ตอนที่แล้ว1009-1010
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1013-1014

1011-1012


1/8

Ep.1011

“ขอบเขตเทพเจ้า?”

ซูเฉินถึงกับอ้าปากค้าง ทั่วทั้งใบหน้าแสดงอาการหวั่นไหว

หุ่นเชิดในขอบเขตเทพเจ้าคือตัวตนที่มีความแข็งแกร่งในระดับเดียวกับหวูซาง มันย่อมดึงดูดความสนใจของเขา

นอกจากนี้ ซูเฉินยังกังวลอยู่เล็กน้อย หากหุ่นเชิดใจขอบเขตเทพเจ้ายังมีสติอยู่ แล้วเขาดันรุกล้ำไปถึงอาณาเขตของมัน ใช่จะทำให้มันไม่พอใจหรือไม่?

ไม่ต้องกล่าวถึงระดับฐานฝึกตนของเขาในตอนนี้ เกรงว่าต่อให้เขาอยู่ในภาพสมบูรณ์พร้อมที่สุด ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของขอบเขตเทพเจ้า

“เสี่ยวซุ่น หุ่นเชิดตัวนั้นยังมีสติอยู่รึเปล่า?” ซูเฉินถามหยั่งเชิง

หากอีกฝ่ายยังมีสติ เขาต้องรีบออกไปทันที ไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้

“เจ้านาย ดูเหมือนว่ามันจะได้รับบาดเจ็บ เวลานี้จมอยู่ในห้วงนิทรา” นกสำรวจตอบ

ได้รับบาดเจ็บและจมอยู่ในห้วงนิทรา?

สมองของซูเฉินค่อยๆปั่นความคิด ก่อนเรียกหุ่นเชิดทองคำมาอยู่ข้างกาย เอ่ยถามว่า “เหล่าตี๋ เผ่าจักรกลของนายมีขอบเขตเทพเจ้าอยู่บ้างไหม?”

ได้พบหุ่นเชิดขอบเขตเทพเจ้าโดยบังเอิญที่นี่ ด้วยระดับที่สูงลิ่ว เกรงว่ามันคงมาจากเผ่าจักรกลแน่ๆ

“มีขอรับ”

หุ่นเชิดทองคำตอบอย่างมั่นใจ

ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย หันไปถามนกสำรวจว่า “เสี่ยวซุ่น ล็อคตำแหน่งเฉพาะของหุ่นเชิดตัวนั้น แล้วค่อยๆบอกฉัน”

ต่อมา ภายใต้คำแนะนำของนกสำรวจ ชาวต่างเผ่าทุกคนค่อยๆเจาะผนังหินลึกเข้าไปยังตำแหน่งที่หุ่นเชิดขอบเขตเทพเจ้าอยู่

หลังจากขุดต่อเนื่องสามวันสามคืน พวกเขาก็สามารถเจาะเข้ามาถึงโพรงกว้างขนาดใหญ่ใจกลางภูเขา โดยใจกลางถ้ำมีหุ่นเชิดสีขาวเงินนอนอยู่ หากไม่คำนึงถึงเรื่องหน้าตาและขนาด มันเหมือนกับ [นักรบจักรกล] ไม่มีผิดเพี้ยน

“ซูเฉิน เขามาจากเผ่าจักรกลของพวกเราจริงๆ ข้ารับรู้ถึงกลิ่นอายของเขาได้” หุ่นเชิดทองคำตะโกนด้วยความตื่นเต้น

หัวใจของซูเฉินเริ่มเต้นแรง  เอ่ยถามเสียงต่ำ “เหล่าตี๋ ทำไมมันถึงหลับลึกแบบนี้? เป็นเพราะบาดเจ็บแค่นั้นจริงๆหรอ?”

“ไม่ใช่”

หุ่นเชิดทองคำส่ายหัว ตามด้วยอธิบายว่า “แม้เขาจะได้รับบาดเจ็บ แต่ก็แค่เล็กน้อยเท่านั้น ส่วนเหตุผลที่ทำให้เขาหลับลึก เป็นเพราะหินแก่นแท้พลังงานถูกใช้ไปจนหมดแล้ว”

หินแก่นแท้พลังงาน?

ซูเฉินพึมพำ ลองเลียบเคียงถามว่า “ถ้าเป็นตามที่นายบอก ตราบใดที่พวกเราหาหินแก่นแท้พลังงานพบ แล้วติดตั้งให้เขา ก็จะปลุกเขาได้ถูกไหม”

“ถูกต้อง”

หุ่นเชิดทองคำตอบอย่างมั่นใจ

“แล้วนายรู้รึเปล่าว่าหินแก่นแท้พลังงานอยู่ที่ไหน?”

เนื่องจากหุ่นเชิดสีเงินเป็นเผ่าจักรกล ถ้างั้นเขาก็มีหน้าที่ช่วยปลุกมัน เมื่อมันตื่นขึ้น และฟื้นคืนพลังสู่ขอบเขตเทพเจ้า ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะกำจัดนักพรตเทียนซ่านและลูกน้องของเขา

“หินแก่นแท้พลังงานมีอยู่น้อยนิดในโลกใบนี้ ข้าไม่รู้เหมือนกันว่ามันอยู่ที่ไหน” หุ่นเชิดทองคำถอนหายใจ

ซูเฉินเข้าใจดี หากหินแก่นแท้พลังงานมันหากันได้ง่ายขนาดนั้นจริงๆ เช่นนั้นเผ่าจักรกลคงเต็มไปด้วยผู้แข็งแกร่งในขอบเขตเทพเจ้าแล้ว และไม่ต้องมาจมอยู่ในห้วงนิทราแบบนี้หรอก

ต่อมา ซูเฉินเก็บหุ่นเชิดสีเงินลงในถุงเก็บของ ขณะที่เขากำลังจะออกไปข้างนอก จู่ๆยอดเขาทั้งลูกก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

“ไม่ดีแล้ว!”

สีหน้าของซูเฉินแปรเปลี่ยนไป

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ คือสัญญาณว่าเทือกเขากำลังจะถล่ม หากออกไปไม่ทันเวลา คงถูกฝังอยู่ที่นี่แน่

ถ้าเป็นตามปกติ เขาจะไม่กังวลเลย แต่ตอนนี้เขาสูญเสียฐานฝึกตนทั้งหมดไป

หากถูกฝังขึ้นมา มีแนวโน้มว่าจะเสียชีวิต

หุ่นเชิดทองคำเองก็ตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ เอื้อมมือข้างหนึ่งคว้าซูเฉิน หิ้วตัวเขาวิ่งหนีออกมา

ภูเขาที่อยู่เบื้องหลังพังครืนเสียงดัง ฝุ่นควันลอยฟุ้งเต็มท้องฟ้า

“หรือว่านี่จะเกี่ยวข้องกับการนำหุ่นเชิดสีเงินออกมา?”

ซูเฉินเหม่อมองภูเขาที่ถล่มลงทั้งลูก ปากบ่นพึมพำ

ก่อนหน้านี้ทุกอย่างเรียบร้อยดี ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น คือหลังจากเขาหยิบหุ่นเชิดสีเงินออกมา เขาเลยคาดว่าน่าจะเป็นเพราะมัน

“ฮ่า ฮ่า​ ฮ่า! พลังของข้าฟื้นคืนมาแล้ว!”

แต่ในเวลานั้นเอง ชาวต่างเผ่าคนหนึ่งร้องคำรามด้วยความตื่นเต้น

2/8

Ep.1012

หัวใจของซูเฉินเต้นแรง ลองทดสอบดูอย่างรวดเร็ว

ไม่นาน เขาก็พบว่า พลังของอาชีพทั้งสามได้ฟื้นคืนมาแล้วจริงๆ

“ดูเหมือนว่าค่ายกลที่นี่จะถูกทำลายไปแล้ว”

ซูเฉินหรี่ตา กล่าวเสียงกระซิบ

ก่อนหน้านี้เขาได้รู้ข้อมูลจากชายชราชุดหนังสัตว์ ว่าสถานที่แห่งนี้ถูกค่ายกลปกคลุมอยู่ ทำให้ผู้ฝึกตนสูญเสียฐานฝึกตนไป

แต่ปัจจุบันฐานฝึกตนที่ว่ากลับมาแล้ว น่าจะเพราะค่ายกลเกิดความเสียหาย สาเหตุหลักๆน่าจะเป็นเพราะหุ่นเชิดสีเงิน

“ซูเฉิน พลังของพวกเราก็ฟื้นคืนมาแล้วเหมือนกัน”

ช่วงเวลานี้ ฉีมู่เฟิงและฉีมู่เล่ยเดินเข้ามาหาซูเฉินด้วยรอยยิ้มกว้าง สมาชิกคนอื่นๆในกลุ่มก็เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีพ่อลูกตระกูลซาง

“ในเมื่อพวกเราได้พลังคืนมาแล้ว งั้นก็ออกไปจากที่นี่เถอะ” ซูเฉินตอบ

การเดินทางครั้งนี้ได้รับแร่ชั้นเลิศมามากมาย ทั้งยังได้พบหุ่นเชิดระดับเทวะ และหุ่นเชิดขอบเขตเทพเจ้า นับเป็นการเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์มาก

เมื่อบรรลุเป้าหมายแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป

แต่ใครจะคาดคิด ขณะกำลังขึ้นรถ กลับปรากฏชาวต่าเผ่าที่อยู่รอบๆดาหน้ากันเข้ามาปิดล้อม ในดวงตาของพวกเขา ล้วนส่อเจตนาร้าย

“พวกแกมีธุระอะไร?”

ซูเฉินกวาดสายตามองอีกฝ่าย เอ่ยถามชัดถ้อยชัดคำ

“เจ้าหนู ก่อนหน้านี้เจ้าปฏิบัติกับพวกเราเหมือนทาส คงสนุกมากเลยสินะ?” ชายชราที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยับย่นจ้องซูเฉินอย่างเอาเป็นเอาตาย พิจารณาจากกลิ่นอายที่แผ่ออกมา เห็นได้ชัดว่าอยู่ในระดับเทวะขั้น 4

ซูเฉินหัวเราะและกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ที่ฉันขอให้พวกแกขุดเหมือง ก็เห็นสมัครใจกันทำนี่ หรือตอนนี้ต้องการขอค่าจ้างจากฉัน?”

เขารู้อยู่แก่ใจ ว่าหลังจากที่เหล่าชาวต่างเผ่าฟื้นคืนพลัง คงเกิดการต่อสู้แย่งชิงกันขึ้น เพราะท้ายที่สุดแล้ว ในตัวซูเฉินมีแร่อยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งแร่เหล่านี้ยังเป็นมีมูลค่ามหาศาล ใครบ้างเล่าจะไม่เกิดความละโมบ?

ขอค่าจ้าง?

สีหน้าของชายชรากลายเป็นบึ้งตึง แสยะยิ้มเย็น “เจ้าหนู พวกเราทุกคนล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทวะ แต่เจ้ากลับใช้งานพวกเราเยี่ยงทาส นี่คือความอัปยศอดสูของพวกเรา! มีเพียงความตายเท่านั้นที่จะชดใช้ได้!”

“กระนั้น ตราบใดที่เจ้ายอมมอบแร่ทั้งหมดมา เราจะไม่ถือสาเจ้าอีก ทั้งยังยอมปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไป”

“แล้วถ้าฉันไม่ให้ล่ะ?” ซูเฉินกล่าวอย่างเฉยเมย

“เจ้าก็เตรียมตัวตายได้เลย!” ชายชราหัวเราะดุดัน ดูเหมือนพวกเขาจะไม่เคยได้ยินชื่อของซูเฉินมาก่อน คงเพราะถูกขังมาหลายปี เลยไม่ทราบว่าซูเฉินแข็งแกร่งขนาดไหน

ในความคิดของพวกเขา สิ่งที่ซูเฉินพอจะพึ่งพาได้มีแค่หุ่นเชิดระดับเทวะขั้น 4 เท่านั้น ซึ่งทางพวกเขาก็มีระดับเทวะขั้น 3 4 อยู่หลายคนเช่นกัน หากร่วมมือกัน การฆ่าซูเฉินก็ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ

“หลงหยู! ซูเฉินเคยช่วยเจ้าไว้ แต่เจ้ากลับคิดทำคุณบูชาโทษหรือ?”  ซางอวิ๋นคำรามเกรี้ยวกราด

หากไม่ใช่เพราะซูเฉินปรากฏตัวที่นี่ คนเหล่านี้คงยังถูกทารุณ โดนบังคับให้ใช้แรงงานไปอีกนานแสนนาน

ทั้งๆที่ซูเฉินเข้ามาช่วยเหลือ แต่กลับตอบแทนกันแบบนี้  ทำได้อย่างไร?

“ซางอวิ๋น เห็นแก่หน้าบรรพชนตระกูลซางของเจ้า จงออกไปเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้นเจ้าจะต้องถูกฆ่าตายไปพร้อมกับมัน!” หลงหยูขู่

ตระกูลหลงของพวกเขาเองก็เป็นหนึ่งในสิบตระกูลซ่อนเร้นเช่นกัน แม้อันดับจะไม่สูงเท่าตระกูลซาง ทว่าในด้านความสามารถการต่อสู้ส่วนบุคคลแทบไม่แตกต่าง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กลัวซางอวิ๋น

คนอื่นๆต่างจ้องมองซางอวิ๋นเป็นสายตาเดียว ทั้งหมดแสดงท่าทีไม่เป็นมิตรออกมา

“หากพวกเจ้าต้องการจัดการซูเฉิน ต้องข้ามศพข้าไปก่อน!” ซางอวิ๋นถูกกดดันอย่างหนัก แต่ก็กัดฟัน ยืนหยัดเคียงข้างซูเฉินอย่างมั่นคง ไม่คิดถอยหนี

“ในเมื่อเจ้าไม่รู้จักชั่วดี เช่นนั้นก็จงตายไปพร้อมกับเขา!”

ใบหน้าของหลงหยูมืดมนลง ตวาดเสียงเย็น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด