ตอนที่แล้วตอนที่ 132 ลุกไหม้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 134 ขอความช่วยเหลือจากตำรวจ

ตอนที่ 133 ชายใส่สูทสีดำ


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 133 ชายใส่สูทสีดำ

กายมองดูภาพซากอาคารที่ค่อย ๆ สงบลง ผู้คนแม้จะไม่มากเหมือนตอนแรก แต่ก็มีคนจำนวนมากกลับมาดูอาคารที่ไหม้กลายเป็นซากไปแล้ว

กายมองดูอยู่นาน จนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่ส่งคนเข้าไปตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุพยานเพื่อสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ แต่แน่นอนว่าขั้นตอนพวกนี้เป็นความลับ ไม่มีการอนุญาตให้คนทั่วไปเข้าวุ่นวาย สุดท้ายเจ้าหน้าที่ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับไปราว ๆ หกโมงเย็น เหลือเจ้าหน้าที่ไว้สองสามคนเพื่อเฝ้าที่เกิดเหตุ

ทั้งวันกายอยู่นี่และมองดูไม่ไปไหน เขารอว่าบางทีอาจจะมีข่าวของเจ้ซาเรีย แต่มันก็ไม่มีใครเห็นหรือได้รับการติดต่อจากเจ้ซาเรียเลยแม้แต่น้อย

ทำให้สุดท้ายกายถอดใจ เดินไปหยุดอยู่ห่างจากซากร้านเกมเสมือนจริงหมายเลข 8 ไม่กี่เมตรที่ล้อมไปดด้วยเทบกั้นเขตอันตรายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะพึมพำออกมาเบา ๆ

“เจ้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ที่เจ้บอกโชคดีหมายถึงเจ้รู้ใช่ไหมว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น...ขอบคุณสำหรับทุกอย่างครับเจ้ซาเรีย”

กายหันหลังกลับและเดินออกไปจากตรงนี้ในทันที เขาไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเอาอย่างไรต่อ ทำได้เพียงกลับไปรอฟังข่าวเพิ่มเติมเท่านั้น

ขณะที่กายเดินกลับไปเขาไม่ทันสังเกตเลยว่าห่างออกไปไม่ไกลมีรถยนต์ไฟฟ้าสีดำพร้อมชายใส่ชุดสูทสีดำสองคนที่นั่งอยู่ในรถกำลังจดจ้องมองมาที่เขาอยู่ คนหนึ่งมีหนวดเป็นเอกลักษณ์ ส่วนอีกคนดูจะสูงโปร่งกว่า

“เด็กนี่ใช่ไหม”

“ใช่ เจ้าหน้าที่ของเราหายตัวไปสองคนเพราะแอบตามลอยเด็กนี่ หลังจากตามหาอยู่นานเราก็ไปพบศพของทั้งสองห่างออกไปนอกเขต 7”

“คนลงมือน่าจะเป็นเธอ ตอนนี้เราทำพลาดจนเธอหายตัวไปอีกครั้ง คงยากจะตามหาตัวเจอ”

“แล้วจะทำยังไงกันต่อดี หรือกลับไปรายงานทั้งอย่างนี้ก่อน”

“ไม่! เราตามไปจับเด็กนี่และลองสอบปากคำดูอาจจะได้ข้อมูลเพิ่ม นายคิดว่ายังไง”

“เอาตามนั้นก็แล้วกันดีกว่าต้องมาเสียเที่ยว”

“อืม จัดการเด็กนี่ก่อนค่อยกลับไปทำลายหลักฐานที่พวกเจ้าหน้าที่ได้ไป”

รถยนต์ไฟฟ้าสีดำขับตามกายไปอย่างระวัง เพื่อไม่ให้กายรู้ตัว

กายยังคงเดินไปตามทางเรื่อย ๆ เขารู้สึกสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ แต่แล้วกายก็เหมือนจะฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้

เราจะเหม่อลอยแบบนี้ไม่ได้ ต้องเริ่มจากอะไรสักอย่างก่อน...

กายเริ่มจากหยิบโทรศัพท์ออกมาจากนั้นก็ทำการส่งข้อความไปหา นกพิราบขาว ซึ่งบอกเรื่องว่าเขาไม่สะดวกเข้าไปเล่นเกมราชัน ถ้าพร้อมแล้วจะทำการติดต่อกลับไปใหม่

การไม่เข้าไปเล่นในโลกราชัน 1 วันนั้น หมายถึงเวลาสามวันในโลกราชันที่ผ่านไป แต่จะให้ทำอย่างไรได้ ตอนนี้เขาไม่มีแม้แต่แคปซูลเกม

เราต้องหาซื้อแคปซูล แต่นั่นมันก็ยังช้าไป ต้องหาแคปซูลใช้ชั่วคราวก่อน

เขานึกไปถึงออสตินที่เคยสั่งแคปซูลและต้องรอหลายวัน บางที่เขาอาจจะลองเสียเงินเพิ่มและใช้การส่งแบบเร่งด่วนเอา

ของอย่างแคปซูลนั้นถูกผลิตขึ้นบนโอเอซิสดังนั้นมันจึงล่าช้า เขาเคได้ยินว่าบนโอเอซิสเพียงสั่งของไม่เกิน 2 ชั่วโมงสินค้าจะส่งถึงมือผู้รับในทันที ซึ่งมันถือว่ารวดเร็วมาก

กายเงยหน้าเงยหน้ามองไปบนท้องฟ้า ผ่านม่านหมอกควันขึ้นไป โอเอซิสก็ยังลอยอยู่เงียบ ๆ เคียงข้างดวงจันทร์

...

หลังจากกลับมาที่บ้านพักกายก็ทิ้งตัวนอนลง ไม่รู้ว่าเขาเผลอหลับไปเมื่อไหร่ กายตื่นขึ้นมาด้วยความหิวเพราะยังไม่ได้กินอะไรเลยในวันนี้ แต่เขาก็พบว่าทุกอย่างในบ้านก็มืดสนิทแล้ว นั้นหมายความว่าตอนนี้ตอนนอกนั้นมืดแล้ว

เราเผลอหลับไปอีกแล้ว

กายหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อดูเวลา ตอนนี้เป็นเวลา 19.20 นาฬิกา เขาเผลอหลับไปเกือบ ๆ ชั่วโมง

ตุบ!

แต่แล้ว ขณะนั้นเองก็มีเสียงบางอย่างดังขึ้น เขาก็ถึงกับนิ่งไปในทันที เพราะนอกจากตัวเองแล้ว กายคิดว่ามันไม่ควรจะมีอะไรหรือใครอยู่ในบ้านอีก กายเงียบเสียงลงและฟังเสียงอย่างตั้งใจ

เสียงฝีเท้าที่เดินกันนั้นมีอยู่สองคน

ทั้งสองตอนนี้อยู่ภายในห้องนั่งเล่นและกำลังตรงมาที่ประตูห้องนอน กายไม่ต้องคิดก็รู้ว่าผู้บุกรุกที่แอบเข้ามานั้นมีเจตนาไม่ดีอย่างแน่นอน

กายลุกขึ้นจากที่นอนเดินไปที่ประตูห้องนอนด้วยเท้าเปล่า ก่อนจะเอื้อมมือเข้าไปหยิบท่อเหล็กที่มักใช้ฝึกฝนประจำ ซึ่งวางอยู่ข้าง ๆ ประตูห้องนอน

กายจับท่อเหล็กในมือแน่น เฝ้ารออย่างเงียบ ๆ

กึก!

เสียงลูกบิดประตูห้องถูกจับและหมุน ประตูห้องเปิดออกอย่างช้า ๆ ปลายรองเท้าหนังสีดำยื่นเข้ามาด้วยความระวัง จนกระทั่งชายใส่สูทสีดำไว้หนวดคนแรกเดินเข้ามาในห้องนอน และด้านหลังตามมาด้วยชายใส่สูทสีดำร่างสูงโปร่งอีกคนก็เดินตามหลังตัวอยู่ระหว่างประตู

“เขาไม่ได้นอนอยู่ในห้อง” ชายใส่สูทสีดำกล่าว

“ไม่น่าจะใช่ ถ้าเขาไม่อยู่นี่แล้วอยู่ตรงไหน” ชายใส่สูทสีดำร่างสูงโปร่งพูดออกมาอย่างสับสน แต่แล้วสายตาก็เหลือบมองผ่านช่องบานประตูว่ามีใครบางคนแอบอยู่

“เดี๋ยวก่อน ระวัง!”

ชายชุดใส่สูทร่างสูงโปร่งพยายามร้องเตือนคู่หูที่ยืนอยู่ด้านหน้า ท่อเหล็กฟาดเข้ามาที่ใบหน้าของชายใส่สูทสีดำไว้หนวดแล้ว

ปัง!

ร่างของชายใส่สูทสีดำไว้หนวดหงายหลังล้มลงกับพื้น มือทั้งสองกุมใบหน้า มีเลือดไหลออกมาจากทั้งปากและจมูก จนเละเปรอะไปทั่วตัว อีกทั้งยังส่งร้องด้วยความเจ็บ

“เด็กเปรตนี่” ชายใส่สูทสีดำร่างสูงความร่างของคู่หูวางลงกับพื้น ก่อนที่จะกระโจนเข้าหากาย

กายที่เจอกับสถานการณ์จวนตัวแบบนี้ กับไม่ได้รู้สึกกระวนกระวายใจอย่างที่เด็กอายุ 19 จะเป็น เขากำชับท่อเหล็กในมือแน่นก่อนจะฟาดออกไปด้วยท่าทางของการใช้ดาบ

ชายใส่สูทสีดำร่างสูงเห็นเช่นนั้นก็ยกแขนขึ้นมากันไว้

เคร้ง!

เสียงท่อเหล็กปะทะกับแขนของชายใส่สูทสีดำร่างสูงไม่ได้ดังอย่างที่มันควรจะเป็น แต่มันดังราวกับเหล็กสองท่อนกระทบกัน

เมื่อกายมองดู ๆ จึงเห็นว่าภายใต้แขนเสื้อมีปลอกแขนเหล็กติดตั้งไว้อยู่

...เราต้องหาทางหนีออกไปจากที่นี่

กายยกท่อนเหล็กฟาดลงไปอีกครั้ง ในครั้งนี้เขาพยายามเลียนแบบความรู้สึกเวลาใช้ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบศาสตราวุธ ทุบออกไป

“เอานี่ไปกิน!!! ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบศาสตราวุธ ทุบ ขั้น 2”

ท่อเหล็กที่อยู่ในมือของกายราวกับมีพลังเพิ่มขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เขาทุบเข้าไปที่ตัวของชายใส่สูทสีดำ

ชายใส่สูทสีดำร่างสูงมองไปที่กายด้วยดวงตาที่เบิกกว้างเพราะตกใจกับการโจมตีของเด็กหนุ่มตรงหน้า แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพ ชายใส่สูทสีดำร่างยังสามารถยกแขนข้างเดิมขึ้นมาป้องกันการโจมตีได้ แต่ด้วยแรงการโจมตีจากการทุบอย่างรุนแรง มันมากซะจนชายใส่สูทสีดำร่างสูงกระเด็นไปลอยไปกระแทกกับเตียงนอนและผนังห้อง

สำเร็จ!

กายไม่รอช้ากระโดดข้ามชายใส่สูทสีดำไว้หนวดที่นอนกุมหน้าอยู่ที่พื้นประตูห้องนอนออกไปที่ห้องนั่งเล่น

“อ๊าก! ไอ้เด็กเปรต” ชายใส่สูทสีดำร่างสูงไม่ได้บาดเจ็บมาก เขารีบลุกออกจากซากเตียงนอนจากนั้นก็วิ่งตามกายไปในทันที

ชายใส่สูทสีดำไว้หนวดเองก็ลุกขึ้นมาทั้งที่เลือดยังไหลอยู่ ซึ่งดูเหมือนดั้งจมูกจะหัก

“ตาม...มัน...ไปจับตัวให้ได้” เสียงของชายใส่สูทสีดำไว้หนวดพูดไม่ชัด เขาจับไปที่จมูกก่อนจะประกบสองมือเข้าหากันบริเวณดั้งจมูกก่อนจะบิดไปมามีเสียงดัง กรึบ! จมูกก็ดูเหมือนจะเข้าที่ก่อนจะวิ่งตามหลังชายใส่สูทสีดำร่างสูงและกายไป

กายไม่รอช้าคว้าไปที่หน้ากากกันฝุ่นก่อนจะวิ่งตรงไปที่ประตูทางออกของบ้าน เหลืออีกราว ๆ ไม่ถึงสองก้าวเขาก็จะออกไปจากตัวบ้านได้แล้ว

แต่ในตอนนั้นเอง กายก็เหมือนได้ยินเสียงดังคล้ายกับวัตถุพุ่งเข้ามาหาเขา กายหยุดฝีเท้ากล้มตัวหมอบลงกับพื้นตามสัญชาตญาณ

ปัง!

ก่อนที่จะมีเสียงดังอย่างรุนแรง ที่ประตูด้านหน้ามีใบดาบโลหะมันวาวยาวหนึ่งศอกเสียบปักคาอยู่ ซึ่งมันเป็นรูปร่างที่เหมือนกับพวกในหนังไซไฟไม่มีผิด ใบดาบเมื่อโจมตีพลาดเป้าไป มันก็เริ่มสั่นไหวก่อนจะถูกดึงออกมาจากบานประตูพุ่งกลับไปด้านหลัง

มันบ้าอะไรอีก...กายหันหน้ามองไปตามที่ใบดาบลอยหลับไป ปรากฏว่ามันลอยกลับไปที่แขนขวาของชายใส่สูทสีดำร่างสูง ใบดาบเสียบเข้าไปกับอุปกรณ์โลหะที่ท่อนแขนที่กายเคยเห็นก่อนหน้า

ก่อนที่ชายใส่สูทสีดำร่างสูงจะสะบัดแขนอีกครั้งใบดาบที่เก็ยกลับเข้าไปก็เลือนลงมาทำให้แขนของเขามีดาบยื่นออกมาด้านหลังมือ

ชายใส่สูทที่มีดาบไฮเทคที่สามารถยิงออกมาได้ภาพนี้มันช่างชวนตกตะลึง ด้านหลังชายใส่สูทสีดำไว้หนวดเองก็วิ่งตามมาทัน เขาทำแบบเดียวกับชายใส่สูทสีดำร่างสูงเพียงสะบัดแขนขวาดาบไฮเทคก็เลือนลงมาเช่นกัน

กายมองภาพตรงหน้าแล้วถึงกับกลืนน้ำลายในใจเขาเริ่มมีความคิดว่าถ้ายอมแพ้ตอนนี้จะยังทันหรือไม่ แต่ดูจากสายตาของฝั่งตรงข้ามแล้วกับสิ่งที่เขาทำ มันคงเป็นไปได้ยาก

“ไอ้หนู ยอมแพ้ซะแล้วฉันจะไว้ชีวิตแก” ชายใส่สูทสีดำไว้หนวดพูดออกมาด้วยใบหน้าเปลี่ยนเลือด

กายจับท่อเหล็กไว้ในมือแน่นไม่ยอมปล่อย เขาจ้องเขม็งไปที่ทั้งสองก่อนจะเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“พวกคุณเป็นใคร แล้วทำไมถึงต้องบุกเข้ามาในบ้านของผมกัน”

“เรื่องนั้นแกไม่ควรจะรู้ เอาเป็นว่าบอกข้อมูลเกี่ยวกับผู้หญิงที่ร้านเกมเสมือนจริงหมายเลข 8 มาว่ารู้อะไรเกี่ยวกับเธอบ้าง แล้วตอนนี้เธอหนีไปอยู่ที่ไหน ถ้ายอมบอกหรือให้เบาะแสอะไรมาบ้าง พวกเรายินดีจะปล่อยแกไป” ชายใส่สูทสีดำไว้หนวดกล่าวออกมา ขณะที่ขยับเข้าใกล้ประตูทางออกอย่างช้า ๆ

กายเห็นดังนั้นก็ขยับถอยหลังอย่างระวังเช่นกัน เขาไม่กล้าหันหลังวิ่งออกไปเพราะกลัวใบดาบที่ยิงออกมาได้นั้นจะเสียบเข้ากลางหลังก่อนที่จะได้ทันวิ่งออกไปเปิดประตูซะอีก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด