ตอนที่แล้วตอนที่ 118 ช่วงนี้จะออกเดินทางไปที่ไหนหรือไม่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 120 เหยี่ยวและงู

ตอนที่ 119 กองคาราวานของพ่อค้าฟลินต์


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 119 กองคาราวานของพ่อค้าฟลินต์

“วันพรุ่งข้าจะออกเดินทางไปแลกเปลี่ยนสิ่งของที่สุดขอบทุ่งหญ้ากิรา รอยต่อระหว่างนครดาราฟ้าและนครแสงเทวา”

“เยี่ยม ถ้าอย่างนั้นท่านยินดีจะให้ข้าคุ้มกันท่านหรือไม่” กายเผยรอยยิ้มออกมาก่อนจะเสนอตัวออกไป

นั้นทำให้ฟลินต์หรี่ตาลงอย่างสงสัย ด้วยความที่เป็นพ่อค้าที่เดินทางค้าขายผ่านทุ่งหญ้ากิรามานานหลายปี ฟลินต์รู้ว่าไม่มีสิ่งใดที่ได้มาฟรี ไม่มีการกระทำที่ไม่หวังผลตอบแทนในพ่อค้าและนักล่าค่าหัวก็เช่นกัน

“เราไปคุยกันที่ด้านบนเถอะ”

ฟลินต์ชี้ไปยังทางบันไดขึ้นชั้นสองกายก็พยักหน้าตกลง แต่ก่อนที่จะเดินตามฟลินต์ไปกายยกมือขึ้นมาก่อนจะบอกว่า

“รอสักครู่” กายหันหลังวิ่งออกจากร้านไปสักพักก็กลับมาพร้อมกับห่อใบไม้ขนาดใหญ่

ห่อของมีค่าหรือว่าอาวุธกัน...ฟลินต์เหลือบมองอย่างสงสัยไปที่ของในมือของนักล่าค่าหัวเดวิน ก่อนจะทำทางเขาขึ้นไปยังชั้นสอง

...

บนชั้นสองหลังจากฟลินต์พากายมานั่งยังชุดโต๊ะที่ทำจากไม้กลางห้อง ฟลินต์ก็ปากกระตุกหลายครั้งกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เพราะกายแกะห่อที่ฟลินต์สงสัยออกมาและลงมือกินขาแกะย่างอย่างเมามัน โดยไม่สนใจฟลินต์ที่นั่งอยู่ตรงข้ามแม้แต่น้อย

สุดท้ายพ่อค้าฟลินต์ก็ทนไม่ไหวเอ่ยปากถามออกมา

“นักล่าค่าหัวเดวิน ท่านเสนอตัวคุ้มกันข้าในการเดินทางพรุ่งนี้ ท่านต้องการค่าแรงเท่าไหร่” ฟลินต์ไม่ได้ถามตรง ๆ แต่เริ่มจากการถามเป็นนัยแทน ฟลินต์อยากรู้ว่าชายหนุ่มคนนี้มีเหตุผลอื่นหรือไม่ หรือแค่ต้องการเหรียญทองเป็นค่าตอบแทน

ถ้าเขาต้องการเหรียญทองก็ถือว่าคุ้มค่า แต่ถ้ามีเหตุผลอื่นข้าต้องระวัง...ฟลินต์เตือนตัวเอง

กายกลืนขาแกะลงท้องก่อนเงยหน้ากล่าว “เปล่า ข้าไม่ต้องการเหรียญทอง แต่กำลังขอยืมการเดินทางของท่านทำงานบางอย่าง”

“งาน? ....งานอะไรท่านบอกได้หรือไม่”

“แน่นอน ข้าจะไม่ปิดบังท่าน ข้าต้องใช้พ่อค้าสักคนเป็นเหยื่อล่อเพื่อจัดการกับโจรที่มีมูลค่าหนึ่งพันเหรียญทองขึ้นไป จากนั้นก็ตัดหัวมันไปขึ้นเงินรางวัล” กายอธิบายอย่างง่าย ๆ ราวกับมันเป็นเรื่องพูดคุยในยามเช้าเท่านั้น

“เออ...แล้วทำไมต้องเป็นข้าด้วยเล่า” ฟลินต์ยิ้มเจื่อน ๆ

“เพราะท่านเป็นพ่อค้าคนเดียวที่ข้ารู้จัก” กายตอบหน้าตาย ทำเอาฟลินต์ร่ำไห้ในใจไม่หยุด มันไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายกันที่รู้จักกับนักล่าค่าหัวคนนี้ แต่พอมาคิดดู ถ้าไม่เจอกับชายข้างหน้ามันคงตายไปแล้ว

ถึงแบบนั้นแผนการที่ล่อโจรระดับค่าหัวหนึ่งพันเหรียญนั้นมันอันตรายสุด ๆ จนฟลินต์ลังเลสุด ๆ ไปเลย

“ข้าถามท่านได้หรือไม่?” กายถามขัดความคิดของลังเลของพ่อค้าตรงหน้า

“ท่านจะถามอะไร”

“เจ้าคิดว่าระหว่างเดินทางจากเลมิสไปที่ชายแดนมีโอกาสกี่เปอร์เซ็นต์ที่เจ้าจะเดินทางไปถึงได้อย่างปลอดภัย” กายจับจ้องไปที่ฟลินต์

ฟลินต์เงียบไปครู่ ก่อนจะกล่าวตัวเลขออกมา “60-70 เปอร์เซ็นต์ไม่เกินจากนั้น ถึงอย่างนั้นพวกโจรจะไม่ฆ่าพ่อค้า พวกมันอย่างมากก็ปล้นไปจนข้าไม่เหลืออะไรก่อนจะปล่อยไป เพราะถ้าโจรพวกนั้นฆ่าพ่อค้าจนหมดพวกมันจะไม่มีใครให้ปล้น แต่มันคือความเสี่ยงที่ยอมรับได้”

“ยี่สิบ!” กายพูดออก

“อะไรคือ ยี่สิบ?”

“ถ้าข้าไปด้วย ข้ารับประกันว่าเปอร์เซ็นต์ในการขนสินค้าของท่านจะเพิ่มอีก 20 เปอร์เซ็นต์” กายกล่าวออกมาอย่างมั่นใจ ก่อนจะหยิบใบไม้ที่ห่อข้าแกะมาเช็ดมือจากนั้นก็เลื่อนกระดูกขาแกะย่างตรงหน้าออกไปด้านข้าง กายรอคำตอบของพ่อค้าฟลินต์ตรงหน้าอย่างใจเย็น

“ท่านรู้ใช่ไหมว่าสิ่งที่ท่านพูดมันหมายความว่ายังไง”

“แน่นอน จริงสิท่านพ่อค้าฟลินต์อาจจะยังไม่รู้ เมื่อวานนี้ข้าตัดหัวกระทิงโหลิตและกระทิงแดงมา”

เมื่อได้ยินสองชื่อโจรชื่อดังที่ชายตรงหน้าบอกว่าพึ่งฆ่าไป ฟลินต์ก็อึ้งจนปากสั่นกล่าวอย่างติดขัด “ท่านบอกว่า...พึ่งฆ่ากระทิงโลหิตกับกระทิงแดงมา พูดจริงใช่ไหม”

“แน่นอน แต่ข้าได้ให้หัวของเขาไปกับสหาย ดังนั้นข้าจึงต้องมาหาท่านยังไง”

“ตกลง” ฟลินต์กล่าวออกมาในทันที ก่อนจะย้ำอีกครั้ง “ข้าตกลง แต่มีเงื่อนไข ของที่ได้จากการฆ่าโจรท่านขายให้ข้าได้หรือไม่”

กายยิ้มออกมาในทันที ที่จริงแล้วเขาคิดจะยกให้ฟลินต์ไปเลยด้วยซ้ำหลังจากเลือกของบางอย่างแล้วเท่านั้นละนะ แต่ในเมื่อฟลินต์เสนอมาเช่นนั้น กายก็ยินดีอยู่แล้ว

“แน่นอน”

กายยื่นมือออกไปทำข้อตกลงกับฟลินต์ ทั้งสองจับมือกันหลังจากได้ข้อตกลงที่พอใจทั้งสองฝ่าย ฟลินต์ไม่รู้เลยว่ากายยังมีแผนการบางอย่างต่อจากบางส่วนที่เขาบอกอยู่ด้วย

...

เช้าวันต่อมาก่อนแสงแรกของวันใหม่จะฉายแสง คาราวานของพ่อค้าฟลินต์ก็ออกเดินทางจากเลมิสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

กายเข้าร่วมคาราวานของฟลินต์ด้วย และเนื่องจากเดินทางใกล้กายจึงเลือกจะนั่งหนึ่งในรถม้าลากหกล้อของฟลินต์ และสัมภาระส่วนใหญ่ก็ถูกโยนขึ้นมาบนรถม้า ส่วนเจ้าหมอกและเจ้าถึกก็ถูกผูกสายบังเหียนให้เดินตามมาอยู่ด้านข้าง เนื่องจากเจ้าหมอกนั้นดูเหมือนจะใกล้พัฒนาเป็นระดับ 3 แล้ว มันจึงฉลาดมากกว่าเมื่อก่อนพอสมควร

เจ้าหมอกจะคอยเดินประกบข้างเจ้าถึกให้มันเดินไปข้างรถม้าลาก

นอกจากรถม้าหกล้อที่เหมือนกับเกวียนมีหลังคาขนของขนาดใหญ่ที่กายนั่งอยู่นี้ มันก็มีรถม้าแบบนี้อยู่อีกทั้งหมด 4 คัน ในรถม้าพวกนี้มีสินค้าแทบจะทุกชนิดบรรทุกมา

ทำให้นอกจากพ่อค้าฟลินต์และกาย ยังมีคนงานอีก 8 คนมาด้วย คนพวกนี้ทำหน้าที่ทั้งขับรถม้า คอยดูแลรถม้าและสินค้า ยังมีพ่อครัว และช่างซ่อมรถม้าเดินทางมาด้วย

นอกจากนั้น ในคาราวานไม่ได้มีแค่กายที่มาคอยทำหน้าที่คุ้มกัน เพราะยังมีทหารรับจ้างที่ฟลินต์จ้างมาคุ้มกันอีกทีด้วย ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่น เพราะทหารรับจ้างพวกนี้คือกลุ่มผู้เล่นที่ใช้ชื่อว่า “มีดสั้นสีเงิน”

กลุ่มมีดสั้นสีเงินคือกลุ่มทหารรับจ้างที่เราเคยช่วยเหลือไว้ตอนที่สเวนโจมตีพวกเขาสินะ ถ้าจำไม่ผิดผู้เล่นที่ชื่อหัวเหล็กคือหัวหน้ากลุ่มสินะและก็สมาชิกในทีมอีกสามคน

กายนึกย้อนไปตอนที่เดินทางมาถึงเลมิสวันแรกที่เข้าไปขัดขวางสเวนในการปล้นฟลินต์

ดูเหมือนพ่อค้าฟลินต์จะมีการค้าขายขนาดใหญ่ที่จุดหมายปลายทางสินะ ของพวกนี้คงมีค่าสักหมื่นเหรียญทองเห็นจะได้ หวังว่าข่าวที่เราฝากเด็กน้อยนั้นไปจะไม่สูญเปล่า

ชายหนุ่มพลางหวนนึกถึงเรื่องเมื่อวานหลังจากออกจากร้านของฟลินต์แล้ว เขาก็เดินหาเด็กนำทาง เกร็น เพื่อให้ช่วยปล่อยข่าวลือไปถึงสายของพวกโจรว่ามีสินค้าจำนวนมากกำลังออกเดินทางจากเลมิสไปที่ชายแดน

นี่คือเรื่องที่กายไม่ได้บอกแก่ฟลินต์ แม้จะบอกยังไงกายก็จะทำแบบนี้อยู่แล้วสู้ให้เขาไม่รู้จะดีซะกว่า ยิ่งแผนการที่คนรู้น้อยมากเท่าไหร่ยิ่งดี

ส่วนเรื่องที่ว่าแผนนี้อาจจะทำอันตรายต่อฟลินต์นั้น กายคิดว่ามันมีโอกาสน้อยมาก เนื่องจากด้วยจำนวนคนและกองกำลังที่ฟลินต์พามาในตอนนี้มันมีไม่มาก จึงไม่ใช่เป้าหมายที่โจรต้องยกกองกำลังมานับร้อยคนในการจัดการ อย่างน้อยกายก็ทำให้พวกมันคิดแบบนั้น

เพราะจากการสังเกตของกาย เขาพอจะมีข้อมูลโจรในทุ่งหญ้ากิรามาบ้างจากทั้งผู้เล่นที่โพสต์ในอินเทอร์เน็ตหรือช่องทางอื่น ๆ เกี่ยวกับทุ่งหญ้ากิรา กายรู้มาว่า โจรจะไม่ออกล่าเกิน 50 คนและที่ว่า 50 หมายถึงเป็นโจรกลุ่มใหญ่จริง ๆ

ส่วนมากจะอยู่ที่ไม่เกิน 20-30 คนซะมากกว่า เพราะถ้าพาคนมามากเกินไปมันอยากจะซ่อนตัวได้

การเดินทางผ่านเข้ามาถึงช่วงเที่ยงของวัน สภาพอากาศของทุ่งหญ้ากิรานั้นร้อนมากจนแม้แต่กายก็คิดว่าตัวเขานั้นเข้ามาอยู่ในโรงตีเหล็กไม่มีผิด

พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากหาที่พักหยุดหลบแดดกันก่อน แต่ด้วยสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่ที่เป็นทุ่งโล่งกว้างจึงยากจะเห็นต้นไม้ใช้หลบแดดได้สักต้น

ถึงอย่างนั้นฟลินต์ก็คล้ายจะเตรียมรับมือกับเรื่องนี้มาก่อนแล้ว เขามีจุดพักผ่อนที่เคยมาพักอยู่หลายครั้ง

“ไปที่ด้านหน้ามีกลุ่มต้นไม้อยู่ ที่นั่นมีร่มไม้ให้หลบแดด”

...

แสงแดดย่ามเที่ยงวันร้อนจนพื้นทุ่งหญ้ากิราที่แห้งแล้งมีคลื่นความร้อนกระจายออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน กายที่ใส่เกราะเกล็ดทมิฬ ซึ่งมันดูดแสงพอสมควร นั้นทำให้เขาร้อนมากกว่าปกติแม้ตัวเกราะจะระบายอากาศได้ดีแล้วก็ตามแต่

นั้นทำให้กายไม่มีทางเลือกนอกจากเอาผ้าคลุมสีเทาขึ้นมาคลุมบังแดด

กายจูงเจ้าหมอกและเจ้าถึกเข้ามาหลบแดด ก่อนจะเอาน้ำเทให้พวกมันกินและธัญพืชเพิ่มพลังให้กับพวกมันอีกนิดหน่อย

“สมกับที่เจ้าเป็นม้าสายพันธุ์มัสแตงแห่งทุ่งหน้ากิรา ยังมีแรงได้แม้อากาศจะร้อนขนาดนี้” กายกล่าวชมเจ้าหมอกที่มันเดินไปมาอย่างสบายใจสำรวจรอบข้าง

ส่วนเจ้าถึกนั้นเป็นม้าสายพันธุ์คลายเดสเดลที่เกิดบนเข้าเทือกเขาก่อกำเนิด มันชอบอากาศเย็น ๆ ซะมากกว่าจึงหอบพอสมควร

กายจุ่มมือไปในชามน้ำของมันก่อนจะลูปไปที่ตัวของเจ้าถึกเพื่อลดอุณหภูมิร่างกายให้กับ หลังจากดูแลม้าทั้งสองแล้ว เขาก็หาที่นั่งให้กับตัวเองจัดการหยิบคุกกี้ที่หาซื้อมาจากฟลินต์ขึ้นมากินก่อนจะหามุมพักผ่อน

“ท่านเดวิน พวกข้านั่งด้วยได้หรือไม่” หัวเหล็กของผู้นำมีดสั้นสีเงินกล่าวออกมา ขณะที่ด้านหลังยังมีกลุ่มผู้คุ้มกันของตนอีกสามเดินตามหลังมา

“เชิญ” กายพยักหน้าให้กับพวกเขาอย่างไร ที่ตรงนี้ก็พอแบ่งให้นั่งหลบแดดกันอยู่แล้ว

หัวเหล็กที่เห็นว่ากายอนุญาตให้นั่งแล้วก็รู้สึกยินดีมาก เพราะอย่างน้อยมันก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีในการผูกมิตรกับ NPC นักล่าค่าหัวที่แข็งแกร่ง (witterry : หัวเหล็กและคนอื่น ๆ คิดว่ากายเป็น NPC)

“ท่านเป็นนักล่าค่าหัวใช่ไหม ถ้ามีอะไรให้พวกเราช่วยสามารถบอกมาได้เลยนะ พวกเราสี่คนยินดีช่วยเหลือเต็มที่”

กายเห็นเจตนาที่ไม่ปิดบังของหัวเหล็กก็ได้แต่ยิ้ม ๆ ออกมา เขาลองมาคิดดูว่าถ้าตัวเองเป็น NPC จะมอบเควสแบบไหนกัน “จงไปขุดแร่เหล็กให้ข้า 10 กิโลกรัม รางวัลคือ สอนทักษะของช่างโลหะ”

กายรีบสลัดหัวละทิ้งความคิดบ้า ๆ นั้นทิ้ง ความรู้ของช่างโลหะมีค่ามาก แม้จะมีผู้เล่นได้เป็นช่างโลหะ แต่ไม่ใช่เพราะแค่การหาแร่เหล็ก 10 กิโลกรัมมาให้แน่นอน

แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ควรจะพูดดี ๆ กับพวกเขาหน่อยละกันในฐานะเพื่อนร่วมทางที่น่าจะทำประโยชน์ให้เราได้ล่ะนะ

กายยิ้มปั้นหน้าก่อนจะตอบกลับไป

“แน่นอน ถ้าเกิดพวกโจรบุกเข้ามา ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะช่วยข้าตัดหัวพวกมัน โดยเฉพาะโจรที่มีค่าหัวมากกว่าหนึ่งพันเหรียญทอง ข้าจะมีรางวัลตอบแทนให้อย่างแน่นอน”

เมื่อได้ยินที่กายกล่าวทั้งสี่คนก็ตาเป็นประกายขึ้นมาในทันที พากันพยักหน้ารับปากอย่างหนักแน่น

ส่วนกายตอนนี้เขาเผยยิ้มมุมปากราวกับนักต้มตุ๋นที่พึ่งหลอกคนมาเป็นแรงงาน โดยที่ทั้งสี่ไม่ทันได้สังเกตเห็น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด