ตอนที่แล้วตอนที่5 หมอดูผู้น่าสงสาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 7 เริ่มต้นมิตรภาพ

ตอนที่ 6 อายุยืนยาว


หลังจากโยนก้อนหินก้อนสุดท้ายแล้ว ลมเย็นสบายก็พัดผ่านมา และความร้อนภายในร่างกายของหลินชิงหยินก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง:

“หนูจะเรียกคุณป้าว่าอะไรดี?”

ป้าตอบทันที:

“นามสกุลของฉันคือเฉิน ชื่อเต็มของฉันคือเฉินหยุนชุน และลูกสาวของฉันชื่อหลี่หมิงหมิง”

หลินชิงหยินพยักหน้ารับทราบและกล่าวว่า:

“ดูจากวันเดือนปีเกิดของลูกสาวคุณป้าเฉินแล้ว พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอไม่ได้อยู่ด้วยกัน แล้วคุณป้ากำลังตามหาบิดาผู้ให้กำเนิดหรือมารดาผู้ให้กำเนิดของเธอล่ะ?”

ป้าเฉินอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วถอนหายใจออกมาด้วยความหนักใจก่อนที่จะพูดว่า:

“ตามหาแม่ของเธอ”

จากนั้นหลินชิงหยินหลับตาลงและนึกถึงใบหน้าของหลี่หมิงหมิง และเมื่อผ่านไปครู่หนึ่งเธอลืมตาขึ้นพร้อมกับกล่าวว่า:

“ในวันเกิดปีที่สามสิบของลูกสาวคุณป้า เธอมีชะตากรรมที่จะได้พบกับแม่ผู้ให้กำเนิดของตัวเอง”

ป้าเฉินยืนขึ้นด้วยความตื่นตระหนกในขณะที่ริมฝีปากของเธอสั่นด้วยความตื่นเต้น:

“อาจารย์พูดจริงหรือ? วันมะรืนนี้เป็นวันเกิดครบรอบสามสิบปีของลูกสาวป้า!”

อาจารย์หวังจำได้ว่าผู้หญิงในรูปนั้นดูเหมือนนักศึกษาวิทยาลัยเขาจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า

“ลูกสาวของคุณป้าอายุจะสามสิบปีแล้วเหรอ? เธอยังดูเหมือนนักศึกษาอยู่เลยเนอะ!”

ประโยคนี้ทำให้ความเป็นปรปักษ์ของป้าเฉินที่มีต่ออาจารย์หวังสงบลงและเธอก็อดไม่ได้ที่จะยกย่องเขาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนมากกว่าเดิมว่า:

“แม้ว่าทักษะการทำนายดวงของคุณจะแย่มาก แต่ปากของคุณก็นับว่าใช้ได้ ในอนาคตหาการงานที่มั่นคงทำ แล้วอย่าไปหลอกลวงคนอื่นอีกล่ะ”

อาจารย์หวังใช้นิ้วชี้แตะที่จมูกของเขา และพยายามชักนำหัวข้อสนทนากลับไปที่หลี่หมิงหมิง:

“ป้าเฉินผมไม่ใช่คนหลอกลวงอย่างที่คุณป้าเข้าใจนะ แล้วคุณป้ากำลังตามหาแม่ผู้ให้กำเนิดของลูกสาวจริง ๆ หรือ?”

เมื่อป้าเฉินได้ยินดังนั้น เธอก็หดตัวลงทันทีเหมือนลูกโป่งที่ถูกปล่อยลมออก

“ลูกสาวของฉันไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย เมื่อสามสิบปีก่อนลูกสาวและลูกชายตัวน้อยที่ฉันให้กำเนิดเสียชีวิตเมื่อพวกเขาอายุประมาณสามขวบ

ตอนนั้นฉันเสียใจและร้องไห้ทุกวัน และฉันยังทำใจไม่ได้แม้จะผ่านไปครึ่งปีแล้วก็ตาม

ถ้าฉันไม่มีแม่แก่ ๆ ที่ต้องเลี้ยงดู ฉันคงกระโดดแม่น้ำฆ่าตัวตายไปแล้ว

แต่วันหนึ่งเมื่อฉันตื่นขึ้นมาในตอนเช้า อยู่ดี ๆ ก็ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้อยู่ข้างนอก ตอนนั้นคิดว่าหูคงจะฝาดไป แต่เมื่อเปิดประตูออกไปก็เห็นทารกนอนอยู่ในผ้าห่อตัวและมีบันทึกวันเดือนปีเกิดของเด็กน้อยคนนั้นด้วย"

ป้าเฉินยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาจากมุมตาของตัวเอง จากนั้นเธอกล่าวต่อไปว่า:

“บ้านของฉันอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟและโรงพยาบาลมากนัก แต่เราไม่พบว่าใครมาวางเด็กเอาไว้ที่ประตู

เราจึงไปที่สถานีตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้ จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม

ฉันและสามีเสียลูกสองคนไป หมิงหมิงเป็นเสมือนการทดแทนที่พระเจ้าประทานให้กับเรา เราสองสามีภรรยาปฏิบัติกับเธอเหมือนดั่งแก้วตาดวงใจและดูแลเธอเป็นอย่างดีจนกระทั่งเธอเติบโต”

เมื่อนึกถึงลูกสาวที่น่ารักของเธอ ป้าเฉินก็มีรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าโดยไม่รู้ตัว:

“ลูกสาวของฉันมุ่งมั่นเพื่อความสำเร็จอยู่เสมอ ดังนั้นผลการสอบของเธอจึงออกมาดีทุกครั้ง

แต่เพราะเราสองสามีภรรยามีฐานะปานกลางเราจึงอาศัยอยู่นอกเมืองโชคดีที่ใช้เวลาไม่นานเธอก็ได้พบกับลูกเขยของฉัน

พวกเขารักกันมากและให้กำเนิดฝาแฝดชายหญิงคู่หนึ่งเมื่อไม่นานมานี้”

อาจารย์หวังจำได้ว่า เมื่อครู่หลินชิงหยินได้ทำนายเรื่องหลานคู่แฝดชายหญิงไปแล้ว เขาจึงจ้องมองหลินชิงหยินด้วยสายตาแห่งความเลื่อมใส

วันนี้เขาได้พบกับปรมาจารย์ด้านการทำนายโชคชะตาตัวจริงแล้วหรือ? อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญคนนี้ก็ยังมีอายุน้อยเกินไปอยู่ดี!

“คุณป้า ถ้าคุณอยู่กับลูกสาวอย่างมีความสุขแล้ว ทำไมถึงต้องตามหาแม่ผู้ให้กำเนิดของเธออีก?”

พ่อค้าเร่ที่ยืนอยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะถามและกล่าวต่อไปว่า:

“จากประสบการณ์หลายปีที่ดูละครโทรทัศน์มา ไม่ว่าพวกเขาจะมีเหตุผลอะไรในตอนแรกเมื่อพวกเขาทิ้งลูกไป นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่ต้องการเด็กคนนั้นแล้ว

โดยทั่วไปแล้วการเริ่มออกตามหาใครสักคนอาจจะเพื่อขอเงินหรือต้องการผลประโยชน์อะไรสักอย่าง และพ่อแม่แบบนี้ไม่ได้รักลูกอย่างจริงใจหรอก”

ป้าเฉินถอนหายใจขณะที่สีหน้าของเธอค่อนข้างเศร้าเสียใจ

ในที่สุดความสามารถในการสังเกตของอาจารย์หวังก็มีประโยชน์หลังจากเห็นภาพนี้

เขาก้าวมาข้างหน้าทันทีสองก้าวและนั่งยอง ๆ ลงด้านข้างป้าเฉิน:

“คุณป้า คุณมีความทุกข์อยู่ในใจหรือ?”

ป้าเฉินยิ้มอย่างขมขื่นและยกมือขึ้นแตะที่บริเวณลำคอของตัวเองพร้อมกับกล่าวว่า:

“ผลการตรวจร่างกายของฉันออกมาเมื่อวานเมื่อเอง ฉันมีปัญหาด้านสุขภาพ ดังนั้นจึงวางแผนว่าจะไปโรงพยาบาลหลังจากวันเกิดครบรอบสามสิบปีของลูกสาวฉัน”

เธอถอนหายใจออกมาและดูเศร้าสร้อยเล็กน้อย:

“ฉันไม่อยากให้ลูกสาวของฉันไม่มีแม่อยู่ข้าง ๆ เธอ ฉันแน่ใจว่าเธอจะทนไม่ได้”

อาจารย์หวังและพ่อค้าหาบเร่หายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่มองหน้ากันและไม่กล้าพูดอะไร และดูเหมือนพวกเขากลัวว่าจะเป็นการกระตุ้นให้ป้าเฉินร้องไห้

ทันใดนั้นหลินชิงหยินได้กล่าวขึ้นมาว่า :

“ใครบอกว่าคุณป้าจะป่วยตาย ใบหน้าของคุณบ่งบอกว่า คุณจะมีชีวิตที่ยืนยาวและปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ!

ป้าเฉินไม่สามารถประมวลผลของคำกล่าวเหล่านั้นที่ตนเองได้ยินได้

“อาจารย์หมายถึงอะไร?”

“ปีนี้คุณป้ามีปัญหาสุขภาพเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น คุณป้ายังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองอยู่”

หลินชิงหยินยืนขึ้นและหยิบกระดาษแผ่นนึงออกมาจากกระเป๋าเป้ของเธอ จากนั้นได้กล่าวว่า:

“คุณเป็นลูกค้ารายแรกของหนูตั้งแต่หนูเริ่มมีอาชีพหมอดู ดังนั้นหนูจะให้แผนภาพนี้กับคุณ...ลาก่อน!”

ป้าเฉินจ้องมองไปที่หลินชิงหยิน ผู้ซึ่งกำลังจะจากไปและคว้าตัวอาจารย์หวังเข้ามาใกล้ตัว:

“อาจารย์หมายความว่ายังไง?”

อาจารย์หวังมองไปที่ป้าเฉินอย่างมีความสุข:

“อาจารย์น้อยตั้งใจที่จะบอกว่า ความเจ็บป่วยของคุณจะไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิต ดังนั้นอย่ากังวลไป”

ป้าเฉินยิ้มอย่างประหลาดใจและกล่าวว่า

“สิ่งที่อาจารย์พูดเป็นความจริงหรือ?”

“มันต้องเป็นเรื่องจริงสิ!”

อาจารย์หวังยิ้มอยู่นานและทันใดนั้นได้กล่าวว่า:

“ถูกต้อง คุณป้าเมื่อกี้อาจารย์บอกว่าแม่ผู้ที่ให้กำเนิดลูกสาวของคุณจะมาที่บ้านคุณ คุณต้องเตรียมตัวล่วงหน้าแล้วล่ะ”

ป้าเฉินตบไหล่อาจารย์หวังด้วยความสนิทสนมและกล่าวว่า:

“อย่าคิดว่าทุกคนจะเลวร้าย และอย่าคิดว่าฉันโง่ขนาดนั้น

ถ้าเธอมาดีฉันจะต้อนรับเธอ แต่ถ้าเธอต้องการมารีดไถเงินจากลูกสาว ฉันจะเอาไม้กวาดไล่เธอออกจากบ้านไปให้พ้น!”

ป้าเฉินกล่าวและหยิบเงินสามร้อยเหรียญออกมาจากกระเป๋าเงินแล้วยัดใส่มือของอาจารย์หวังพร้อมกับกล่าวว่า:

“ฉันไม่รู้ว่าบาดแผลที่หน้าผากของคุณร้ายแรงหรือเปล่า คิดเสียว่านี่เป็นการชดเชยค่ารักษาพยาบาลให้คุณ รีบไปฉีดยาป้องกันบาดทะยักที่โรงพยาบาล และฉันขอโทษด้วยที่ทำให้คุณต้องบาดเจ็บ”

อาจารย์หวังรับเงินอย่างมีความสุขและกล่าวว่า:

“ขอบคุณครับป้า! หลังจากวันเกิดลูกสาวแล้ว ช่วยกลับมาเล่าผลลัพธ์ให้ผมฟังบ้างนะ!”

ป้าเฉินมองเขาด้วยความหงุดหงิดและตะคอกว่า:

“คุณมันเป็นคนชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน! แต่มั่นใจได้เลยว่า ถ้าสองสิ่งนี้เป็นจริง ฉันจะนำของขวัญไปให้อาจารย์น้อยเพื่อขอบคุณเธอ!”

ป้าเฉินกล่าวขณะที่ยืนถือกระเป๋าของตนเอง และหลังจากก้าวไปได้เพียงแค่สองก้าวเธอก็เงยหน้าขึ้นมองดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าพร้อมกับบ่นพึมพำกับตัวเองว่า:

“เมื่อครู่นี้ยังรู้สึกเย็นสบายอยู่เลย ทำไมมันถึงร้อนขึ้นมากะทันหันอย่างนี้”

อาจารย์หวังใช้โอกาสนี้นั่งลงบนตำแหน่งของป้าเฉิน จากนั้นได้มองไปรอบ ๆ ตัวเขาด้วยความสงสัย:

“ทำไมตรงนี้ถึงได้เย็นกว่าที่อื่น?”