ตอนที่แล้วตอนที่ 183+184 ขอจูบหน่อย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 187+188 ไม่มีวันหมด

ตอนที่ 185+186 หายนะชั่วข้ามคืน


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 185 หายนะชั่วข้ามคืน

เมื่อฉีเซียงได้ยินที่เฉินซวีเหยาพูดกับลู่ชิงสีและเจียงเหยา ทำให้เขาว้าวุ่นมากยิ่งขึ้น

ชิงสี เจียงเหยา? หมายความว่า ภรรยาของลู่ชิงสีคือ เจียงเหยา?

ฉีเซียงแทบอยากจะบีบคอตัวเองให้ตาย ในบรรดานายน้อยแห่งจินโด สองคนสุดท้ายที่ไม่มีใครอยากรุกรานก็คือ เหลียงเยวี่ยจือและลู่ชิงสี ทั้งสองคนเป็นที่รู้จักกันดีว่าโหดเหี้ยมและเจ้าอารมณ์ และปกป้องพวกพ้องมากแค่ไหน นี่ฉันคิดวางแผนจะแตะต้องภรรยาของนายน้อยลู่เหรอเนี้ย!

“นายน้อยลู่ เรื่องเมื่อวันก่อนเป็นความผิดของผมเอง ผม...” ฉีเซียงพยายามอธิบายตัวเองอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะเอ่ยคำขอโทษจนจบประโยค คำพูดของเขาก็ถูกตัดจบด้วยสายตาที่เย็นเยียบของลู่ชิงสี

ลู่ชิงสีล็อกประตูห้องพัก เขาเหล่มองสมาชิกทั้งสามของตระกูลฉีที่ขวางทางของเขา เจียงเหยาไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรแม้แต่คำเดียว เธอเพียงชำเลืองมอง ทั้งสามคนก็เคลียร์เส้นทางให้อย่างรวดเร็ว

“เมื่อกี้บอกว่าหิวไม่ใช่เหรอ ไปกินข้าวกันเถอะ” ลู่ชิงสีหันไปพูดกับเฉินซวีเหยาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาอย่างใจร้อน โดยไม่รอให้เฉินซวีเคลื่อนไหว เขาจับมือเจียงเหยาและเดินออกไป

เฉินซวีเหยาเหลือบมองไปที่คนตระกูลฉี และรีบวิ่งไปหาลู่ชิงสีโดยไม่พูดอะไรสักคำ เขาไม่ได้ถามลู่ชิงสีว่าจะจัดการกับตระกูลฉีอย่างไร แต่กลับถามว่าพวกเขาจะกินอะไรเป็นอาหารกลางวัน

เฉินซวีเหยารู้ดีว่าตอนนี้อารมณ์ของลู่ชิงสีเป็นอย่างไร หากเขายังพูดถึงตระกูลฉีอีก ก็ไม่ต่างจากการเติมเชื้อเพลิงเข้าไปในกองไฟ อีกอย่างเขาไม่ได้เป็นกังวลเกี่ยวกับครอบครัวฉี พวกเขาควรจะแบกรับเรื่องราวทั้งหมดด้วยตัวเอง สมควรแล้วที่จะเป็นฝ่ายยืนรอลู่ชิงสีและคนอื่น ๆ กลับมาถึงโรงแรมอีกครั้ง

ร้านอาหารที่พวกเขามาทานอาหาร เป็นลู่ชิงสีที่เลือกร้าน ครั้งก่อนที่เขามาส่งเจียงเหยามารายงานตัวเข้ามหาวิทยาลัย เขาได้หาข้อมูลร้านอาหารทั่วเมืองหนานเจียง และพบร้านนี้เขา บรรยากาศร้านนี้เงียบสงบและผ่อนคลาย

หลังจากสั่งอาหารเฉินซวีเหยา เห็นเจียงเหยาสั่งอาหารจานโปรดของลู่ชิงสีมาสองจาน ในขณะที่ลู่ชิงสีสั่งอาหารรสจืดมาสองจาน น่าจะเป็นของโปรดของเจียงเหยา แม้ว่าทั้งคู่จะได้มีปฏิสัมพันธ์ใด ๆ กัน แต่ก็เข้าใจกันและกันเป็นอย่างดีและคิดถึงอีกฝ่ายก่อนตัวเองเสมอ

เฉินซวีเหยาหยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างเงียบ ๆ และส่งข้อความถึงโจวเหวยฉี เขาคิดว่าเขาคงเป็นบ้าไปแล้วที่ตามสองคนนี้ออกมาทานอาหารกลางวัน สองคนนี้โชว์ความหวานจนเขาจะบ้าตาย

หัวหน้าเย่เป็นคนที่มีไหวพริบเป็นอย่างดี เขาไม่ปล่อยให้ลู่ชิงสีรอนานเกินไป

ในระหว่างทานอาหารกลางวัน ลู่ชิงสีได้รับโทรศัพท์จากเขา

แม้ว่าเจียงเหยาจะนั่งอยู่ข้าง ๆ เขา แต่เธอก็ไม่ได้ยินคำพูดจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ สำหรับลู่ชิงสีแล้ว เขาจะไม่พูดกับคอื่นเกินสองสามประโยค ยกเว้นว่าคนที่เขาพูดด้วยจะเป็นคนสนิทกับเขา

เขาคุยโทรศัพท์อยู่เกือบห้านาที เขาพูดเพียงประโยคเดียว ก่อนจะวางสาย

“ผมจะไปถึงที่นั่นในอีกหนึ่งชั่วโมง”

“พวกเขาจะจัดการกับตระกูลจางยังไง” เฉินซวีเหยามั่นใจว่าพวกเขากำลังพูดถึงเรื่องของตระกูลจาง

“จางซีหยวนถูกตั้งข้อความฆาตกรรม จางซีหนานถูกกล่าวหาคดีข่มขืนโดยเหยื่อห้าราย และทุกคนครอบครัวจางจะถูกสอบสวนภายใต้ความผิดฐานข่มขู่และติดสินบน” ลู่ชิงสีหยุดชั่วคราวและเลิกคิ้ว “สิ่งที่น่าสนใจคือ เช้านี้เพียงแค่สองชั่วโมง บริษัททั้งหมดที่ร่วมมือกับตระกูลจาง ได้ประกาศยุติความร่วมมือกับอีกฝ่าย ธนาคารก็ยุติการระดมทุนให้กับตระกูลจาง และไม่มีทนายในเมืองหนานเจียงสักคนที่ยินดีว่าความให้กับเขา”

“รากฐานของตระกูลจางในเมืองหนานเจียงคงยังไม่แข็งแกร่งพอ อีกอย่างบริษัทจางเพิ่งเริ่มทำธุรกิจได้ไม่นาน ก็อวดดีซะแล้ว คงไปทำให้หลายคนไม่พอใจ ถึงขั้นไม่มีทนายคนไหนในเมืองหนานเจียงรับว่าความให้ ฮาฮ่า ดูเหมือนว่าต้องติดคุกกันนานเลยสิ” เฉินซวีเหยามีความสุขมากขึ้นพอ ๆ กับรอยยิ้มที่กว้างขึ้นของเขา

“หลังจากที่ตระกูลจางต้องเผชิญกับสถานการณ์เหล่านี้ แน่นอนว่าจะต้องมีคนดูถูกเหยียดหยาม ก็ตระกูลจางทำเรื่องโสโครกมาไม่น้อยนี่ ไม่แปลกหรอกที่ล้มแล้วจะมีคนเข้ามาขุดคุ้ยกับหันหลังให้ในคราเดียว”

__

ตอนที่ 186 รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่

เฉินซวีเหยาไม่ค่อยจะรู้จักตระกูลจางเสียเท่าไหร่ แต่หลังจากพิจารณาลูกหลานทั้งสามของตระกูลจาง เขาไม่จำเป็นต้องเดาภูมิหลังของตระกูลจางเลย ดูจากการที่พวกเขาเลี้ยงลูกมาแบบนั้น พวกเขาคงมีภูมิหลังที่ไม่ใคร่จะดีนักอย่างแน่นอน ทำให้ตระกูลจางไม่อยากทนต่อการขุดคุ้ยได้

หัวหน้าเย่เพียงแค่เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ลมีคนจำนวนมากที่จัดการเรื่องที่เหลือ

“ตระกูลหวงของไห่หรุนกรุ๊ปเป็นคนแรกที่โจมตีพวกเขา” ลู่ชิงสีเหลือบมองไปที่เจียงเหยา “ฉันว่า เดี๋ยวคงมีอะไรอีกมาก เมื่อเราไปถึง”

“อา?” เจียงเหยารู้สึกประหลาดใจที่ตระกูลหวงมีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลจาง

ลู่ชิงสีคีบอาหารลงในจานของเจียงเหยา “ทานข้าวเสร็จแล้ว ผมจะส่งคุณกลับโรงแรม หลังจากนั้นผมจะออกไปสถานีตำรวจกับซวีเหยา”

หัวหน้าเย่ได้ทดสอบเขาว่าเขารู้จักกับทางตระกูลหวงของไห่หรุนกรุ๊ปทางโทรศัพท์เมื่อสักครู่หรือไม่ โดยการกล่าวว่าตระกูลหวงได้ยุติความร่วมมือทางธุรกิจทั้งหมดกับทางตระกูลจางนานแล้ว แม้แต่แผนกจัดซื้อก็หยุดสั่งสินค้าเล็ก ๆ น้อย ๆ จากตระกูลจาง และทางธนาคารก็ได้รับคำสั่งจากตระกูลหวงให้หยุดการระดมทุนเพื่อตระกูลจาง

ตระกูลหวงได้ทำสิ่งเหล่านี้ล่วงหน้าก่อนที่หัวหน้าเย่จะเผยแพร่ข่าวออกไปเสียอีก ดังนั้นจึงมีโอกาสน้อยที่ตระกูลหวงจะรู้เรื่องนี้ล่วงหน้า ตอนที่เขาทำเช่นนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ช่างดูเหมือนเป็นเรื่องบังเอิญ

อีกอย่าง หลังจากที่หัวหน้าเย่ได้เผยแพร่ข่าวออกไป ตระกูลหวงได้สั่งห้ามทนายความในเมืองหนานเจียงทั้งหมด ไม่ให้ความช่วยเหลือกับตระกูลจาง

ลู่ชิงสีจำได้ว่าเจียงเหยาได้ไปเยี่ยมประธานหวงของไห่หรุนกรุ๊ปที่โรงพยาบาลเมื่อเช้า ดังนั้นเขาจึงเดาว่าสาเหตุที่ตระกูลหวงโจมตีตระกูลจาง อาจจะเป็นเพราะเจียงเหยา การที่ตระกูลใหญ่ ๆ หยุดให้ความช่วยเหลือตระกูลจางเกิดขึ้นในเวลาเดียวกับที่หัวหน้าเย่ยอมแพ้และไม่ช่วยเหลือตระกูลจางต่อ

“ถ้าพูดถึงตระกูลจางแล้ว ทุกคนสมควรถูกขัง ยกเว้นจางซีชิง” เจียงเหยาค่อนข้างพูดไม่ออก การล่มสลายของตระกูลจางเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

เมื่อวานพวกเขายังให้ทุ่มเงินหลายล้านเพื่อให้ทุนกับทางมหาวิทยาลัยอยู่เลย แต่วันนี้กลับกลายเป็นคนที่ไม่เหลืออะไร

“เป็นเรื่องปกติ” ลู่ชิงสีอธิบาย “ตอนที่เขาเริ่มต้น ตระกูลจางแทบไม่มีพื้นฐานอะไรเลย ทรัพย์สินที่มีในวันนี้คือผลงานของพี่น้องทั้งสามคนของตระกูลจาง เขาเริ่มจากศูนย์กระทั่งร่ำรวย แต่ไม่มีอำนาจอะไรนี่ ก่อนหน้านี้เขาใช้เงินเพื่อซื้ออำนาจ แต่ถ้าคนครอบครัวของพวกเขาสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำเล่า หายนะก็จะมาเยี่ยมเร็วแบบนี้แหละ”

“จากผ้าขี้ริ้วขึ้นมาเป็นคนร่ำรวย จนไม่รู้จักวิธีถ่อมตัว ทำตัวอวดดีอยู่ตลอด เลี้ยงลูกให้ไม่มีเหตุผล ก็ต้องรับการหายนะที่พวกลูก ๆ เขาจะพามาให้นั่นแหละ” เฉินซวีเหยาถามลู่ชิงสีว่า “ชิงสี แล้วนายจะจัดการกับตระกูลฉียังไง”

“กินข้าวกันก่อนเถอะ” ลู่ชิงสียังคงปฏิเสธที่จะตอบคำถามของพวกเขา

ในเมื่อเขาไม่พูด เฉินซวีเหยาจึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังวางแผนจะทำอะไร เขาบอกกับลู่ชิงสีว่า “ตระกูลฉีไม่เหมือนตระกูลจาง จะจัดการตระกูลฉีน่าจะยากกว่าตระกูลจาง”

เฉินซวีเหยาไม่รู้จักตระกูลจางเลยสักนิด แต่เขาพอจะรู้เกี่ยวกับตระกูลฉีอยู่บ้าง

ตระกูลฉีมีรากฐานที่แข็งแกร่งและมีความสัมพันธ์ค่อนข้างน้อยในเมืองจินโด จะจัดการตระกูลฉีได้คงใช้เวลาพอสมควร

เหมือนกับผีเสื้อขยับปีก ไม่ง่ายเลยที่จะล้มตระกูลฉี

ประเด็นคือตระกูลฉีไม่ได้โง่เหมือนตระกูลจาง ที่มีหลักฐานอย่างชัดเจนให้เอาชนะได้อย่างง่าย ๆ สำหรับตระกูลฉีแล้วไม่ง่ายที่หาหลักฐานมาเอาผิดอะไรกับพวกเขา

“ฉันรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่” ลู่ชิงสีตอบอย่างเย็นชา ดูเหมือนว่าจะไม่มีความอดทนในน้ำเสียงนั้นของเขาเลย

เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์แล้ว เฉินซวีเหยาไม่กล้าที่จะทำอะไรต่อ เขากลัวว่าหากจู้จี้จุกจิกมากเกินไป จะทำให้ลู่ชิงสีโมโหจนโยนเขาออกจากร้าน

ตามอารมณ์ของลู่ชิงสี เขาสามารถทำอะไรบางอย่างได้อย่างไม่ต้องสงสัย เช่นการเตะพี่น้องของตัวเองออกนอกประตูโดยไม่ต้องคิดเสียด้วยซ้ำ!

ในเมื่ออีกฝ่ายปฏิเสธที่จะพูดอะไร เฉินซวีเหยาจึงไม่อาจอ่านความคิดของพี่ชายคนนี้ได้ เขาไม่รู้ว่าลู่ชิงสีกำลังจะทำอะไร และเขาก็กังวลเล็กน้อยว่าพี่ชายของเขาจะทำอะไรอย่างขาดสติเพราะเจียงเหยา

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด