ตอนที่แล้วSign in Buddha's palm 336 หวั่น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSign in Buddha's palm 338 (I) พังทลายสิ้น

Sign in Buddha's palm 337 อำนาจที่น่าเกรงขาม (ฟรี)


กำลังโหลดไฟล์

Sign in Buddha's palm 337 อำนาจที่น่าเกรงขาม (ฟรี)

เทพธิดาไท่อิน

หนึ่งในว่าที่เทพธิดาของดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลักไท่อินจากประตูเซียน ทั้งความสามารถและพรสวรรค์นั้นสูงที่สุดในกลุ่มคนทั้งห้า

ถ้าไม่ใช่เพราะความสำคัญของตราประทับไท่อินของดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลักไท่อินและเพราะความกังวลในการมอบสมบัติล้ำค่านี้ให้กับศิษย์สาวกคนอื่นๆ ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่เทพธิดาไท่อินจะมาโลกมนุษย์ด้วยตนเอง

เวลาผ่านไปกว่าหมื่นปี แม้แต่ผู้คนภายในประตูเซียนก็ไม่รู้ว่าโลกมนุษย์ในปัจจุบันเป็นเช่นไร

เมื่อเทพธิดาไท่อินลงมือ ร่วมกับการต่อต้านของเซียนเทพปฐพีทั้งสี่ สายฟ้าสีม่วงที่ปกคลุมทั่วทั้งผืนฟ้าก็ค่อยๆ หายไป

เมฆดำลอยหายไป เผยให้เห็นท้องฟ้ากว้างไกล

ชายหนุ่มท่าทางอ่อนแอและคนอื่นๆ ที่เหลือก็รู้สึกโล่งใจอย่างมาก เป็นการยากที่จะซ่อนความตกใจที่แสดงออกมาผ่านสีหน้า

แม้พวกเขาทั้งสี่จะไม่ใช่เซียนเทพปฐพีขั้นแบ่งจิตระดับสูงสุด แต่เมื่อพวกเขารวมพลังกันใช้พลังออกจนสุดตัวย่อมพอจะต่อกรกับจุดสูงสุดของขั้นแบ่งจิตได้ แต่ซูฉินที่อยู่เบื้องหน้าใช้ทั้งฝ่ามือ มีด หมัดก็สามารถเอาชนะพวกเขาได้แล้ว ในตอนสุดท้ายยังเรียกสายฟ้าสวรรค์เก้าชั้นฟ้าออกมาอีก

ถ้าไม่ใช่เพราะเทพธิดาไท่อิน แม้ว่าทั้งสี่คนจะยังไม่ตายแต่ก็คงได้รับบาดเจ็บสาหัส

พลังอันน่ากลัวนี้มันคือสิ่งใด?

เมื่อเทียบกับบุตรสวรรค์และเทพธิดาจากประตูเซียนก็ไม่นับว่าต่างกันมากเท่าไหร่มิใช่หรือ?

“น่าเสียดายจริงๆ”

ซูฉินส่ายศีรษะเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนทั้งห้าสามารถปิดกั้นหมื่นสายฟ้าฉุดกระชากได้

แม้ว่าหมื่นสายฟ้าฉุดกระชากจะเป็นกระบวนท่าไม้ตายธาตุสายฟ้า แต่คนทั้งห้าที่อยู่เบื้องหน้านี้ก็ล้วนเป็นคนจากประตูเซียน ห่างชั้นไปไกลหากจะนำมาเทียบเซียนเทพปฐพีอย่างเหลยเฉียนจือที่เพิ่งเข้าสู่ขั้นแบ่งจิต โดยเฉพาะเทพธิดาไท่อินที่ลงมือในตอนสุดท้าย ไอพลังรุนแรงมาก คาดว่าใกล้จะถึงจุดสูงสุดของขั้นแบ่งจิตแล้ว

แม้ว่าความแข็งแกร่งของซูฉินจะครอบงำผู้คน แต่ก็ค่อนข้างยากที่จะปราบเซียนเทพปฐพีทั้งห้า ซึ่งหนึ่งในนั้นยังเป็นผู้ที่อยู่ใกล้กับจุดสูงสุดของขั้นแบ่งจิต

แน่นอนว่าเหตุผลคือซูฉินยังไม่ได้ใช้ไพ่ในมืออย่างจริงจัง หมื่นสายฟ้าฉุดกระชากไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่ากระบวนท่าสังหารที่ซูฉินได้รับจากการลงชื่อเข้าใช้บนเกาะเทพเจ้าสายฟ้า มันยังห่างไกลจากไพ่ลับในมือของเขาอีกมาก

“เจ้ากล้าที่จะหยุดยั้งข้า เจ้าไม่กลัวความตายหรือ?” ซูฉินมองไปที่เทพธิดาไท่อิน ถ้าไม่ใช่เพราะการเคลื่อนไหวของเทพธิดาไท่อิน อย่างน้อยกลุ่มของชายท่าทางอ่อนแอคงจะได้รับบาดเจ็บไม่น้อย

“พรรคพวกจากประตูเซียน หากพวกเขาตายไปจนหมด ข้าคงไม่สามารถอธิบายสิ่งใดได้ยามเมื่อกลับไป” เทพธิดาไท่อินมีน้ำเสียงที่เย็นชา แต่สีหน้าที่ดูเคร่งเครียดของนางแสดงให้เห็นว่านางไม่ได้สงบเหมือนอย่างที่เห็นภายนอก

ในสายตาของกลุ่มชายท่าทางอ่อนแอทั้งสี่คน หลังจากที่เทพธิดาไท่อินเคลื่อนไหว พวกเขาก็สามารถปิดกั้นสายฟ้าสวรรค์เก้าชั้นฟ้าได้ ซึ่งดูเหมือนจะเทียบได้กับซูฉิน

มีเพียงแค่เทพธิดาไท่อินเท่านั้นที่รู้ว่าราคาที่ต้องจ่ายไปมันมากเท่าไหร่

จนถึงตอนนี้เทพธิดาไท่อินยังคงรู้สึกชาตามร่างกายเล็กน้อย

“นอกจากนี้ แม้ว่าข้าจะไม่เคลื่อนไหว แต่ข้านั้นจะรอดหรือหากสหายเต๋าสังหารพวกเขาไปหมดแล้ว?” ความรู้สึกไร้หนทางปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเทพธิดาไท่อิน

เนื่องจากซูฉินรู้จักประตูเซียน เป็นปกติที่เขาจะต้องรู้ว่ามันเป็นมรดกที่สืบทอดมาจากผู้ทรงพลังถึงขีดสุด ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ หากซูฉินเลือกทำอะไรบางอย่างกับกลุ่มของชายท่าทางอ่อนแอ เขาจะไม่มีวันปล่อยให้อีกฝ่ายมีชีวิตอยู่และกลับไปรายงาน

กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากเทพธิดาไท่อินไม่ต้องการจะถูกไล่ล่าโดยซูฉิน นางก็จำเป็นจะต้องร่วมมือกับเซียนเทพปฐพีทั้งสี่เท่านั้น

“เจ้าฉลาดนี่” รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูฉิน

เขาไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยเทพธิดาไท่อินไปจริงๆ เมื่อเลือกที่จะลงมือแล้ว ก็ต้องขุดรากถอนโคนให้เหี้ยน

“เมื่อเป็นเช่นนั้น”

“พวกเจ้าก็จงตายกันเสียให้หมดเถอะ”

ดวงตาของซูฉินสงบนิ่ง ก้าวขาออกไปหนึ่งก้าว ไอพลังที่น่าสะพรึงกลัวสั่นสะเทือนท้องฟ้าและผืนดิน

“ลงมือให้เต็มที่ ร่วมมือกัน ไม่เช่นนั้นข้าเกรงว่าเราจะต้องทิ้งร่างอยู่ที่นี่ในวันนี้แล้ว” เสียงของเทพธิดาไท่อินนั้นชัดแจ้ง แต่ความกังวลก็มีอยู่มาก

“เทพธิดาไท่อินไม่ต้องกังวลไป หลังจากนี้ข้ารู้แล้วว่าต้องทำเช่นไร” ชายหนุ่มท่าทางอ่อนแอดูเคร่งเครียดกล่าวออกอย่างสุขุม ส่วนอีกสามคนก็พยักหน้ารับเช่นเดียวกัน

เมื่อมาถึงระดับนี้ เห็นได้ชัดว่าทางเลือกเดียวคือต้องรวมพลังกันปิดกั้นซูฉิน ส่วนเรื่องการหลบหนี มีแต่จะทำให้พวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกไล่ล่าสังหารเท่านั้น

จะเกิดอะไรขึ้นหากพวกเขาหลบหนีไป? ตราประทับไท่อินก็ยังฟื้นฟูพลังไม่เสร็จ เป็นไปไม่ได้ที่จะคุ้มกันทั้งห้าคนให้ข้ามผ่านช่องว่างแห่งความว่างเปล่าไปได้ ในระหว่างนั้นพวกเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับซูฉิน

“ดาบสวรรค์ กระบวนท่าที่สี่!” ดาบยาวในมือเด็กหนุ่มปรากฏขึ้นอีกครั้ง รวมตัวกันเป็นแสงศักดิ์สิทธิ์ เจตจำนงแห่งดาบอันกว้างใหญ่ดูเหมือนเงาสลัวคลุมเครือ คมกริบถึงขนาดตัดผืนโลกทั้งเก้าชั้นลงไปใต้พิภพ

เป๊ง!

ซูฉินดึงคมมีดเทพเจ้าสายฟ้าออกมาดั่งใจนึก พุ่งเข้าใส่เจตจำนงดาบของเด็กหนุ่ม ทันใดนั้นกลิ่นอายสยดสยองก็พวยพุ่ง ร่างของเด็กหนุ่มสั่นเทา มองมาที่ซูฉินด้วยความตกใจ

ดาบสวรรค์เก้ารูปแบบเป็นท่าไม้ตายที่สืบทอดมาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาดาบสวรรค์ ด้วยความแข็งแกร่งของเขา สามารถฟาดฟันได้มากที่สุดก็แค่รูปแบบที่สามเท่านั้น แต่กระนั้นมันก็เพียงพอที่จะใช้อาละวาดไปได้ทั่วดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว

และตอนนี้ เด็กหนุ่มยอมสูญเสีย ฝืนใช้ดาบสวรรค์รูปแบบที่สี่ออกมา พลังของมันเกินกว่าขั้นแบ่งจิตไปอย่างสิ้นเชิง เดิมทีเขาจะคิดว่ากระบวนท่านี้คงจะถ่วงรั้งซูฉินได้ชั่วขณะหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดกลับถูกซูฉินบังคับให้ล่าถอยกลับไปอีกครั้ง

ต่อจากนั้น ซูฉินก็ยังคงออกกระบวนท่าต่อไป กดขี่เซียนเทพปฐพีทั้งห้าอย่างต่อเนื่อง ถ้าเทพธิดาไท่อินไม่ได้เข้าร่วมด้วยและใช้พลังจันทราเข้าสู้ซึ่งพอจะถ่วงเวลาซูฉินได้บ้าง เกรงว่าพวกเขาทั้งสี่คงถูกเล่นงานไปแล้ว

แต่ถึงกระนั้น สถานการณ์ต่อสู้ก็ดูจะไม่ได้เอนเอียงมาทางฝั่งของคนทั้งห้าจากประตูเซียน

“คนผู้นี้คือใครกัน?”

“ตัวตนผิดปกติเช่นนี้เกิดขึ้นบนโลกมนุษย์ในยุคที่กระแสปราณฉีเงียบงันได้อย่างไร?” ชายชราคิ้วขาวกระอักเลือดออกมา

ในบรรดาคนทั้งห้า ชายชราคิ้วขาวเป็นคนที่รู้สึกกดดันมากที่สุด เขาเก่งในด้านการใช้จิตวิญญาณแรกกำเนิด ซึ่งอ่อนแอกว่าเซียนเทพปฐพีคนอื่นๆ ทั้งในด้านร่างกายและพลังแห่งกฎเกณฑ์ธรรมชาติ

เพียงแต่ว่าซูฉินน่าจะกลัวการโจมตีจากจิตวิญญาณแรกกำเนิดน้อยที่สุดแล้ว ด้วยองค์ยูไลทองคำภายในกึ่งกลางระหว่างคิ้วของซูฉินทำให้สามารถป้องกันการโจมตีทางจิตวิญญาณได้ทั้งหมด

ดังนั้นแม้ว่าชายชราคิ้วขาวจะใช้ท่าไม้ตายจิตวิญญาณแรกกำเนิดใส่ซูฉินมากเพียงไร มันก็เหมือนเพียงก้อนหินที่ตกลงบนผืนมหาสมุทร เกิดคลื่นขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในทางกลับกัน ผลจากหมัดที่ปล่อยออกไปส่งๆ ของซูฉินกลับเพียงพอที่จะทำร้ายชายชราคิ้วขาว

การต่อสู้ของทั้งคู่ไม่มีความเท่าเทียมกันแต่ประการใด

ถ้าไม่ใช่เพราะเทพธิดาไท่อินที่มาอยู่ด้านข้างเป็นครั้งคราว ชายชราคิ้วขาวคงจะต้องตกตายเป็นคนแรกอย่างแน่นอน

“จงมอบชีวิตมาให้ข้า!?”

ก่อนที่หมานโหยวชายร่างกำยำจะก้าวไปด้านหน้า ตาของเขาก็กลายเป็นสีแดงเลือด และเส้นผมที่เป็นสีดำก็เปลี่ยนไปเป็นสีขาวตั้งแต่รากยันปลายผม ผิวมันเงามีสีเข้มมากขึ้น

ทำให้ชายร่างกำยำได้รับแรงผลักดันบางอย่าง ก้าวข้ามขั้นแบ่งจิตระดับกลางไปอย่างรวดเร็ว พุ่งไปถึงจุดสูงสุดของขั้นแบ่งจิต

เห็นได้ชัดว่าหมานโหยวนผู้นี้เริ่มลงมือสุดกำลัง วิธีที่เขาใช้เพิ่มความแข็งแกร่งเป็นทักษะต้องห้าม แม้จะมาจากประตูเซียน แต่ก็มันสร้างความเสียหายอย่างมากต่อแก่นแท้แห่งพลังแม้จะใช้ออกเพียงครั้งเดียว

“ฮ่าฮ่า......”

ซูฉินหัวเราะออกมา กำหมัดขวา เหวี่ยงตัดอากาศประทับเข้าที่หน้าอกต่อหน้าสายตาเหลือเชื่อของชายร่างกำยำ

บูม!

หมานโหยว ชายร่างกำยำกระเด็นลอยกลับหัวกลับหาง กระแทกพื้นอย่างรุนแรง

“เจ้า?!”

หมานโหยวกระอักเลือด มันมีแม้กระทั่งเศษอวัยวะภายในไหลออกมา ริมฝีปากของเขากระตุก ต้องการจะพูดบางอย่าง แต่สายตาของเขาเริ่มหม่นแสง สุดท้ายก็ดับลง ไม่เหลือแววตาแห่งชีวิตอีกต่อไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด