ตอนที่แล้ว338 - ที่พำนักของจักรพรรดิเหิงหยู
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป340 - ความขัดแย้งจากของวิเศษ 2

339 - ความขัดแย้งที่เกิดจากของวิเศษ


กำลังโหลดไฟล์

339 - ความขัดแย้งที่เกิดจากของวิเศษ

หลังจากที่เย่ฟ่านเดินเข้าไปใกล้ๆเขาก็พบว่ามันเป็นหินต้นกำเนิดสีดำก้อนหนึ่ง

ในดินแดนแห่งนี้เนื่องจากอยู่ใกล้เหมืองโบราณต้นกำเนิดเป็นอย่างมาก ดังนั้นหินต้นกำเนิดจึงสามารถพบเห็นได้บ่อยครั้ง หากไม่มีความรู้เรื่องการค้นหาหินต้นกำเนิดมันเป็นไปไม่ได้ที่จะค้นพบของวิเศษที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน

เย่ฟ่านเดินเข้าไปและต้องการหยิบหินสีดำขึ้นมา แต่เมื่อมือของเขายกหินก้อนนั้นขึ้น ในฉับพลันก็ดูเหมือนว่ามันจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างมากมายมหาศาลและตกกระแทกพื้นอย่างรุนแรง!

ปัง!

ห้องโถงขนาดใหญ่สั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหว หินเล็กๆก่อนนี้จะต้องมีน้ำหนักมากกว่าแสนจินอย่างแน่นอน!

ทุกคนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากและหันกลับมามองทางเย่ฟ่าน ในทันใดนั้นเปลือกสีดำที่ปิดบังหินต้นกำเนิดก้อนนั้นอยู่ๆก็แตกออกเล็กน้อยเผยให้เห็นแสงเจ็ดสีที่เล็ดลอดออกมา

"โลหิตหงส์เพลิง!"

"โอ้ มันคือโลหิตของหงส์เพลิงจริงๆ!"

หลายคนอุทานพร้อมกัน

เย่ฟ่านรีบหยิบหินสีดำขึ้นมาถือไว้อีกครั้ง แท้ที่จริงแล้วมันกลับเป็นสมบัติล้ำค่าขนาดนี้เขาไม่มีทางเปิดโอกาสให้กับคนอื่นอย่างแน่นอน!

ของชิ้นนี้คือเลือดของหงส์เพลิงโลหิตซึ่งใช้เวลาหลายพันปีก่อตัวจนกลายเป็นโลหะชนิดหนึ่ง ตลอดแสนปีที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้ใดได้ครอบครองมัน

ไม่คิดว่ามันจะเป็นหนึ่งในสมบัติของจักรพรรดิเหิงหยู ความหายากของมันไม่อาจจินตนาการได้!

ของชิ้นนี้มีคุณค่าอย่างยิ่งในการสร้างอาวุธและมันคือความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ของปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ทุกคนในโลก

เย่ฟ่านถือของวิเศษชิ้นนี้ไว้ในมือด้วยความตื่นเต้น แต่หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก

ของชิ้นนี้มีค่ามากเกินไป แม้ว่าเขาจะมั่นใจว่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกและบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงคงไม่ลงมือปล้นชิงตรงๆ แต่สำหรับเหยาซีที่เขารู้เช่นเห็นชาติมานานแล้ว เขาไม่กล้ามั่นใจแม้แต่น้อย!

“ทำไมมันถึงหนักขนาดนี้” เย่ฟ่านบ่นอยู่ในใจ เพียงยกขึ้นมาครู่เดียวร่างกายของเขาถึงกับไม่สามารถขยับตัวได้

ที่ด้านข้างดวงตาอีกห้าคู่จับจ้องไปยังหินศักดิ์สิทธิ์ในมือของเขาด้วยความปรารถนา

บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงนั้นมีความปรารถนาที่จะเป็นจักรพรรดิตั้งแต่แรก แล้วเขาจะไม่ต้องการของวิเศษชิ้นนี้ได้อย่างไร?

นี่คือของวิเศษที่จะเป็นวัตถุดิบในการสร้างอาวุธสุดขั้วต่อให้ใช้เวลานับแสนปีก็ยากที่จะหามา ดังนั้นความปรารถนาที่อยู่ในดวงตาของทุกคนจึงพอจะทราบได้

ในเวลานี้ใบมีดผุก้าวไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม ร่างกายที่แก่ชราของเขาดูเหมือนจะหนุ่มแน่นขึ้นอีกยี่สิบปี เขาไม่ใช่ชายชราที่น่าสมเพชอีกแล้วแต่ดูเหมือนจะเป็นจิ้งจอกวัยกลางคนที่น่ากลัวอย่างยิ่ง?

ในขณะเดียวกันใบหน้าที่งดงามของเหยาซีก็มีรอยยิ้มสดใส นางใช้มือสัมผัสที่หัวใจซึ่งกำลังเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่งของตัวเอง เลือดหงส์ที่อยู่ในร่างกายของนางมันร่ำร้องจนถึงขีดสุด!

ในเวลานี้แม้ว่านางจะไม่ก้าวไปข้างหน้าแต่นางก็ยืนอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบที่สุด หากมีคนคิดจะแย่งชิงของวิเศษชิ้นนี้กับนาง นางก็ไม่คิดจะอ่อนข้อให้แม้แต่น้อย

ต่อให้คนคนนั้นจะเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงก็ตาม!

คนที่เป็นภัยคุกคามต่อเย่ฟ่านน้อยที่สุดในสนามคือหลี่เต๋อซ่ง แม้ว่าเขาจะมีสายตาที่ดูร้อนแรงเช่นเดียวกับคนอื่น แต่เท้าของเขาก็ได้ถอยหลังไปอย่างรวดเร็วเพื่อแสดงเจตจำนงไม่แย่งชิง!

เขามีดวงตาที่แปลกประหลาดมาตั้งแต่เกิด เขาสามารถมองเห็นคุณค่าของวัตถุชิ้นนี้อย่างแน่นอน แต่เขาก็ไม่ใช่คนโง่ เขารู้ดีว่าการลงมือแย่งชิงกับบุคคลทั้งห้าจะมีเพียงความตายเท่านั้นที่รอเขาอยู่

ในหมู่คนทั้งหมดสตรีศักดิ์สิทธิ์แสงช่วงๆดูเหมือนจะมีความสงบมากที่สุด แม้ว่าในตอนแรกดวงตาของนางจะมีประกายความปรารถนาอยู่เล็กน้อยแต่มันก็สงบลงอย่างรวดเร็ว

เย่ฟ่านเห็นทั้งหมดนี้ในดวงตาของเขา และหัวใจของเขาก็สั่นสะเทือนด้วยความโกรธแค้น

ในตอนแรกเขาคิดว่าคนเหล่านี้จะยังรักษามารยาทอยู่บ้าง ไม่คิดว่าสุดท้ายทุกคนจะเผยธาตุแท้ออกมาในเวลาอันรวดเร็ว!

"พวกเจ้าคิดจะทำอะไร" เย่ฟ่านกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา

"สหาย ด้วยพรสวรรค์ของเจ้าย่อมไม่สามารถได้รับสิ่งตกทอดจากจักรพรรดิโบราณ ข้าปรารถนาของชิ้นนั้นมอบมันออกมาซะอย่าให้ข้าต้องทำลายน้ำใจระหว่างพวกเรา”

บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงก้าวไปข้างหน้า เขาไม่ปิดบังอะไรสังหารที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของตัวเองแม้แต่น้อย

เหยาซีก็แค่นเสียงอย่างเย็นชาเป็นเชิงว่าจะไม่ยอมปล่อยให้ของวิเศษชิ้นนี้หลุดมือไป นางกล่าวกับเย่ฟ่านว่า

"เจ้ามีอะไรอยากพูดอีกหรือไม่?"

"พวกเจ้าเข้ามาพร้อมกันเถอะ!" เย่ฟ่านมีความคับข้องใจอย่างถึงที่สุด

ทันใดนั้นใบมีดผุก็ระเบิดพลังออกมาทั้งหมด สภาพของเขาในตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะหนุ่มแน่นขึ้นมาอีกครั้งและเขากล่าวกับเย่ฟ่านว่า

"พวกเราสามารถร่วมมือกันได้ แต่หลังจากนี้ข้าต้องการศึกษามันให้ชัดเจน ไม่ทราบว่าน้องชายจะยินดีในเรื่องนี้หรือไม่?"

เย่ฟ่านประหลาดใจมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้ แต่เมื่อคิดดูทุกอย่างก็สมเหตุสมผล ต่อให้บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงและเหยาซีจะต่อสู้กันมันก็ต้องเกิดขึ้นหลังจากจัดการพวกเขาทั้งหมดแล้ว

"สหายเต๋าโปรดสบายใจได้ ข้าไม่คิดจะลงมือฆ่าคนในตอนนี้ หากเจ้ายินยอมมอบมันให้ข้า รับรองว่าข้าจะตอบแทนเจ้าด้วยผลประโยชน์มากมายมหาศาล” ใบหน้าของบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงเป็นประกาย

ของชิ้นนี้เย่ฟ่านไม่คิดจะมอบให้ใครอย่างแน่นอน เขาต้องการใช้มันเพื่อหลอมรวมกับหม้อวิเศษของเขาตั้งแต่แรก

ดังนั้นหากเกิดการต่อสู้กันเขาก็ไม่ลังเลที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่เหมืองโบราณต้นกำเนิดเพื่อหลบหนีจากอันตรายชั่วคราวในทันที

ดวงตาของเหยาซีมีความลังเลเล็กน้อย สุดท้ายนางก็กล่าวว่า

"ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเราเพียงต้องการดูเท่านั้น"

ในเวลานี้หลี่เต๋อซ่งเห็นหลายคนไม่ได้ต่อสู้กันเขากินเดินกลับเข้ามาอีกครั้ง และสตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกก็กล่าวขึ้นว่า

"ท่านนักพรตวางใจเถอะ จะไม่มีใครแย่งสมบัติของเจ้าอย่างแน่นอน”

เย่ฟ่านคิดว่าเรื่องนี้ดูเหมือนจะเป็นความจริง คนพวกนี้ต้องการให้เขาชี้ทางออกให้ดังนั้นจึงไม่มีทางที่จะสร้างความขัดแย้งกับเขาในตอนนี้

อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาสามารถรอดชีวิตออกจากพื้นที่ต้องห้ามทุกอย่างก็อยากจะพูดแล้ว?

"เชิญดูตามสบาย" เย่ฟ่านวางหินสีดำไว้ในฝ่ามือโดยไม่ได้ปิดผนึกมันอีกต่อไป

ผิวหินได้หลุดออกแล้วเคยเห็นโลหะที่มีความแวววาวเจ็ดสีซึ่งเต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์และมงคล

"นี่คือทองคำสีเลือดหงส์จริงๆ?"

หลายคนประหลาดใจและดวงตาร้อนผ่าว

"น่าเสียดายที่มันมีขนาดเล็กเกินไป” ใบมีดผุถอนหายใจอีกครั้ง ตอนนี้ร่างกายของเขากลับมาแก่ชราเช่นเดิมแล้ว

หลังจากที่ทุกคนชมดูจนพอใจเย่ฟ่านก็ใช้ผิวหนังเก่าของมันปิดผนึกทองคำสีเลือดหงส์อีกครั้ง

ในตอนนี้เขาไม่มีวิธีการที่จะหลอมละลายให้มันกลายเป็นอาวุธส่วนตัวได้วิธีการเช่นนี้จะเป็นการรักษาพลังของมันให้อยู่ในระดับสมบูรณ์มากที่สุด

เมื่อแสงสว่างอันวิจิตรงดงามถูกซ่อนไว้ห้องโถงก็กลับมืดลงอีกครั้ง เย่ฟ่านได้รับของวิเศษไปแล้วดังนั้นเขาจึงยืนอยู่กับที่และเปิดโอกาสให้กับคนอื่นค้นหาบ้าง

ผ่านไปอีกประมาณครึ่งชั่วยามคนทั้งหกค้นหาอย่างระมัดระวังแต่ไม่มีอะไรลงเรืออยู่ในห้องโถงนี้ มีเพียงขี้เถ้าที่เกิดขึ้นจากการสังหารของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น

เมื่อเดินออกจากอาคารโบราณทุกคนกลับมายืนอยู่ที่ด้านหน้าป้ายโลหะที่สลักอักษร "เหิงหยู" อีกครั้ง ป้ายแผ่นนี้ดูเหมือนจะมีความลึกลับบางอย่างพวกเขาต้องการศึกษามันให้ชัดเจน

ทุกคนยืนอยู่ในที่เดียวกันและเฝ้าดูอย่างเงียบๆโดยหวังว่าจะได้ค้นพบการรู้แจ้งบางอย่าง

หลังจากที่มองดูแผ่นป้ายนั้นเย่ฟ่านรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก เขาสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่างที่ปะทุขึ้นในร่างกายของเขาและต้องการที่จะทะลุทะลวง

แต่เย่ฟ่านรู้ดีว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เมื่อเขาครอบครองสมบัติล้ำค่าเพียงผู้เดียวคนอื่นก็จะไม่มีทางปล่อยให้เขาบุกทะลวงเข้าสู่อาณาจักรลับที่สามอย่างเด็ดขาด!

ต้องบอกว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงนั้นมีความยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง เมื่อเขาศึกษาตัวอักษรสองตัวนั้นสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็จับประเด็นบางอย่างได้และต้องการที่จะบุกทะลวงเช่นกัน

สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกและเหยาซีก็มีความพิเศษไม่น้อย พวกนางไม่มีข้อจำกัดเหมือนกับเย่ฟ่านดังนั้นจึงสามารถศึกษาตัวอักษรทั้งสองได้อย่างเต็มที่ซึ่งมันทำให้พวกนางจมสู่สมาธิในทันที

แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังจมอยู่ในสมาธิหลี่เต๋อซ่งกลับมีใบหน้าซีดขาว เขาส่งเสียงรบกวนทุกคนขึ้นว่า

"มีบางอย่างกำลังแอบมองพวกเราอยู่ ข้าสัมผัสได้ถึงตัวตนของมัน!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด