ตอนที่แล้วตอนที่ 24 แสดงความเคารพต่อศพ(อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 26 เปิดระดับ 2(อ่านฟรี)

ตอนที่ 25 เบิกเงินเดือนล่วงหน้า(อ่านฟรี)


ตอนที่ 25 เบิกเงินเดือนล่วงหน้า

คอนราดมีสีหน้าเคร่งเครียด นั้นก็เพราะว่านอกจากเรื่องการตายของกวินแล้ว เรื่องซอมบี้ที่สำนักงานนั้นยังทำให้เขานอนไม่หลับอีก

“ทำไมถึงเกิดขึ้นที่เดิมอีกครั้ง” คอนราดนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อ 4 ปีก่อน

ตอนนั้นหน่วยนักล่าความตายเป็นเพียงหน่วยที่พึ่งจัดขึ้นมาไม่นาน หลังจากแบ่งเมืองรับผิดชอบกันแล้วคอนราดก็มาประจำที่เมืองเรซี

ในปีนั้นมีภารกิจหนึ่งนั้นก็คือจุดที่เคยตั้งอยู่ของอาคารสำนักงาน มันเคยมีรอยแยกมิติเกิดขึ้นมาก่อนหนึ่งครั้ง

“ตอนนี้มีรอยแยกมิติเกิดซ้ำสองครั้งอีกแล้ว” คอนราดหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบหลังจากหมดมวนสุดท้ายเขาก็ลุกขึ้นและเดินออกจากห้องไปที่ห้องผู้จัดการซีน่อนในทันที

...

คอนราดเคาะประตูสองสามครั้ง ก็มีเสียงตอบกลับมาจากด้านใน

“เข้ามา”

คอนราดเปิดประตูเดินเข้าไปด้านใน ก็เห็นหนูสีขาวตัวหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ มันมองไปที่คอนราดอย่างสงบนิ่ง

“ผู้จัดการซีน่อน”

“หัวหน้าคอนราด คุณเรื่องอะไรหรือเปล่า” หนูสีขาวถามออกมาด้วยเสียงแหลมเล็ก ๆ แม้จะฟังดูแปลกแต่ก็เข้าใจได้

“ผู้จัดการซีน่อน คุณรู้ใช่ไหมว่าช่วงนี้มีบางอย่างผิดปกติ” คอนราดนั่งลงหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบอีกมวนอย่างไม่เกรงใจ

“เรื่องรอยแยกมิติเกิดซ้ำสองใช่ไหม”

“ฟู่...อืม เรื่องนั่นแหละ” คอนราดพ่นควันสีขาวออกมา ก่อจะพยักหน้าโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย

“เรื่องนี้มีเบื้องหลังที่น่ากลัว แต่คุณในฐานะที่เป็นคนเก่าแก่ของหน่วยก็ควรจะได้รู้เรื่องบ้าง”

“เรื่องอะไร” สีหน้าของคอนราดจริงจังขึ้นมาในทันที

แต่เสียงของหนูสีขาวยังคงกล่าวอย่างปกติ “มีคนตั้งใจเปิดรอยแยกมิติ โดยใช้ดวงตามิติเปิดรอยแยกในจุดเดิมที่เคยเกิดขึ้น เพราะรอยแยกที่เคยเกิดขึ้น มิติแถวนั้นจะเปราะบางที่สุด”

“นี่มัน...ใครเป็นคนทำ”

“ยังไม่รู้ แต่ทางสำนักงานใหญ่ก็เฝ้าระวังเรื่องนี้อยู่เหมือนกันดังนั้นจึงสั่งให้มีทีมที่ 5 จัดตั้งขึ้น อีกไม่นานทีมที่ 5 ก็คงจะพร้อมทำภารกิจช่วยพวกคุณ”

“ผู้จัดการซีน่อน คุณไม่รู้จริง ๆ ใช่ไหม” คอนราดถามซ้ำ ตอนนี้บุหรี่ที่มือของคอนราดกำลังเผาใหม่อย่างรวดเร็วเพราะอารมณ์ของเขา

“แน่นอน” ซีน่อนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์

ทั้งสองเงียบอยู่สักพักจนบุหรี่ในมือของคอนราดหมด คอนราดจึงลุกยืนและเดินออกจากห้องไปเหลือเพียงควันบุหรี่ที่ทิ้งไว้ในห้องผู้จัดการซีน่อนเท่านั้น

หนูสีขาวส่ายหัวไปมาก่อนจะพึมพำ “ถ้าข้าบอกเจ้าจะพาตัวเองไปตาย”

...

เรย์กลับมาถึงบ้านช่าง 4 ทุ่มกว่าแล้ว ทั้งสองนั่งรถแท็กซี่กลับมาพร้อมกับโบเวนและพึ่งแยกกันเมื่อสักครู่หลังจากแวะไปส่งโบเวน

หลังจากมาถึงบ้านหลังใหม่ที่เริ่มจะคุ้นเคยมากขึ้น เรย์ก็เปิดประตูเดินเข้าไปในบ้านและเห็นว่าริชาร์ดยังคงจัดการเอกสารอยู่

“กลับมาแล้วครับ” เรย์เข้าไปทักทายริชาร์ดตามปกติ

เมื่อริชาร์ดเห็นเรย์กลัมาก็พยักหน้า ทั้งสองพูดคุยกันอยู่สักพัก ริชาร์ดถามหลายเรื่องกับการทำงานของเรย์ด้วยความเป็นห่วง เรย์ตอบทุกคำถามเท่าที่ทำได้ แต่ก็ไม่ได้เล่าเรื่องของการต่อสู้กับซอมบี้ในวันนี้ให้กับริชาร์ดฟัง

ส่วนหนึ่งเพื่อรักษาสัญญาที่เคยเซ็น เรย์ไม่สามารถพูดเจาะจงให้คนอื่นฟังเรื่องในหน่วยงานนักล่าความตาย

หลังจากพุดคุยกันอยู่สักพักเรย์ก็กลับขึ้นห้องนอนของตัวเอง

เนื่องจากเขาไม่ได้เอาชุดเกราะยุทธวิธีกลับมา จึงมีแต่เพียงกระเป๋าของผู้ใช้เวทมนตร์เท่านั้นที่ติดตัวมาด้วย เรย์บอกกับตัวเองว่าจะไม่ยอมให้กระเป๋าเวทมนตร์ห่างจากตัวเด็ดขาด ของในกระเป๋าก็เหมือนกับเป็นพลังของเขา

ดังนั้นเรย์จึงไม่คิดจะละทิ้งละพลังแน่นอน

หลังจากกลับมาเรย์ก็ไม่ได้พักในทันที เขายังมีเรื่องต้องทำนั้นคือเติมเต็มหน้ากระดาษด้วยคาถาเวทมนตร์

เรย์เปิดหน้าแรกของคาถาออกมา มือของเขาสัมผัสไปที่หน้ากระดาษ แม้ดูจากภายนอกด้วยสายตามันจะไม่มีอะไรเปลี่ยนไป แต่เรย์สัมผัสได้ว่าหน้ากระดาษผสมทองคำบางลงไปหนึ่งในสิบส่วน

“มันบางลงหนึ่งในสิบส่วน นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมหน้ากระดาษผสมทองคำถึงมีขีดจำกัดในการใช้สิบครั้ง”

เรย์เปิดไปที่หน้ากระดาษผสมเงิน ซึ่งก็บางลงหนึ่งในสามเช่นกัน

ตรวจสอบหนังสือเวทมนตร์เสร็จเรย์ก็หยิบขวดเลือดสีขาวออกมาตามด้วยปากกาทองคำ ก่อนจะลงมือสลักคาถาด้วยสีหน้าที่จริงจัง

เรย์ใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมงในการสลักคาถาลงไปในหนังสือเวทมนตร์ ทำให้ตอนนี้เมื่อรวมกับคาถาเก่า ๆ ในหนังสือคาถาบอลเพลิงอยู่ 15 คาถาและคาถาชำระล้างอยู่ 10 คาถา ส่วนอีก 5 หน้าเป็นคาถาบอลแสง

เรย์สลักคาถาลงในหนังสือเวทมนตร์ทั้ง 30 หน้าจนเต็ม การทำแบบนี้ทำให้เรย์นั้นอุ่นในมากกว่า เมื่อจัดการคาถาเสร็จเรย์ก็ตรวจสอบดูเขาเสียเลือดสีขาวไปขวดครึ่ง

เรย์หยิบที่เหลืออีกครั้งขวดขึ้นมาและดื่มมันลงไปเพื่อเติมเต็มพลังงานที่ใช้ไปในวันนี้และช่วงที่เรียนรู้คาถาบอลแสงเมื่อสองสามวันก่อน

จากที่เรย์รู้มานั้น ผู้ใช้พลังไม่สามารถฟื้นพลังด้วยตนเองได้ ผู้มีพลังถ้าใช้พลังที่เก็บไว้ในร่างกายหมด ผู้ใช้พลังก็ต้องดื่มเลือดสีขาวเพื่อเติมเต็มพลังงานในส่วนที่ใช้ไป

ส่วนเหตุผลที่ผู้มีพลังทำไมถึงไม่สามารถฟื้นฟูพลังเองได้นั้น เรื่องนี้พอจะมีข้อมูลอยู่บ้าง ซึ่งอยู่ในเอกสารที่ทางหน่วยแจกมา

ในอีกโลกหนึ่งเคยมีการบันทึกไว้ว่า ผู้มีพลังสามารถดูดซับพลังจากรอบกายได้ แต่พอคนจากโลกนี้ที่เคยข้ามรอยแยกมิติไปกลับไม่เจอสิ่งที่เคยเหตุการณ์แบบที่บันทึกไว้ ทางหน่วยนักล่าความตายคาดการกันว่าเนื่องจากพลังงานที่เป็นเหมือนเลือดสีขาวนั้นเหือดแห้งไปแล้วจากธรรมชาติทั่วไป

วิธีการฟื้นฟูพลังแบบนั้นจึงไร้ผลไปเช่นกัน และโลกใบนี้ก็น่าจะเป็นแบบเดียวกันคือไม่มีพลังงานแบบนั้นอยู่นั้นเอง

หลังจากการกินเลือดสีขาวเข้าไปเรย์ก็ชักนำพลังงานไปเก็บในจุดพลังงาน ซึ่งมันเติมเต็มได้พอดี

เรย์ไม่ได้ดื่มเลือดสีขาวอีก เพราะถ้าทำแบบนั้นจะกลายเป็นการทำให้จุดพลังงานกักเก็บเลือดสีขาวไม่ได้อีกและนั้นจะไปกระตุ้นการเปิดระดับ 2 ได้ ซึ่งตอนนี้เขายังไม่พร้อมที่จะทำ

“ตอนนี้เรายังไม่สามารถทนการเปิดระดับด้วยตนเองได้ ต้องให้หัวหน้าที่เป็นผู้ใช้พลังจิตช่วย แล้วก็ให้โบเวนกับฟาริสช่วยจับอีกแรง” เรย์พึมพำออกมา ขณะที่ทิ้งตัวลงนอนบนเตียง

ตอนนี้เวลาเลยเที่ยงคืนมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว เรย์หลับตานอนในทันที

...

เช้าวันต่อมาเรย์ตื่นขึ้นมาสายมากแล้ว พอลงมาก็เห็นว่ามีอาหารวางไว้อยู่บนโต๊ะสองสามอย่างพร้อมกับจานที่ปิดด้านบนอีกที เรย์เปิดอาหารพวกนั้นออกมันคือซุปเนื้อตุ๋นกับข้าวผัดไข่

เรย์มองอาหารบนโต๊ะและรู้ว่าที่ไม่ใช่ฝีมือของริชาร์ด แต่ถึงแบบนั้นเขาก็กินมันจนหมด ก่อนจะแต่งตัวโบกรถไปที่โรงแรมนักล่า ในวันนี้เงินของเขานั้นร่อยหรอมากพอควร เรย์จึงคิดว่าเขาจะไปเบิกเงินล่วงหน้ากับลุงคอนเนอร์ซะก่อน

เมื่อถึงโรงแรมนักล่าเรย์ก็พูดคุยกับฮอลลี่สองสามประโยคเพื่ออัปเดตข้อมูล ก่อนจะไปที่ชั้นใต้ดิน

“ลุงคอนเนอร์ผมสามารถเบิกเงินเดือนล่วงหน้าได้หรือเปล่า”

ลุงคอนเนอร์ที่กำลังซ่อมอาวุธปืนอยู่นั้นเงยหน้ามองกาย จากนั้นก็ตอบกลับเรย์ว่า “ได้ เป็นการเบิกล่วงหน้า รอเดี๋ยว”

หลังจากหายไปสักพักคอนเนอร์ก็กลับมาที่โต๊ะพร้อมกับซองจดหมายสีขาว นี่คือซองเงินเดือนของเรย์กับการเบิกล่วงหน้า

“ทีมคอนราดถูกยกระดับเป็นทีมระดับเหล็กสามดาวดังนั้นเงินเดือนอยู่ที่สองหมื่นห้าพันเหรียญ”

“สอง..สองหมื่นห้าพันเหรียญ” เรย์มองไปที่ซองเงินเดือน แม้จะรู้ว่าเงินเดือนของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการจะสูงมาก แต่ไม่คิดว่าจะได้เยอะขนาดนี้

ถ้าจำไม่ผิดฮอลลี่เคยบอกว่าเธอที่ทำงานในฐานะเจ้าหน้าที่ทั่วไปได้เงินเดือน เดือนละหนึ่งหมื่นเหรียญเท่านั้น

เรย์ยื่นมือไปรับเงินเดือนมาก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องพักทีม ตอนนี้โบเวนกำลังนอนกรนอยู่ ส่วนฟาริสนั้นจัดการกับปืนเอ็ม1903 สปริงฟิลด์และปืนพกเอ็ม1911เอ1 อยู่ ด้านหน้ามีกระสุนชำระล้างและกระสุนธรรมดาวางเรียงอย่างเป็นระเบียบอยู่บนโต๊ะ

ข้าง ๆ มีเกราะหลายอย่างที่ทำความสะอาดเสร็จแล้วด้วยเช่นกัน

“มาแล้วอย่างนั้นเหรอ”

“สวัสดีครับ รุ่นพี่ฟาริส”

“อืม มาแล้วก็ไปเอาชุดเกราะมาทำความสะอาดก่อนเลย ตอนนี้เลือดน่าจะแห้งแล้วคงล้างยากหน่อย” ฟาริสกล่าว

เรย์พยักหน้าอย่างเข้าใน ก่อนจะเดินไปหยิบชุดเกราะยุทธวิธีออกมา มันมีคราบเลือดติดอยู่แถวกางเกง นี่คือเลือดของหญิงสาวที่กำลังกลายเป็นซอมบี้และเรย์สับหัวไป

พอเห็นคราบแห้งติดแล้ว เรย์มองนิ่งไปที่มันก่อนจะเข้าไปในห้องน้ำจัดการทำความสะอาดชุดเกราะ ชุดเกราะยุทธวิธีนี้คือชุดระดับสูง

ดังนั้นพอพวกคราบเลือดแห้งแล้วก็แค่ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด ๆ คาบพวกนั้นก็ลอกหลุดอย่างง่ายดาย อีกทั้งพุ่งลมไม่นานก็ไม่มีกลิ่นอับชื้นอีก

เกราะที่ใส่ไปเพียงครั้งเดียวของเรย์พอทำความสะอาดแล้วก็กลับมาเหมือนใหม่อีกครั้ง

“วันนี้นายพร้อมที่จะเปิดระดับ 2 แล้วใช่ไหม”

“ใช่ครับ”

“มีเลือดสีขาวพอแล้วใช่ไหม ระดับ 2 นั้นน่าจะใช้เลือดสีขาวประมาณ 8-10 ขวด และระดับ 1 ของนายต้องมั่นคงแล้วใช่ไหม”

“ผมมีเลือดสีขาวพอที่จะใช้เลือนระดับแล้ว ส่วนระดับแรกของผู้ใช้เวทมนต์สามารถทำให้มั่นคงได้ง่ายกว่าผู้ใช้พลังอื่น ๆ ดังนั้นมันมั่นคงแล้ว”

ที่เรย์พูดมานั้นคือเรื่องจริง เพราะผู้ใช้เวทมนตร์นั้นจะทำให้ระดับแรกมั่นคงได้เร็วกว่าผู้ใช้พลังประเภทอื่น ๆ ที่จริงแล้วมันจะมั่นคงตั้งแต่ที่พวกเขาสามารถสลักอักษรเวทมนตร์ลงในจุดพลังงานแล้ว

และการสลักอักษรเวทมนตร์ของผู้ใช้พลังเวทมนตร์นี่แหละก็คือเหตุผลที่จุดพลังงานของพวกเขามั่นคงได้อย่างรวดเร็ว

“นายไปเตรียมของเถอะเดียวหัวหน้ามาเราจะได้เริ่มกัน” ฟาริสบอกกับเรย์และหันไปจัดการกับสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าต่อ

เรย์หาเก้าอี้เชือกและของอย่างอื่นมาตั้งอยู่กลางห้อง เขาหยิบขวดเลือดสีขาวออกมาด้วยมีทั้งหมด 15 ขวด ซึ่งมีทั้งเลือดสีขาวสิบขวดนั้นได้มาจากหัวหน้าไดร่าและอีกห้านั้นได้รับมาเมื่อวานนี้

เรย์วางมันไปข้างหน้าเก้าอี้ก่อนจะนั่งลงและเริ่มสงบสติตัวเอง

หลังจากรอไม่นานหัวหน้าคอนราดก็กลับมาพร้อมกับข่าวเรื่องหน่วยถูกยกระดับเป็นระดับเหล็ก 3 ดาว

“เหล็กสามดาว!” โบเวนที่พอได้ยินว่าเหล็กสามดาวก็ตื่นและดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอนในทันที

“บัดซบ! นายเบาเสียงหน่อยไม่ได้หรือไง ตอนนี้เรย์กำลังตั้งสมาธิอยู่...” ฟาริสตวาดโบเวน

“เออ...ขอโทษที” โบเวนขอโทษอย่างสำนึกผิด เพราะรู้ว่าตัวเองทำผิดจริง ๆ

“ไม่เป็นไร พอดีผมยังไม่ได้เริ่มอะไร” เรย์กล่าว

คอนราดมองไปที่ของที่ตอนนี้เรย์เตรียมพร้อมไว้แล้วก็กล่าว “ถ้าเตรียมแล้วก็มาเริ่มกันเถอะ”

เรย์พยักหน้าอย่างเห็นด้วย ตอนนี้เขาคิดว่าตัวเองน่าจะพร้อมแล้ว

“ไหน ๆ ก็ตื่นแล้ว ถ้าอย่างนั้นนายเป็นคนไปจับเรย์ไว้เลย” ฟาริสบอกกับโบเวน

โบเวนเดินไปข้างหลังของเรย์ ส่วนฟาริสหยิบเชือกมาเตรียมไว้ ทุกคนจับจ้องเรย์อย่างเฝ้ารอโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา

เรย์หยิบขวดเลือดสีขาวขึ้นมาทีเดียว 5 ขวด จากนั้นก็เปิดปากขวดดื่มเลือดสีขาวไปในครั้งเดียว และก็หยิบออกมาอีก 5 ขวดดื่มไปอีกครั้ง นั้นเท่ากับเรย์ดื่มเลือดสีขาวไปแล้วสิบขวด

“มัดเลย” เรย์พูดจบฟาริสก็ใช้เลือกมัดตัวของเรย์ติดกับเก้าอี้ในทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด