Sign in Buddha's palm 331 กลับคืนต้นกำเนิด (ฟรี)
Sign in Buddha's palm 331 กลับคืนต้นกำเนิด (ฟรี)
สระสายฟ้าโบราณนั้นน่ากลัวยิ่ง
แม้ว่าจะมีขนาดเพียงไม่กี่เมตร แต่'น้ำในสระ'ที่กระเพื่อมอยู่นั้นก็คือสายฟ้าที่ถูกควบแน่นสุดขั้วจนกลายเป็นของเหลว!
ช่างน่าเหลือเชื่ออะไรเช่นนี้?
สายฟ้าไม่ใช่สิ่งที่จับต้องได้ ผสานเข้าหากันไม่ได้ แม้จะเป็นสายฟ้าธรรมดาๆ ก็ตาม หากต้องการบีบอัดจนเป็นของเหลว เซียนเทพปฐพีวิถีสายฟ้าธรรมดาๆ ไม่สามารถทำได้ ไม่ต้องกล่าวถึงของเหลวสายฟ้าภายในสระสายฟ้าโบราณในตอนนี้ที่อย่างน้อยๆ ก็เป็นระดับเดียวกับสายฟ้าสวรรค์เก้าชั้นฟ้า
“ไม่เลว”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูฉิน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาพอใจอย่างมาก
แม้ว่าสระสายฟ้าโบราณจะไม่ใช่สมบัติล้ำค่าศักดิ์สิทธิ์ แต่มันก็เหนือล้ำกว่าสมบัติล้ำค่าธรรมดาอย่างแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงสิ่งอื่น เพียงแค่ 'น้ำในสระ' ก็ไม่รู้ว่าควบแน่นสายฟ้าเข้าไปมากมายแค่ไหน หากเซียนเทพปฐพีวิถีสายฟ้าได้รับมันไป ด้วยความช่วยเหลือจาก'น้ำในสระ' คงจะใช้เวลาแค่ไม่กี่ร้อยปีในการเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีขั้นสถิตเทพระดับสูงสุดโดยตรง
นอกจากนี้ วัสดุที่ใช้สร้างตัวสระสายฟ้าโบราณเองก็มีความลึกลับอย่างยิ่ง ด้วยเส้นสายที่อธิบายไม่ได้ปกคลุมอยู่จางๆ มันราวกับมีค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่ถูกตราเอาไว้บนนั้น
ในความเป็นจริง เมื่อเทียบกับ 'น้ำในสระ' ซูฉินให้ค่ากับตัวสระสายฟ้าเสียมากกว่า ท้ายที่สุดมันเป็นไปไม่ได้ที่จะบรรจุของเหลวสายฟ้าจำนวนมากไว้ในที่เดียวกันแบบนี้ แม้จะเป็นสมบัติล้ำค่าของผู้ทรงพลังถึงขีดสุดก็ตาม
“ในช่วงเวลานี้ หากพอจะมีเวลา ก็สามารถใช้ของเหลวสายฟ้าภายในสระเพื่อฝึกฝนห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าได้......”
ซูฉินคิดตัดสินใจ
ช่วงยี่สิบสามสิบปีที่แล้ว ซูฉินฝึกฝนห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าอย่างเต็มที่ อาบร่างกายด้วยสายฟ้าต่างน้ำ หลอมกายาด้วยพลังจากสายฟ้าที่น่าสะพรึงกลัว
อย่างไรก็ตาม ในภายหลังเขายังได้รับกิ่งไม้อสนีบาตภัย และสมบัติธาตุสายฟ้าอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้ห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าสามารถยกระดับจนเกินขีดจำกัดไปได้อย่างต่อเนื่อง จนถึงตอนนี้ แม้แต่ซูฉินเองก็ไม่รู้ว่าห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าจะไปถึงระดับใด
สิ่งที่ซูฉินรู้ก็คือแม้แต่สายฟ้าสวรรค์เก้าชั้นฟ้าในตำนานที่มีเพียงเซียนเทพปฐพีขั้นกลับคืนต้นกำเนิดในวิถีสายฟ้าเท่านั้นที่ควบคุมได้ ก็ยังทำร้ายเขาไม่ได้เลย
นี่ไม่ได้หมายความว่าซูฉินนั้นเหนือกว่าขั้นกลับคืนต้นกำเนิดไปมาก แต่ร่างกายของเขาสามารถต้านทานสายฟ้าจำนวนมากได้ ทั้งยังมี'ภูมิคุ้มกัน'ต่อพลังสายฟ้าอยู่ในระดับหนึ่ง
“อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการพัฒนาต่อไปอีกขั้น ก้าวเข้าสู่ขั้นกลับคืนต้นกำเนิด”
ซูฉินหันมองกลับมาอย่างกะทันหัน คิดอย่างรวดเร็วภายในใจ
ขอบเขตเซียนเทพปฐพีแบ่งออกเป็นสามขั้น แบ่งจิต กลับคืนต้นกำเนิด และสถิตเทพซึ่งเป็นขั้นสุดท้าย
แม้ว่าช่องว่างระหว่างขั้นจะไม่ได้ห่างไกลกันเหมือนก้าวจากขอบเขตตำนานยุทธขึ้นมาเป็นเซียนเทพปฐพี แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะก้าวข้ามไปได้ง่ายๆ
ซูฉินสามารถปราบเหลยเฉียนจือได้ด้วยมือเปล่า นอกเหนือจากไพ่ลับในมือที่แข็งแกร่งแล้ว อีกเหตุผลก็เป็นเพราะซูฉินมีฐานการบ่มเพาะสูงกว่าเหลยเฉียนจือไปมาก
ขณะที่เหลยเฉียนจือบุกเข้าเมืองฉางอันมา เขาเพิ่งเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี เพิ่งก้าวเข้าสู่ขั้นแบ่งจิต และซูฉินในตอนนั้นอยู่ในจุดสูงสุดของขั้นแบ่งจิตแล้ว โดยที่ไม่ต้องคำนึงถึงความแข็งแกร่ง แค่ความห่างชั้นของฐานการบ่มเพาะก็มากอย่างยิ่ง
“หากต้องการจะเข้าสู่ขั้นกลับคืนต้นกำเนิด สิ่งแรกที่ต้องทำคือรวบรวมความแข็งแกร่งทั้งหมดให้กลายเป็นหนึ่งเดียว......”
ความคิดของซูฉินผันผวน
ในตอนที่เขาเดินไปรอบเกาะเทพเจ้าสายฟ้า ก็ได้เปิดหนังสือโบราณจำนวนมหาศาลซึ่งนิกายเทพเจ้าสายฟ้ารวบรวมเอาไว้มาอ่านดู หนังสือโบราณเหล่านี้หาใช่มีเพียงแค่เคล็ดวิชาต่างๆ ที่สืบทอดต่อมาในนิกายเทพเจ้าสายฟ้าเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการฝึกฝนวิทยายุทธที่สืบทอดต่อมาจากยุคเฟื่องฟูกระแสปราณฉีด้วย
ในยุคกระแสปราณฉีเฟื่องฟู มีผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วน แม้เซียนเทพปฐพีจะมีพลังอำนาจ แต่พวกเขาก็มีอยู่อย่างมากมาย ทั้งยังมีผู้ทรงพลังถึงขีดสุดซึ่งอยู่ในขอบเขตทลายนภากาศอีก
หนังสือโบราณที่สืบทอดต่อมาตั้งแต่ยุคกระแสปราณฉีเฟื่องฟูนี้ทำให้ซูฉินพึงพอใจอย่างมาก
“กลับคืนต้นกำเนิด กลับคืนต้นกำเนิดคือสิ่งใด?”
“พลังทั้งหมดรวมอยู่ในที่เดียว ทั้งพลังจิตวิญญาณแรกกำเนิด พลังของปราณเลือด แม้กระทั่งพลังของอาณาเขต......”
ความคิดของซูฉินผันแปรไป จมเข้าไปอยู่ในความคิด
แม้คำพูดจะฟังดูง่าย อย่างการรวมพลังทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียวได้ก็สามารถเข้าสู่ขั้นกลับคืนต้นกำเนิด แต่หากต้องการจะทำจริงๆ ก็นับได้ว่าเป็นเรื่องยาก
พลังของจิตวิญญาณแรกกำเนิดและพลังของกายเนื้อเป็นพลังที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การรวมพลังทั้งสองเข้าด้วยกัน เท่ากับเป็นการรวมน้ำเข้ากับไฟ
แน่นอนว่า การรวมพลังของขั้นกลับคืนต้นกำเนิด จริงๆ แล้วไม่ได้เป็นการผสานรวมกัน แต่เป็นการที่พลังต่างๆ คอยเสริมส่งซึ่งกันและกัน สร้างพลังใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าเดิมขึ้นมา
“คงต้องลองดูก่อน”
ซูฉินค่อยๆ ปิดเปลือกตาลง พินิจภายในร่าง พลังของจิตวิญญาณแรกกำเนิดเข้ามาบรรจบ และในขณะเดียวกันพลังปราณเลือดก็โผล่ขึ้นด้านในร่างกาย
ด้วยการควบคุมของซูฉิน พลังทั้งสองค่อยๆ รวมเข้าด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาขณะที่จิตวิญญาณแรกกำเนิดและปราณเลือดสัมผัสกัน พวกมันก็เริ่มระเหิดอย่างรุนแรง ราวกับน้ำถูกไฟเผาจนเดือด
“ไม่ไหว”
“เป็นไปไม่ได้เลยที่จะรวมจิตวิญญาณแรกกำเนิดกับปราณเลือดเข้าด้วยกัน” หลังจากพยายามหลายต่อหลายครั้ง ซูฉินก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับขมวดคิ้ว
เหมือนกับที่เขาได้คาดเดาไปในตอนแรก ปราณชีวิตและเลือดเนื้อนั้นแตกต่างจากจิตวิญญาณแรกกำเนิดโดยสิ้นเชิง ซึ่งปกติแล้วต่อให้เป็นพลังที่ตรงข้ามกัน หากอยู่ภายในร่างกายของซูฉินก็เหมือนกับน้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลอง ไม่ควรจะมีอะไรเกิดขึ้น
แต่ตอนนี้ซูฉินต้องการบังคับให้พวกมันเข้ามาอยู่ในที่เดียวกันย่อมเกิดปัญหา แม้ว่าทั้งสองจะมีต้นกำเนิดเดียวกันก็ตาม แต่มันย่อมต่อต้านกันเป็นธรรมดา
หากซูฉินยังคงฝืนบังคับต่อไป ผลคือพลังทั้งสองจะระเหยหายไป และในที่สุดความแข็งแกร่งของซูฉินจะถดถอยลง
“มันต้องมีวิธีอื่น”
เห็นได้ชัดว่าซูฉินไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด กำลังคิดต่อไปอย่างใจเย็น
เนื่องจากมีผู้ฝึกยุทธที่ก้าวเข้าสู่ขั้นกลับคืนต้นกำเนิดได้ในยุคเฟื่องฟูกระแสปราณฉีครั้งล่าสุด เขาก็ต้องทำได้เช่นกัน เพียงแต่ว่าอาจจะละเลยรายละเอียดบางอย่างไป
“หากแค่การรวมพลังของปราณเลือดเข้ากับพลังจากจิตวิญญาณแรกกำเนิดเป็นเรื่องยากจนแทบจะเป็นไปไม่ได้ แล้วถ้าเราเพิ่มพลังของอาณาเขตเข้าไปล่ะ?”
ดวงตาของซูฉินเป็นประกายระยิบระยับ พลังของอาณาเขตไม่ใช่พลังของจิตวิญญาณแรกกำเนิด ทั้งยังไม่ใช่พลังจากกายเนื้ออย่างปราณเลือดด้วย มันเป็นพลังอีกประเภทโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะพลังของอาณาเขตขนาดใหญ่มีความสามารถครอบคลุมระยะทางหลายร้อยลี้ ภายในอาณาเขตนี้ซูฉินมีอำนาจเหนือทุกอย่าง เข้าใจพลังภายในโลกหล้าได้อย่างง่ายดาย
“หากพลังของอาณาเขตสามารถประนีประนอมทั้งพลังของปราณเลือดและพลังจากจิตวิญญาณแรกกำเนิดได้ มันก็เท่ากับเป็นการทำให้พลังของทั้งสามกลับคืนสู่จุดแรกกำเนิดได้ในเวลาเดียวกัน......”
ยิ่งซูฉินคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าวิธีนี้เป็นไปได้ นอกเหนือจากพลังของอาณาเขตแล้ว ซูฉินก็นึกถึงวิธีการอื่นที่สามารถบังคับให้จิตวิญญาณแรกกำเนิดและปราณเลือดกลับคืนสู่ต้นกำเนิดไม่ออก
…...
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ
หนึ่งปีผ่านไปภายในพริบตา
ในหนึ่งปีนี้ซูฉินหมกมุ่นอยู่แต่กับการเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีขั้นกลับคืนต้นกำเนิด ขอบเขตเซียนเทพปฐพีนั้นมีอายุยืนยาวกว่าพันปี และซูฉินนั้นมีอายุขัยถึงสองพันปีซึ่งนี่ยังไม่นับ'ผลท้อป้าน'ที่เก็บเอาไว้อีก หนึ่งปีสำหรับซูฉินจึงไม่ได้มีค่าอะไรเลย เป็นเพียงแค่ช่วงกะพริบตาเท่านั้น
และในขณะที่ซูฉินพยายามทะลวงคอขวด เข้าสู่ขั้นกลับคืนต้นกำเนิด
บนยอดเขาคุนหลุน จู่ๆ ก็มีร่างห้าร่างปรากฏขึ้น ร่างทั้งห้านี้เหินลงมาจากฟ้า กลิ่นอายของพวกเขาเชื่อมโยงกับทะเลปราณอันกว้างใหญ่ในส่วนลึกของความว่างเปล่า พวกเขาทั้งห้าคือกลุ่มคนที่ออกมาจากประตูเซียน
“มันคือที่นี่แหละ”
“ข้าได้ใช้วิธีลับจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในการค้นหา และสถานที่ที่วิหารการสงครามปรากฏขึ้นครั้งสุดท้ายก็อยู่ที่นี่”
ในบรรดาคนทั้งห้า เด็กหนุ่มในกลุ่มก็มองผ่านความว่างเปล่า มีความกระตือรือร้นฉายออกมาผ่านสีหน้าของเขา
…
…