ตอนที่แล้ว769 ลองดู
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป771 ยาที่ไม่มีรสขม

770 คุยกับกำแพง


กำลังโหลดไฟล์

770 คุยกับกำแพง

“ดูเหมือนว่า เธอจะไม่เจออะไรเลยสินะ” ราชายาพูด

“คุณรู้ไหมคะ ว่าเขาเป็นใคร?” เธอถาม

“ถามแปลกๆ” ราชายาพูด “ฉันจะไปรู้ได้ยังไง? คงจะเป็นนักสู้ซักคน เขาส่งพลังฉีเข้าไปในเส้นเลือด... ช่างเถอะ พูดไปก็เหมือนคุยกับกำแพง อีกสองวันให้กลับมาอีกครั้ง”

ราชายาไม่ได้พูดต่อจากที่ค้างไว้ เขาเริ่มหมดความอดทนและโบกมือไล่พวกเขาไป

“ขอบคุณค่ะ” เธอแสดงความขอบคุณอีกครั้งและสั่งให้คนแบกลูกชายของเธอที่ยังคงหมดสติออกไป

จากตึกไผ่จนถึงรถ สีหน้าของเธอไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว เธอซ่อนอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองเอาไว้อย่างมิดชิด ในฐานะของเจ้านาย เธอจำเป็นต้องข่มใจเอาไว้

รถเคลื่อนตัวออกไปและมุ่งหน้าเข้าใกล้ตัวเมือง พวกเขาเลือกพักในโรงแรมที่ดีที่สุดเป็นเวลาสองวัน

ภายในห้องพักที่ดีที่สุดของโรงแรม เธอพูดด้วยใบหน้าเย็นเยียบ “เสี่ยวลั่ว เข้ามา”

“คุณผู้หญิง” เขาพูด

“เจออะไรบ้างไหม?” เธอถาม

“ไม่ครับ” ชายหนุ่มในวัยสามสิบต้นๆพูด

“เท่าที่ฉันจำได้ เธอฝึกการต่อสู้ตั้งแต่ 8 ขวบใช่ไหม?” เธอถาม

“คุณผู้หญิง ผมฝึกตอนอายุได้เจ็ดขวบครึ่งครับ” เขาพูด

“ถ้าอย่างนั้น ก็เท่ากับว่าเธอฝึกมาได้ยี่สิบกว่าปีแล้วสินะ” เธอพูด

“มากกว่า 25 ปีครับ” เขาตอบ

“เมื่อกี้ตอนที่อยู่ในตึกไผ่ จากที่ราชายาพูดมา ดูเหมือนมันจะเรียกว่า กำลังภายใน สินะ? มันเป็นสิ่งที่มีอยู่ในหนังกับนิยายใช่รึเปล่า?” เธอถาม

“ตอบคุณผู้หญิง มันเป็นขอบเขตที่ไปถึงได้ เมื่อพวกเขาฝึกถึงจุดหนึ่งครับ” ชายหนุ่มตอบ “มันต่างจากที่พูดกันในหนังหรือนิยาย ผมก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง เพราะผมก็ไม่เคยไปถึงจุดนั้น แม้แต่อาจารย์ของผมก็ยังทำไม่ได้ครับ”

“มันยากมากเลยเหรอ?” เธอถาม

“มันยากมากครับ” ชายหนุ่มพูด “เพื่อที่จะไปให้ถึงจุดนั้น ไม่เพียงคุณจะต้องฝึกอย่างหนักเท่านั้น แต่ยังจำเป็นที่จะต้องเป็นคนที่มีพรสวรรค์เหนือหมู่ผู้มีพรสวรรค์อีกด้วย คุณจะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อฝึกจนลากเลือดและได้รับโอกาสที่แสนยากเย็นนั้นมา ถ้าขาดอันใดอันหนึ่ง คุณก็จะล้มเหลว”

“แล้วเธอรู้จักคนที่เป็นแบบนั้นบ้างไหม?” เธอถาม

“ผมได้ยินมาว่า ทางใต้มีอยู่คนหนึ่งครับ แต่ผมไม่มั่นใจว่าเขายังมีชีวิตอยู่รึเปล่า” ชายหนุ่มตอบ

“แล้วชื่อต๋าไปทำให้คนแบบนั้นไม่พอใจได้ยังไง?” เธอถาม

“ผมคิดเรื่องนี้ไม่ออกเหมือนกันครับ” ชายหนุ่มตอบ “คนแบบนั้นมักจะฝึกฝนอยู่ในป่าเขา และแทบจะไม่ออกมาให้เห็นในเมืองใหญ่ ผมลองสืบหาดูแล้ว แต่ในเมืองเต๋าไม่มีคนแบบนั้นอยู่ แม้แต่ซุนเจิ้งหรงที่มีกิจการใหญ่โตก็ไม่รู้จักคนแบบนั้นเหมือนกัน”

“เรื่องนี้ต้องสืบต่อไป” เธอพูด “ไม่ว่าจะใช้เวลานานขนาดไหน เสียเงินเท่าไหร่ ฉันจะต้องรู้ว่าใครที่ทำร้ายชื่อต๋าให้ได้”

“ครับ คุณผู้หญิง” ชายหนุ่มพูด

“ไปได้แล้ว บอกให้หมอเซวียเข้ามา” เธอพูด

หลังจากเขาออกไปไม่นาน ชายในวัยสี่สิบก็เข้ามาในห้อง “คุณผู้หญิง”

“ชื่อต๋าเป็นยังไงบ้าง?” เธอถาม

“เขาฟื้นตัวดีมากครับ” หมอตอบ “ตอนนี้อาการของเขาคงที่ ดูจากสภาพของเขาในตอนนี้แล้ว อีกไม่นานคงหายดีครับ วิธีการรักษาของราชายายอดเยี่ยมมากจริงๆ”

“เป็นไปได้ไหมที่จะเชิญเขาไปปักกิ่ง?” เธอถาม ถึงเธอจะรังเกียจท่าทีของชายชรา แต่เธอก็ต้องยอมรับให้ฝีมือการรักษาของเขา

“คุณผู้หญิง ด้วยความเคารพเป็นอย่างสูง แต่คงเป็นไปไม่ได้ครับ” หมอพูด “เขามีชื่อเสียงอยู่ในเขตเมี่ยวเป็นเวลาหลายทศวรรษ และมันไม่เคยลดลงเลย มีผู้สูงศักดิ์มากมายต้องการให้เขาเป็นแขกพิเศษ แต่ทุกคนที่เชิญเขาก็ถูกปฏิเสธไปจนหมด”

“เป็นตาแก่อวดดีจริงๆ!” เธอสบถ

เวลาหลายวันในชนบท เธอทนทรมานมามากพอแล้ว โดยเฉพาะเวลาที่เธอต้องไปที่ตึกไผ่ เธอรู้สึกหงุดหงิดเสมอ แต่กลับไม่สามารถแสดงมันออกมาได้ เธอคิดอยากทารุณและลงโทษตาแก่ดื้อด้าน  เธอแต่ก็ทำได้แค่คิดเท่านั้น ทั้งหมดนั้นไม่สามารถเปิดเผยหรือยอมรับได้

“อ้อ ฉันเข้าใจแล้ว” เธอพูด “ถ้าอย่างนั้นก็ฝากชื่อต๋าด้วยนะ”

“ครับ คุณผู้หญิง” หมอจากไปพร้อมกับปิดประตูอย่างเบามือ

“ตาแก่ดื้อด้าน แล้วยังดันมาอยู่บ้านนอกแบบนี้อีก!” เธอมองออกไปนอกหน้าต่าง เธอไม่มีความรู้สึกใดๆกับสถานนี้แห่งนี้ เธอเพียงอยากจะไปให้พ้นๆโดยเร็ววันเท่านั้น

...

เมืองเต๋าที่ไกลออกไปหลายพันไมล์...

“พ่อครับ มันแปลกอยู่นะครับ!” ภายในห้องทำงานของซุนเจิ้งหรง ซุนหยุนเชิงรู้สึกมึนงง

“อืม เขาปกปิดทุกอย่าง มันหมายความว่ายังไง?” ซุนเจิ้งหรงก็แปลกใจกับท่าทีของตระกูลโฮ่วเช่นกัน พวกเขายินดีล้มไปพร้อมกับตระกูลซุน แต่เขากลับไม่ลงมือ

“หรือเป็นการข่มขู่เปล่าๆ?” ซุนหยุนเชิงถาม

“แต่มันต่างจากวิธีการและการลงมือที่พวกเขาเคยทำมาน่ะสิ” ซุนเจิ้งหรงพูด

เขามีข้อมูลอยู่ในมือจากเส้นสายที่ได้จากการทำธุรกิจมานานหลายปี รวมถึงมีไผ่ลับที่จะเอาชนะพวกเขาอยู่ด้วย

“ที่พ่อกังวลมากกว่า คงเป็นทางตระกูลกั๋วมากกว่า” ซุนเจิ้งหรงพูด

“พวกเขาร่วมมือกันเหรอครับ?” ซุนหยุนเชิงถาม

“ถ้าเป็นแบบนั้น เราคงมีปัญหาแล้วล่ะ เพราะบอสของมณฑลนี้มีแซ่ว่ากั๋วด้วย” ซุนเจิ้งหรงพูด

ถึงตระกูลโฮ่วจะมีอำนาจอยู่ในมือ แต่นั่นก็เป็นที่ปักกิ่ง และถูกปิดกั้นโดยทางท้องถิ่น สุดท้าย เขาก็จะลงมือไม่สำเร็จ แต่ตระกูลกั๋วนั้นต่างออกไป พวกเขาอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจในมืออย่างแท้จริงและมีตำแหน่งหน้าที่อยู่ในระดับมณฑล อำนาจในจังหวัดฉีนั้นมากกว่าตระกูลซุน ถ้าพวกเขาเกิดคิดอยากสร้างปัญหาให้กับตระกูลซุนแล้วละก็ มันคงจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขาแล้วจริงๆ

“เราหยุดเขาได้ไหมครับ?” ซุนหยุนเชิงถาม

“หยุดเขา? แล้วพ่อจะหยุดเขาได้ยังไง?” ซุนเจิ้งหรงถามพร้อมกับจุดบุหรี่ “ตำแหน่งหน้าที่ถูกแต่งตั้งมาจากส่วนกลางได้เท่านั้น”

ความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลไม่เลวเลย ซุนเจิ้งหรงเคยไปงานศพของผู้เฒ่าแซ่กั๋ว แต่เขาก็เป็นได้แค่นักธุรกิจคนหนึ่งเท่านั้น ส่วนตระกูลโฮ่วนั้นต่างออกไป พวกเขาเป็นตระกูลเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน และรู้มีวิธีการเข้าหาเป็นอย่างดี

“ตระกูลซูล่ะครับ” ซุนหยุนเชิงกระซิบ

“พวกเขาทำได้ก็จริง แต่พวกเขาจะไม่ทำ” ซุนเจิ้งหรงส่ายหน้า “มันเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานที่ไม่ได้ผลตอบแทนอะไรเลยสำหรับพวกเขา พวกเขาไม่มีทางทำอย่างแน่นอน”

“ดูเหมือนลูกชายของตระกูลกั๋วจะไม่พอใจหมอหวังอยู่ด้วยนะครับ” ซุนหยุนเชิงพูด

“เพราะอะไรเหรอ?” ซุนเจิ้งหรงถาม

“ลูกชายของตระกูลกั๋วชอบเจ้าหญิงของตระกูลซู แต่เธอกลับไปชอบหมอหวังแทน” ซุนหยุนเชิงตอบ

“ลูกหมายความว่ายังไง?” ซุนเจิ้งหรงถาม

“ผมได้ยินบางอย่างที่เกี่ยวกับคุณชายกั๋วมาน่ะครับ” ซุนหยุนเชิงพูด “เขามีความคิดมากมายซุกซ่อนอยู่ แล้วหมอหวังยังอยู่ในจังหวัดฉี ที่เป็นอาณาเขตของคนคนนั้นด้วย คิดว่าคุณชายกั๋วจะสร้างเรื่องให้หมอหวังผ่านทางพ่อของเขารึเปล่าครับ?”

“เรื่องมันยังไม่เกิด” ซุนเจิ้งหรุงพูด “ทั้งหมดเป็นแค่การสันนิษฐานของพวกเราเท่านั้น แต่เราก็ต้องเตรียมตัวสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเอาไว้ด้วย ส่วนแผนการลงทุนในต่างประเทศก็ลงมือได้เลย”

...

ในเขตเหลียนชาน โครงการบริษัทยาหนานชานดำเนินการอย่างรวดเร็ว คุณเจิ้งจ้างกลุ่มคนงานก่อสร้างมาหลายกลุ่มด้วยกัน ทางเขตเหลียนชาน รวมไปถึงห่ายชิวต่างก็ในความสำคัญกับโครงการนี้ ชีวเภสัชศาสตร์เป็นอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ดังนั้น พวกเขาจึงให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และจัดแจงทุกอย่างให้ตรงตามความต้องการทั้งหมด

ในตอนเช้า เจี๋ยจื้อจายที่จากหมู่บ้านไปได้สองวันก็กลับมา เขามาพร้อมเหล้าชั้นดีและข่าวบางอย่าง

“หมอหวัง บอสดูเหมือนจะเจอบางอย่างเข้าแล้ว” เจี๋ยจื้อจายพูด “เขาร่วมมือกับพวกโพ้นทะเล แล้วยังเป็นเรื่องที่น่าละอายด้วย”

“ข้อตกลงของพวกเขาคืออะไรเหรอครับ?” หวังเย้าถาม

“พวกเขาค่าอวัยวะมนุษย์” เจี๋ยจื้อจายพูด

“อะไรนะ?” หวังเย้าประหลาดใจ “องค์กรของพวกเขามีงานเก็บกวาดปัญหา แล้วเก็บเงิน ใช่รึเปล่า? แล้วทำไมถึงได้ไปทำเรื่องแบบนั้นล่ะ?”

“เขาเป็นประธานของบอร์ด” เจี๋ยจื้อจายพูด “เขาคือคนที่ตัดสินเรื่องส่วนใหญ่ขององค์กร แม้แต่ในหมู่กรรมการ เขาก็ยังได้เสียงข้างมากอยู่เสมอ ในช่วงเวลานั้น มีหลายอย่างที่เขาแอบทำลงไป ถ้าเราไม่ต้องเตรียมพร้อม เราก็คงจะไม่รู้เรื่องพวกนี้เลยด้วยซ้ำ เขาทำเรื่องพวกนั้นโดยที่ไม่บอกอะไรพวกเราเลย”

“แล้วมีหลักฐานไหมครับ?” หวังเย้าถาม

“มีแต่ยังไม่พอ” เจี๋ยจื้อจายพูด

“เราจำเป็นต้องมีหลักฐานมากพอครับ” หวังเย้าพูด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด