ตอนที่แล้วข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 3 ไหดินเผาสีดำ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 5 ตระกูลฉือทั้งสามคน

ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 4 โรงสีจานหิน


ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 4 โรงสีจานหิน

การได้พบเพื่อนเก่าในต่างแดน เป็นหนึ่งในสามความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต

แต่เวลานี้คงหนิงไม่มีความสุขเลย

เพราะสิ่งที่เขาได้พบคือศัตรู......

เมื่อมองไปที่ไหดินเผาที่ลอยอยู่ในตันเถียนของเขา ปฏิกิริยาแรกของคงหนิงคือต้องการทุบสิ่งนี้

แต่แล้ว เขาก็ตระหนักว่ามีบางสิ่งผิดปกติ

ไหสีดำนี้เชื่อมโยงเข้ากับคงหนิงอยู่ก่อนแล้ว หลังจากที่คงหนิงสัมผัสถึงมันได้ เขาก็รู้จุดประสงค์ของสิ่งนี้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น

สูบกลืนและขัดเกลา......

ไหดินเผาสีดำนี้สามารถกลืนกินและขัดเกลาจิตวิญญาณให้กลายมาเป็นพลังวิญญาณภายในร่าง จากนั้นจึงป้อนที่เหลือกลับสู่อากาศ

และวิธีที่มันใช้กลืนกินก็ง่ายมาก ตราบใดที่คงหนิงสังหารเป้าหมายได้ ก็สามารถกลืนกินได้

หลังจากได้รับรู้เรื่องนี้ ท่าทีของคงหนิงก็ตกใจเล็กน้อย

ไหดินเผานี้......เป็นของพรรคอธรรมหรืออย่างไร?

ตอนนั้นเขาถูกสังหารด้วยสิ่งชั่วร้ายหรือไม่?

อย่างไรก็ตาม มันดูดกลืนสิ่งมีชีวิตอื่นๆ มาหล่อเลี้ยงคงหนิง...... วัตถุชั่วร้ายนี้ แต่เดิมกระแทกคงหนิงจนตาย แต่ตอนนี้คงหนิงได้เห็นแสงริบหรี่ในชีวิตของเขาแล้ว

ในฐานะที่เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง เขาไม่สามารถต่อสู้กับปีศาจที่อยู่ในบ้านได้จริงๆ

แต่ถ้าสามารถพึ่งพาไหประหลาดภายในจุดตันเถียนนี้ได้ สถานการณ์ก็อาจจะต่างออกไป

ภายในร่างกายที่มีพลังงานจิตวิญญาณ......นี่คือของภูตผีปีศาจหรือ? หรือหมายถึงของผู้ฝึกยุทธ?

คงหนิงยืนอยู่ใต้ต้นไม้ พูดอะไรไม่ออก ในเมืองเล็กๆ ภายในเขตชานหลานแห่งนี้จะไปหาสิ่งมีชีวิตที่มีพลังวิญญาณได้ที่ไหน?

แม้ว่านอกจากจะกลืนกินและขัดเกลาแล้ว ไหใบนี้ยังสามารถค้นหาเป้าหมายได้ เพียงเติมพลังปราณเข้าไปในไห ก็สามารถค้นหาเป้าหมายที่อ่อนแอกว่าในบริเวณใกล้เคียง

แต่คงหนิงสงสัยว่ามันจะมีปีศาจอยู่ในบริเวณนี้หรือไม่

หลังจากที่สูดลมหายใจเข้าเต็มที่ เขาก็ถ่ายเทพลังปราณทั้งหมดลงไปในตันเถียน แพร่เข้าไปในไหสีดำ ในไม่ช้าไอพลังที่ไร้ตัวตนและไม่สามารถมองเห็นได้ก็กระจายออกไปทุกทิศทางโดยมีคงหนิงเป็นจุดศูนย์กลาง

สิ่งต่างๆ ในวิสัยทัศน์ของคงหนิงก็เปลี่ยนไปเช่นกัน

เมืองเล็กๆ ที่อยู่ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนแรง ดูเหมือนจะปกคลุมไปด้วยหมอกสีฟ้าจางๆ เมื่อมองไปรอบๆ ทั่วทั้งเขตก็อบอวลไปด้วยควันสีน้ำเงินแปลกประหลาด

เมื่อคงหนิงเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ลูกตาของเขาก็หดตัวลงเล็กน้อย

เพราะหมอกสีฟ้าที่ลอยอยู่ในเขตเมืองนั้นสื่อถึงปราณอสูรของเหล่าปีศาจ!

ในเขตชานหลานเล็กๆ แห่งนี้ กลับมีปราณอสูรอยู่ทั่วทุกแห่งหน? เป็นไปได้อย่างไร!

เป็นไปได้ไหมว่าปีศาจในเขตเมืองนี้ไม่ได้มีแค่ปีศาจแมงป่องอย่างซูหยานเท่านั้น? แต่กลับมีปีศาจอยู่ทั่วทุกที่?

ฮง!

คงหนิงตะลึงงัน ภายในใจสั่นสะท้านรุนแรง ถูกบังคับออกจากสถานการณ์อันแปลกประหลาดและลึกลับนั้น

---ไหสีดำได้พบเป้าหมายแล้ว!

ท่าทีของคงหนิงตกตะลึงงุนงง สิ่งที่เกิดทั้งในตอนกลางวันและตอนกลางคืนได้พลิกกลับความเข้าใจทั้งหมดในอดีตของเขาไปจนสิ้น

แม้ว่าควันสีน้ำเงินแปลกที่ลอยอยู่ในลานสายตาจะหายไปหมดแล้ว เหลือแต่เขตเมืองที่สว่างจ้าภายใต้แสงอาทิตย์อันร้อนฉ่าดังเดิม แต่ฉากอันน่าสยดสยองที่เห็นในตอนค้นหาเป้าหมายนั้น ก็ทำให้คงหนิงตระหนักถึงอันตรายร้ายแรงในเขตที่ตนอาศัยอยู่

นอกจากปีศาจสาวภายในบ้านของตนเองแล้ว ยังมีปีศาจตนอื่นๆ อยู่ภายในเมือง และจำนวนที่เห็นก็ดูเหมือนจะค่อนข้างมาก แทบจะมีปราณอสูรอยู่ทุกหนทุกแห่งภายในเขตเมือง......

หัวใจของคงหนิงเย็นยะเยือกในทันใด

มีปีศาจจำนวนมากซุ่มซ่อนอยู่ในเขตชานหลานเล็กๆ แห่งนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีการหายตัวไปอย่างลึกลับมากมายทุกปี

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้ไปแล้วเนี่ย!

โลกยุคโบราณที่ดูสงบสุขและเงียบสงบกลับซ่อนอันตรายที่น่าสะพรึงกลัวไว้ขนาดนี้เชียวหรือ?

แล้วเหล่าเทพ องค์ยูไล และเซียนอมตะเล่า? ในเมื่อมีภูตผีปีศาจเหมือนในตำนานเช่นนี้ แล้วเหล่าผู้วิเศษจากสำนักลี้ลับที่น่าจะต้องอยู่คู่กันนั้นหายหัวไปไหนหมด? ทำไมถึงมีปีศาจมากมายที่นี่ราวกับไม่มีใครสนใจเลย......หรือเป็นเพราะว่าเขตชานหลานตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลเกินไปจึงไม่ได้รับการปกป้องจากผู้วิเศษสำนักลี้ลับ เหล่าปีศาจจึงเตร็ดเตร่ยั้วเยี้ยถึงเพียงนี้?

คงหนิงผู้ไม่เคยออกจากเขตชานหลานไปเห็นโลกกว้าง ไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ความเป็นไปบนโลกในตอนนี้ได้

อย่างไรก็ตาม ความจริงเกี่ยวกับเขตชานหลานซึ่งถูกเปิดเผยต่อหน้าต่อตา กลับกลายเป็นเรื่องลึกลับอย่างยิ่ง ทั้งยังอันตรายมากอีกด้วย

โชคดีที่ตอนนี้ตัวเขานั้น ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสต่อต้าน......

คงหนิงสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดพร้อมกับลุกขึ้น เดินไปที่ม้าสีเหลืองพุทราตัวผอม ดึงบังเหียนแล้วขึ้นไปนั่งบนม้า จากนั้นเขาจึงขี่ม้าสีเหลืองเคลื่อนตัวออกจากริมฝั่งแม่น้ำโดยมีมีดสั้นโบราณคาดเอวเอาไว้

ในลานสายตาของคงหนิงเวลานี้ มีกลุ่มควันสีขาวจางๆ ปรากฏขึ้น ควันสีขาวที่เหมือนกับลำแสงนี้แผ่ขยายไปตามสถานที่ภายในเขตเมือง นำทางไปยังเป้าหมายของคงหนิง

หลังจากที่เขาใช้ความสามารถด้านการค้นหาเป้าหมายของไหสีดำ เขาก็ค้นพบเป้าหมายที่เหมาะสม......แม้ว่าควันสีขาวจะนำทางไปสู่จุดหมาย แต่คงหนิงก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นปีศาจประเภทไหน

แต่ในเวลานี้ คงหนิงเหมือนจะไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะต้องลองไปดู

คงหนิงนั่งคร่อมม้าสีเหลืองพุทราตัวผอม หันหน้าสู้แสงแดดแผดเผาจากดวงอาทิตย์ เดินไปตามถนนตรอกซอกซอยภายในเขตเมือง ยิ่งมุ่งหน้าไปไกลเท่าไหร่ ถนนหนทางก็ดูยิ่งห่างไกลออกไปและดูร่มรื่นมากเท่านั้น

ในที่สุดก็มาถึงโรงสีจานหินแห่งหนึ่งทางทิศเหนือ

ควันสีขาวจางหายไปเมื่อมาถึงโรงสีจานหินแห่งเล็กๆ แห่งนี้

เมื่อคงหนิงเห็นดังนี้ ก็หยุดม้าและไม่ได้รีบร้อนเข้าไป

โรงสีจานหินแห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำว่างเจียง ทางตอนเหนือของเขตชานหลาน เป็นโรงสีแรงดันน้ำที่เล็กที่สุดในเมือง พนักงานก็มีกันอยู่สามคน เป็นครอบครัวเดียวกัน ประกอบด้วย เจ้าของโรงสีคือฉือหยง ภรรยา และมีน้องชายของฉือหยง ชื่อว่าฉือกุ้ย

เดิมทีเคยมีน้องสาวอีกคนหนึ่งภายในครอบครัวนี้ แต่หญิงสาวได้หายตัวไปเมื่อหลายปีก่อน

มีการหายตัวไปในเขตชานหลานทุกปี แต่ถ้าสมาชิกในครอบครัวไม่มาร้องทุกรายงานคดีที่ศาลาว่าการ เหล่าข้าราชการที่ศาลาว่าการก็เกียจคร้านเกินกว่าจะเข้าไปยุ่ง เว้นแต่งานนั้นจะได้ผลกำไร

คงหนิงไม่ได้คิดถึงการหายตัวไปของน้องสาวของฉือหยงมาก่อน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะเกี่ยวข้องกับปีศาจ?

คงหนิงที่อยู่บนม้าสีเหลืองพุทราเฝ้าดูโรงสีจานหินอย่างเงียบๆ ท่ามกลางแสงแดดแผดเผา

หลังจากมาถึงที่นี่ ควันสีขาวที่เป็นตัวนำทางของคงหนิงก็หายไป แต่ตอนนี้โรงสีจานหินแห่งนี้ก็ถูกจับตำแหน่งไว้แล้ว คงหนิงจึงไม่รีบร้อนเข้าไป

ในเวลานี้ก็ใกล้เที่ยงแล้ว แดดร้อนแผดเผา ผู้คนต่างหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านเพื่อบรรเทาความร้อน บริเวณรอบโรงสีจานหินกลายเป็นว่างโล่งเงียบสงบ ไม่มีผู้คนออกมาเดินให้เห็นบนถนนแคบๆ เส้นนี้เลย

ในยุคที่ไม่มีเทคโนโลยี ไม่มีไฟฟ้า โรงสีถือเป็นแหล่งทำมาหากินสำคัญ คนทั้งเมืองต้องพึ่งโรงสีเพื่อดำรงชีวิต

แม้แต่โรงสีจานหินที่เล็กที่สุดในเมือง สำหรับช่วงที่คนเยอะที่สุดก็ยังมีคนมาเข้าแถวรอกันเป็นวันๆ

แต่ตอนนี้ไม่ใช่ช่วงที่คนเยอะที่สุด นอกโรงสีจานหินพลันว่างเปล่าร้างผู้คน ไม่เห็นใครแม้แต่คนเดียว มีเพียงกังหันน้ำขนาดใหญ่ที่หมุนอย่างช้าๆ ไปตามกระแสน้ำ

คงหนิงนิ่งเงียบ กำลังคิดว่าจะทำอะไรต่อไปดี ในขณะนั้นเอง เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นด้านหลังของเขา ชายวัยกลางคนเปลือยท่อนบน ใบหน้ามีหนวดเคราเป็นตอๆ เดินเลี้ยวออกมาจากตรอกข้างหนึ่ง ถือถุงข้าวสารใบเล็กๆ เอาไว้ในมือ

บังเอิญว่าเขาคือฉือหยง เจ้าของโรงสีจานหินแห่งนี้

เมื่อเห็นคงหนิงนั่งอยู่บนม้าสีเหลืองพุทรา ฉือหยงก็ตกตะลึงไปชั่วครู่ แล้วส่งยิ้มออกมา “ท่านหนิง ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ลมอะไรหอบท่านมาถึงที่นี่เล่า?”

คงหนิงที่อยู่ในเขตชานหลานทั้งยังสวมใส่ชุดเต็มยศ ไม่มีใครกล้าดูหมิ่นเด็ดขาด ชุดนี้เป็นสัญลักษณ์ของสิทธิพิเศษ ไม่ต้องกล่าวถึงคงหนิงผู้ที่ติดยศมาตั้งแต่อายุยังน้อย เป็นที่โปรดปรานจากผู้ว่าการเขตไม่น้อย

ดังนั้นฉือหยงจึงแสดงความมีความกระตือรือร้นในการให้ความร่วมมืออย่างมาก

ซึ่งนี่ก็ดูจะเป็นเรื่องที่ปกติมาก

หัวใจของคงหนิงกระตุกวูบเล็กน้อย

ทันทีที่เขามาถึง จู่ๆ ฉือหยงก็ปรากฏตัวขึ้น......ฉือหยงเป็นปีศาจที่ซ่อนตัวอยู่ในโรงสีหรือเปล่า?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด