ตอนที่แล้วอสูรมังกรฟ้า เล้งซาน ตอนที่ 6 มังกรเคลื่อนสมุทร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปอสูรมังกรฟ้า เล้งซาน ตอนที่ 8 ปล่อยมังกรลงรังสุนัข

อสูรมังกรฟ้า เล้งซาน ตอนที่ 7 งามล่มเมือง


เล้งซาน ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย

"ท่านี้นับเป็นท่าไม้ตายอย่างแท้จริง ข้ามิอาจใช้เพียงเพื่อโอ้อวดท่านได้ เพราะเงื่อนไขการใช้มัน นับว่าลำบากกว่า เคล็ดมังกรเคลื่อนสมุทร มากนัก ไว้ในยามคับขันที่มีเส้นแบ่งความเป็นตายของข้า ท่านย่อมได้ชมแน่นอน"

"ชิ!! ยิ่งเจ้าพูดเยี่ยงนี้ มันลังแต่จะกระตุ้นความสนใจของเรา เราจะภาวนาทุกวี่วัน หวังให้เจ้าเข้าสู่ภาวะคับขันเป็นตายเท่ากัน!!"

เฟรย่า ใช้น้ำเสียงแดกดันในทันที เล้งซานได้แต่เพียงอมยิ้มไว้เล็กน้อยเมื่อเจอความเอาแต่ใจของ ธิดาเผ่าเทพผู้นี้

ทันใดนั้นพลังปราณสีคราม ก็สุกสว่างขึ้นเล็กน้อยที่จุดตันเถียนของ เล้งซาน และโคจรกระจายทั้งร่าง 1 รอบพลังและพุ่งกลับเข้าไปในจุดตันเถียนอีกครั้ง เปลี่ยนสีกลายเป็นแสงลมปราณสีม่วง ที่เข้มข้นกว่าเดิม เล้งซานได้เข้าสู่ ลมปราณสีม่วงขั้นที่ 4 แล้ว!! เฟรย่าที่สัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงได้ถึงกับร้องออกมาในทันที

"จะ..จะ...เจ้า!! เอาพลังลมปราณที่ตกค้างของ ชุนเกียงตู้ มาแปลงสภาพให้กลายเป็นพลังลมปราณในร่าง เพื่อยกระดับขั้น กลายเป็นขั้นที่ 4 ของลมปราณชั้นสีม่วง"

"ใช่ นี่คืออีกขั้นของเคล็ดวิชาเส้นลมปราณมังกร ข้าในตอนนี้มีพลังอ่อนด้อยนัก จึงดูดซับได้เพียงพลังตกค้างเช่นนี้เท่านั้น"

เล้งซานตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่เฟรย่าหากมีร่างกายจะเห็นได้ในทันทีว่าถึงกลับถลึงดวงตาจนกลมโตด้วยความตกใจ

"บ้าชัดๆ!! การที่เจ้ากล่าวเช่นนี้หมายความว่าหากเจ้ามีพลังลมปราณสูงส่งกว่า ณ ตอนนี้ เจ้าจะสามารถดูดซับพลังได้ทั้งหมด มาแปรเปลี่ยนเป็นการเสริมพลังของตนเอง นี่มันเป็นเคล็ดวิชาดูดซับพลังในตำนาน ที่หายสาบสูญ และไม่เคยปรากฏใน 3 โลกมาหลายพันปี"

"เฟรย่า ท่านก็กล่าวเกินไป สิ่งที่ข้าทำได้ก็เพียงดูดซับพลังปราณที่โจมตีใส่ตัวข้ามาเท่านั้น แต่ถ้าไร้ซึ่งการโจมตีจากพลังปราณใดๆข้าล้วนมิอาจบังคับให้ดูดซับโดยตรงได้ วิชาดูดซับในตำนานที่ท่านกล่าวถึงนั้น สามารถดูดซับจากร่างกายได้โดยตรง แม้ศัตรูจะขัดขืนก็มิอาจทำได้ จึงเป็นเพียงตำนานเท่านั้น"

"เหอะ!! แต่สิ่งที่เจ้าทำได้ก็มิต่างจากขั้นแรกของวิชาในตำนาน"

เล้งซานยิ้มที่มุมปาก จากนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อย

"จริงของท่าน หากข้ามีเวลาศึกษามากกว่านี้สัก 10 ปี ข้ามั่นใจกว่า 9 ส่วน ว่าข้าจะสามารถปลุกเคล็ดวิชาในตำนานนี้ขึ้นมาได้ แต่ตอนนี้ยังนับว่าห่างไกล อีกทั้งข้ายังมีหน้าที่ ต้องฟื้นฟูตระกูลเล้ง เอาไว้ปลดภาระหน้าที่ในส่วนนี้แล้วข้าจึงค่อยคิดค้นวิชา"

พูดจบเล้งซานก็ทำหน้าที่รดน้ำต้นไม้ ในสวนต่อ จวบจนตะวันขึ้นตรงศีรษะในช่วงเที่ยงวัน จึงเสร็จสิ้นภารกิจในวันนี้

ตั้งแต่ที่มายัง ณ ดินแดนนี้ เล้งซานยังมิเคยได้พักผ่อน หากมีปราณขั้นสูง แม้อดนอนนับสิบวัน ขาดอาหารนับเดือน ก็ยังมินับว่าลำบากสำหรับผู้มีปราณขั้นสูง แต่ด้วยปราณที่อ่อนด้อย ร่างกายจึงแทบจะถึงขีดสุดของมันแล้ว แม้ช่วงเวลานี้แดดจะแผดเผา แต่ก็ยังมีลมพัดจางๆให้พอเคลิบเคลิ้ม มันจึงทิ้งตัวนอนในสวนใต้ต้นไม้ฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นหน้าที่พักหัวหน้าหมู่บ้าน เพียงชั่ว 10 ลมหายใจเข้าออกมันก็ งีบหลับไป...

"ท่านเป็นผู้ใดกัน!! เหตุใดมางีบหลับ ณ สวนของเรือนเรา"

เสียงหวานเสนาะหูของหญิงสาว ทำให้เล้งซานหลุดจากภวังค์ มันลืมตาตื่นดีดกายขึ้นทันที มองไปที่ต้นตอของเสียงนั้น กลับพบหญิงสาวอายุราว 17-18ปี ผมดำสลวยใบหน้าโค้งได้รูป แววตาเปล่งประกายเฉิดฉายราวกับอัญมณีที่มิอาจประเมินค่า จมูกโด่งราวหยกที่แกะสลักไว้ ริมฝีปากเปรียบดังบุปผาแรกแย้มดูน่าดึงดูด ผิวขาวละมุนเทียบเท่าหิมะเหมันต์ แม้จิตรกรเอกก็มิอาจวาดภาพความงามของนางออกมาได้หมดจด หากบอกว่ายามนี้มันยังมิได้ตื่นและยังคงอยู่ในห้วงแห่งความฝันมันนั้นพร้อมจะเชื่อทันทีว่ามีนางฟ้าธิดาสวรรค์มาปรากฏกายให้เห็น!! นางจ้องมาที่เล้งซาน เอียงคอเล็กน้อย ด้วยท่าทีสงสัย

'งดงามมาก หญิงสาวผู้นี้ นับว่ามีความงามล่มเมืองโดยแท้'

เล้งซาน แม้วัย 15 ปี แต่ด้วยคือผู้สืบทอดตระกูลอันดับ 1 มันล้วนประสบพบเจอสาวงามมากมาย ให้เลือกสรรแต่สาวงามเหล่านั้นยังมิอาจเทียบได้กับหญิงสาวผู้นี้ มันตกอยู่ในภวังค์แห่งความงามโดยทันที

"ท่านยังมิ ตอบแก่เรา?"

คำถามนี้ช่วยดึงจิตใจเล้งซานออกจากภวังค์ มันจึงกลับสู่บุคลิกเดิม ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย มันพอเดาออกทันทีว่าหญิงงามผู้นี้เป็นใคร จึงประสานมือ โค้งตัวเล็กน้อยด้วยท่านอบน้อมประจำตัว

"ข้าเป็นคนสวน คนใหม่ของเรือนนี้ พึ่งเข้ามาเมื่อวาน วันนี้ข้าเริ่มงานวันแรก หากเดามิผิด คุณหนูคงเป็นบุตรีของท่านหัวหน้าหมู่บ้าน"

"มิผิด เราเป็นบุตรสาวเจ้าของเรือนแห่งนี้ ตัวท่านช่างแปลกนัก ทั้งบุคลิก และรูปร่างหน้าตาของท่าน ไม่ว่าจะมองด้านใดก็ไม่เหมือนคนสวน หากบอกว่าท่านมาจากตระกูลใหญ่ ยังมินับว่าเกินเลยแม้แต่น้อย เหตุใดจึงมาเป็นคนสวนของเรือนเรา?"

เล้งซาน แม้ผิวไม่ได้ขาวนวล แต่ก็มิถึงขั้นคล้ำ รูปร่างสูงใหญ่เกินวัยเล็กน้อย ดูองอาจสมชายชาตรี จากการฝึกยุทธตั้งแต่ อายุ 5ปี ใบหน้าคมคายได้รูปปานหินพันปีที่แกะสลักไว้อย่างหมดจด  ผมยาวแต่ถูกมัดเกล้ารวบไว้เหมือนบัณฑิต...

.............................................

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด