1059-1060

1/8

Ep.1059

“น่าสนใจดีนี่ แต่ในสายตาฉัน แกก็ยังเป็นแค่มดปลวกอยู่ดี”

ซูเฉินยิ้มดูแคลน เริ่มร่ายเวทมนต์ฝั่งตนบ้าง

ในชั่วพริบตา แสงสีแดง ฟ้า และขาวทอประกายบนฝ่ามือเขา

เวทมนต์สามธาตุ!

ซูเฉินเป็นปรมาจารย์มนตราที่เชี่ยวชาญเวทย์สามสาย!

ฉีชิงเฉวียนอุทานด้วยความตื่นเต้น เขารู้แต่แรกแล้วก็จริงว่าซูเฉินเป็นปรมาจารย์มนตรา อย่างไรก็ตาม ไม่นึกเลยว่าจะเชี่ยวชาญถึงสามธาตุ

“ผู้ฝึกตนทุกอาชีพ ... ปรมาจารย์มนตราสามธาตุ ... สัตว์ประหลาดขนานแท้”

เฟิงเล่ยเหอสั่นไปทั้งตัว ในขณะเดียวกัน ความคิดฆ่าฟันผุดขึ้นในใจเขาอย่าง

การมีอยู่ของอัจฉริยะเช่นซูเฉิน ไม่เป็นผลดีต่อตัวเขาเอง ต้องถือโอกาสนี้ทำลายเสีย มิฉะนั้นแล้ว ต่อไปคงกลายเป็นขวากหนามของตระกูลเฟิงแน่นอน

“ทำไมเขาถึงเป็นปรมาจารย์สามธาตุได้?”

หัวใจของเฟิงจ้านร่ำร้องไม่หยุด ตลอดเวลาที่ผ่านมาในแง่ของพรสวรรค์ด้านปรมาจารย์มนตรา เขาเชื่อมาตลอดว่าไม่มีผู้ใดเทียบเขาได้

แต่ด้วยตัวตนของซูเฉินในฐานะปรมาจารย์มนตราสามธาตุ ได้ส่งผลกระทบต่อจิตใจเขาอย่างแรง ทำให้บังเกิดความไม่ยินยอมและโกรธเกรี้ยวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

“ซูเฉิน อย่าเพิ่งได้ใจไป แม้เจ้าจะใช้เวทมนต์ได้สามธาตุ แต่ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสองเวทย์ผสาน! ข้ายังคงสามารถฆ่าเจ้าได้ในการโจมตีเดียวอยู่ดี!” เฟิงจ้านหัวเราะ

พลังทำลายของเวทมนต์ทั้งสามธาตุทรงพลังมากก็จริง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเวทย์ผสาน มันไม่อาจต้านทานได้แม้แต่นิดเดียว เขาเชื่อมั่นอย่างนั้น --เชื่อว่ายังพอสามารถทำลายซูเฉินได้!

“เฟิงจ้านหลงตัวเองเกินไปแล้ว”

ฉีมู่เฟิงลอบหัวเราะในใจ ย้อนกลับไปยังทวีปเผ่าเอลฟ์ เขาเคยเห็นว่าซูเฉินสามารถผสานเวทย์ไฟและน้ำแข็งได้

การที่เฟิงจ้านคิดประลองเวทมนต์กับซูเฉิน ยังอ่อนหัดเกินไป

“แกคิดว่ามีแค่ตัวเองรึไงที่ผสานเวทย์เป็น?”

ซูเฉินจับจ้องเฟิงจ้าน ผุดยิ้มดูแคลน

สิ้นเสียง เวทมนต์ทั้งสามธาตุก็ผสานรวมเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว

จากนั้น คลื่นพลังที่มันปลดปล่อยออกมา แสดงให้เห็นว่าเหนือกว่าเวทย์สองธาตุของเฟิงจ้านอย่างเห็นได้ชัด

แม้ซูเฉินเป็นระดับเทวะขั้น 5 ซึ่งอยู่ต่ำกว่าเฟิงจ้านหนึ่งขั้น แต่ด้วยการผสานรวมของเวทย์ทั้งสาม ส่งผลให้อานุภาพของมันเหนือว่าในลำดับชั้นเดียวกันมาก บวกกับเรื่องที่มีถึงสามธาตุ แน่นอนว่าพลังของมันย่อมร้ายกาจกว่าเวทย์ผสานสองธาตุ!

โอ้สวรรค์!

ซูเฉินสามารถผสานเวทย์สามธาตุเข้าด้วยกัน!

สีนหน้าของฉีมู่เฟิงก็ตื่นเต้นเช่นกัน ตัวเขารู้แค่ว่าซูเฉินสามารถผสานรวมเวทย์เข้าด้วยกันได้แค่ 2 ธาตุเท่านั้น นึกไม่ถึงเลยว่าผสานเวทย์สามธาตุก็ยังทำได้!

ณ เวลานี้ เขาร้องคำรามคลั่งภายในใจ “สมแล้วที่เป็นซูเฉิน! สมแล้วที่เป็นอัจฉริยะไร้เทียมทาน อ๊าาา!”

“เข้าทำได้อย่างไร?”

เฟิงเล่ยเหอเบิกตากว้าง ตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง

“ได้ไงกัน ..?” เฟิงจ้านตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง จะหลบตอนนี้คงไม่ทัน ได้แต่ต้องกัดฟันทานรับ

พรสวรรค์ด้านเวทมนต์ของซูเฉิน ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถต่อกรได้

“เฟิงจ้าน ไม่ใช่ว่าแกอยากฆ่าฉันหรอ? ไหนมาลองงัดกันซักตั้งซิ”

ซูเฉินเบ้ปาก ง้างแขนกางฝ่ามือ และยิงเวทย์สามธาตุผสานออกไปในคราวเดียว

แทบจะในทันที คลื่นพลังเวทย์อันน่าสยดสยองโถมเข้ากลืนเฟิงจ้าน

เฟิงจ้านตัวสั่นระริกด้วยความตกใจ แม้รู้ทั้งรู้ว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซูเฉิน แต่เขาก็ไม่คิดนั่งรอความตายอยู่เฉยๆ

“ข้าขอสู้ตายกับเจ้า!” เฟิงจ้านกัดฟันคำราม ขว้างเวทย์สองธาตุผสานออกไป

วินาทีถัดมา เวทย์ทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างรุนแรง บังเกิดเสียงดังสนั่นสะเทิ้นฟ้าสะเทือนดิน อีกทั้งยั้งก่อให้เกิดกระแสลมกรรโชก

ฉีมู่เสวี่ยและพวกระดับต่ำคนอื่นๆ ทั้งหมดถูกพัดปลิวหายไป

ฉีชิงเฉวียนและผู้ฝึกตนระดับสูงคนอื่นๆไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนัก

ขณะนี้ พวกเขาจับจ้องไปยังศูนย์กลางที่ระเบิดไม่วางตา

โดยไม่มีใครทันตั้งตัว บอลเวทย์สามสียังคงกวาดตรงมายังทิศทางของเฟิงจ้าน

บอลแสงสามสีนี้ เป็นเวทย์ผสานสามธาตุของซูเฉิน!

หลังจากทำลายเวทย์สองธาตุผสานของเฟิงจ้านได้แล้ว มันก็ยังเหลือพลังมากพอให้โจมตีต่อไป!!

2/8

Ep.1060

“ไม่ได้การ!”

สีหน้าของเฟิงเล่ยเหอแปรเปลี่ยนไป หายวับไปพร้อมกับเสียงวูซซซซ!

เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ก็มาหยุดอยู่เบื้องหน้าของเฟิงจ้านแล้ว หนึ่งหมัดกำแน่น ซัดเปรี้ยงออกไปเบื้องหน้า

เฟิงจ้านเป็นเพียงปรมาจารย์มนตรา ย่อมไม่สามารถทนรับการโจมตีจากเวทย์สามธาตุผสานของซูเฉินได้ และแน่นอนว่าเฟิงเล่ยเหอไม่มีทางทนดูเฟิงจ้านตาย

บังเกิดเสียงบรึ้มมมมม! ดังกึกก้อง กลุ่มแสงสามสีกระดอนกลับไปยังทิศทางเดิม ภายใต้แรงกระแทกมหาศาล ไม่นานพวกมันก็แตกสลายเป็นเสี่ยงๆ

“ซูเฉิน! นี่เป็นแค่การประมือกันเท่านั้น แต่เจ้ากลับลงมือกับลูกหลานตระกูลเฟิงของข้า วันนี้เจ้าต้องมีคำอธิบายให้ข้าฟัง!”

ทำลายเวทย์สามธาตุผสานของซูเฉินเฟิงเล่ยเหอถลึงมองซูเฉินด้วยใบหน้าเย็นชา ตวาดตำหนิออกมา

ฉีชิงเฉวียนและคนอื่นๆแสดงท่าทีไม่พอใจขึ้นมาทันที

เฟิงจ้านสู้กับซูเฉินตัวต่อตัว หากถูกฆ่าก็เป็นเพราะเขาเองที่อ่อนแอ นอกจากนี้ เฟิงจ้านยังพูดอีกว่าต้องการฆ่าซูเฉิน ซึ่งหากซูเฉินถูกฆ่า ก็ต้องโทษชะตากรรมของเขาเอง

กระนั้น เฟิงเล่ยเหอกลับยื่นมือเข้าช่วยเหลือ นับว่าทำผิดกฏ  ไหนจะเรื่องที่กำลังข่มขู่ซูเฉินอีก ช่างไร้ยางอายซะจริง

“คิดให้ฉันมอบคำอธิบาย? แกนับเป็นตัวอะไร?” ซูเฉินแค่นเสียงเบาๆ จากนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ฉันซูเฉิน หากคิดฆ่าคน ไม่มีใครหยุดฉันได้! และถ้าแกกล้าขวางทาง ฉันก็ยินดีล้างบางตระกูลเฟิงของแก!”

คิดล้างบางตระกูลเฟิงของข้า?

เฟิงเล่ยเหอตะลึงลานไปชั่วขณะ เปลวเพลิงเริ่มลุกโชนขึ้นในอกเขา

ตระกูลเฟิงยืนหยัดอยู่ในมิติภายนอกมาเป็นเวลาหลายพันปี จนขึ้นเป็นขุมกำลังอันดับหนึ่งจากสิบตระกูลซ่อนเร้น มีระดับเทวะมากมายราวกับเมฆบนฟ้า

และนั่นรวมไปถึงตัวเขาในระดับเทวะขั้น 7 นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากป้อมปราการเฮยอวิ๋น แล้วซูเฉินกล้าดียังไงถึงเอ่ยว่าจะล้างบางตระกูลเฟิง! เขาคงบ้าไปแล้วแน่ๆ!

ณ เวลานี้ เฟิงเล่ยเหอลอบสาบาน ว่าต้องใช้โอกาสนี้ ฉีกร่างซูเฉินเป็นพันๆชิ้น!

ฉีชิงเฉวียนและคนอื่นๆต่างตกใจคำพูดของซูเฉิน มันเป็นเรื่องจริงที่ซูเฉินนั้นแข็งแกร่งมาก แต่ต่อให้แกร่งแค่ไหนก็ไม่น่าสู้กับทั้งตระกูลเฟิงได้ ถูกไหม?

คำพูดเหล่านี้  ยิ่งทำให้เฟิงเล่ยเหอขุ่นเคือง กลายเป็นดึงดูดหายนะถึงชีวิตมาสู่ตน

“ซูเฉิน! อาศัยเพียงเจ้าหมายทำลายตระกูลเฟิง? คิดว่ามีความสามารถพอหรือ?”

เฟิงจ้านส่งเสียงฮึในลำคอ เมื่อครู่เขาหวาดกลัวจนจิตวิญญาณแทบหลุดลอย

แต่ตอนนี้ เมื่อเห็นเฟิงเล่ยเหอออกหน้าปกป้อง ความหวาดกลัวก็สลายหายไปทันที

“งั้นฉันขอฆ่าแกประเดิมเป็นศพแรกแล้วกัน”

ซูเฉินหรี่ตาลง รังสีฆ่าฟันแผ่ออกมาจากดวงตาเขา

“วาจาใหญ่โต! เราผู้เฒ่าก็อยากจะเห็นเหมือนกัน ว่าเจ้าจะใช้วิธีใดฆ่าเขา!” เฟิงเล่ยเหอยืนขวางอยู่หน้าเฟิงจ้าน ส่งเสียงเหอะด้วยความดูแคลน

“จัดให้ตามที่ขอ!” รอยยิ้มพิศวงผุดขึ้นบนมุมปากของซูเฉิน

มองมายังท่าทีของซูเฉิน เฟิงเล่ยเหอคล้ายฉุกคิดว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่เขาไม่มั่นใจว่าเป็นเรื่องอะไร ทำได้เพียงเฝ้าจับตาดูซูเฉิน ระวังภัยให้เฟิงจ้าน

“อ๊าากกกกกกก!”

แต่ใครจะคิด ว่าจู่ๆเสียงกรีดร้องน่าสังเวชจะดังขึ้น

หางตาของเฟิงเล่ยเหอกระตุก หันขวับกลับมาอย่างรวดเร็ว

ในสายตาเขา เห็นแค่เพียงซูเฉินอีกคนกำลังบีบคอเฟิงจ้าน

“มีซูเฉินสองคน ...”

เฟิงเล่ยเหอตื่นตะลึงเล็กน้อย เมื่อรู้สึกตัวก็คำรามออกไป “ซูเฉิน! รีบปล่อยเฟิงจ้านเสีย ไม่อย่างนั้นข้าจะถลกหนังเจ้า!”

เป๊าะ!

คำตอบของเขาคือเสียงตระกูลหักที่ดังฟังชัด

ด้วยการลงมือของซูเฉิน จิตจำลองของเขาหักคอเฟิงจ้านในมือเดียว!

“สิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดในชีวิตคือเวลาที่ถูกคนอื่นข่มขู่ล และไอ้พวกที่ทำแบบนั้น ไม่เคยมีใครพบจุดจบที่ดี”

ซูเฉินชำเลืองมองเฟิงเล่ยเหอ กล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ

“ซูเฉิน ข้าจะฆ่าเจ้าให้ตาย!!”

เฟิงเล่ยเหอไม่อาจระงับความโกรธในใจได้อีกต่อไป เปล่งเสียงคำราม ทะยานเข้าหาร่างต้นของซูเฉิน