ตอนที่แล้วEP 711 อนุมตินโยบาย!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEP 713 คลิปวิดีโอแบล๊คเมล์

EP 712 ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของหลี่ปิงปิงกับเกิงเซียง


กำลังโหลดไฟล์

EP 712 ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของหลี่ปิงปิงกับเกิงเซียง

By loop

ในตอนช่วงใกล้เที่ยง

พระอาทิตย์สาดส่องแสงแดดลงมากลางหัว

ดงซูบินออกมาจากหอพักของเกิงโยฮวาและตรงไปที่สำนักงานเขตกวางหมิง ตอนนี้เขาเหลือเวลาอยู่น้อยกว่า 20 วันก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ซึ่งตอนนี้แผนของเขาถือว่ายังราบรื่นและดงซูบินก็ยังรู้สึกโล่งใจอยู่ แต่เขาก็รู้ว่าเหตุการณ์จะไม่ราบรื่นเช่นนี้ไปตลอดอย่างแน่นอนมันยังมีปัญหามากมายรอให้เขาต้องจัดการ และแผนการสำคัญที่สุดที่เขาต้องทำคือการซักซ้อมการเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว!

นี่คือกุญแจสู่ความสำเร็จ!

และเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด!

รายงานข่าวจากอนาคตที่ดงซูบินมีอยู่เขาอ่านมันมากกว่าสิบครั้ง จนเจาจำชื่ออาคารที่พักอาศัย บ้านเรือน และร้านค้าที่ถล่มทุกหลังได้ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะพลาดในการเตรียมรับมือในครั้งนี้และเขาจะไม่ปล่อยให้อาคารเหล่านั้นหลุดรอดสายตาของเขาไปได้ เขาจึงพิจารณาว่ายังเหลืออาคารใดบ้างที่เขายังไม่ได้จัดการ? แน่นอนเขาได้จัดการเรื่องงบประมาณไปเมื่อคืนแล้ว ตอนนี้เรื่องงบประมาณไม่พอไม่ใช่ปัญหาของเขาแล้ว เพราะอย่างไรก็ตามเขาได้รับอนุมัติให้นำงบประมาณมาใช้แล้ว  ทำให้ดงซูบินไม่ได้สนใจเรื่องนี้อีกต่อไป ดังนั้นดงซูบินจะต้องเดินหน้าแผนต่อไปเขาพยายามหาวิธีการลดอัตราผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่กำลังจะเกิดขึ้น สิ่งที่เขาคิดได้ตอนนี้คือการให้ผู้คนที่อยู่ในอาคารที่มีความเสี่ยงทั้งหลายย้ายออกโดยใช้กลอุบายผ่านการซักซ้อมการเอาชีวิตรอดจากแผ่นดินไหว ไม่อย่างนั้นคนมากมายจะถามหาเหตุผลที่ดงซูบินทำเช่นนี้และมันจะกลายเป็นเหตุผลที่จะโน้มน้าวให้พวกเขาที่จะเคลื่อนย้ายด้วย? ถ้าดงซูบินไม่ทำเช่นนี้สิ่งที่เดียวที่ดงซูบินจะได้พบคือความตาย!

ดงซูบินคิดอย่างหนัก……

เขาพยายามคิดหาเหตุผลและวิธีการอย่างรอบคอบที่สุดโดยเขาไม่สามารถบอกเหตุผลที่แท้จริงออกไปได้……

ฉันเองไม่ต้องการที่จะบอกวิธีการทั้งหมดในแผนครั้งนี้ให้ทางมณฑลรู้เลย แต่สุดท้ายแผนบางส่วนก็จะต้องผ่านการอนุมัติ

เมื่อคิดไปคิดมา ดงซูบินก็ขับรถมาถึงสำนักงานเขตกวางหมิง ตอนเที่ยงคนจำนวนมากเข้าไปในโรงอาหาร

ดงซูบินลงจากรถและพร้อมที่จะทานอาหารกลางวันก่อน

ทันใดนั้น ดูเหมือนมีรถขับอยู่ด้านหลังและเปิดประตู ได้ยินแต่เสียงใครบางคนดังขึ้น: “ผู้อำนวยการซูบิน!”

ปฏิกิริยาแรกของดงซูบินคือเจ้าหน้าที่ของหยานไทมา เพราะตอนที่เขาอยู่ในหยานไท เขาน่าจะเป็นรองผู้อำนวยการสำนักและกลายเป็นผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการลงทุน แม้ว่าเขาจะเป็นผู้อำนวยการสำนักงานเขต เขาเป็นอดีตเพื่อนร่วมงานเก่าที่น่าจะสนิทกัน เรียกว่า "ซูบินซูบิน" ดงซูบินหยุดสักครู่และมองย้อนกลับไป และนั่นเองที่รถลงไปที่สำนักงานส่งเสริมการลงทุนหยานไท นั้นคือซันชูลี่และข้างคนขับคือหลี่ปิงปิง ดูเหมือนจะเป็นลูกน้องเก่าของดงซูบิน ว่า หัวหน้าแผนกธุรกิจสำนักงานส่งเสริมการลงทุนทั้งสองคนสนิทสนม

“พี่ซัน! เซียวหลี่!” ดงซูบินหัวเราะอย่างมีความสุขและทักทายพวกเธออย่างกระตือรือร้น “คุณมาได้ยังไง”

ซันซูลี่ยิ้มและพูดว่า: "สำนักงานส่งเสริมการลงทุนเมืองมีการประชุมในตอนบ่าย เราเพิ่งมาถึง เราไม่เจอกันนานเลยผู้อำนวยการซูบิน อดีตผู้อำนวยการของพวกเรา"

ดงซูบินโบกมือ: "หัวหน้าอะไรกันที่พี่แก่กว่าฉันตั้งยี่สิบปี พูดยังงี้ฉันก็ทำตัวไม่ถูกสิ?"

ในตอนนั้นหลี่ปิงปิงก็ลงจากรถและยิ้ม “ผู้อำนวยการ สบายดีไหมค่ะ”

ดงซูบินยิ้มอย่างขมขื่น: "ฉันสบายดี ดูเหมือนเธอจะมีความสุขมากขึ้นนะ" หลังจากนั้นเขามองไปที่หลี่ปิงปิง “เซียวหลี่ ดูเหมือนคุณจะเก่งขึ้นมา อีกทั้งพี่ซันคงจะทำงานได้เก่งกว่าฉันเยอะ ลูกชายของคุณเป็นอย่างไรบ้าง?”

หลี่ปิงปิงยิ้มและพูดว่า: “ดีเลย เขาค่อนข้างจะซุกซนนิดหน่อย”

“เด็กคนไหนไม่ซนกันบ้างล่ะ” ดงซูบิน กล่าว

“พอดีฉันเองงานยุ่งเลยรับมือเด็กน้อยไม่ไหว” หลี่ปิงปิงไม่รู้จะอธิบายเรื่องนี้อย่างไรดี

ซันชูลี่กล่าวว่า "ระหว่างทาง ฉันบอกให้เซียวหลี่พาฉันแวะไปหาเพื่อน  ที่นี้ค่อนข้างเดินทางยากจริงๆ"

ดงซูบินเองรู้สึกดีใจจริงๆที่ได้พบหลี่ปิงปิง เพราะเธอเป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรกที่มาหาเขาเมื่อเขาเข้ารับตำแหน่งที่สำนักงานส่งเสริมการลงทุนหยานไท ดงซูบินยังถือว่าเธอเป็นคนสนิท เขาเองประทับใจในตัวเธอมาก ไม่ใช่ความสามารถทางธุรกิจของหลี่ปิงปิงเพียงเท่านั้น แต่ความเด็ดขาดของเธอทำให้ดงซูบินชื่นชมเป็นอย่างมาก เธอเองยังไมได้แต่งงานด้วยซ้ำแต่มีลูกแล้ว มันไม่ง่ายเลยสำหรับแม่เลี้ยงเดียว บางคนอาจคิดว่าหลี่ปิงปิง นั้นยังเด็กเกินไปและไม่เหมาะกับการทำงานในระบบราชการ แต่ดงซูบินไม่คิดว่าเธอนั้นยังเด็ก เพราะเขาเองยังเด็กกว่าเธอด้วยซ้ำ ดังนั้น ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นอายุแค่ไหนก็ตาม ไม่ใช่เงื่อนไขที่ดงซูบินนำมาพิจารณาความสามารถ เขาจะมองไปที่ผลงานของหลี่ปิงปิงและทัศนคติแทน

ดูเหมือนทั้งสามคนจะพูดคุยกันสักพักเพื่อให้หายคิดถึง

ในช่วงเวลาสั้นๆซันซูลี่ก็ได้พูดขึ้นว่า "ผู้อำนวยการ ถ้าคุณไม่ยุ่ง ผมจะชวนคุณไปทานอาหารเย็นตอนเที่ยง"

"ตกลง." อันที่จริงดงซูบินเองอยากปฏิเสธเพราะเขามีงานด่วนที่จะต้องทำแต่ด้วยความสนิทสนมกันของพวกเขา“ฉันแค่อยากไปทานที่โรงอาหาร แต่ถ้ามาที่หนานฉางทั้งที่เราควรจะไปทานร้านดีฉันเองจะเป็นเจ้ามือให้เอง!”

ซันชูลี่สอนให้ส่ายหัว "ไม่ต้องลำบากหรอก"

“ลำบากอะไรกันเล่า มาที่นี้ทั้งที่!”

“ผู้อำนวยการอย่าพูดเช่นนั้นเลยฉันเกรงใจเปล่า!” ซันซูลี่เองแสดงท่าทางเกรงใจออกมา

ดงซูบินได้ยินคำพูดและอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ ซันซูลี่อย่างจริงจังตอนสมัยซันซูลี่เป็นรองผู้อำนวยการ เขาเป็นเพียงพวกที่ไม่สนใจคำสั่งของดงซูบินและไม่ค่อยอยู่ฝั่งเดียวกับดงซูบิน ในตอนนี้ดงซูบินนั้นยุ่งกับการลงทุนและยุ่งกับโบนัส แม้ว่าดงซูบินกับซันซูลี่จะไม่ค่อยถูกกันเท่าไรแต่หลังจากดงซูบินก็ขึ้นเป็นผู้อำนวยารของสำนักงานส่งเสริมการลงทุนได้ระยะหนึ่ง และสถานการณ์ก็เปลี่ยนไปในทันที ผู้อำนวยการดงซูบินได้รับการยอมรับ  เพียงไม่กี่เดือนต่อมาซันซูลี่ก็ดูกระตือรือร้นขึ้นมาก แน่นอนว่ามันเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของซันซูลี่ในตอนนั้น

ในความเป็นจริงการที่ซันซูลี่มีทัศนคติที่ดีได้ในวันนี้ เขาเองก็รู้สึกขอบคุณดงซูบินมาก เพราะดงซูบินเองก็แนะนำให้เขาขึ้นดำนงตำแหน่งผู้อำนวยการแทนก่อนที่ดงซูบินจะถูกย้าย ซันซูลี่เองก็ยังไม่เข้าใจว่าเหตุผลอะไรที่ดงซูบินถึงเชื่อใจเขา ทั้งๆที่ตัวเขาเองก็รู้ว่าเขาไม่ได้ช่วยงานอะไรดงซูบินมากมายเลย นั้นเลยทำให้ความสัมพันธ์ก็ถือว่าอยู่ในระดับคนรู้จักเท่านั้นไม่ได้สนิทสนมกันมากเหมือนหลี่ปิงปิง อีกทั้งเมื่อเขารู้ว่าดงซูบิน และ นายกเทศมนตรีเสี่ยวหลานนั้นเป็นคู่หมั่นกัน. ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นนี้ไม่สามารถละเลยได้ ดังนั้นซันซูลี่จึงให้โอกาสนี้สร้างความสนิทสนมกับดงซูบิน และเลือกหลี่ปิงปิงอดีตคนสนิทของดงซูบินมางานนี้เด้วยเพื่อให้เขาเข้ามามีโอกาสตีสนิทกับดงซูบินอีกครั้ง นั้นร่วมถึงช่วงเวลานั้นเขาได้เปลี่ยนข้างมาอยู่ฝั่งเดียวกันกับเสี่ยวหลานแล้วด้วย

แน่นอนว่าดงซูบินแทบจะไม่สนใจซันซูลี่เท่าไรนัก

อีกทั้งการเลี้ยงอาหารก็ถือเป็นทำเนียมต้องปฏิบัติอยู่แล้ว

เมื่อทั้งหมดกำลังจะเดินขึ้นรถ ทันใดนั้นร่างของเกิงเซียงก็ปรากฎมาจากอาคารสำนักงาน ดูเหมือนว่าเขาเองก็พึงจะพักลงมาทานข้าวเที่ยงเช่นกัน หลังจากเห็นดงซูบินดวงตาของเกิงเซียงเองก็จ้องมองไปที่นั้น ซึ่งเขาไม่คุ้นหน้าคนที่เดินกับดงซูบินเลย หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขามองไปที่ดงซูบินและมองไปที่หลี่ปิงปิง ซึ่งกำลังจัดเตรียมรถ

“ปิงปิง?”

ซันซูลี่, ดงซูบิน และ หลี่ปิงปิง ก็พูดถึงอดีตสมัยทำงานที่สำนักงานส่งเสริมการลงทุนเดิน

เกิงเซียงตัดสินใจเขาทักทายหลี่ปิงปิง “หลี่ปิงปิงใช่ไหม?”

"คุณ..“หลี่ปิงปิงเธอเองก็ตกใจ แต่เกิงเซียงในตอนนั้นมองหน้าหลี่ปิงปิงตาไม่กระพริบ”คุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร มาทำอะไรที่นี้?"

หลี่ปิงปิงเองถึงกับตื่นตระหนก “คุณทำงานที่นี่เหรอ คุณไม่ได้อยู่ที่สำนักการศึกษา?”

“ปีที่แล้วผมโอนจากที่นั้นมา ตอนนี้คุณทำงานที่ไหน”

“ในมณฑลหยานไท สำนักงานส่งเสริมการลงทุน”

“หยานไททำไมผมไม่รู้เรื่องนี้เลย”

“ฉันเพิ่งย้ายมาอยู่ได้ไม่กี่ปีเอง” หลี่ปิงปิงพยายมสูดลมหายใจ “เราไม่ได้ติดต่อกันเลยตั้งแต่เราเรียนจบ สินะ”

บรรยากาศค่อนข้างแปลก

ดงซูบินกระพริบตาและรู้ว่ามีบางอย่างระหว่างคนสองคน เขาพูดว่า: "ทั้งสองรู้จักกันหรอ"

หลี่ปิงปิงยิ้มและพูดว่า: "เกิงเซียงเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของฉัน เราเรียนมาด้วยกันสมัยก่อน"

สายตาของเกิงเซียงและหลี่ปิงปิงสบตากันโดยบังเอิญ หลี่ปิงปิงพยายามหลบตา แต่เกิงเซียงมองเธอตาไม่กระพริบ ดูเหมือนหลี่ปิงปิงพยายามปิดบังเรื่องบางอย่างอยู่

ดงซูบินเองแปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น?

มันเหมือนกับว่าทั้งคู่เองจะเป็นมากกว่าเพื่อน?

ดงซูบินมองไปที่คนทั้งสองและพูดว่า: "มันเป็นเรื่องยากมากเลยนะที่เพื่อนสมัยเด็กจะมีโอกาสได้มาเจอกัน ถ้าอย่างงั้นผรองเกิงมาทานข้าวด้วยกันกับเราไหม?"

ซันซูลี่กล่าวเสริม “ดีเลย”

"อย่า" หลี่ปิงปิงพูดสวนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว: “เราไม่ได้สนิทกันขนาดหรอกและก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรที่จะต้องคุยกันด้วย มันจะเป็นการรบกวนผู้อำนวยการซูบินเปล่าๆ?”

ดงซูบินยิ้มและพูดว่า: "อันทีจริงฉันเองก็ไม่ได้จะฟังเรื่องเก่าๆหรอกนะ แต่เห็นว่าทั้งสองรู้จักกันก็เลยชวนทานข้าวเสียเลย"

หลี่ปิงปิงยิ้ม "ผู้อำนวยการซูบิน ผู้อำนวยการซัน ฉัน..."

ซันซูลี่โบกมือ “ผู้อำนวยการซูบินพูดแล้ว ไปเถอะ”

ดงซูบินและซันซูลี่ขึ้นไปบนรถในทันทีเพื่อเตรียมตัวเดินทาง

เมื่อประตูรถปิด ซันซูลี่ก็หันกลับมาและพูดติดตลก “ดูเหมือนเซียวหลี่เองดูท่าทางแปลกจะต้องมีอะไรรับลมคมในแน่ๆเลย”

ดงซูบิน ยิ้มและพูดว่า: "ฉันก็คิดเช่นกัน"

"คนที่ชื่อเกิงเซียง คือ..."

“รองเลขาธิการสำนักงาน”

เมื่อซุนชูลี่ได้ยิน เขาก็ปิดปากไม่ถามอะไรมาก ความสัมพันธ์ระหว่างเลขาธิการกับรองเลขาธิการมักไม่ค่อยดีนัก เขายังกลัวที่จะพูดอะไรผิดๆออกไป และบางเรื่องก็ไม่ควรที่จะพูดสุ่มสี่สุ่มห้าด้วย

ณ ลานจอดรถ

เกิงเซียง มองไปที่ หลี่ปิงปิง, หลี่ปิงปิงเองก็มองไปที่เขาและไม่มีใครพูดอะไร

หลังจากเงียบไปประมาณสองสามสิบวินาที เกิงเซียงมองไปที่เพื่อนร่วมงานที่เข้าและออกจากอาคารสำนักงานและกล่าวว่า "ออกไปกินข้าวเถอะ ไม่สะดวกที่จะพูดคุยที่นี่"

หลี่ปิงปิงกัดฟันของเขา “ลืมมันไปเถอะ ฉันยังมีธุระต้องทำ ไปก่อนนะ” จากนั้นเธอก็หันกลับไป

“ปิงปิง!” เกิงเซียงยิ้มอย่างขมขื่น “ทำไมถึงพยายามหนีผมแบบนี้”

หลี่ปิงปิงได้แต่ถอนหายใจ อารมณ์ของเธอค่อนข้างผันผวน หลังจากสงบสติอารมณ์แล้ว เธอกล่าวว่า "...ช่วงบ่ายจะมีการประชุมที่สำนักการส่งเสริมการลงทุน ฉันมีเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น"

“อืม อย่างงั้นผมจะขับรถให้เอง” เกิงเซียงสูดหายใจเข้า เขาเดินไปหาหลี่ปิงปิงอย่างรวดเร็ว และให้หลี่ปิงปิงไปนั้งที่นั้งผู้โดยสารที่อยู่ข้าง

บนรถเกิงเซียงมองไปที่ หลี่ปิงปิงบนที่นั่งอยู่เบาะผู้โดยสารข้างๆและพูดว่า: "คุณผอมลงนะเนี่ย แต่ก็ยังเหมือนเดิม หลายปีที่ผ่านมาคุณเป็นอย่างไรบ้าง"

"ทุกอย่างดีมาก" หลี่ปิงปิงกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา

“นั่น... แต่งงานแล้วเหรอ?”

การแสดงออกของหลีปิงปิงเองเหมือนไม่อยากจะคุยกับเกิงเซียงเท่าไรนัก“ไม่ แล้วคุณล่ะ”

"ผมเองก็พอไปได้และก็ยังไม่มีใคร”

“คุณยังเด็ก ยังมีโอกาสได้เลือกอยู่พิจารณาให้ดีคู่ครองในอนาคต?”

น้ำเสียงของ เกิงเซียงค่อนข้างซับซ้อน “ผมไม่ได้คิดเกี่ยวกับมันเลย แต่เราทั้งคู่… เอ่อ หลังจากเรียนจบผมไม่เคยเจอคนที่ใช่ แล้วคุณล่ะ ทำไมคุณไม่แต่งงานล่ะ”

"งานฉันยุ่งไปหมด เลยไม่มีโอกาส"

“ผมรู้แค่ว่าคุณกำลังทำงานอยู่ในหยานไท สมัยก่อนเราสนิทสนมกันมาก…”

"พอได้แล้ว" หลี่ปิงปิงถอนหายใจ "อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลย!"

หมายเหตุ

****อย่าพึงตกใจนะครับท่านผู้อ่าน ตัวละครที่โผล่มาในตอนนี้ถ้าจำได้ตอนที่ดงซูบินอยู่หยานไทเขาจะมีลูกน้องมือดีช่วยจัดการเรื่องงานต่างๆให้สมัยตอนที่เขารับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการส่งเสริมการลงทุนที่หยานไทนะครับ **

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด