ตอนที่แล้วตอนที่ 137 นกพิราบขาว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 139 เจ้าเป็นอะไรหรือไม่

ตอนที่ 138 หมูป่าที่ทรงพลัง(อ่านฟรี)


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 138 หมูป่าที่ทรงพลัง

เมื่อได้รับข่าวจากนกพิราบขาวแล้ว กายก็ไม่ได้อยู่ดูสิ่งของที่ผู้เล่นแลกเปลี่ยนกันที่ตลาดแลกเปลี่ยนของผู้เล่นอีก เขาตรงกับที่พักในทันที จังหวะเดียวกันนั้นบริกรชายที่รับจัดการธุระให้กายก็กลับมาพอดี

บริกรชายหอบข้าวของหลายอย่างอยู่ในถุงผ้าตรงมาที่พักกาย และเมื่อเห็นว่ากายกลับมาแล้วก็ดูจะแปลกใจเล็กน้อย เพราะตามปกติแล้ว ผู้คนที่มาพักมักจะกลับมาช่วงเย็นกันซะเป็นส่วนใหญ่

ซึ่งเวลานี้มันแค่แปดโมงกว่า ๆ เท่านั้นแต่กายก็กลับมาแล้ว

“นายท่านกลับแล้วอย่างนั้นหรือ ตอนนี้ข้าหาของให้ท่านได้ครบแล้วจะให้ข้าเอาเข้าไปเก็นด้านในกระโจมให้ท่านด้วยหรือไม่” บริกรชายถามอย่างนอบน้อม

“ไม่จำเป็น ข้าจะเอาเข้าไปเก็บเองเจ้าไปเถอะ” เขาส่ายหัวก่อนจะยื่นมือไปรับถุงผ้านั้นมา ในนั้นมีทั้งธัญพืชของม้าทั้งสองตัวของกาย มีเนื้อสดห่ออย่างดีโรยด้วยผงรักษาสภาพซึ่งอยู่ได้นานหลายวันและมีอาหารแห้งของกายด้วย

กายพยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะเดินไปที่เจ้าถึกและผูกของทั้งหมดไว้ที่หลังเจ้าถึก ซึ่งน้ำหนักที่เพิ่มเข้ามานั้นไม่ได้ทำให้มันรู้สึกอะไรแม้แต่น้อย

“พวกเจ้ารีบกินก่อนก็แล้วกัน” กายพูดเสียงเบากับสัตว์เลี้ยงทั้งสามของเขา ก่อนจะแบ่งอาหารให้ม้าทั้งสองตัวและเนื้อบางส่วนให้เหยี่ยวและหันหลังเดินกลับเข้าไปด้านในกระโจมที่พัก

กายนั่งลงพักผ่อนชั่วครู่พร้อมกับหยิบอาหารที่ซื้อติดมือมาในระหว่างทางที่กลับมาที่กระโจมออกมากิน ขณะเดียวกันก็ทำสีหน้าครุ่นคิดบางอย่างไปด้วย

ตอนนี้เราต้องไปดักทางไม่ให้มีอาและลิลี่เข้าไปหากระทิงเขียว แต่ติดปัญหาที่ว่าขณะนี้ตัวตนของลอร์ดเจ็ดโลหะเริ่มโด่งดังเกินไป ในตอนแรกเรามักใช้ทั้งดาบและค้อนสั่นสะเทือนเป็นอาวุธคู่กายสู้ในแดนสงคราม ซึ่งหลัง ๆ มาเริ่มมีคนจดจำพวกมันได้แล้ว

บางทีอีกไม่นานทั้งตัวตนของเดวินและตัวตนของลอร์ดเจ็ดโลหะไม่นานก็คงมีคนรู้เบาะแสแน่นอน

การเป็นลอร์ดเจ็ดโลหะก็ไม่แย่ เพราะมีอิทธิพลต่อผู้เล่นระดับหนึ่ง แต่ตัวตนของเดวินคือนักเรียนจากสถาบันศาสตร์นักรบ ซึ่งมีค่าเกินไปที่จะละทิ้ง

บางทีเราควรจะเลือกอาวุธให้แต่ละตัวตนได้ใช้อย่างจริงจังสักที

กายไตร่ตรองคิดเรื่องพวกนี้มาสักพักแล้ว ทั้งค้อนและดาบคืออาวุธคู่กายของลอร์ดเจ็ดโลหะ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นอาวุธที่กายถนัดในฐานะเดวินเช่นกัน

สุดท้ายแล้วกายก็ส่ายตัวออกมาอย่างติดตลกกับความคิดของตนเอง

“เหตุใดข้าต้องกังวลด้วยเล่า ในเมื่อทั้งสองก็เป็นแค่สถานะเท่านั้น ต่อให้ผู้รู้ว่าเดวินและลอร์ดเจ็ดโลหะคือคนเดียวกัน แต่มันจะเปลี่ยนอะไรได้ ถ้าข้าแข็งแกร่งขึ้นก็คือแข็งแกร่ง ในโลกราชันคนมีที่ให้คนที่แข็งแกร่งมากมาย”

กายแสยะยิ้มออกมา ดูเหมือนพอยิ่งเล่นเกมในโลกราชันเขาก็ลืมเป้าหมายไป ‘เงิน’ เขาเล่นเกมเพื่อหาเงินให้ได้เยอะ ๆ ไม่ว่าตัวตนไหนขอแค่ทำให้เขาหาเงินได้ก็พอแล้วมันไม่มีอะไรสำคัญ

หลังจากตัดสินใจว่าจะไม่สนใจเรื่องนี้อีก กายก็จัดการมื้ออาหารเช้าของตัวอย่างง่าย ๆ ก่อนจะออกเดินทางออกจากมัลทาฟาอีกครั้ง โดยไม่บอกกล่าวกับบริกรชายแม้แต่คำเดียว

กายยังคงใส่หน้ากากเหล็กไปด้วย โดยไม่ได้เปลี่ยนชุดแต่อย่างใด

ระหว่างที่กายเดินทางออกจากมัลทาฟาก็มีสายตาสองสามคู่จับจ้องไปยังทิศทางที่เขาจากไป หนึ่งในนั้นเป็นผู้เล่นกิลด์กะโหลกแดง ซึ่งมายืนยันข่าวที่พบเจอศัตรูของกิลด์กะโหลกแดงอย่างลอร์ดเจ็ดโลหะ อีกหนึ่งนั้นเป็นผู้เล่นหญิงสาวที่มีสัญลักษณ์กุหลาบติดที่หน้าอกและสุดท้ายเป็นผู้เล่นชายที่มีสัญลักษณ์กำปั้นสีทอง

ทั้งสามไม่มีใครเผยตัวออกมาแต่อย่างใด เมื่อยืนยันเรื่องของตัวเองจบก็จากไปอย่างเงียบ ๆ ในทันที

...

ตามป่าที่อยู่บริเวณแนวชายแดนระหว่างนครดาราฟ้าและนครแสงเทวาแห่งหนึ่ง ตอนนี้มีกองกำลังผู้เล่นรวมตัวกันจำนวนมาก แม้การแต่งตัวหลายอย่างจะต่างกันไปตามความถนัด แต่ทุกคนมีสิ่งหนึ่งเหมือนกันนั้นคือพวกเขาใส่เสื้อคลุมที่มีสัญลักษณ์กะโหลกสีแดง

“เจ้าหมายความว่าลอร์ดเจ็ดโลหะปรากฏตัวแถว ๆ มัลทาฟาอย่างนั้นหรือ” เสียงของผู้เล่นที่ใช้ดาบหนักขนาดใหญ่ดังขึ้น ผู้เล่นคนนี้ไม่ใช่อื่น แต่เป็นโคเวิร์ตกะโหลกคลั่งที่เคยผพ่ายแพ้ให้กายในแดนสงคราม

โคเวิร์ตและพวกคือกลุ่มผู้เล่นกิลด์กะโหลกแดงที่เหลืออยู่ในดินแดนของนครดาราฟ้า เพื่อติดต่อกับกลุ่มโจรต่าง ๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากนครแสงเทวาและคอยปั่นป่วนเพื่อหลอกล่อกองทหารที่ไล่ล่าผู้เล่นกิลด์กะโหลกแดง อีกทั้งยังทำหน้าที่ชักชวนผู้เล่นคนอื่น ๆ ให้เข้าร่วมโจมตีนครดาราฟ้าด้วย

จึงทำให้พวกเขามาลัดเลาะหลบซ่อนอยู่แถวนี้

แต่เมื่อเขาได้ยินว่านกพิราบขาวเจอเบาะแสของลอร์ดเจ็ดโหละก็ทำให้โคเวิร์ตกะโหลกคลั่งรู้สึกเลือดขึ้นหน้าในทันที

“ไปรวบรวมคนมา เราจะไปล่าชายคนนั้นกัน” โคเวิร์ตหันไปสั่งผู้เล่นกิลด์กะโหลกแดงที่อยู่ด้านหลัง หลายคนรู้สึกว่าที่โคเวิร์ตสั่งนั้นมันผิดแผนเกินไปจึงคิดจะเอ่ยปากท้วง โดยเฉพาะหนึ่งในผู้เล่นที่เป็นหน้าทีมย่อยที่แม้จะไม่มีตำแหน่งในกิลด์เท่าโคเวิร์ตแต่ก็มีสิทธิจะออกเสียงเช่นกัน

“โคเวิร์ต เจ้าอย่างลืมว่าถ้าเราเคลื่อนไหวเร็วเกินไปอาจจะทำให้เสียงานใหญ่ได้” หัวหน้าทีมย่อยผู้ใช้ขวานสองคม ที่ชื่อ มาร์ กล่าวเตือน

“หึ แค่ค่อยสร้างความวุ่นวายให้หลังแนวข้าศึก แม้จะสำคัญ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้เร่มแผนการซะก่อน มันยังมีเวลาอีกหนึ่งวันเต็ม ๆ”

“ถึงแบบนั้นพวกเราอาจจะกลับมาไม่ทัน และถ้าเจอกับพวกทหารที่ออกล่าเราอาจจะตายจนหมดได้ ผู้เล่นในกลุ่มของข้านั้นตายกันมาคนละหนึ่งถึงสองครั้งแล้ว ถ้ายังไปอีกและโดนฆ่าตา พวกเราคงต้องไปเริ่มสร้างตัวละครกันใหม่อีกครั้ง” หัวหน้าทีมย่อยที่ใช้ดาบยาวที่ชื่อ แจ็คกี้ พูดเสริมขึ้นมา พร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่ชอบใจ

“หึ พวกเจ้าเลิกพูดขัดข้าได้แล้ว อย่าลืมว่าลอร์ดเจ็ดโหละสร้างความเสียหายให้พวกเรามากแค่ไหนในแดนสงคราม แม้ข้าจะอยากฆ่ามัน แต่ก็ไม่ได้หลับหูหลับตาพาพวกเจ้าไปตายซะหน่อย ข้าจะพาไปซะเพราะคนที่ตายไม่เกินหนึ่งครั้ง แบบนี้ต่อให้โดนฆ่าตายก็น่าจะเกิดใหม่และถอยหนีออกมาได้ทัน นั้นคงไม่กระทบกับแผนการมากเกินไปหรอกมั้ง” โคเวิร์ตกล่าวออกมาอย่างเย็นชาและหันไปจ้องทั้งสองคน

เมื่อโคเวิร์ตพูดมาถึงขนาดนี้ก็คงยากที่คนอื่น ๆ ในกิลด์จะเปลี่ยนความคิดของเขาได้ โดยเฉพาะในสถานที่นี้โคเวิร์ตคือสมาชิกที่มีตำแหน่งสูงสุดในกิลด์กะโหลกแดง

หลังจากใช้เวลาไม่นานโคเวิร์ตก็เลือกผู้เล่นมาราว ๆ 100 คน ก่อนจะเร่งรีบเดินทางออกไปสมทบกับผู้เล่นที่ตามรอยลอร์ดเจ็ดโลหะไป

...

กายเดินทางออกจากมัลทาฟาตรงไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว ๆ ครึ่งวัน นั้นคือจุดหมายที่ระบุไว้บนแผนที่ สถานที่เขากำลังไปนั้นอยู่ที่ด้านบนสุดของทุ่งหญ้ากิราและใกล้กับปราการตะวันออกของนครดาราฟ้า

ซึ่งเมื่อรวมกับจดหมายที่กายได้มาจากศพของผู้เล่นกิลด์กะโหลกแดงที่ฆ่าไปทั้งสามคนเมื่อวันก่อน นั้นยิ่งทำให้กายมั่นใจว่ากระทิงเขียวต้องอยู่ที่นั่นอย่างแน่นอน เพราะสถานที่มันใกล้กับพื้นที่ซึ่งเป็นทางผ่านระหว่างนครดาราฟ้าและป้อมปราการตะวันออกพอดี

แต่เมื่อมาถึงกายการเดินทางของกายก็ต้องหยุดลง เพราะด้านหน้าของกายนั้นมีกลุ่มผู้คนกำลังต่อสู้อยู่กับหมูป่าขนาดใหญ่เท่ากับวัวตัวเต็มไวตัวหนึ่ง สีของมันดำเมื่อม เขี้ยวยาว 30 เซนติเมตร แหลมคมไม่ต่างจากคมดาบ แรงของหมูป่าตัวนี้มากเกินกว่าที่มนุษย์จะต้านทานได้

กายไม่เข้าไปวุ่นวายเพียงสังเกตการณ์อยู่เงียบ ๆ เท่านั้น

เป็นกลุ่มผู้เล่นสินะ...ว่าแต่หมูป่านั้นทำไมตัวมันถึงได้ใหญ่เช่นนี้

กายมองไปที่หมูป่าอย่างสนใจ

“มีคนมาอีกแล้ว”

“เจ้าคอยระวังเขาไว้ ส่วนที่เหลือช่วยกันฆ่ามันให้ได้ ก่อนที่จะมีคนมาวุ่นวายมากกว่านี้”

“โอ้...ลุยกันเลย”

ผู้เล่นกลุ่มนี้แบ่งคนออกมาคอยระวังกายอยู่คนหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกราว ๆ 5 คนก็รุมล้อมพยายามสังหารหมูป่าลงให้ได้

จากวิธีการต่อสู้กายรับรู้ได้ว่าคนพวกนี้เป็นนักรบฝึกหัดขั้น 1 แต่แม้จะเป็นนักรบฝึกหัดขั้นที่ 1 ถึง 5 คนลงมือไล่ฆ่าหมูป่าก็ยังยากจะปลิดชีพมันได้นอกจากทำให้มันบาดเจ็บมากขึ้นและโมโหมากขึ้นก็เท่านั้น

หนึ่งในผู้เล่นโดนหมูป่าชนเข้ากลางลำตัว เขี้ยวยาวมากกว่า 30 เซนติเมตรของหมูป่าแทงลึกเข้าไปที่บริเวณท้องเต็มแรง แม้แต่เกราะหนังก็ยากจะต้านทานการโจมตีนี้ได้ ทำให้ผู้เล่นคนนั้นส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนร่างจะกระเด็นไปตกไปด้านข้างและกลายเป็นลูกไฟหายไป

หมูป่ายังไม่หยุดวิ่ง มันเลือกจะหนีออกไปจากตรงนี้เพราะรู้ว่าถ้าอยู่ต่อคงโดนรุมสังหารเป็นแน่แท้ ดังนั้นมันจึงวิ่งมาทางผู้เล่นที่กำลังเฝ้าระวังกาย ซึ่งผู้เล่นคนนั้นก็ดันหันหลังให้กับหมูป่าพอดี

“หลบเร็ว!” ผู้เล่นคนอื่น ๆ ร้องเตือนแต่ก็ไม่ทันแล้วทำให้ผู้เล่นคนนั้นโดนชนและถูกเขี้ยวยาวของมันแทงเข้ากลางหลังและถูกฆ่าจนตายไม่ต่างผู้เล่นก่อนหน้านี้

แต่ถึงจะฆ่าไปสองคนแล้ว แต่เส้นทางที่มันเลือกจะวิ่งหนีนั้นก็ยังมีคนขวางอีก นั้นก็คือกายที่อยู่บนหลังเจ้าหมอก

หมูป่ามองมาที่กายด้วยสายตากระหายเลือด กายเองก็มองไปที่มันอย่างสนใจเช่นกัน

กายคว้าค้อนสั่นสะเทือนออกมา ก่อนจะกระโจนเข้าหาหมูป่า

“ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบศาสตราวุธ ทุบ ขั้น2” ค้อนสั่นสะเทือนตวัดจากด้านข้างลำตัวของกายเข้าปะทะกลางศีรษะของหมูป่าดัง ตู้ม! แต่ที่ภาพตรงหน้าก็ทำให้กายดูจะตกใจพอควร เพราะหมูป่านั้นกลับไม่ได้เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย

มันเพียงส่ายหัวไปด้วยความมึนงง ก่อนจะมองไปที่กายด้วยความโกรธและพุ่งตรงเข้ามาหาเขาอีกครั้ง

“ถ้าอย่างนั้นเจอแบบนี้เป็นยังไง”

“ศิลปะการต่อสู้ ปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลัง ขั้น 1”

“ศิลปะการต่อสู้ ปลดล็อกขีดจำกัดความเร็ว ขั้น 1”

“ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบศาสตราวุธ ทุบ ขั้น 2”

กายตั้งท่าเท้ายันพื้นพร้อมกับแสดงศิลปะการต่อสู้ที่ใช้ร่วมกับค้อนสั่นสะเทือน ซึ่งเป็นพลังโจมตีแทบจะสูงสุดของเขาแล้ว

หมูป่าแม้จะรับรู้ได้ถึงความอันตราย แต่ความโกรธของมันนั้นสั่งให้มันชนคนข้างหน้าให้ตายไปเหมือนกับสองคนก่อนหน้านี้ซะ

เท้าทั้งสี่ของหมูป่าตะกุยดินพุ่งเข้าหากาย กายหมุนตัวสามรอบด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว ก่อนจะเปลี่ยนทิศทางของค้อนสั่นสะเทือนให้ยกสูงขึ้นและทุบลงมาจากด้านบนด้วยแรงเต็มกำลัง

ค้อนสั่นสะเทือนทุบเข้าใส่กลางกะโหลกของหมูป่าอย่างเต็มแรง ส่งผลให้เกิดแรงกระแทกกดทับเอาหัวของมันจบลงกับพื้นดินสร้างหลุมที่มีรอยแตกยาวกว่า 5 เมตรรอบทิศทาง หลังจากนั้นก็มีเสียงที่ดังสะเทือนกระจายออกมาจากจุดปะทะพร้อมกับฝุ่นควันที่ถูกกวาดหายอย่างรวดเร็ว

เหลือเพียงหมูป่าที่นอนตายแน่นิ่งอยู่บนพื้นและกายที่ค้างอยู่ในท่าโจมตี

ผู้เล่นที่ยังเหลือรอดอยู่อีก 4 คนต่างก็มองฉากนี้พร้อมกับปากที่อ้ากว้างค้างไว้ตั้งแต่ร้องเตือนสหายที่ตายไป เพียงแต่ในตอนนี้มันอ้าค้างมากกว่าเก่าเท่าตัวหนึ่ง เพราะตกตะลึงกับการโจมตีของชายใส่หน้ากากเหล็กแปลกหน้า

กายค่อย ๆ ยกค้อนสั่นสะเทือนที่จบลึกไปในกะโหลกของหมูป่า ซึ่งที่ตัวค้อนสั่นสะเทือนยังมีเศษเนื้อและเลือดติดยืดยาวขณะที่เขายกขึ้นจากหัวของหมูป่า

กายมั่นใจเป็นอย่างมากว่าหมูป่าตัวนี้ต้องอยู่อย่างน้อยระดับสองและอาจจะใกล้ระดับ 3 แล้ว เพราะม้าและเหยี่ยวของเขายังมีระดับได้ ดังนั้นหมูป่าตัวนี้ก็น่าจะมีระดับด้วยเช่นกัน ไม่งั้นมันจะทรงพลังอย่างนี้ได้อย่างไร

แต่ขณะที่กำลังมองดูหมูป่าที่ตายไปอยู่นั้น อยู่ ๆ กายก็สัมผัสได้ถึงการสั่นไหวเบา ๆ มาจากเหรียญตรากักเก็บจิตวิญญาณที่เก็บไว้กับตัว

เขาหยิบเหรียญตรากักเก็บจิตวิญญาณออกมาอย่างแปลกใจ ก่อนจะมองไปที่ซากหมูป่าที่อยู่ด้านหน้า

“หรือว่า...”

.......................

Witterry : ตอนนี้ไรท์มีเพจเฟสบุ๊คแล้วนะ มากดติดตามเพื่อคอยรับข่าวสารหรือเข้ามาพูดคุยกันได้นะ จะมาติดตามทวงนิยายก็ได้ https://www.facebook.com/witterry.writer/ หรือพิมพ์ค้นหาในเฟสบุ๊ค witterry writer ได้เลยนะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด