ตอนที่แล้วตอนที่ 65 เรตติ้งพุ่งกระฉูด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 67 เบื่อๆก็ไปหมุนลูเร็ต

ตอนที่ 66 เสี่ยวเหยาปฏิเสธโดยไม่คิดแม้แต่น้อย


กำลังโหลดไฟล์

ในเวลาเดียวกัน

การแข่งของญี่ปุ่นก็สิ้นสุดลงโดยไม่รู้ตัวเมื่อพิซซ่าบิ๊กแม็คขนาด 12 กิโลหดลงเรื่อยๆจนแทบหมด

กรรมการทั้งสองฝ่ายได้ออกไปคุยกัน สุดท้ายพวกเขาก็ตัดสินว่าไม่มีผู้ชนะและให้ทั้งสองฝ่ายเสมอ

แต่ถ้าต้องการผู้ชนะจริงๆคนดูทั้งสองประเทศต่างรู้กันดีอยู่แล้ว เมื่อเทียบระหว่างพี่น้องนักกินที่พยายามยัดพิซซ่าอย่างสุดความสามารถกับจ้าวสือสือที่ดูผ่อนคลาย แถมเธอยังกินไม่อิ่มและถามผู้กำกับว่าขอกินอีกชิ้นได้ไหม...

'จ้าวสือสือยังหิวอยู่เลย’ กลายเป็นเรื่องตลกขบขันในห้องถ่ายทอดสดโดยไม่รู้ตัว

หลังจบการแข่งรอบสอง สุดยอดขีดจำกัดเกิร์ลกรุ๊ปก็ออกการเดินทางต่อไป เนื่องจากเย่เทียนทำภารกิจเสร็จแล้วจึงไม่ได้ตามไปต่อ เขาออกจากสถานที่ถ่ายทำตั้งแต่เนิ่นๆโดยบอกว่ามีปัญหาเรื่องสุขภาพ

“พี่จิ่นลี่ พี่โหยวฉิน พี่เสี่ยวถง พี่สือสือ พี่เหว่ยเหว่ย คุณปู่และฉันขอตัวก่อน!”

เซียวยวี่เยียนพูดลาอย่างไม่เต็มใจกับเหล่าพี่สาว

“บ๊ายบายยวี่เยียน ไว้ครั้งหน้ามาเล่นกันใหม่นะ”

เมื่อขึ้นรถกลับเมือง เย่เทียนก็ล้างเครื่องสำอางในร้านกาแฟและกลับสู่รูปลักษณ์เดิมที่ดูหล่อเหลา เขายิ้มแล้วเคาะหัวของเซียวยวี่เยียน “ทำไมไม่อยู่เล่นกับพวกเธอต่อล่ะ?”

“ก็คิดไว้แบบนั้นเหมือนกัน แต่...ฉันยังไม่ค่อยสนิทกับพี่สาว” เซียวยวี่เยียนพูดอย่างกระตือรือร้น

“เธออยากเป็นดาราไหม?” เย่เทียนถามด้วยรอยยิ้ม

“การเป็นดารามันง่ายมาก!”

“ฉันถามว่าเธออยากเป็นรึเปล่า ไม่ใช่ยากหรือง่าย”

เย่เทียนจิ้มสเต็กเข้าปาก ตอนนั้นเขายังกินไม่อิ่มแต่ตอนถ่ายรายการมีกล้องมากเกินไปซึ่งมันส่งผลต่อความอยากอาหารของเขา

“อยากสิ!”

เซียวยวี่เยียนยิ้ม “ถ้าได้เล่นกับพี่สาวทุกวัน ฉันคงจะมีความสุขมาก!”

“เรื่องง่ายๆ เดี๋ยวฉันบอกเจียงเซิ่งเฟิงให้”

“ใช่! ฉันอยากเป็นดารา! อยากเป็นดารา!”

ช่วงบ่าย

เย่เทียนและเซียวยวี่เยียนกลับมาที่ไห่จิง และบอกเรื่องเซียวยวี่เยียนกับผางเหว่ย

ผางเหว่ย “จากรูปลักษณ์ของน้องเซียวยวี่เยียน ถึงเธอจะไม่บอกพี่เย่ฉันก็จะชักชวนให้เธอมาเดบิวต์อยู่ดี พี่เย่รู้รึเปล่าว่าการแสดงของน้องยวี่เยียนวันนี้โดดเด่นมาก ฉันกับเหล่าฉินแทบตกใจแทบตายตอนที่เห็นเธอชนะแบบนั้น”

“ถ้าไม่ใช่เพราะกำลังใจจากพี่ชาย ฉันคงไม่รู้ว่าตัวเองมีความสามารถเล่นปิงปอง...” เซียวยวี่เยียนหน้าแดง

“พี่เย่เป็นคนสนับสนุนเธอ? พี่เย่มีส่วนร่วมในการถ่ายด้วยเหรอ?” ผางเหว่ยสับสนเล็กน้อย

“นั่น...” เซียวยวี่เยียนกำลังจะพูดแต่ถูกเย่เทียนขัดจังหวะก่อน “นายช่วยจัดการให้หน่อยสิ แล้วมีเงินทุนพอไหม? ถ้าไม่พอเดี๋ยวฉันให้เพิ่ม”

45,000 ล้านในธนาคารเป็นเหมือนคุกที่หนาแน่นในหัวใจของเย่เทียน สิ่งนี้ทำให้เขามีความสุขและรู้สึกปลอดภัย...

“พอ!” ผางเหว่ยปฎิเสธอย่างรีบร้อน “ฉันให้เหล่าฉินจดทะเบียนบริษัทบันเทิงชื่อเทียนเส่าเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ และเป็นเจ้าของบริษัทย่อยอีกเจ็ดแห่งได้แก่ ชิงเฉ่าเหวินเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ฉวนเยว่เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ต้าจงเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ หมิงซิงหู่เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ตงฟางฉวนเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ฯลฯ...”

“แล้วทำไมนายต้องจดทะเบียนบริษัทย่อยมากขนาดนี้ด้วย? เย่เทียนถามด้วยความสงสัย

ผางเหว่ย “นี่เป็นรูปแบบพื้นฐานของตลาดทุน เป็นหลักการเลี่ยงความเสี่ยงโดยการกระจายไปที่บริษัทอื่นๆ เราสร้างแค่เจ็ดชั้นเท่านั้น ผู้ค้ารายใหญ่ส่วนมากจะสร้างหลายสิบชั้นและความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทก็จะซับซ้อนยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเหมือนกับต้นไม้เก่าแก่ที่มีรากพันกันและเป็นไปไม่ได้ที่จะขุดดินชั้นล่าง”

“ตัวอย่างเช่น หากเราจะเซ็นสัญญากับเซียวยวี่เยียน เราจะใช้บริษัทจิงเทียนฉวนเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ที่อยู่ชั้นเจ็ดเป็นปกหน้า เมื่อเซี่ยวยวี่เยียนดังเพื่อนร่วมงานในวงการก็ต้องอยากรู้อยากเห็นและหาเบื้องหลังบริษัท แต่สิ่งที่พวกกเขาจะเจอคือตงฟางฉวนเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ที่เป็นชั้นหก และถ้าขุดต่อลงไปอีกก็จะเจอหมิงซิงหู่เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ที่เป็นชั้นห้า ต่อไปก็เป็นต้าจงเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ที่เป็นชั้นสี่และจะสูงขึ้นตามลำดับ... สุดท้ายก็มาเจอกับเทียนเส่าเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ที่เป็นรากฐาน ด้วยวิธีนี้อีกฝ่ายจะสับสนแม้ว่าจะมีข้อมูลมากก็ตาม”

ปากของผางเหว่ยแห้งผาก แต่เมื่อเขาเห็นการแสดงออกที่สับสนของเย่เทียนเขาก็รู้ว่าตัวเองพูดมากไปดังนั้นเขาจึงลดความซับซ้อนลง “พูดง่ายๆคือเป็นเหมืนอคนใส่เสื้อผ้า! ยิ่งเราใส่มากเท่าไหร่ ร่างกายที่โดนเห็นก็น้อยเท่านั้น และยังปลอดภัยขึ้นด้วย!”

“ในที่สุดนายก็พูดสิ่งที่ฉันเข้าใจได้สักที” เย่เทียนยิ้มอย่างขมขื่น “นายกับเหล่าฉินทำกันไปเถอะ ค่อยมาหาฉันถ้าเงินไม่พอ”

“ไว้ใจได้เลยพี่เย่ ฉันสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุด” ผางเหว่ยตบหน้าอกด้วยความมั่นใจ

“อย่าคิดถึงกำไร ความสุขเป็นสิ่งสำคัญที่สุด” เย่เทียนยิ้ม

“เข้าใจแล้ว!”

ผางเหว่ยจากไปอย่างมีความสุข เซียวยวี่เยียนคว้าแขนของเย่เทียน “พี่ชาย เราจะไปไหนต่อดี?”

“ฉันไม่รู้เหมือนกัน เธอบอกมาเลย”

เย่เทียนไม่รู้จริงๆว่าเขาจะทำอะไรต่อ

“อืม... วันนี้เป็นวันเกิดของฉัน คุณอยากซื้อของขวัญวันเกิดให้ฉันไหม?” เซียวยวี่เยียนหน้าแดง

“วันเกิดเธอ?”

เย่เทียนประหลาดใจ “แล้วก่อนหน้านี้ทำไมถึงไม่บอกฉันล่ะ?”

“ฮิฮิ ฉันลืมน่ะ ฉันมัวแต่เล่นกับพี่สาวอยู่…” เซียวยวี่เยียนเม้มริมฝีปาก

“งั้นไปกันเถอะ ฉันจะพาเธอไปซื้อของขวัญ”

“เย่! คุณใจดีมาก!”

“...”

ค่ำคืนผ่านไปอย่างเงียบๆ วันที่สวยงามได้จบลง

หยางจิ่นลี่ดูตารางงานที่ปรับใหม่และจมลงไปในห้วงความคิด หลังจากนั้นไม่นานเธอก็พูดขึ้น “คือ...ปีหน้า ฉันจะได้นอนแค่สามชั่วโมงต่อวันเหรอ?”

ผู้จัดการทำหน้าน่าเกลียด “พวกผู้บริหารระดับสูงเป็นคนมอบหมายมา ตามจริงแล้วงานเยอะก็ดีเหมือนกันเพราะมันจะเป็นประโยชน์กับเธอในอนาคต หลังจากปีนี้ก็จะหมดสัญญาแล้ว ฉันอ่านข้อมูลพวกนี้แล้วมันใช้ได้ทั้งหมดเลย…”

หยางจิ่นลี่ขมวดคิ้วแล้วถอนหายใจ “เข้าใจแล้ว...”

“งั้นไปถ่ายซีรีส์กันต่อเถอะ ฉันให้ผู้ช่วยเตรียมของให้แล้ว”

“ฉันเพิ่งรายการถ่ายทอดสดจบไปเอง ขอนอนต่ออีกหน่อยได้ไหม…”

“ไปนอนในรถเถอะ ฉัน...ฉันจะพยายามให้คนขับขับช้าลง”

หยางจิ่นลี่ “อืม...”

ผู้จัดการ “ยังไงก็ตาม ที่เรากำลังจะไปถ่ายเป็นซีรีส์เรื่องใหม่ เธออาจต้องไปจำสคริปต์ในรถนะ โชคดีที่มันมีไม่เยอะแค่ 100 กว่าฉากเท่านั้นเอง”

หยางจิ่นลี่ ? ? ?

นี่คุณพูดกับคนอยู่รึเปล่า!?

โรงห่าน ที่งานเลี้ยงฉลอง

“หยางจิ่นลี่หายไปไหน?” โหยวฉินเสี่ยวเหยามองไปรอบๆ หลายคนกลับมารวมกันแล้วแต่หยางจิ่นลี่ไม่ได้อยู่ด้วย

ผู้กำกับ “อ๋อ หยางจิ่นลี่มีงานต้องไปทำงานต่อน่ะ รู้ไหม ในฐานะที่เป็นน้องใหม่และจิ่นลี่เป็นลูกสาวของโรงห่าน งานของเธอจึงมีเยอะมาก”

โหยวฉินเสี่ยวเหยาขมวดคิ้ว “เราถ่ายรายการกันทั้งวันเลยนะ แบบนี้ก็แปลว่าเธอไม่ได้พักเลยน่ะสิ ฉันเห็นหน้าเธอดูไม่ค่อยดีเลย”

“คนหนุ่มสาวนี่นะ การเป็นดาราน่ะมันยาก แน่นอนว่าต้องใช้ความพยายามและหยาดเหงื่อให้มากขึ้น” ผู้กำกับเปลี่ยนหัวข้อ “เสี่ยวเหยา คุณสนใจเข้าร่วมโรงห่านของเราไหม? ฉันไม่สามารถรับประกันอะไรได้นอกจากทรัพยากรหลักที่จะสงวนไว้ให้คุณ”

“ไม่!”

โหยวฉินเสี่ยวเหยาปฏิเสธโดยไม่คิดแม้แต่น้อย