ตอนที่แล้วตอนที่ 134 ขอความช่วยเหลือจากตำรวจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 136 เมืองแห่งเหมืองใต้ดิน มัลทาฟา

ตอนที่ 135 คีย์การ์ด


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 135 คีย์การ์ด

กายเคาะประตูห้องสองสามครั้ง ก่อนที่เมญ่าจะเดินมาที่ประตู เมญ่าที่อยู่หลังประตูเห็นกายใจสภาพเหนื่อยอ่อนก็ดูจะแปลกใจ แต่เธอก็รีบเปิดประตูให้กายเข้ามาด้านในห้องพัก

“คุณไปทำอะไรมาถึงมีสภาพเป็นแบบนี้” เมญ่าถามด้วยความสงสัย

แต่กายยังไม่ได้ตอบ เพราะสายตาของเขาหันไปเห็นไทเลอร์ก่อน

ตอนนี้ไทเลอร์นั้นอาการดีขึ้นมา เขาลุกขึ้นนั่งได้แล้ว ซึ่งกายเองก็ไม่คิดว่าเพื่อสนิทของเขาจะฟื้นตัวได้เร็วขนาดนี้

กายละสายตาจากไทเลอร์หันมาหาเมญ่าก่อนจะพูดว่า “ผมกำลังถูกตามล่าจากคนที่เกี่ยวข้องกับเจ้ซาเรีย ไทเลอร์นายเองก็อาจจะโดนลูกหลงไปด้วย ตอนนี้เราต้องรีบหนีกันก่อน เพราะถ้าให้ฉันเดาอีกไม่นานพวกมันก็คงจะสืบเรื่องคนใกล้ชิดเจ้ซาเรียและตามมาหานายที่นี่แน่นอน”

“นี่มัน...เกิดอะไรขึ้นกันแล้ว เจ้ซาเรียไปเกี่ยวอะไรด้วย หรือเรื่องที่เจ้โดนไฟไหม้ตายจะเพราะเรื่องนี้” ไทเลอร์ยิงคำถามมาไม่หยุด เพราะงงกับสิ่งที่กายพูด

กายนึกขึ้นได้ว่าไทเลอร์คงตามเรื่องราวไม่ทัน จึงเล่ารายละเอียดอย่างรวบลัดให้ฟัง

หลังจากที่ไทเลอร์และเมญ่าฟังสิ่งที่ชายหนุ่มเล่า ทั้งสองก็มีสีหน้าตกใจปนสับสน แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็พยายามย่อยข้อมูลที่กายเล่าออกมาอย่างรวดเร็ว

“นายกำลังจะบอกว่า เจ้ซาเรียอาจจะเกี่ยวกับองค์กรบางแห่งและกำลังโดนตามล่า”

“แถมยังบอกว่าองค์กรที่ว่าอาจจะเป็นกลุ่มต่อต้าน”

“นายยังโดนชายใส่สูทสีดำสองคนตามล่า ซึ่งก่อนหน้านั้นพวกมันเคยแอบจะเข้ามาจัดการนายก่อนแล้วครั้งหนึ่ง แต่โดนเจ้ซาเรียเก็บไปใช่ไหม”

ไทเลอร์ถามออกมาอย่างต่อเนื่อง กายก็พยักหน้าตอบใช่ทุกคำถาม ไทเลอร์เงียบลงไป เมญ่าก็ถามขึ้นมาบ้าง

“กาย คุณบอกว่าพวกนั้นอาจจะมาตามหาไทเลอร์ด้วยใช่หรือเปล่า คุณแน่ใจใช่ไหมว่าพวกมันจะมาตามหาไทเลอร์”

“ใช่ ผมแน่ใจ เพราะไทเลอร์รู้จักกับเจ้ซาเรียก่อนผมซะอีก”

พอกายกล่าวมาแบบนั้น เมญ่าก็หันขวับจิกตามองไทเลอร์ก่อนในทันที ไทเลอร์ยิ้มแห้ง ๆ ด้วยปากที่ซีดขาวของคนเจ็บ เมญ่าเห็นดังนั้นเธอก็หันมาพูดกับกายต่อ

“ถ้าอย่างนั้นพวกคุณทั้งสองก็ควรจะไปหาที่ซ่อนตัวกันก่อน”

“คุณไม่ไปอย่างนั้นเหรอ” กายถามหญิงสาว

“ฉันเป็นเจ้าหน้าที่รัฐของสำงานเขต 7 พวกนั้นคงไม่กล้าทำอะไรหรอก” เมญ่าตอบกลับไปตามจริง ด้วยสามัญสำนึกของคนทั่วไปแล้ว เจ้าหน้าที่รัฐที่ทำงานให้รัฐบาลหรือทางการแล้ว จะไม่มีใครอยากไปมีปัญหาด้วย เพราะถ้าเกิดเรื่องกับเจ้าหน้าที่รัฐ ทางรัฐบาลคงส่งคนมาจัดการอย่างจริงจังเพื่อแสดงอำนาจของตนเอง

แต่กายไม่คิดอย่างนั้นเพราะชายใส่สูทสีดำสองคนนั้นถึงกับกล้าโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจ พวกมันคงไม่สนใจสถานะเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำงานเกี่ยวกับเอกสารอย่างเมญ่าแน่นอน

กายส่ายหัว ก่อนและกล่าว “ไม่ได้ คุณยังไม่รู้ พวกมันกล้าโจมตีตำรวจ ถ้าพวกมันไม่เจอไทเลอร์ พวกนั้นคงเดาได้ว่าผมมาเตือนและพากันหนีไปพร้อมกับไทเลอร์ พวกชายใส่สูทสีดำคงหันมาเล่นงานคุณเพื่อบังคับให้ไทเลอร์ออกมาแน่ และนั้นก็คงทำให้ผมไม่อยู่เฉย ๆ ด้วย”

“พวกันต้องการอะไรจากเรากันแน่” ไทเลอร์ถาม

“ต้องการหาตัวของเจ้ซาเรีย” กายตอบ

“แสดงว่าเจ้ซาเรียยังไม่ตายสินะ เมญ่า คุณควรไปกับพวกเราด้วย ผมไม่ไว้ใจถ้าปล่อยคุณไว้คนเดียว” ไทเลอร์หันไปมองแฟนสาวของตัวเองด้วยสายตาจริงจัง เมญ่าลังเลสักครู่ แต่สุดท้ายเธอก็พยักหน้าตกลง

กายเมื่อเห็นว่าทั้งสองตกลงกันแล้ว เขาก็ถามถึงอาการไทเลอร์ก่อนในทันที

“ไทเลอร์ตอนนี้อาการนายฟื้นตัวแค่ไหนแล้ว”

“อืม ฉันพอจะขยับตัวได้อย่างไม่มีปัญหาแล้ว ต้องขอบคุณนายที่ยอมจ่ายค่ารักษาให้ฉันแพงขนาดนั้น มันทำให้ฉันฟื้นตัวเร็วมาก แต่แผลก็ยังไม่ได้หายดีมากนักหรอก” ไทเลอร์อธิบายให้กายฟัง

กายพยักหน้าเข้าก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าเขาสั่งแขนกลมาให้ไทเลอร์ใช้

“นายลองใส่แขนกลหรือยัง”

“ยังมันอยู่ตรงนั้น ฉันรอให้แผลหายเจ็บอีกสักหน่อยค่อยลองใส่”

“ถ้าอย่างนั้นก็เอามันไปด้วย”

“เราควรรีบออกไปก่อนที่พยายามจะเข้ามาตรวจอีกรอบ” เมญ่าเตือนทั้งสอง

พวกเขาทั้งสามควรจะรีบออกไปจากที่นี่ในทันที แต่แม้จะตกลงชวนกันหนีไปหลบจากพวกชายชุดดำแต่ก็ยังไม่รู้ว่าพวกเขาควรจะไปที่ไหนกัน

“เราจะไปซ่อนที่ไหน” ไทเลอร์ถามกาย

“ฉันยังไม่คิด ว่าจะนั่งรถไปเรื่อย ๆ เคลื่อนที่ไปก่อนจากนั้นค่อยหาที่พักไปเรื่อย ๆ” กายกล่าวแผนของตัวเอง

“เราไปที่บ้านพักของฉันก่อนเป็นอย่างไรพวกคนที่คุณพูดถึงคงยังไม่สืบจนรู้ที่อยู่ฉันแน่นอน เราน่าจะมีเวลาหาทางออกได้” เมญ่าเสนอความคิด

กายและไทเลอร์ พยักหน้าอย่างเห็นด้วย

เมื่อตกลงกันได้แล้ว ก่อนอื่นพวกเขาทั้งสามก็เตรียมตัวออกจากโรงพยาบาลในทันที เมญ่าเตรียมเก็บข้าวของส่วนกายนั้นออกไปด้านนอกก่อนจะมองหารถเข็นและนำมันกลับมาที่ห้องพัก

“ที่จริงฉันพอจะเดินไหวน่า” ไทเลอร์ตอบออกมากึ่งจริงกึ่งเล่น

“แบบนี้เร็วกว่า” กายไม่สนใจเพื่อนขี้เก๊ก ที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองเจ็บจนเดินไม่ถนัด เขาช่วยพยุงไทเลอร์มานั่งที่รถเข็น ก่อนจะยกกล่องใส่แขนกลวางลงไปที่ตักไทเลอร์

ไทเลอร์ใช้แขนขวาที่เหลือเพียงข้างเดียวจับไปที่กล่องแขนกล ก่อนจะนั่งนิ่ง ๆ ให้กายเข็นเขาออกไปจากห้อง โดยมีเมญ่าถือยาที่ไทเลอร์ต้องกินออกมาด้วย ซึ่งยาพวกนี้เป็นแค่ยาแก้ปวดชั่วคราวเท่านั้น ส่วนยาอื่น ๆ นั้นไม่ได้มีอยู่ในห้อง เพราะโดยปกติแล้ว พยาบาลจะเป็นคนเอายาเข้ามาให้ไทเลอร์กินเป็นเวลา

“ไปทางซ้าย ทางนั้นเป็นทางที่เชื่อไปยังประตูทางออกด้านหลังได้” เมญ่าอยู่ที่นี่หลายวัน เธอจึงพอรู้เส้นทางอยู่บ้าง

ทั้งสามไม่รอช้ามุ่งหน้าไปทางออกในทันที แต่แล้วพอใกล้จะถึงทางออก ในตอนนั้นเอง พวกเขาก็เห็นว่ามีนางพยาบาลยืนรอพวกเขาอยู่

อะไรกันเราถูกจับได้แล้วอย่างนั้นเหรอ...ไม่สิ เธออาจจะแค่มายืนรอคนอื่นก็ได้

กายเริ่มเข็นรถเข็นช้าลง ไทเลอร์และเมญ่าก็เห็นถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับกายเช่นกัน ทั้งสองมองไปที่นางพยาบาลสาวด้วยความระวังตัว

ขณะที่ทั้งสามกำลังจะผ่านนางพยาบาลสาวคนนั้น อยู่ ๆ เธอก็เปิดปากพูดออกมา

“มีคนฝากของมาให้” นางพยาบาลกล่าวจบ ก็วางกล่องพาสติกใส่ไว้ที่พื้นก่อนที่จะเดินจากใบทั้งอย่างนั้น

กาย ไทเลอร์และเมญ่า ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร นางพยาบาลสาวก็เดินหายไปยังมุมหนึ่งแล้ว ทั้งสามจึงมองไปที่กล่องพาสติกใสที่อยู่บนพื้น ด้วยความที่กล่องมันใส่จึงมองไปที่ด้านใน

“เอายังไงดี” ไทเลอร์ที่นั่งอยู่บนรถเข็นเงยหน้ามองกายที่เข็นรถเข็นอยู่

“เมญ่าช่วยพาไทเลอร์ออกไปไกล ๆ ก่อน ผมจะดูเอง” กายกล่าว เมญ่าพยักหน้าเงียบ ๆ เดินเข้ามาเข็นไทเลอร์ออกห่างจากตรงนี้ไปราว ๆ 10 เมตร

กายก้มลงมองกล่องพาสติกใส่ ก่อนจะหยิบมันหยิบมันขึ้นมาอย่างระวัง กายกังวลมามันจะระเบิดตูมเหมือนในหนัง แม้เขาจะเห็นของด้านใน

กายเปิดฝ่ากล่องออก ที่ฝ่ากล่องด้านในมือของบางอย่างติดอยู่ มันคือคีย์การ์ดของที่พัก ซึ่งกายก็ไม่รู้จักว่ามันคือที่ไหน แต่ยังดีที่มีกระดาษจดหมายแนบมาด้วย ส่วนของที่เหลือด้านในนั้นเป็นยาบางอย่างเท่านั้น

เขายังไม่ได้เปิดอ่านจดหมาย แต่ตรวจสอบของด้านใน สุดท้ายเมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงเดินเอายาพวกนั้นไปให้เมญ่าและไทเลอร์ดู

“ยาพวกนี้มันเป็นของที่ไทเลอร์ต้องกินนี่ ดูเหมือนจะพอสำหรับ 2 สัปดาห์”

“ดูเหมือนจะมีคนคอยช่วยพวกเรา”

เมญ่าและไทเลอร์กล่าวออกมาตามลำดับ

กายเองก็พยักหน้าเห็นด้วยดูเหมือนจะมีคนคอยช่วยพวกเขาอยู่ ทั้งสามมองไปที่จดหมาย กายจึงเปิดมันขึ้นมาอ่านในทันที

พอได้อ่านสีหน้าของกายก็ผ่อนคลายลงก่อนจะยิ้มออกมา ไทเลอร์เห็นแบบนั้นก็ถามขึ้นมา

“จดหมายจากใคร”

“จากเจ้ซาเรีย เธอขอโทษที่ลากพวกเราเข้ามาพัวพันเรื่องนี้ จึงให้คีย์การ์ดที่อยู่ที่ปลอดภัยมา แล้วก็ยานั้นคือของนาย ดูเหมือนเธอจะรู้ว่าฉันจะมาหานายและพากันหนี” กายส่งจดหมายให้ไทเลอร์และเมญ่าอ่าน

ทั้งสองอ่านจดหมายเสร็จก็ส่งคืนกายก่อนจะพูดออกมา

“เจ้ซาเรียไม่ได้บอกว่าตัวเองอยู่ที่ไหน”

“บางทีเธอคงระวังตัวมาก ๆ อาจจะเพื่อเราและตัวเธอเองด้วย”

“นั้นก็จริง ยิ่งเรารู้น้อยยิ่งปลอดภัย”

กายพยักหน้าเห็นด้วย

“แล้วเราจะเอายังไงต่อ” ไทเลอร์ถาม

“ไปที่อยู่นี่กันก่อน” กายจับคีย์การ์ดในมือแน่น ก่อนที่พวกเขาทั้งสามคนจะออกจากโรงพยาบาลประจำเขต 7 ไป

...

กาย ไทเลอร์และเมญ่านั่งรถมากันถึง 3 ต่อนานกว่า 1 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้ถูกตามรอยได้ง่าย ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ทั้งสามพอจะคิดออก

จนในที่สุดก็มาถึงยังจุดหมายปลายทาง มันเป็นคอนโดสูง 20 ชั้นที่ผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก เมื่อเข้ามาด้านในกลับต้องพบว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ยามหรือใครเลย ทุกอย่างถูกดูแลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งที่พักคอนโดแบบนี้มีให้เห็นได้ทั่วไปในย่านเขตเจ็ด

“เข้าไปที่ห้องกันเถอะ”

กายพูดจบก็เดินไปประตูหยิบคีย์การ์ดออกมาสแกน ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปและเดินไปที่ลิฟต์ เมญ่าเข็นไทเลอร์ตามมา ก่อนทั้งสามจะหายไปในลิฟต์

กายใช้คีย์การ์ดที่ได้มาสแกนที่ช่องสแกนข้างลิฟต์เช่นกัน

“คีย์การ์ดถูกล็อก กรุณายืนยันข้อมูล” หลังจากมีเสียง AI หญิงสาวดังขึ้นก็มีช่องสแกนลายมือเปิดขึ้น กายงงกับสิ่งที่เห็น ทั้งสามมองหน้าไปมาก่อนที่กายจะยื่นมือลงไปสแกน

“ยืนยันลายนิ้วมือถูกต้อง”

“สวัสดีคุณกาย เราจะพาคุณและเพื่อนไปยังชั้น 9 ในทันที”

ลิฟต์เคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งนาทีลิฟต์ก็หยุดลง ก่อนที่ประตูจะเปิดออก

“ห้อง 2” กายกล่าวออกมาเมื่อมองดูตัวเลขในคีย์การ์ด ก่อนที่พวกเขาจะไปหยุดอยู่ที่หน้าประตู เมื่อเปิดประตูเข้าไปด้านใน กายก็เจอกับห้องพักขนาดใหญ่

แต่ที่น่าแปลกใจนั้นก็คือ ที่กลางห้องมีแคปซูลเกมอยู่สองเครื่องและทั้งสองคือสิ่งที่กายคุ้นเคย

“แคปซูลเกมจากที่ร้านเกมเสมือนจริงหมายเลข 8”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด