ตอนที่แล้วตอนที่ 41 สามเหลี่ยมมิติ(อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 43 เบาะแสของดวงตามิติ(อ่านฟรี)

ตอนที่ 42 รอยแยกมิติและซอมบี้โครงกระดูก(อ่านฟรี)


ตอนที่ 42 รอยแยกมิติและซอมบี้โครงกระดูก

“เกิดอะไรขึ้น” ฟาริสรีบเข้ามาลากตัวจอร์แดนขึ้นมาและถาม เพราะตอนนี้พวกเขาต้องการรู้สถานการณ์ข้างบนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

แต่ในตอนนั้น คอนราด ฟาริส โบเวน และแม้แต่เรย์ก็ถึงกับมองรอบตัวด้วยความตกตะลึง เรย์ดึงเอาหินตรวจจับออกมา ปรากฏว่ามันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงทั้งยังกะพริบถี่ไม่หยุด

มีรอยแยกมิติกำลังจะเกิดขึ้น...ไม่ดีแล้ว ต้องรีบถอยกันด่วนเลย

เรย์มองหาทางออกด้วยความกระวนกระวายใจ แต่ในตอนนั้นก็มีเสียงบางอย่างถูกทิ้งลงมาจากด้านบน

เคล้ง ๆ ๆ ตุบ!

สายตาของทุกคนหันไปมองยังวัตถุสีทองรูปร่างเหมือนกับพีระมิด ซึ่งหล่นไม่ไกลจากทางออกมากนัก และในจังหวะเดียวกัน มันก็เกิดพลังงานจำนวนมหาศาลกระจายออกมาเป็นละลอกพลังงานที่รู้สึกได้ ฉีกกระชากความว่างเปล่าบังคับเปิดรอยแยกมิติออกมา

พลังงานแรกเริ่มที่เกิดรอยแยกมิติสร้างผลกระทบต่อวัตถุและอาคารรอบ ๆ สภาพขอพวกมันเก่าลงทันตาเห็นในทันที

ซึ่งก็น่าแปลกที่มันปรับเปลี่ยนเฉพาะพื้นที่ไม่ได้ทำให้ของที่อยู่บนตัวของพวกเขาอย่างเสื้อผ้าหรืออาวุธในตัวมีสภาพเก่าไปด้วย แต่ตอนนี้ไม่มีใครมาสนใจข้อสังเกตเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้

“รีบปิดรอยแยกเร็ว” คอนราดสั่งฟาริสที่ตอบสนองเร็วสุด เพราะอยู่ใกล้มากที่สุด ฟาริสตอบสนองทันทีรีบพุ่งเข้าไปหารอยแยกมิติ

ที่จริงแล้วยังมีคนอยู่ใกล้รอยแยกพอ ๆ กับฟาริสอีกคน นั้นก็คือจอร์แดน แต่ตอนนี้จอร์แดนกำลังตะลึงกับสิ่งที่เห็นจนไม่รู้จะทำอย่างไรกับสถานการณ์ตรงหน้า

ฟาริสเข้าไปคิดจะเอื้อมมือเข้าไปในรอยแยกเพื่อดึงดวงตามิติที่ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมมิติออกมา แต่แล้วในตอนนั้นก็มีเสียงร้องคำรามดังมาจากภายในรอยแยก

“ว๊ากกกก!!!”

ฟาริสรีบชักมือกลับเป็นจังหวะเดียวกับที่ใบหน้าของซอมบี้ซากศพโผล่ออกมาจากในรอยแยก มันกัดไปยังจุดที่มือของฟาริสอยู่ก่อนหน้านั้น

ถ้าฟาริสชักมือกลับมาช้าเกินไป เขาคงโดนดึงเข้าไปตายในรอยแยกแล้ว

ซอมบี้ซากศพสามตัวเดินออกมาจากรอยแยกมิติเบื้องหน้าของฟาริส พวกมันหันไปมองฟาริสเป็นเป้าหมายแรก แต่แล้วก็มีอักษรเวทมนตร์ปรากฏขึ้นให้เท้าของพวกมันทั้งสามตัว ก่อนที่เสาลำแสงชำระล้างจะพวยพุ่งขึ้นมาชำระล้างซอมบี้ซากศพสามตัวไปในทันที

แสงชำระล้างแผดเผาสลายซอมบี้จนพวกมันกลายเป็นศพธรรมดาเท่านั้น ศพซอมบี้ล้มลงตายไปแบบนั้น คนที่โจมตีก็คือเรย์ที่กำลังถือหนังสือเวทมนตร์อยู่

“โบเวนไปช่วยฟาริส” คอนราดสั่งการแบ่งหน้าที่ แต่ก่อนจะได้ทำอะไร ก็มีมือของซอมบี้ตัวหนึ่งออกมาจากด้านใน มันเป็นมือที่ต่างไปจากซอมบี้ซากศพปกติ มือของซอมบี้ตัวนี้มีแต่กระดูก ไม่สิถ้าจะให้บอกผิวหนังของมันเปลี่ยนเป็นกระดูก

พอคนในทีมเห็นพวกเขาก็รู้ได้ในทันทีว่ามันคืออะไร ‘ซอมบี้โครงกระดูก’

ซอมบี้โครงกระดูก เป็นซอมบี้ที่ไม่มีผิวหนัง เพราะพวกมันเปลี่ยนเป็นกระดูกแข็ง ๆ ปกป้องร่างกาย ทำให้มีการป้องกันสูง มีกรงเล็บกระดูกแหลมคมงอกออกมา สติปัญญาไม่สูง ส่วนใหญ่พึ่งพาสัญชาตญาณเท่านั้น โดดเด่นในเรื่องการป้องกัน พละกำลังและการสู้ระยะประชิดตัว จุดอ่อนคือข้อต่อต่าง ๆ และถ้าต้องการฆ่าต้องทำลายสมอง การกัดสามารถติดเชื้อได้

เรย์นึกไปถึงข้อมูลของซอมบี้ชนิดนี้เขาก็ถึงกับกลัวขึ้นมาหน่อย ๆ เพราะซอมบี้โครงกระดูกไม่ต่างจากซอมบี้ที่ใส่เกราะ มันยิ่งอันตรายเข้าไปอีก แต่ยังไม่หมดแค่นั้น มันกลับมีถึงสองตัว

“บ้าเอ๊ย ถอยก่อน” คอนราดสั่งถอยเพราะอันตรายเกินไปถ้าพวกมันสู้ร่วมกัน การเข้าไปแบบนั้นไม่ต่างจากเข้าไปตาย ตอนนี้พวกเขารับรู้แล้วว่าด้านหลังรอยแยกมีซอมบี้ไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ อย่างแน่นอน

ปกติแล้วรอยแยกระดับสูญที่พวกเขาเจออย่างมากก็มีซอมบี้แค่ไม่กี่สิบตัวเท่านั้น และส่วนใหญ่เป็นซอมบี้ซากศพเท่านั้น

แต่ตอนนี้พวกเขากำลังเจอกับซอมบี้โครงกระดูกที่มีระดับ 4 ถึงสองตัว และยังไม่รู้ว่าด้านหลังมีซอมบี้อะไรอีก

ทุกคนถอยออกมาจากรอยแยกมิติและเริ่มทำการโจมตีอีกครั้ง

ซอมบี้โครงกระดูกตัวซ้ายมีฟาริส โบเวนและผู้กองจอร์แดนรับมืออยู่

ฟาริส โบเวนยิงถล่มซอมบี้โครงกระดูกตัวนี้ด้วยปืน ด้านข้างยังมีจอร์แดนที่แม้จะเจ็บไหล่จากการถูกยิง จอร์แดนก็พยายามใช้ปืนไรเฟิลเอ็ม1903 สปริงฟิลด์ยิงตอบโต้ไปเช่นกัน

แต่สีหน้าของทั้งสามไม่สู้ดีมากนักเพราะกระสุนปืนธรรมดานั้นยากมากที่จะเจาะผ่านเกราะกระดูกของซอมบี้โครงกระดูก อย่างมากก็สร้างรอยแตกร้าวเพียงผิวเผินต่อเกราะกระดูกของมันเท่านั้น

ฟาริสที่มองสถานการณ์ก็รู้ว่ากระสุนธรรมดานั้นยากจะได้ผล โบเวนเองก็เข้าใจจึงหันมาใช้กระสุนชำระล้างเล่นงานมันแทนในทันที

แน่นอนว่ากระสุนชำระล้างนั้นมีอยู่จำกัด ดังนั้นทุกนัดต้องสร้างความเสียหายให้กับซอมบี้โครงกระดูกมากที่สุด

“ยิงไปที่ข้อต่อขาของมัน” ฟาริสหันมาบอกกับจอร์แดน จอร์แดนมีเพียงกระสุนธรรมดา แต่ถ้ายิงซ้ำ ๆ ก็สร้างความเสียหายได้ไม่มากก็น้อย

ส่วนโบเวนนั้นรู้ข้อมูลเกี่ยวกับซอมบี้โครงกระดูกอยู่แล้ว จึงรู้ว่าควรจะยิงจุดไหน

อีกด้านคอนราดและเรย์นั้นดูดีกว่ามาก คอนราดนั้นเหมือนกับเครื่องพ่นไฟที่เผาซอมบี้โครงกระดูกในมือ และเรย์ยังใช้คาถาบอลไฟถล่มเสริมความร้อนเข้าไปอีก ทำให้ซอมบี้โครงกระดูกที่ระดับ 4 โดนเผาจนแทบจะเคลื่อนไหวไม่ได้

การโจมตีที่ไม่ใช่กายภาพอย่างพวกกระสุนได้ผลเป็นอย่างมาก ซอมบี้โครงกระดูกไม่สามารถขยับได้ แถมเปลวไฟยังพวยพุ่งเข้าไปทำลายจากด้านในโดยตรง

“คาเซเบธ (บอลเพลิง)”

หนึ่งในหน้ากระดาษผสมทองคำที่บรรจุคาถาบอลเพลิงไว้ถูกใช้งาน อักษรเวทมนตร์ลอยออกมากลายเป็นลูกบอลเพลิงพุ่งเข้าหาซอมบี้โครงกระดูกในทันที

ตูม!

บอลเพลิงกระแทกร่างของซอมบี้โครงกระดูกจนร่างของมันชนเข้ากับกำแพงตึกทำเอาทั้งสั่นไหว

“ว๊ากกก!!!”

ในตอนนั้นเองคอนราดก็เผาไหมเชื้อเพลิงในไฟแช็กน้ำมันจนหมดสร้างเปลวไฟสองสายหมุนวนพันรอบตัวคอนราดลงไปที่แขนทั้งสองข้าง

ก่อนที่คอนราดจะทำท่าปล่อยหมัดทั้งสองพร้อมกับแบมือออกไป

ไฟทั้งสองเส้นก็พุ่งเข้าไปที่หัวของซอมบี้ราวกับหอกเพลิงที่มีชีวิต ก่อนจะแทงเข้าไปที่ดวงตาและปากของซอมบี้ เผามันจากด้านใน

ซอมบี้โครงกระดูกดิ้นไปมา ก่อนจะหยุดนิ่งไป

“สำเร็จ” เรย์กล่าวออกมาพลางถอนหายใจ แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ดีใจ ในตอนนั้นเองที่คอนราดก็พุ่งเข้ามาชนกับเรย์ทำให้ทั้งสองล้มลงไปกับพื้นอย่างรุนแรง

เรย์มองไปที่คอนราดด้วยความตกใจ แต่คอนราดกลับไม่สนใจเรย์ รีบลุกขึ้นมาหาที่หลบ

“หลบเร็ว ทุกคนหาที่หลบ”

เสียงของคอนราดตะโกนบอกกับทุกคน เพราะนอกจากซอมบี้โครงกระดูกสองตัวที่พวกเขาสู้กันอยู่นี้แล้วยังมีฝูงซอมบี้ที่ตามออกมาด้านหลังอีก

“คร๊ากกก....ว๊ากกกก!!!”

เสียงครวญครางของซอมบี้ซากศพมากขึ้นเรื่อย ๆ มีมากกว่า 10 ตัว แต่ในจำนวนนั้นมีตัวหนึ่งที่ต่างจากซอมบี้ซากศพทั่วไปและเป็นตัวที่คอนราดกังวลมากที่สุด

“ซอมบี้อาเจียน มีลำตัวบาง ร่างผอมแห้ง แต่ท้องป่อง ภายในบรรจุเชื้อซอมบี้สีเขียว กลิ่นเหม็นเน่า และสามารถละลายเหล็กได้ มีนิสัยชอบวิ่งเข้าประชิดเหยื่อและอ้วกใส่เหยื่อ ก่อนจะกินร่างที่ละลายของเหยื่อกลับไป ระดับอยู่ตั้งแต่ 4 ขึ้นไป” คอนราดอธิบายข้อมูลออกมาให้ทุกคนฟังเพราะกลัวจะมีใครไม่รู้จักมัน

“ซอมบี้อาเจียน” เรย์มองไปที่ซอมบี้ตัวนั้น มันผอมแห้งมากกว่าซอมบี้ซากศพ แต่ท้องของมันกลับใหญ่ราวกับคนท้องเก้าเดือนไม่มีผิด

แถมมุมปากทั้งสองข้างของซอมบี้อาเจียนยังมีของเหนี่ยวเหลวสีเขียวหนืดอยู่ด้วย มันคือของเหลวที่ซอมบี้อาเจียนมักจะพ่นออกมา แต่ถ้ามันสัมผัสไปโดนจะเกิดการกัดกร่อนจนไม่เหลือซาก แม้แต่เหล็กก็ยากจะกันของเหลวของซอมบี้อาเจียนได้

เรย์มองไปยังจุดที่เขายืนอยู่ก่อนหน้า ตรงนั้นมีของเหลวของซอมบี้อาเจียนอยู่ มันหลอมละลายจน

ซอมบี้อาเจียนเตรียมโจมตีอีกครั้ง ท้องของมันราวกับมีบางสิ่งบิดวนไปมาก่อนจะเคลื่อนตัวมาที่ลำคอ ซอมบี้อาเจียนร่างผอมโก่งตัวไปข้างหลัง ก่อนจะดีดกลับมาพร้อมปากที่อ้าออกพ่นของเหลวสีเขียวไปทางฟาริส โบเวนและจอร์แดน ที่กำลังต่อสู้ติดพันกับซอมบี้โครงกระดูกอยู่

“ซอมบี้อาเจียน ถอยออกมาเร็ว” โบเวนกล่าวก่อนวิ่งหนีเอาตัวรอดไปหลบอยู่ที่กำแพงปูนใกล้ ๆ ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่คอนราดและเรย์หลบอยู่ด้วยเช่นกัน

ฟาริสมองไปที่ซอมบี้อาเจียนที่หลบอยู่หลังซอมบี้ซากศพ เขาก็ถอยหนีเช่นกันไปทางโบเวนเช่นกัน

“อ้วกกกก!!”

ของเหลวสีเขียวพุ่งออกมา สาดกระจายไปทั่วทั้งบริเวณที่พวกเขาเคยอยู่ ของเหลวที่สัมผัสกับผนังปูนกัดกร่อนทุกอย่างจนทั่วในทันที ทำให้เกิดความเสียหายต่อซากตึกอย่างรุนแรง

“เวรแล้ว แบบนี้ซากตึกนี้ได้ถล่มแน่” โบเวนร้องตะโกนออกมา ขณะที่ยกมือปัดหนึ่งในเศษตึกขนาดเท่าหัวทิ้งไปด้านข้าง

“ถ้าปิดไม่ได้ก็ต้องหาทางหนีก่อน” ฟาริสกล่าว

ทั้งสองคนยกมือขึ้นมาปิดจมูกจากกรดพิษของซอมบี้อาเจียน

เรย์ที่ตอนนี้พิงกำแพงหายใจหอบอยู่ ก็ถามออกมา “จอร์แดนและที่ปรึกษาพอลหายไปไหน”

ทุกคนหันมามองหน้ากันแต่ก็ไม่มีใครเห็นทั้งสอง

ในตอนนั้นเสียงกรีดร้องก็ดังออกมา ดึงดูดความสนใจของทุกคนซึ่งไม่ใช่เสียงใครอื่นแต่เป็นเสียงของจอร์แดน

“อ๊ากกก!! ช่วยด้วย มือ...อ๊ากกก” จอร์แดนร้องออกมาด้วยความเจ็บ มันวิ่งหลบไม่ทัน จึงโดนเข้ากับของเหลวสีเขียวเข้าเต็ม ๆ มือที่โดนเริ่มหลอมละลาย จอร์แดนพยายามคลานหนี

แต่ก็ไม่ทันการแล้ว เพราะซอมบี้อาเจียนพ่นของเหลวออกมาอีกครั้งใส่ของจอร์แดนตรง ๆ ร่างของเขาหลอมละลายไปทั้งตัวตั้งแต่ใบหน้า หัว ลำตัวและแขนขา มันหลุดออกทีละชิ้นในเวลาไม่ถึง 10 วินาทีด้วยซ้ำ จนกลายเป็นแค่แอ่งเลือดเนื้อกองหนึ่งเท่านั้น

“เวรเอ๊ย” โบเวนตะโกนออกมา ตอนนี้ฝั่งเขาตายไปอีกคนแล้ว

“ระวังพื้น”

เรย์เตือนทุกคน เพราะตอนนี้อยู่ ๆ พื้นที่พวกเขาอยู่ก็แตกร้าว ก่อนที่ในเสี้ยวพริบตาทั้งชั้นของอาคารที่พวกเขาอยู่กันก็เริ่มพังลง

ตูม!!!!!!

ซวยแล้ว...เรย์รับรู้ได้ว่าตัวเองกำลังร่วงหล่นลงไปด้านล่าง พร้อมกับที่รอบตัวมีซากอาคารจำนวนมากที่ถล่มตามลงมา ก่อนจะกระแทกกับตึกชั้นถัดไปอย่างแรงคล้ายกับโดมิโนไม่มีผิด

“อัก!” เรย์รู้สึกจุกสุด ๆ จากการที่พื้นที่ยืนยุบลงและตัวของเขาก็หล่นลงมาจนกระแทกกับชั้นอาคารด้านล่าง

เรย์พยายามมองหาคนอื่น แต่ดูเหมือนทุกคนจะตกลงไปข้างล่างลึกกว่าเรย์อีกชั้น เรย์ไม่มีเวลามากนัก เพราะตัวอาคารด้านบน ๆ เริ่มสั่นไหวและตกลงมาอีกครั้ง

คลื่นนน!!!

ตอนนี้มันเหมือนกับแผ่นดินไหวและเสียงลั่นดังเปรี้ยง ๆ คล้ายฟ้าผ่าดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรย์วิ่งสุดชีวิตไปยังช่องด้านหน้า ตอนนี้เหลือบอลแสงเพียงลูกเดียวที่ยังไม่สลายหายไปคอยส่องสว่างนำทางให้กับเขา

ไม่ทันแล้ว...

เรย์ไถลตัวเข้าไปในช่องตึกด้านหน้า ก่อนที่บอลแสงจะโดนกระแทกทำลายดับหายไปเหลือแต่ความมืด เรย์เองก็โดนหินกระแทกเข้าที่หมวกเกราะอย่างแรง ก่อนภาพทุกอย่างจะขาดหายไป

ตรึมมม!!!!!!!!!!!!!!!

พื้นที่ซากตึกเก่า ๆ ที่ทับถมกันจะพังถล่มลงไปยังชั้นล่าง ๆ ของภูเขาแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด