ตอนที่แล้วตอนที่ 64 สงครามนักกิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 66 เสี่ยวเหยาปฏิเสธโดยไม่คิดแม้แต่น้อย

ตอนที่ 65 เรตติ้งพุ่งกระฉูด


กำลังโหลดไฟล์

เมื่อจิตวิญญาณพิธีกรคนที่สองของญี่ปุ่นกำลังเดือดพล่านเขาก็ตระหนักได้ถึงบางอย่าง กลับมาฝั่งจ้าวสือสือ ตากล้องพูดด้วยความรู้สึกหลากหลาย “ไม่รู้เลยว่าน้องจ้าวสือสือของเราจะมีความอยากอาหารมากขนาดนี้ ตามสคริปต์ในมือฉันสุดยอดขีดจำกัดเกิร์ลกรุ๊ปต้องแพ้ตั้งแต่การแข่งรอบแรกของแล้ว แต่สุดท้ายมันดันกลับกันซะได้...”

ห้องถ่ายทอดสด——

“อะไรวะเนี่ย? ดูรายการวาไรตี้มาตั้งหลายปีแต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันเห็นผู้กำกับลงมาแสดงด้วย - แต่มันก็ใช้ได้นะ!”

“นั่นเขาจะให้น้องสาวพวกนั้นรับบทสังเวยสู่สวรรค์ใช่ไหม?”

“ความไว้ใจมันไปอยู่ตรงไหน?!”

“นายมันไร้ยางอาย~~!”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! เอาซะฉันขำแทบตาย สุดท้ายชุนฮวาก็ฉีกบทสังเวยสู่สวรรค์!”

“ชั้นเองก็เป็นชาวบ้านของชุนฮวาเหมือนกัน แต่ขอถามหน่อยว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวกับชุนฮวาตรงไหน? เห็นๆอยู่ว่านี่เป็นความสามารถของน้องจ้าวสือสือ”

“...”

การถ่ายทอดสด กล้องหันไปฝั่งจ้าวสือสือ

ผู้กำกับ “จ้าวสือสือ ถ้าฉันสัมภาษณ์คุณตรงนี้มันจะส่งผลต่อการกินของคุณหรือเปล่า?”

จ้าวสือสือส่ายหัวในขณะที่เคี้ยวของในปาก เธอพูดด้วยเสียงอุดอู้ “ไม่ แต่อาจได้ยินไม่ค่อยชัดนะ...”

จ้าวสือสือที่แก้มป่องพูดด้วยเสียงน่ารักและดวงตาใสซื่อ นั่นทำให้สายตาของแฟนๆมายมายจ้องมาที่เธอ

ผู้กำกับตะลึงกับความน่ารักของเธอ “นี่เป็นครั้งแรกที่เกิร์ลกรุ๊ปทั้งสองร่วมงานกัน ฉันเลยรู้เรื่องของคุณผ่านรายงานเท่านั้น ขอถามหน่อยได้ไหมว่าคุณรู้ตัวเมื่อไหร่ว่าตัวเองกินได้เยอะกว่าคนทั่วไปแบบนี้?”

ในเวลานี้หยางจิ่นลี่และคนในกลุ่มเกิร์ลกรุ๊ปต่างให้กำลังใจจ้าวสือสือกันอยู่

“ตั้งแต่เด็ก” จ้าวสือสือ “ตั้งแต่จำความได้ฉันก็รู้ว่าตัวเองมีความอยากอาหารมากกว่าคนทั่วไป การกินของฉันมื้อเดียวเท่ากับการกินของเด็กหลายสิบคน นอกจากนี้ก่อนที่จะได้เจอพี่ชายฉันก็ไม่เคยกินอิ่มมาก่อนและไม่รู้ว่าความอิ่มเป็นยังไง”

เย่เทียนมองจากระยะไกล เดิมทีเขากังวลว่าจะเข้าร่วมการแข่งนี้ยังไงดีแต่อยู่ๆเขาก็ได้ยิน‘ติ๊ง’ขึ้นมา ปรากฎว่าภารกิจของเขาสำเร็จแล้วและรางวัลที่ได้ยังเป็นเงิน 20,000 ล้าน

ในตอนนี้ภารกิจก็จบลง

“35,000 ล้าน...”

เย่เทียนเงยหน้าขึ้นมองไปที่เพดาน

ถ้าไม่ใช่เพราะยาปิงปองระดับตำนานราคา 10,000 ล้านที่เขาซื้อในการแข่งรอบแรก ตอนนี้เขาคงจะมีเงิน 45,000 ล้านอยู่ในบัญชี...

“สือสือ ก่อนที่จะมาเดบิวต์เธอทำงานอะไรเหรอ?” ผู้กำกับถาม

จ้าวสือสือตอบตามตรง “ฉันทำงานในที่ก่อสร้าง ขนอิฐ แบกกระสอบทรายและทำงานใช้แรงงาน ฉันไม่ได้กินเยอะได้อย่างเดียวแต่ยังมีแรงเยอะด้วย และฉันสามารถทำงานคนเดียวแทนผู้ชาย 7-8 คนได้”

อย่างไรก็ตาม...

จุดสังเกตของคนดูไม่ได้อยู่ที่เธอมีแรงมากแค่ไหน แต่อยู่ที่เธอทำงานในที่ก่อสร้าง ขนอิฐ...

คนดูบางคนทนไม่ไหวจนถึงกับน้ำตาไหล สมาชิกทีมคนนี้เป็นแบบไหนมากัน!

“อย่าไปเชื่อ นี่มันจัดฉากชัดๆ! อันนี้ต้องมีอยู่ในสคริปต์แน่!”

“อย่าไปเชื่อรายการวาไรตี้พวกนี้! คิดว่าคนดูอย่างเราโง่หรืองไง!”

“ฉันมันไร้เดียงสาเกินไป”

ขณะที่การสนทนาในช่องแชทกำลังจะหมด ผู้กำกับก็คว้ามือจ้าวสือสือและซูมเข้าไปในระยะเผาขน ฝ่ามือที่ดูบอบบางของผู้หญิงคนนี้เต็มไปด้วยรอยหยาบกร้าน

ช็อตเล็กๆนี้เป็นการตบหน้าคนที่กล่าวว่าไปเมื่อครู่

คำพูดหลอกกันได้ แต่ร่างกายหลอกไม่ได้

ผู้กำกับปาดน้ำตาและปรับอารมณ์ “จ้าวสือสือ พี่ชายที่คุณพูดถึงเป็นใครหรอ?”

“พี่ชายก็คือพี่ชายน่ะสิ เป็นคนที่พาฉันมา” จ้าวสือสือยิ้ม “เขาบอกว่าอย่าเปิดเผยชื่อเขา เพราะเขาเป็นคนที่หล่อที่สุด ดีที่สุด และน่าทึ่งที่สุดในโลก!”

หน้าของเย่เทียนเปลี่ยนเป็นสีแดง

เด็กคนนี้พูดไร้สาระจริงๆ เดี๋ยวถ่ายเสร็จฉันเอาน่องไก่ไปให้นะ

“เสี่ยวเหยา คุณมักจะพูดถึง'พี่ชาย'ในการถ่ายรายการครั้งก่อน เขาคงไม่ใช่คนเดียวกันกับสือสือใช่ไหม?”

“คนเดียวกันนั่นแหละ!” โหยวฉินเสี่ยวเหยาหน้าแดง “พี่ชายเป็นคนที่ดีที่สุดในโลก!”

“เป็นพี่ชายที่พาฉันมาเดบิวต์!” หนิงเสี่ยวถงพยักหน้า สวีเหว่ยเหว่ยพูดแทรกขึ้น “ก่อนที่ฉันจะเจอกับพี่ชาย ฉันเป็นคนอ้วนตัวใหญ่ที่คอยดูถูกตัวเอง...”

ห้องถ่ายทอดสด

“บัดซบ ตอนนี้เรตติ้งพุ่งกระฉูดแล้ว...”

“นี่มันเกิดคาดมากแล้ว!”

“อ่าาา!! ฉันรักรายการนี้!”

อันที่จริง

ตั้งแต่ที่สุดยอดขีดจำกัดเกิร์ลกรุ๊ปเชิญ 'คนนอก' มาช่วยให้ผ่านรอบแรกเรตติ้งก็เริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการปรากฎตัวอย่างกระทันหันของจ้าวสือสือในการแข่งกิน รายการก็ได้มาถึงจุดสูงสุดแล้ว จากคนดูออนไลน์ทั่วประเทศ 600 ล้านคน! เพิ่มขึ้นเป็น 900 ล้านคน! และกำลังมุ่งสู่ 100 ล้าน

ความคิดแบบนี้คืออะไร?

อธิบายได้ง่ายๆว่า: จำนวนคนดูในการแข่งรอบสุดท้ายของรายการ มีคนดูมากกว่าการเปิดตัวของหยางจิ่นลี่เมื่อสองปีก่อน 30%!

น่ากลัวเกินไปแล้ว!

“มีข้อมูลเยอะเกินไป ฉันไม่รู้เลยว่าจะถามอะไรก่อนดี”

ผู้กำกับตบแก้มตัวเอง “เหว่ยเหว่ย คุณบอกว่าคุณเคยอ้วนมาก่อน…”

“ใช่... อ้วนมากด้วย” สวีเหว่ยเหว่ยพยักหน้า “ฉันมีรูปตอนก่อนหน้านี้ด้วย อยากดูไหม?”

“อยากดูไหมน่ะหรอ?”

“อยากสิ!”

ในขณะที่ของพิธีกรของญี่ปุ่นกำลังเชียร์พี่น้องด้วยจิตวิญญาณเดือดพล่าน พวกเขาก็ช่วยโฆษณาเกิร์ลกรุ๊ปและดึงดูดคนที่ผ่านไปมา ผู้กำกับที่มีส่วนร่วมในการถ่ายทอดสดแบบคู่นี้ต่างก็ปรบมือ

ในขณะที่ความนิยมรายการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ผู้บุกเบิกของโรงห่านอย่างหยางจิ่นลี่ก็ดึงดูดแฟนคลับนับล้านให้กลับมาอีกครั้งในเวลาไม่กี่ชั่วโมง และยังประสบความสำเร็จในการดึงดูดนักลงทุนขนาดใหญ่บางส่วนได้ด้วย ภายในสองชั่วโมงเธอได้รับคำเชิญไปแสดงโฆษณาหกครั้งและคำเชิญถ่ายซีรี่ย์สี่เรื่อง...

“เยี่ยมมาก! ดูสิว่าตอนนี้หยางจิ่นลี่และสาวๆคนอื่นมีค่ามากแค่ไหนกัน” ผู้กำกับกำลังเตรียมพร้อม

“จากการวิเคราะห์ข้อมูล เงินรายปีของหยางจิ่นลี่จะเพิ่มขึ้นจาก 70 ล้านเป็น 130 ล้านซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า และเงินรายปีของโหยวฉินเสี่ยวเหยาและคนอื่นๆจะขยับขึ้นเป็น ​​30 ล้าน…”

ผู้กำกับ “เอาล่ะ ส่งทีมพิเศษไปคุยเรื่องถ่ายซีรี่ย์ทันที หลังจากถ่ายทำจบก็จัดตารางงานโฆษณาให้เสี่ยวหยางได้เลย ตีเหล็กก็ต้องตีตอนมันร้อน!”

“เดี๋ยวก่อนครับผู้กำกับ” ชายคนนั้นพูด “ปีนี้หยางจิ่นลี่ไม่มีตารางว่างงาน อย่างเร็วสุดก็ต้องรอต้นปีหน้าถึงจะว่าง”

“แล้วไง?” ผู้กำกับดูตารางงานของหยางจิ่นลี่ “คนหนุ่มสาววัยยี่สิบพึ่งจะตั้งหลักในวงการบันเทิงได้เอง ยังต้องพยายามให้มากกว่านี้อีก พวกคุณให้เธอพักวันละ 6 ชั่วโมง?”

“เธอจะทำงานหนักขนาดนั้นได้ไง? เธอทำไม่ไหวแน่!” ชายคนนั้นขึ้นเสียง

“โครตแม่ง!”

ผู้กำกับคว้าที่ปกเสื้อของชายคนนั้น “ฉันรู้ว่าแกเป็นแฟนคลับของหยางจิ่นลี่ บอกไว้ก่อนเลยนะว่าอย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับงาน หยางจิ่นลี่อาจเป็นไอดอลที่เปล่งประกายในสายตาของคนทั่วไป แต่ในสายตาของนักลงทุนที่โหดเหี้ยมเธอเป็นแค่เครื่องมือที่สามารถกดขี่ได้ ถ้าไม่ให้ใช้เธอตอนที่เป็นที่นิยมแล้วจะให้ใช้เธอตอนที่หมดความนิยมหรือไง?”

“…”

ผู้กำกับผลักชายคนนั้นออกไปแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ไปจัดการให้เรียบร้อยซะ ฉันพนันเลยว่ายังไงปีนี้ก็เกิน 200 ล้าน! พวกนายรอโบนัสสิ้นปีเจ็ดหลักได้เลย!”

“ครับ...”

ตาของชายคนนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดง เขามองหญิงสาวที่ดูเหนื่อยล้าบนหน้าจอและเริ่มทำกำหนดการให้เธอใหม่...