ตอนที่ 4 การเก็บเกี่ยวที่เหมือนกับการฆ่าไก่เพื่อเอาไข่

ตอนที่ 4 การเก็บเกี่ยวที่เหมือนกับการฆ่าไก่เพื่อเอาไข่

ทันทีที่ได้ยินพูดคำเหล่านี้ ทุกคนก็มองไปที่หุ่นไล่กาโดยไม่รู้ตัว

มีคนอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “หุ่นไล่กามีอะไรงั้นเหรอ หรือว่าฆาตกรซ่อนตัวอยู่ข้างใน”

แน่นอนว่าไม่ เพราะหุ่นไล่กานั้นมีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก และยังสูงประมาณ 1.5 เมตร มันเลยฟังดูเหมือนเป็นเรื่องตลกเล็กน้อย

บางคนหัวเราะออกมาเมื่อได้ยิน ขณะที่บางคนหัวเราะไม่ออกเมื่ออยู่หน้าศพ

เฉียวเป็นคนเดียวที่ไม่สามารถหัวเราะออกมาได้

เขาถือไปป์และพ่นควันออกมา เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า

“ตอนที่ฉันเป็นตำรวจ ฉันเคยได้ยินข่าวลือมาบ้าง”

“ในโลกนี้มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอยู่”

“สิ่งมีชีวิตประหลาด?” หลายคนดูงุนงงและอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา

หัวหน้าหมู่บ้านชราเฉียวพยักหน้าตอบและพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง

“แม้ว่าจะเป็นเพียงข่าวลือ แต่ฉันเคยได้ยินเรื่องนี้มาจริง ๆ”

“เหตุการณ์เหนือธรรมชาติหลายอย่างเกิดขึ้นเพราะสิ่งมีชีวิตประหลาดเหล่านั้น”

“เมื่อสามปีที่แล้ว มีคดีศพในเมืองเอลสแตนถูกฟันขาด เมื่อ 5 ปีที่แล้ว มีคดีศพหัวขาดถูกพบในเมืองนอร์ด และคดีประหลาดอื่น ๆ อีกมากมาย...”

“จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถจับฆาตกรในคดีเหล่านี้ได้เลย หลายคนบอกว่าคดีเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะสิ่งมีชีวิตประหลาด”

“ว่ากันว่าประเทศนี้มีแผนกที่เชี่ยวชาญในการจัดการกับคดีแปลกประหลาดเหล่านี้ด้วยเช่นกัน”

“อย่างไรก็ตาม ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่านั้น ไม่ได้มีหลักฐาน”

หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ หลายคนมองดูหุ่นไล่กาด้วยท่าทางแปลก ๆ

“เฉียว คุณกำลังพูดว่าหุ่นไล่กาตัวนี้อาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตประหลาด?”

เฉียวพยักหน้า ดวงตาของเขายังคงจ้องมองไปที่หุ่นไล่กาที่อยู่ข้างหน้าเขา “ถูกตัอง”

ในเวลานี้มีคนพูดอีกครั้งว่า

“ไม่ถูกต้อง ฉันจำได้ว่าหุ่นไล่กาตัวนี้อยู่ที่นี่ตั้งแต่ตอนที่ฉันยังเด็ก ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นกับมันเลยสักครั้ง”

เฉียวส่ายหัวและกล่าวว่า “เป็นเพราะมันอยู่ที่นี่มาเป็นเวลานาน จนพัฒนากลายเป็นสิ่งมีชีวิตประหลาดได้”

“สิ่งมีชีวิตประหลาดจะไม่ปรากฏขึ้นมาจากอากาศแน่นอน”

“ไม่ว่าจะเป็นสัตว์หรือสิ่งของที่มีมาช้านานก็ตาม”

“เว้นแต่จะมีสถานการณ์พิเศษ ไม่มีทางที่สิ่งของที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตประหลาด”

หลังจากได้ยินที่เฉียวพูด หลายคนก็ได้เชื่อเขาจริง ๆ

“ถ้าอย่างนั้น ไม่ใช่ว่าหุ่นไล่กาตัวนี้อันตรายมากงั้นเหอ เราควรอยู่ห่าง ๆ ดีไหม”

ประโยคนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนคิด

ถ้าหุ่นไล่กาตัวนี้เป็นสิ่งมีชีวิตประหลาดจริง ๆ ถ้ายังยืนอยู่ตรงนี้ต่อไปไม่ใช่ว่าพวกเขากำลังยืนรอความตายหรอกเหรอ?

อย่างไรก็ตาม เฉียวพูดขึ้นมาอย่างมั่นใจว่า

“อย่ากังวล พวกสิ่งมีชีวิตประหลาดมักจะไม่มีสติปัญญา มันควรจะหลับไปแล้ว”

“ไม่เช่นนั้น คนแรกที่ค้นพบจอห์นคงจะมันถูกโจมตีไปนานแล้ว”

พอพูดจบเขาก็หันกลับมาถาม

“ใครเป็นคนแรกที่พบเจอร่างกายนี้”

คนสองคนก้าวออกมาจากฝูงชนและยกมือขึ้น

เฉียวพยักหน้าและคาดเดาต่อไป

“ถ้าฉันจำไม่ผิด ถ้าหุ่นไล่กาตัวนี้เป็นสิ่งอาถรรพณ์ เงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับเขาในการตื่นและทำร้ายใครซักคนควรจะเป็นตอนที่มีคนเหลืออยู่เพียงคนเดียว”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลายคนก็โล่งใจ

สำหรับแฟลนเดอร์ส แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใด ๆ ออกมาบนผิวหน้าก็ตาม แต่เขาก็แอบตกใจไม่น้อย

เขาไม่ได้คาดหวังเลยว่าหัวหน้าหมู่บ้านชราผู้นี้จะคาดเดาได้แม่นยำขนาดนี้

ถ้าเขาไม่ได้รับระบบปีศาจแห่งความหวาดกลัวเขาก็คงมีสภาพไม่ต่างจากที่เขาพูด

อย่างไรก็ตาม ยังมีคนถามด้วยความเป็นห่วงว่า

“เฉียว ถ้านายเดาผิดล่ะ?”

เฉียวส่ายหัวและพูดว่า

“ถ้าเขาสามารถทำร้ายผู้คนได้จริง ๆ เราคงโดนโจมตีไปนานแล้ว ทำไมเขาถึงรอจนถึงตอนนี้ล่ะ”

เมื่อได้ฟังประโยคนี้หลายคนก็เห็นด้วย

ยกเว้นแฟลนเดอร์ส

ในเวลานี้ แฟลนเดอร์สได้เยาะเย้ยอยู่ภายในใจ

ในที่สุด หัวหน้าหมู่บ้านชราคนนี้ก็คาดเดาไปผิดทาง

เขาไม่ได้ทำร้ายใคร ไม่ใช่เพราะเขาทำไม่ได้ แต่เป็นเพราะเขาไม่อยากทำ

เพราะแฟลนเดอร์สต้องการที่จะอยู่ที่นี่ต่อไปและค่อย ๆ เก็บเกี่ยวค่าความหวาดกลัวของชาวบ้าน เพิ่มความแข็งแกร่งของเขาทีละน้อย

ถ้าเขาโจมตีชาวบ้านตอนนี้ มันอาจทำให้ชาวบ้านจำนวนมากต้องวิ่งหนีไป ทำให้จำนวนเป้าหมายของเขาลดลง

จากนั้นแฟลนเดอร์สก็จะไม่สามารถเก็บเกี่ยวค่าความหวาดกลัวได้มากที่สุดตามที่เขาหวังไว้

ดูจากลักษณะแล้วเขาน่าจะอยู่ที่นี่ต่อไปได้และสามารถดำเนินตามแผนเดิมได้

ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณคำพูดของหัวหน้าหมู่บ้านชราในตอนนี้

อย่างไรก็ตาม หลังจากการฆาตกรรมครั้งต่อไป เขากลัวว่าเขาจะต้องย้ายศพไปให้ไกลกว่านี้

หรือเขาอาจจะต้องหั่นศพให้กลายเป็นชิ้นเนื้อจากนั้นก็สับให้ละเอียดแล้วฝังลงดิน

ต้องบอกว่าหัวหน้าหมู่บ้านชราคนนี้ได้ช่วยเหลือเขามากในวันนี้

ไม่เพียงแต่เขาจะได้รับข้อมูลมากมายเกี่ยวกับโลกนี้ แต่นี่ยังทำให้เขารู้ว่าการฆาตกรรมของเขานั้นมีความเป็นมือสมัครเล่นเพียงใด

อย่างไรก็ตาม ขณะที่แฟลนเดอร์สกำลังสงบลง คนที่ช่างพูดก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า

“ทุกคน ฉันคิดว่าเราควรเผาหุ่นไล่กาตัวนี้”

“ถ้ามันเป็นสิ่งมีชีวิตประหลาดจริง ๆ เราคงจะไม่สบายใจที่จะอยู่ที่นี่”

“ถึงไม่ใช่เราก็เผามันได้เหมือนเดิมเช่นกัน”

เมื่อได้ยินคำพูดของบุคคลนี้ หลายคนก็พยักหน้าเห็นด้วย

ในขณะเดียวกัน เฉียวก็พยักหน้าเล็กน้อยและพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า

“จริงสิ ถึงสิ่งมีชีวิตประหลาดจะมีอยู่แค่ในตำนานก็ตาม แต่เราก็ควรปลอดภัยไว้ก่อน ดีกว่าที่เราจะมาเสียใจในภายหลัง”

“หากคราวหน้ามีใครบังเอิญผ่านมาที่แห่งนี้ นั่นก็คงเป็นการตายที่ไม่ยุติธรรมนัก”

ชาวบ้านก็เห็นด้วยกับข้อเสนอแนะนี้

เพราะว่านี่เป็นแค่หุ่นไล่กา พวกเขาเลยไม่มีอะไรที่จะต้องลังเลใจ และการเผาหุ่นไล่กาจะทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ อารมณ์ของแฟลนเดอร์สนั้นรู้สึกแย่มาก

แผนการที่เขาจะค่อย ๆ เก็บเกี่ยวค่าความหวาดกลัวที่นี่ไม่สามารถทำได้อีกต่อไป

แม้ว่ามันจะส่งผลให้เป้าหมายของเขาหลบหนีไปได้ก็ตาม เขาก็ยังต้องลงมือในทันทีเพื่อแก้ไขสถานการณ์ในปัจจุบันของเขา

มิฉะนั้นเขาอาจจะถูกเผาเป็นเถ้าถ่านเสียก่อน

หลังจากตัดสินใจได้แล้ว แฟลนเดอร์สก็ลงมือทันที

เขายกมือขวาขึ้นมาโดยไม่ลังเลและโบกมือไปข้างหน้า

[ สะบั้นราตรี ]

ทันใดนั้น เคียวสีดำสนิทก็ได้ปรากฏขึ้นในมือของแฟลนเดอร์ส

ฉึบ...

เคียวสีดำอันแหลมคมได้ตัดผ่านฝูงชนไปอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้นเอง ชาวบ้านสองสามคนที่อยู่ใกล้แฟลนเดอร์สก็ถูกผ่าครึ่งระหว่างเอว

รวมทั้งเฉียวด้วยเช่นกัน

ในขณะนี้ เฉียวยังคงเผชิญหน้ากับฝูงชน

ทันใดนั้นเองเขาก็รู้สึกเจ็บแปลบบริเวณเอวเล็กน้อย

และในวินาทีต่อมา การมองเห็นของเขาก็ได้เปลี่ยนไป

ร่างกายส่วนบนของเขาได้ล้มลงกับพื้น

ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต ดูเหมือนเขาจะได้เห็นใบหน้าของหุ่นไล่กา

มันมีปากขนาดใหญ่และมีหน้าที่ดูน่าเกลียดเป็นอย่างมาก!

[ ค่าความหวาดกลัว + 100 ]

[ ค่าความหวาดกลัว + 100 ]

[ ค่าความหวาดกลัว + 50 ]

[ ค่าความหวาดกลัว + 100 ]

…

ผู้ที่ทำให้เขาได้รับ 100 คะแนนนั้นถูกฆ่าตายทั้งหมด

สำหรับผู้ที่ทำให้เขาได้รับ 50 คะแนน พวกเขายังมีชีวิตอยู่แต่พวกเขาอยู่ในที่เกิดเหตุ

การฟันครั้งนี้ได้คร่าชีวิตชาวบ้านไปเป็นจำนวนมาก

แม้ว่าเขาจะได้รับค่าความหวาดกลัวมาจำนวนมากก็ตาม แต่หัวใจของแฟลนเดอร์สก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา

การกระทำในปัจจุบันของเขาไม่ต่างจากการฆ่าไก่เพื่อกินไข่ ซึ่งเขาต้องฆ่ามนุษย์เพื่อผลประโยชน์ชั่วคราว

นั่นเป็นเพราะเขาสามารถทำให้ทุกคนหวาดกลัวเขาก่อนได้ก่อนที่จะฆ่าพวกเขา

ด้วยวิธีนี้ เขาจะได้รับค่าความหวาดกลัวมากที่สุด

แต่ตอนนี้ เขาต้องฆ่าพวกเขาก่อน

“สิ่งมีชีวิตประหลาด... สิ่งมีชีวิตประหลาดจริง ๆ รีบวิ่งหนีเร็วเข้า!”

ใครบางคนในฝูงชนได้กรีดร้องออกมา

คนอื่น ๆ ก็ตอบโต้ได้ทันทีและกำลังแยกกันหนีไปทุกทิศทุกทาง

แต่ในวินาทีต่อมา ทุกคนก็ได้ตกตะลึงในทันที

นั่นเป็นเพราะการที่แฟลนเดอร์สได้เปิดใช้งานทักษะที่สองของเขา — [ ความหวาดกลัว ]