลืมไปเสียทุกอย่าง ลืมแม้กระทั่งว่ามีคนขับอยู่ข้างหน้า เธอกอดเขาแน่นแล้วจูบเขา

ลู่ชิงสียิ้มหวาน จูบจากภรรยาคือของขวัญอำลาที่สมบูรณ์แบบ เขาชอบที่เจียงเหยาแสดงความรักของเธอและสายตาที่อ้อล้นไปด้วยความรักอันเร่าร้อนที่มีต่อเขา

“งั้น ทำไมคุณไม่มาอยู่กับผมที่จินโดล่ะ? พวกเราสามารถให้คุณย้ายไปเรียนที่มหาวิทยาลัยแพทย์จินโดได้นะ ถ้าคุณไปอยู่ที่นั่น เราจะได้พบกันทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ด้วย อีกอย่างคุณจะปลอดภัยกว่าด้วยถ้าอยู่ที่นั่น” ลู่ชิงสีชักชวนเธออย่างอ่อนโยน

“ฉันไม่รู้ว่าเราจะสามารถย้ายไปเรียนที่มหาวิทยาลัยได้ง่าย ๆ ได้อย่างไรน่ะสิ”

เจียงเหยาเกิดความรู้สึกประหลาดใจ มหาวิทยาลัยแพทย์จินโดเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยแพทย์ชั้นนำของประเทศ

“ด้วยผลการเรียนที่ยอดเยี่ยมของคุณ ถือเป็นความสูญเสียของมหาวิทยาลัยแพทย์จินโดต่างหากล่ะที่คุณไม่ได้เรียนที่นั่น” ลู่ชิงสีตอบด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจ “ผมแน่ใจว่าคุณจะเป็นหมอที่ยอดเยี่ยมในอนาคต”

ลู่ชิงสียิ้ม “ถ้าคุณต้องการ ผมจะทำให้คุณย้ายไปให้ได้”

__

ตอนที่ 212 การยอมรับจากสาธารณะ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าด้วยความสามารถของลู่ชิงสี เขาจะได้รับสิ่งที่เขาต้องการ และสิ่งนี้ไม่ถึงกับต้องยืมความสามารถของเพื่อน ๆ ของเขามาใช้เสียด้วยซ้ำ เมื่อเห็นว่าแม้แต่ตระกูลจางยังมีความสามารถในการปล่อยให้ใครก็ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแพทย์หนานเจียงได้ แล้วทำไมลู่ชิงสีและกลุ่มของเขาจะทำเช่นเดียวกันในเมืองจินโดไม่ได้?

อย่างไรก็ตาม...

แม้ว่าเจียงเหยาจะจะอยากไปอยู่กับลู่ชิงสี แต่เธอก็ไม่อาจทิ้งเหวินเสวี่ยฮุ่ยไว้แบบนั้นได้ เธอยังอยากจะปกป้องอีกฝ่ายไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมกับชาติที่แล้ว

การที่เจียงเหยาขาดเรียนในสุดสัปดาห์นี้อาจทำให้ไอ้งั่งนั้น มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเหวินเสวี่ยฮุ่ยมากขึ้นก็เป็นได้!

“ไว้พวกเราค่อยคุยกันอีกครั้ง โอเคมั๊ย? ฉันจะบอกคุณ ถ้าฉันตัดสินใจที่จะย้ายไปเมืองจินโด” เจียงเหยากล่าว

ความเสียใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของลู่ชิงสี แต่เขาก็คาดไว้แล้วว่าเธอจะตอบแบบนี้จึงไม่ได้ผิดหวังมากจนเกินไป

“เจียงเหยา คุณรู้อะไรไหม มหาวิทยาลัยแพทย์จินโด ดีกว่ามหาวิทยาลัยแพทย์หนานเจียงอีกนะ คิดให้ดีสิ ถ้าคุณเปลี่ยนใจ ที่นั่นยินดีต้อนรับคุณเสมอ!” เฉินซวีเหยากล่าวเสริม เขาทนไม่ได้ที่จะถูกทิ้งจากบทสนทนาของพวกเขา

“พี่ลู่ดูมีความสุขมากขึ้นด้วย ถ้าคุณอยู่ที่นั่น เจียงเหยา คุณคงไม่รู้เรื่องนี้สินะ แต่เมื่อคุณไม่อยู่ สามีของคุณน่ะทำตัวเหมือนเป็นยมทูต พวกเราน่ะไม่เคยเห็นเขายิ้มหรือพูดคุย ทำหน้าน่ากลัวจะตาย! เราอยากให้คุณไปอยู่ที่นั่นด้วย จะได้ช่วยโจวเหวยฉีกับฉันให้รอดพ้นจากความน่ากลัวของเขา!” เฉินซวีเหยายังคงขุดเรื่องราวของลู่ชิงสีออกมาพูด

ลู่ชิงสีรู้ว่าเฉินซวีเหยามีเจตนาที่จะช่วยเขาโน้มน้าวเจียงเหยาให้มาอยู่ที่เมืองจินโด ไม่อย่างนั้น เขาคงไล่เฉินซวีเหยาลงจากรถไปเสียด้วยซ้ำ

เพียงชั่วพริบตา พวกเขาก็มาถึงสนามบิน

เมื่อเห็นผู้คนจำนวนมากเดินไปมาในสนามบิน เจียงเหยารู้สึกไม่เต็มใจที่จะต้องแยกจากลู่ชิงสี

“เอาล่ะ สามีสุดที่รักของฉัน กำลังจะไปแล้วนะ” ลู่ชิงสีตบศีรษะเจียงเหยาราวกับว่าเธอเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารัก “ผมของคุณเริ่มยาวแล้ว อย่าตัดเสียล่ะ ผมชอบแบบนี้”

เจียงเหยาพึมพำ “ใครเหรอ สามีที่รักของฉัน?”

“มาเร็ว!  เรียกผมว่าที่รักหน่อยสิ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ!” ลู่ชิงสียืนยัน “ผมยังไมเคยได้ยินคุณเรียกผมแบบนั้นเลย ทั้ง ๆ ที่เราก็แต่งงานกันมานานแล้ว”

เจียงเหยาไม่เคยเรียกเขาด้วยชื่ออื่น แม้ว่าพวกเขาจะแต่งงานกันแล้ว เธอจะเรียกเขาด้วยชื่อของเขา หากเธอโกรธเธอจะเรียกทั้งชื่อและนามสกุลของเขาด้วย

เจียงเหยามองไปที่ลู่ชิงสี แต่ปากของเธอยังคงปิดสนิท

ไม่ผิดที่จะเรียกกันด้วยชื่อที่น่ารัก แต่เจียงเหยาก็เขินอายเกินกว่าที่จะพูดออกมา เธอตั้งชื่อนั้นในโทรศัพท์ของเธอและนั่นก็เป็นชื่อเรียกที่เธอชอบ

“ถ้าผมจำไม่ผิด คุณตั้งชื่อผมในมือถือว่า ‘ที่รัก’ ไม่ใช่เหรอ” ลู่ชิงสีสะดุดกับข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ เมื่อเขาหยิบโทรศัพท์ที่หล่นจากกระเป๋าของเธอขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ ด้วยการกดไปโดยไม่ตั้งใจ เขาได้เห็นหน้าจอที่เต็มไปด้วยคำว่า ‘สามีที่รัก’ มาจากข้อความที่เขาส่งให้เธอ

กลางดึก เขาถือโทรศัพท์ของเธอและยิ้มอย่างคนโง่

“โจวเหวยฉี คนที่เอาโทรศัพท์มาให้ฉันต่างหากล่ะ เป็นคนตั้ง” เจียงเหยาอธิบาย

“แต่คุณก็ไม่ได้เปลี่ยนคืนนี่?” ลู่ชิงสีรู้ว่าเธอเขินอายง่ายเพียงใด ดังนั้นเขาจึงไม่ยืนกรานที่จะให้เธอเรียกชื่อเล่นของเขาในที่สาธารณะ

ลู่ชิงสีกอดเจียงเหยาอย่างรวดเร็ว ต่างจากครั้งก่อนที่เขาสูญเสียการควบคุมและโอบกอดเธอเสียแน่น เขารู้ว่าอีกเพียงครึ่งเดือนก็จะได้เจอกันแล้ว และเห็นว่ารอบ ๆ มีคนอยู่มากมาย เขาจึงปล่อยเธอไปหลังจากกอดเธอเพียงสั้น ๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด