ตอนที่แล้วEP 719 ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEP 721 เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด!

EP 720 รอดจากการลงโทษ!


กำลังโหลดไฟล์

EP 720 รอดจากการลงโทษ!

By loop

ในวันถัดมา.

ช่วงเช้าเวลาสิบโมงกว่าๆ

วันนี้ดูเหมือนจะมีหมอกเต็มไปทั่วท้องฟ้า และอากาศไม่ค่อยดีนัก

ดงซูบินเดินตรวจตราไปในแผนกต่างๆ ของสำนักงานเขตกวางหมิง และดูเหมือนทุกคนในสำนักงานเองก็จะตั้งใจทำงานมาก และดูเหมือนดงซูบินไม่จำเป็นจะต้องกำชับเรื่องานใดๆเป็นกรณีพิเศษเลย มันทำห้ดงซูบินพอที่จะโล่งออกไปได้เล็กน้อย อีกทั้งเรื่องวีดิโอคลิปของเกิงเซียงและหลี่ปิงปิงไม่แพร่กระจายออกไป ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วอีกทั้งมีเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ ได้แก่ดงซูบินและเลขาธิการคณะกรรมการวินัยเขตที่ได้นำเรื่องนี้มาแจ้งและรู้เรื่องราวของเรื่องนี้แล้ว อีกทั้งทุกคนเข้าใจว่านายกเทศมนตรีโยฮวาเป็นคนจัดเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ง ตอนนี้คลื่นลมต่างๆได้สงบลงแล้ว จะไม่มีใครที่จะได้รู้เรื่องนี้เพิ่มอีก

ดงซูบินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจมาก เขาเดินขึ้นบันไดไปที่สำนักงานของเขา

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากทางเดินด้านบน และร่างของเกิงเซียงก็ปรากฎออกมา

ดงซูบินยิ้มและพูดว่า: "วันนี้ว่างอย่างงั้นหรอ?"

เสียงฝีเท้าของเกิงเซียงดังมาก “ผมจะไปเยี่ยมดูสำนักงานข้างล่างสักหน่อยเพื่อดูความคืบหน้าของประชาสัมพันธ์เรื่องแผ่นดินไหว”

“ดูเหมือนคุณเองก็จะจริงจังกับเรื่องนี้เช่นกันนะ.” ดงซูบิน มองไปที่เขา “เย็นนี้พอจะว่างไหม ไปทานข้าวด้วยกันสักหน่อย”

เกิงเซียงเองก็ไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆออกมา: "เหมือนช่วงเย็นผมจะมีธุระนิดหน่อย ดูเหมือนจะไม่ว่าง"

ดงซูบินยิ้มและพูดว่า: "สรุปว่าคือ..."

"...คงไม่ดีกว่าครับ"

ดงซูบินยิ้มออกมาก่อนจะเดินผ่านเกิงเซียงไป

ดูเหมือนทัศนคติของเกิงเซียงที่มีต่อดงซูบินจะเปลี่ยนไป อันที่จริงเขาเข้าใจดงซูบินผิดไปตั้งแต่ต้นแตะถึงอย่างงั้นเรื่องความเข้าใจผิดกันนั้นย่อมเป็นไปได้ระหว่างเจ้านายและลูกน้อง และมันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะใช้เวลาเพียงหนึ่งหรือสองวันในการเคลียร์ปัญหาการไม่ลงลอยกันของทั้งสองฝ่ายแน่นอนดงซูบินเองเขาไม่สนใจว่าใครจะคิดอย่างไรกับเขามานานานแล้ว และไม่สนใจด้วยซ้ำว่าตัวเองจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ขนาดไหน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็คงปล่อยให้ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายและลูกน้องแย่ลงไม่ได้? ดังนั้นทางที่ดีที่สุดในตอนนี้คือการปรับปรุงความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่าย อย่างน้อยก็ทำให้เห็นว่าเขาเองไม่ใช่คนที่คิดแค้นใดๆ ตราบใดที่เกิงโยฮวายังเข้าใจจุดประสงค์ของเขาเพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว นั้นต้องร่วมถึงครอบครัวของเธอด้วย

ในเวลานั้นเหมือนจะมีเสียงดังซุบซิบนินทาดังขึ้นที่สำนักงาน

“เฮ้ยๆ เมื่อวานทันเห็นเลขาซูบินที่ลานจอดรถไหม?”

“เธอไม่รู้เหรอ เมื่อวานฉันเองเห็นกับตาตัวเลย”

“อะไร เมื่อไหร่ เป็นยังไงบ้าง”

“เมื่อวานตอนเที่ยงตรงลานจอดรถ เธอไม่เห็นจริงๆหรอ”

“ฉันได้ยินมาว่า ดูเหมือนว่าเกิงเซียงถึงกับกระชากคอเสื้อของเลขาซูบินเลยนะแต่เลขาซูบินนั้นไม่ตอบโต้อะไรเลย”

“แปลกจัง เลขาซูบินเปลี่ยนเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร นี่ไม่ใช้ไสตล์ของเขาเลย!”

“เฮ้ย แต่ดูเหมือนะจมีเรื่องที่กลัวว่านั้นอีกเมื่อวาน...”

“ว่ากันว่าเมื่อวานนี้ นายกเกิงโยฮวาก็รู้เรื่องที่ลานจอดรถด้วย ฉันไม่รู้ว่าเราจะถูกลงโทษหรือไม่ ดูเหมือนว่าคณะกรรมการตรวจสอบวินัยกำลังสอบสวนอยู่”

ดูเหมือนจะไม่มีพูดถึงเรื่องวิดีโอของเกิงเซียงเลยแม้แต่น้อย

......

ณ สำนักงาน.

เมื่อดงซูบินกลับมา เขาได้โทรศัพน์ทไปหาหวู่เหลียงซึ่งเป็นคณะกรรมการตรวจสอบวินัยของหนานฉาง

“เลขาธิการซูบิน?” หวู่เหลียงพูดอย่างจริงจัง

“พี่หวู่ ผมเอง” ใบหน้าของดงซูบินยิ้มขึ้นมาทันที

“การมองมาที่คุณเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นตอนเที่ยงเมื่อวานนี้ มีคนรายงานเมื่อวานนี้มาที่เรา ดูเหมือนมันจะเป็นเรื่องของรองผู้อำนวยการเกิงเซียงกับคุณสินะ  สถานการณ์ในขณะนั้นเป็นอย่างไร คุณช่วยรายงานให้ฉันทราบโดยละเอียด” ดงซูบินเองเป็นผู้บังคับบัญชาของเกิงเซียงไม่ว่าเรื่องนี้ผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไรก็ตามแต่มันคงไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ดีสักเท่าไร เนื่องจากมีคนรายงานเรื่องนี้ไปแล้ว และมีคนเห็นเหตุการณ์นั้นเป็นจำนวนมาก และคณะกรรมการตรวจสอบวินัยเขตก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อเรื่องนี้ได้ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องภายในของเขตก็ตาม แต่เรื่องนี้ต้องมีการจัดการขั้นเด็ดขาด

เมื่อดงซูบินได้ยินเขาก็ตระหนักว่าเขาไม่สามารถหนีการลงโทษได้

ถึงแม้ว่าเกิงโยฮวาเองจะไม่ได้ติดใจอะไรก็ตามอีกทั้งโทษทางวินัยอาจไม่ได้ร้ายแรงอะไรมากนัก แต่ดงซูบินเองก็ไม่อยากให้เกิดการลงโทษขึ้นอยู่ดี

หลังจากคิดเกี่ยวกับมันดงซูบินก็แสร้งทำเป็นคนโง่ในทันที: "พี่หวู่ คุณเองจะทำอะไรกับเรื่องนี้ดี?"

หวู่เหลียงตะลึงไม่ตอบ “สำหรับเรื่องนี้หรอ?”

“โทษทุกอย่างลงโทษมาที่ผมเลย” ดงซูบินกล่าวว่า: "มันเป็นเพียงความเข้าใจผิดเพียงเท่านั้น ตอนนั้นเรามีปัญหากันเล็กๆน้อยไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร   ถ้าใครเข้าใจผิดก็ต้องชี้แจง ความเห็นในการทำงานของเรามีบ้างแต่ไม่ได้ร้ายแรงอะไร”

หวู่เหลียงกล่าวว่า “ฉันไม่สามารถลงโทษคุณได้จริงๆ?”

"ผมเองตั้งหากที่เป็นคนผิด"

"...ก็ได้ครับ"

หวู่แหลียง ไม่รู้ว่าดงซูบินไปกินยาอะไรผิดมาและมีเรื่องเข้าใจผิดสำหรับคนที่ชื่อดงซูบินด้วยหรอ อีกทั้งเขายังบอกว่าไม่เป็นอะไรอีกตั้งหาก ดังนั้นก็ไม่มีอะไรที่จะต้องสืบหาความจริงอีกแล้ว นอกจากนี้หวู่เหลียงยังเป็นเสนาธิการของฝ่ายนายกเกิงโยฮวา เหตุผลที่เขาต้องการจัดการกับเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดก็ยังเหมือนเดิม การป้องกันอย่างหนึ่งของเขาคือการยุติเรื่องนี้โดยไม่ให้เกิดผลร้ายขึ้นมากับทั้งสองฝ่าย และไม่ทำให้เจ้าหน้าที่คนอื่นๆตะขิตตะขวงใจ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะไม่จำเป็นแล้ว

หวู่เหลียงวางสายในทันทีและ รายงานต่อ เกิงโยฮวา ทันที

ดงซูบินกล่าวว่า “เกิงเซียงเองไม่ได้ติดใจอะไรผมเลย มันเป็นเพียงความเห็นที่แตกต่างกันเล็กน้อยเพียงเท่านั้น”

หวู่เหลียงกล่าวเงียบไปสองวินาที "ฉันเข้าใจแล้ว"

......

ในเวลาเดียวกัน.

ในสำนักงานด้านล่าง

เกิงเซียงกังวลเรื่องว่าจะถูกลงโทษ ถึงแม้เรื่องวีดีโอจะถูกจัดการแล้วโดยพี่สาวของเขาเอง อีกทั้งหลี่ปิงปิงก็กลับไปที่หยานไทแล้ว แต่เรื่องที่เขากระชากคอเสื้อของดงซูบินยังคงอยู่เกิงเซียงก็เข้าใจดีว่าเขาไม่สามารถหลบหนีเรื่องนี้ได้

อย่างไรก็ตาม เขาเองก็ยังกังวลกับเรื่องนี้ไม่หาย

เมื่อวานนี้ พี่สาวของเขาได้ติดต่อเขามาและขอให้เตรียมใจให้พร้อม ใช้เวลาสองสามชั่วโมงกว่าจะผ่านไป ดูเหมือร คณะกรรมการตรวจสอบวินัยยังไม่ได้เรียกหาเขา กว่าจะเลิกงานก็ค่ำแล้ว ดูเหมือนว่าไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้เลย

ไม่มีการลงโทษ?

เรื่องนี้ผ่านไปได้อย่างไร? ?

เกิงเซียงโทรไปที่โทรศัพท์หาเลขาหม่าทันทีซึ่งเป็นเลขาของเกิงโยฮวาถามเกี่ยวกับสถานการณ์

หม่าลี่กระซิบ: "ฉันเองก็ยังไม่ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ดูเหมือนว่าคณะกรรมการวินัยได้สอบสวนมันแล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่พบปัญหาอะไร เรื่องก็น่าจะดี"

ไม่เป็นไร?

ในที่สุดเกิงเซียง ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขารู้สึกว่าพี่สาวของเขาทำงานหนักและคงช่วยเขาอย่างเต็มที่ ท้ายที่สุด พฤติกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อวานก็เป็นเพียงการกระชากคอเสื้อเท่านั้น ไม่มีการกระทำอื่นใด ไม่มีการทำร้ายกัน อาจจะเป็นเหตุผลที่ให้รอดจากการลงโทษในครั้งนี้

หากเป็นเช่นนั้นแสดงว่าเขาก็ไม่ต้องโดนลงโทษ

ทำให้เกิงเซียงดูอารมณ์ดีขึ้นอย่างบอกไม่ถูกเช่นกันและในที่สุดก็ผ่านมันไปได้

แต่เมื่อเขารับทราบว่าสำนักงานเขตกวางหมิงได้รับเงินพิเศษ 1.5 ล้านกองทุนพิเศษสำหรับการฝึกแผ่นดินไหว! เกิงเซียง จำได้ว่าการฝึกซ้อมแผ่นดินไหวเป็นคำขอที่ไร้สาระจากดงซูบิน คาดไม่ถึงว่าทางมณฑลจะยอม! ! .

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด