ตอนที่แล้วตอนที่ 205+206 คนพิการ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 209+210 ไปที่สนามบิน

ตอนที่ 207+208 อู๋จง


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 207 อู๋จง

“ไม่เป็นไร พี่จง ไม่กินแล้วล่ะ ผมต้องรีบบินกลับกองทัพ” ขณะที่ลู่ชิงสีกำลังพูด เขาโบกมือให้เจียงเหยาที่รออยู่ด้านข้างอย่างเงียบ ๆ และอดทนมากก่อนที่จะพูดว่า “ที่รัก มานี่สิ ผมจะแนะนำเขาให้คุณได้รู้จัก”

จากนั้นอู๋จงก็ตระหนักว่ามีคนอยู่ห่างออกไปไม่กี่ก้าว ข้าง ๆ เขา เขาไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ตรงนั้นนานแค่ไหน แต่เธอดูเชื่อฟังมาก เธอเดินช้า ๆ เข้ามา เมื่อลู่ชิงสีขอให้เธอมา

“พี่จง ฉันจะแนะนำภรรยาของผมให้พี่ได้รู้จัก เธอชื่อเจียงเหยา กำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแพทย์หนานเจียง เพิ่งจะเรียนปีหนึ่ง” ลู่ชิงสีหยุดชั่วขณะแล้วพูด “ฉันกับภรรยาเพิ่งจะแต่งงานกันเมื่อปีที่แล้ว เกือบปีแล้ว แต่น่าเสียดายที่เราไม่มีเวลาส่งขนมแต่งงานมาให้พี่ นี่ฉันมีเวลาอยู่ที่หนานเจียง ฉันจึงพาเธอมาแนะนำให้พี่ได้รู้จัก”

ลู่ชิงสีให้ความเคารพต่อพี่จงมาก แม้ว่าตำแหน่งของเขาในกองทัพจะสูงกว่าอีกอู๋จงก่อนหน้านี้ แต่อู๋จงได้เข้าร่วมกองทัพก่อนเขาและมีอายุมากกว่าเขา ดังนั้นลู่ชิงสีจึงให้ความเคารพต่ออู๋จงเสมอ

“ยินดีที่ได้รู้จักคะ พี่จง” เจียงเหยาทักทายเขา เหมือนที่ลู่ชิงสีทักเขาในฐานะพี่จง ดังนั้นเธอจึงไม่รอช้าที่จะทักทายเช่นนั้น

“ดีใจที่ได้เจอเหมือนกัน!” หางตาของอู๋จงย่นในขณะที่เขายิ้มอย่างมีความสุข

เขามีความสุขกับลู่ชิงสี ที่ได้แต่งงานกับภรรยาที่เชื่อฟังและฉลาด และเพราะเขายังคำสหายเก่าของเขาได้จนกระทั่งตอนนี้

ในขณะที่ลู่ชิงสีกำลังสอนบทเรียนให้กับนักเลงเจียงเหยาก็เปิดเข้าใช้งานโหมดสแกนของระบบการแพทย์เพื่อสแกนอู๋จงเป็นครั้งแรก จากนั้นเธอรู้ว่าหัวเข่าของอู๋จงได้รับบาดเจ็บ อาจเป็นเพราะกระดูกหักของเขาได้รับการรักษาล่าช้า ทำให้ขาเขาพิการ

อุบัติเหตุเกิดขึ้นนานมากแล้ว และมาตรฐานทางการแพทย์ของโรงพยาบาลในปัจจุบันไม่เพียงพอที่จะรักษาอาการบาดเจ็บดังกล่าว ผู้ดูแลระบบบอกเจียงเหยาว่ามีกระดูกสะบ้าหัวเข่าเทียมขั้นสูงในห้องแล็บเพื่อทำหน้าที่ทดแทนเนื้อเยื่อและกระดูกที่ตายแล้ว และถือเป็นการผ่าตัดเล็กในระบบ

เจียงเหยามีประสบการณ์เกือบสิบปีที่เป็นหมอในชีวิตก่อนหน้า ด้วยความสามารถของเธอ จึงไม่ยากสำหรับเธอที่จะทำการผ่าตัดทดแทนให้เสร็จสิ้น

ดังนั้นเจียงเหยาจึงความคิดที่กล้าหาญที่จะรักษาอู๋จง

อาจเป็นเพราะความเคารพของลู่ชิงสีที่มีต่ออู๋จง เธอรักเขา ก็ต้องรักคนที่เขารักด้วย หรืออาจเป็นเพราะคำพูดของลู่ชิงสี ทำให้เธอเคารพทหารปลดประจำอย่างอู๋จงอย่างมาก

ทหารที่เสียสละทุกอย่างเพื่อปกป้องประเทศและประชาชน ไม่ควรกลายเป็นตัวตลกเพราะความทุพพลภาพของเขาหรืออาศัยอยู่ในสถานที่รกร้าง ถูกบังคับให้ตั้งแผงลอยเลี้ยงชีพที่แทบจะไม่สามารถเลี้ยงตัวเองได้

อู๋จงรู้สึกว่าน่าเสียดายเมื่อเขาได้ยินว่าลู่ชิงสีไม่สามารถอยู่ทานข้าวกับเขาได้ และต้องบินกลับกองทัพแล้ว

ลู่ชิงสีกล่าวปลอบเขา “พี่จง ภรรยาของผม เธอเรียนที่นี่สองสามปี ยังมีโอกาสอีกมากที่เราจะได้ทานข้าวด้วยกัน ฉันมาที่นี่เพราะเรื่องอื่น” จากนั้นลู่ชิงสีก็พูดเรื่องการขอให้อู๋จงทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย " “จง พี่เป็นทหารปลดประจำการ แม้ว่าขาข้างหนึ่งของพี่จะได้รับบาดเจ็บ แต่พี่ว่องไวกว่าใคร พี่สามารถทำงานได้อย่างแน่นอน ตอนนี้โรงพยาบาลเป็นของภรรยาผม ถ้าพี่ทำงานที่นั่น พี่จะไม่ต้องอยู่ที่นี่อีก ที่นี่อยู่ไกลโรงพยาบาลมากเกินไป ต้องมีห้องพนักงานที่นั่น ผมจะให้ทางโรงพยาบาลจัดห้องให้พี่นะ”

__

 

ตอนที่ 208 จัดเตรียมงาน

 

ดวงตาของอู๋จงเป็นประกาย และปฏิกิริยาแรกของเขาคือความตื่นเต้น

อันที่จริงเขาพยายามหางานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลังจากที่ปลดประจำการจากกองทัพ เพราะคิดว่าตัวเขามีความคล่องตัวมากกว่าคนทั่วไป และเขาเองมีความสามารถเพียงพอสำหรับงานนั้น ทว่านายจ้างกลับมองว่าเขาไร้ความสามารถเพราะเขาเป็นคนพิการ

หลังจากเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้นับไม่ถ้วน และมีผู้คนเยาะเย้ยเขา ในที่สุด อู๋จงก็หยุดคิดเกี่ยวกับการไปสมัครเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เพราะแม้ว่าเขาจะเป็นทหารที่พิการและปลดประจำการแล้ว แต่เขายังมีศักดิ์ศรีอยู่!

คำพูดของลู่ชิงสีทำให้เขาฟื้นความมั่นใจ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าเขายังเป็นประโยชน์ ไม่ใช่คนไร้ค่าอีกต่อไป!

ลู่ชิงสีทำให้อู๋จงมองเห็นความหวังในตัวเองอีกครั้ง เขาตอบรับโดยไม่มีการปฏิเสธใด ๆ เมื่อเขารู้ว่าผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของโรงพยาบาลคือเจียงเหยา เขาก็หันไปพูดกับเจียงเหยา “เจียงเหยา หลังจากที่ผมเริ่มทำงาน ถ้าได้เห็นความสามารถของผมแล้ว จะให้อยู่ต่อหรือให้ออก ก็บอกผมได้ทันที อย่าคิดมากเพราะเห็นแต่นายท่านลู่เลยนะครับ ไม่อย่างนั้นผมจะกลายเป็นภาระของโรงพยาบาลคุณได้”

“พี่จง ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นเลยค่ะ” เจียงเหยาเชื่อในสายตาการมองคนของลู่ชิงสี คนที่ลู่ชิงสีให้ความสำคัญนั้นต้องมีความสามารถสูงอย่างแน่นอน

“เผอิญฉันขับรถมาน่ะ ฉันกับภรรยาจะช่วยพี่ขนของไปให้ แล้วฉันจะส่งคนมารับพี่ไปที่ห้องพักเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลภายหลัง” ขณะที่เขาพูด ลู่ชิงสีหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาเฉินซวีเหยา ซึ่งตอนนี้เขาอยู่ที่โรงพยาบาล เขาบอกกับอีกฝ่ายว่า เจียงเหยาและเขาจะพาคนไปทำงานที่โรงพยาบาล ให้เขาไปบอกผู้อำนวยการโรงพยาบาลช่วยหาห้องพักพนักงาน แล้วไปแจ้งกับแผนกบุคคลว่าจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนใหม่ไปเริ่มงานที่โรงพยาบาล

อู๋จงกล่าวขอบคุณพวกเขา เขาเก็บของและพาทั้งสองคนไปยังห้องเช่าที่เขาพักอยู่

เพราะตอนนี้มีอู๋จงอยู่ด้วย เจียงเหยาจึงรู้สึกอาย หากจะให้ลู่ชิงสีแบกเธอต่อไป เธอจึงต้องเดินโซเซไปตลอดทาง โชคยังดีที่ไม่ถึงกับล้ม เธอพึมพำกับลู่ชิงสีว่าเธอจะไม่สวมรองเท้าส้นสูงเวลาออกไปข้างนอกอีกต่อไป กระทั่งลู่ชิงสีส่งเสียงเอออ้อออกมา

หญิงชรายังคงอยู่ที่ลานบ้าน เธอคาดหวังว่าจะได้เห็นอู๋จงกลับมาพร้อมกับสองคนที่เพิ่งจากไปเมื่อไม่นานมานี้

หญิงชราตกตะลึงเล็กน้อย เมื่อได้ยินอู๋จงบอกว่าจะขอย้ายออก จากนั้นเธอก็ถอนหายใจและพยักหน้า “ได้ ได้ นี่เพิ่งจะครึ่งเดือนเท่านั้น ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าเดือนนี้ให้ฉันหรอก”

“ขอบคุณครับเถ้าแก่!” อู๋จงขอบคุณเธอและพาลู่ชิงสีกับเจียงเหยาเข้าไปข้างใน พร้อมกับกระซิบเล่าให้พวกเขาฟังว่า “สามีของเถ้าแก่เสียชีวิตตั้งแต่ยังหนุ่ม พวกเขาไม่มีลูกด้วยกัน เธอหาเลี้ยงตัวเองด้วยการปล่อยเช่าห้องพัก เธอไม่ค่อยสนิทกับใครง่าย ๆ แต่ก็เป็นคนดีนะ ตอนที่ผมย้ายเข้ามาที่นี่ใหม่ ๆ ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าได้ตลอด เธอก็ไม่รีบเร่ง นอกจากปล่อยเช่าห้องแล้ว เธอปลูกผักขายด้วย ถ้าเหลือก็ยังเอามาแบ่งให้คนที่คนเช่าอยู่ที่นี่อย่างพวกเรา ๆ กินฟรีกันด้วยล่ะ”

เพื่อเป็นการขอบคุณเจ้าของบ้านที่ดูแลเธอได้ดูแลเขามาตลอดหลายปี อู๋จงคิดที่จะทิ้งค่าเช่าไว้หนึ่งเดือนก่อนที่เขาจะจากไป เพราะไม่อยากจะอาศัยอยู่บ้านเธออย่างฟรี ๆ

แม้ว่าเขาจะอยู่ที่นี่มาสองสามปีแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรที่เป็นของเขาเลย เขามีเสื้อผ้าทั้งหมดน้อยกว่าสิบชุด และไม่มีของมีค่าและทรัพย์สมบัติอะไร จึงมีเพียงกระเป๋าใบเดียวเท่านั้น

หลังจากที่อู๋จงเก็บของเรียบร้อยแล้ว เขาทิ้งค่าเช่าสำหรับ 1 เดือนไว้บนโต๊ะที่ว่างเปล่า ก่อนจะเดินออกจากห้องไปพร้อมกับลู่ชิงสีและภรรยาของเขา กล่าวอำลาหญิงชราก่อนออกไปอีกครั้ง

หลังจากที่ทั้งสามมาถึงโรงพยาบาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้ออกมาต้อนรับเขาถึงที่จอดรถด้วยตัวเอง แน่นอนว่าเขาต้องการพบกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดด้วยตนเอง เพื่อจะดูว่ามีคนเข้ามารับตำแหน่งแทนเขาหรือใหม่ เพราะเขาเพิ่งจะได้รับข่าวว่ามีการเปลี่ยนประธานใหม่เมื่อไม่นานนี่เอง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด