ตอนที่แล้วตอนที่ 29 ความต่างของประสบการณ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 31 บัดซบ!!

ตอนที่ 30 ขวานทลายสวรรค์


"ดูจากสีหน้าแล้วเจ้าคงรู้จักอาวุธอักขระสินะ มันเป็นส่วนหนึ่งของวิชาอักขระกำกับ สร้างขึ้นโดยผู้ใช้อักขระเท่านั้น วิชาอักขระกำกับ ถูกคิดค้นขึ้นมามากกว่าพันปี แม้ในพรรคป้อมอัคคีของข้ายังมีอาวุธอักขระไว้ในครอบครองเพียง 3 ชิ้นเท่านั้น!!"

ซูจ้าวกล่าวพลางเช็ดเลือดที่มุมปาก มันยกสิ่งที่เรียกว่าอาวุธอักขระขึ้นมาประจันหน้ากับเล้งซาน รูปร่างมันคือขวานที่มี 2 คม มียันต์อักขระเขียนไว้ที่ใบมีด สีน้ำเงินเข้มของอักขระสาดส่องออกมาอย่างชัดเจน แรงกดดันที่ส่งออกมาจากขวานนี้แทบไม่ต่างอะไรกับแรงกดดันของผู้ใช้ลมปราณชั้นสีน้ำเงินขั้นสูง!!

"นี่คือ 1 ใน 3 อาวุธอักขระที่พรรคป้อมอัคคีครอบครองอยู่ ชื่อของมันคือขวานทลายสวรรค์ เป็นอาวุธอักขระสีน้ำเงินขั้นสูง ทุกการครั้งที่ฟาดฟันแทบไม่ต่างจากพลังสิบส่วนของผู้ใช้ลมปราณชั้นสีน้ำเงินขั้นสูง แม้ข้าจะสูญเสียพลังลมปราณไปจนหมดแล้ว แต่ด้วยการฟาดฟันของขวานเล่มนี้ย่อมเพียงพอแก่การแยกร่างเจ้าเป็นชิ้นๆ!!"

เล้งซานจ้องมองมาที่ขวานทลายสวรรค์ มันขมวดคิ้วเล็กน้อยจากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

'แม้วันนี้ข้าอาจจะฆ่ามันไม่ได้ แต่ข้าจะเอาขวานมันมาให้จงได้!!'

เล้งซาน ทะยานร่างพุ่งเข้าไปทันที ซูจ้าวหมุนตัวเหวี่ยงขวานฟันเข้าใส่เล้งซานที่พุ่งเข้ามา แต่ด้วยอาการบาดเจ็บสาหัสก่อนหน้าทำให้ความเร็วของซูจ้าวลดลงไปกว่าครึ่ง เล้งซานก้มหัวหลบอย่างหวุดหวิด ขวานเฉียดหัวเล้งซานไปอย่างน่าหวาดหวั่น เล้งซานปล่อยหมัดเข้าที่ท้องซูจ้าวอีกครั้ง แต่ด้วยประสบการณ์ซูจ้าวย่อมรู้ว่าเล้งซานเล็งที่ตำแหน่งเดิมที่สาหัสของมัน ซูจ้าวพลิกขวานต่ำลงป้องกันท้องไว้ได้ แต่ต้องแลกกับแรงปะทะของหมัดเช่นกัน

ตูม!!

ซูจ้าวถ่อยรนไปกว่า 5 ก้าว แม้ไม่ถูกโจมตีเข้าจังๆแต่แรงสะเทือนที่ได้รับ ย่อมกระตุ้นอาการบาดเจ็บอีกครั้ง มันสำรอกโลหิตเล็กน้อยที่มุมปาก

เพลิงโทสะของซูจ้าวพุ่งขึ้นถึงขีดสุด มันไม่เคยคิดเคยฝัน ว่าจะมีวันที่มันจะถูกไล่ต้อนโดยผู้เยาว์ที่มีเพียงชั้นลมปราณสีครามขั้นต้นเช่นนี้

"เล้งซาน!! ไม่ว่าวันนี้จะแลกด้วยสิ่งใด ข้าจะสังหารเจ้าให้จงได้!!"

เล้งซานฉีกยิ้มอ่อนและค่อยๆเดินเข้ามา

"อาวุโสซู แม้ท่านนำศีรษะของท่านมาแลกกับปลายเล็บข้า ก็ยังนับว่าข้าขาดทุนอยู่เล็กน้อยนะ"

"บัดซบ!! เจ้า!!"

ซูจ้าวโกรธจนหน้าแดงก่ำ แต่ต้องยอมรับว่าตอนนี้มันบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งลมปราณยังหมดสิ้น สิ่งเดียวที่มันหวังพึ่งได้คือขวานทลายสวรรค์ในมือเท่านั้น!!

"คราแรกข้าตั้งใจเพียงแค่จะทดสอบฝีมือตนเองและหลบหนีไป แต่ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว ข้าจะสังหารท่าน ณ ที่แห่งนี้ และนำขวานกลับไปให้จงได้!!"

เพลิงสีฟ้าแห่งมังกรพวยพุ่งออกจากร่างของเล้งซานในทันที แม้ปราณอัคคีที่ร้อนแรงของซูจ้าวก่อนหน้านี้ยังเทียบไม่ได้แม้แต่น้อย ม่านตาของซูจ้าวเบิกกว้างในทันที แม้พรรคของมันจะใช้วิชาสายอัคคี แต่ก็ไม่สามารถสร้างเปลวเพลิงสีฟ้าที่รุนแรงเช่นนี้ได้ ร่างของมันสั่นสะท้าน

"จะ...จะ...เจ้าเป็นใครกันแน่!!"

ทันทีที่เห็นเปลวเพลิงสีฟ้าที่น่าหวาดหวั่นนี้ ความหวังที่มันจะสังหารเล้งซานพลันสลายลงไปในทันที สิ่งเดียวที่มันคิดตอนนี้คือ ต้องหนีไปให้ได้!! มันไม่เคยเสียดายชีวิตเพื่อพรรคป้อมอัคคี แต่หากสูญเสียขวานทลายสวรรค์ ที่เป็น 1 ใน 3 อาวุธอักขระของพรรคไป แม้แลกกับสิบชีวิตของมันก็นับว่าไม่คุ้มค่า

เล้งซานมิได้ตอบคำถามนั้นแต่อย่างใดมันเพียงแสยะยิ้มเล็กน้อยและทะยานร่างพุ่งเข้าใส่ซูจ้าวในทันที!!

เล้งซานบีบอัดลมปราณอัคคีแห่งมังกรไปที่แขนขวาให้คบกริบอีกครั้ง และโคจรปราณมังกรบรรพตไปพร้อมกัน โดยหวังจะใช้สันฝ่ามือเข้าปะทะขวานทลายสวรรค์โดยตรง!!

ซูจ้าวสะบัดขวานเข้าปะทะสันฝ่ามือของเล้งซานตามที่คาดไว้

เกร้ง!

เสียงที่ดังออกมา ราวกับโลหะกระทบกัน ดวงตาของซูจ้าวเบิกกว้าง มันแทบไม่อยากเชื่อว่าเล้งซานรับขวานทลายสวรรค์ได้ด้วยมือเปล่า!!

เล้งซานแสยะยิ้มเล็กน้อยที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่มันคาดการณ์ มันมิได้ถอนฝ่ามือออกแต่อย่างใด แต่กลับพลิกข้อมือจับคว้าคมมีดของขวานทลายสวรรค์ จากนั้นก็เร่งลมปราณตวัดขาซ้าย เตะเข้าที่ชายโครงของซูจ้าวอย่างจัง!!

ตูม!!

ซูจ้าวกระเด็นไปหลายสิบเมตรดังว่าวสายป่านขาด กลิ้งไถลไปไกลอีกหลายเมตร มันกระอักเลือดคำโตจากอาการบาดเจ็บ แต่สิ่งสร้างความตื่นตะลึงที่สุดของมันคือ ขวานทลายสวรรค์ หายไปจากมือมันแล้ว!!

"บัดซบ!! เจ้าเด็กโง่ เจ้าไม่รู้หรือว่าอาวุธอักขระ จะมีสายสัมพันธ์ผูกขาดกับผู้เป็นเจ้าของเท่านั้น แม้จะอยู่ในมือเจ้ามันย่อมไม่สามารถเปล่งประกายอักขระได้!!"

"มันก็จริงดั่งท่านกล่าวนั่นแหละ อาวุโสซู แต่ถ้าหากท่านตาย ข้าย่อมเป็นเจ้าของมันได้เป็นแน่!!"

เล้งซานเก็บขวานทลายสวรรค์เข้าไปในแหวนมิติของมันทันที ในขณะที่กำลังจะพุ่งไปสังหารซูจ้าว กลับได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นในจิตสำนึก และแน่นอนว่าเจ้าของเสียงนั้นย่อมเป็นเฟรย่า

"เจ้าเด็กโง่ หมดเวลาเล่นแล้ว รีบหนีเดี๋ยวนี่เลย!!"

เล้งซานชะงักเล็กน้อย

"มีอะไร เฟรย่า"

"มีผู้ใช้ลมปราณสายอัคคี ชั้นลมปราณสีเขียวขั้นกลาง 2 คนกำลังมาที่นี่ ตอนนี้คาดว่าคงพ้นประตูเมืองทิศตะวันตกมาแล้ว!!"

"อะไรนะ!!"

เล้งซานถึงกับคิ้วขมวด มันค่อนข้างแน่ใจว่า สองคนที่มาต้องเป็นระดับผู้อาวุโสพรรคป้อมอัคคีเป็นแน่ การต่อสู้ของมันกับซูจ้าวคงใกล้ประตูเมืองเกินไปทำให้ทหารบนกำแพงเมืองสังเกตเห็นได้ แต่อย่างไรซะมันแสดงไพ่ตายให้ซูจ้าวเห็นมากเกินไป มันรีบพุ่งทะยานไปหาซูจ้าวทันที

"ตาย!!"

เล้งซานวาดวงแขนเล็กน้อย หมายใช้สันฝ่ามือตัดคอซูจ้าวในกระบวนท่าเดียว ซูจ้าวหน้าซีดเผือด แต่มีหรือที่มันจะยอมยืนรอรับความตาย มันเค้นพลังลมปราณเฮือกสุดท้ายในร่าง สร้างปราณคุ้มกันโดยมีจุดศูนย์รวมที่แขนขวา และยกขึ้นรับสันฝ่ามือของเล้งซาน

ตูม!!

"บัดซบ!! ไอแก่นี่ยังมีแรงเหลืออีก" เล้งซานเบิกตากว้างเล็กน้อย

แม้ซูจ้าวตั้งรับไว้ได้ แต่มันก็ยังถอยกรูดไปอีก นับสิบก้าว แรงปะทะทำให้มันกระอักเลือดคำโตอีกครั้ง แต่มันกัดฟันและหันหลังทันทีพร้อมทะยานร่างไปทางประตูเมือง มันสัมผัสได้ถึงพลังลมปราณที่คุ้นเคยจากทางนั้น มันจึงยอมเดิมพันทุกอย่างกับสัมผัสนี้

เล้งซานพุ่งตามไปอย่างรวดเร็ว พลางบีบอัดลมปราณทั้งหมดไว้ที่ฝ่ามือทั้งสองข้าง

"เทพพิโรธถล่มฟ้า!!"

พลังมหาศาลระเบิดออกจากฝ่ามือของเล้งซาน พุ่งเข้าใส่ร่างของซูจ้าวในทันที แต่อีกเพียงครึ่งก้าวที่พลังจะสัมผัสร่างของซูจ้าว พลังลมปราณชั้นสีเขียวสองสายพุ่งเข้าปะทะกับเทพพิโรธในทันที!!

ตรึมมมมมมมมมมมมม!!

เสียงดังสนั่นไปทั่วพื้นที่ คลื่นพลังของเทพพิโรธสลายหายไป เมื่อฝุ่นที่คละคลุ้งจางลง เล้งซานเห็น ชายแก่ 2 คนยืนอยู่ด้านหน้าของซูจ้าว คนหนึ่งหน้าดำดูดุดันน่าเกรงขาม อีกหนึ่งผมขาวทั้งหัวไว้เครายาวถึงหน้าอก พลังลมปราณชั้นสีเขียวที่ทั้งคู่แผ่ออกมานั้น แข็งแกร่งกว่าซูจ้าวทั้งคู่

"ผู้อาวุโสหง!!  ผู้อาวุโสเอี้ย!!"

ซูจ้าวกล่าวเรียกชายแก่ทั้งสองด้วยความดีใจ จนแทบจะน้ำตาไหล ชายแก่หน้าดำเหลือบมองซูจ้าว เห็นสภาพที่น่าอนาถ ถึงกับขมวดคิ้ว

"เหตุใดท่านถึงบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ อาวุโสซู ท่านอย่าบอกนะว่า..."

ชายแก่หน้าดำพูดพลางค่อยๆเหลือบตาไปมองที่เล้งซาน มันยิ่งขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม เพราะเด็กหนุ่มตรงหน้ามันเป็นเพียงผู้เยาว์ที่อายุราวๆ 15-16 อีกทั้งพลังลมปราณที่แผ่ออกมานั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นเพียงแค่ชั้นลมปราณสีครามขั้นต้น

"อย่าได้ดูถูกมันเป็นอันขาดผู้อาวุโสหง จริงอยู่ว่าที่ข้ามีสภาพเช่นนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะติดกับดักที่มันวางไว้ และอีกส่วนพลังฝีมือที่แท้จริงของมันอาจเทียบเท่าผู้ใช้ลมปราณสีน้ำเงินขั้นสูง!!"

ซูจ้าวกล่าวพลางเช็ดเลือดที่มุมปาก

"อาวุโสหง ท่านก็เห็นกระบวนท่าเมื่อครู่แล้วมิใช่รึ กระบวนท่านั้นพลังทำลายมหาศาลอย่างมาก หากเป็นท่านหรือข้า ถ้ารับกระบวนท่าเมื่อครู่เพียงคนเดียว อาจบาดเจ็บก็เป็นได้"

ชายแก่ผมขาวพูดพลางเอามือลูบที่เคราตัวเองช้าๆ

เล้งซานยืนพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถอนหายใจและส่ายหน้าเล็กน้อย ตอนนี้มันรู้แก่ใจทันทีว่า หมดโอกาสที่จะสังหารซูจ้าวไปเสียแล้ว มันถลึงตามองไปที่ซูจ้าวอีกครั้ง

"ซูจ้าว!! เจ้าจงจำคำพูดข้าไว้ให้ดี อีก 1 ปีข้าจะกลับมาที่นี่..."

เล้งซานปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างท่วมท้น เปลวเพลิงอัคคีสีฟ้าลุกโชนโบกสะบัดทั่วร่างอย่างน่ากลัว

"เมื่อถึงวันนั้น ข้าจะลบชื่อพรรคป้อมอัคคีออกจากทวีปนี้!!!"

.....................................................

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด