ตอนที่แล้ว993-994
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป997-998

995-996


5/10

Ep.995

“ผู้อาวุโส พวกเราหยุดกันแค่นี้เถอะ”

ซูเฉินเก็บ [เทคนิคปลุกศูนย์รวมวิญญาณสวรรค์] มองไปทางฉีชิงเฉวียน เผยรอยยิ้มจาง

“เจ้าชนะแล้ว ข้าจะไม่วุ่นวายกับเจ้าอีก” ฉีชิงเฉวียนส่งเสียงอู้อี้ในลำคอ ลากเสือดาวศิลาวิญญาณทมิฬที่ถูกทุบตีจนตกอยู่ในสภาพน่าสังเวชไม่แพ้กัน บินออกจากสถานที่นี้ไปอย่างรวดเร็ว

เดิมเขามาที่นี่เพื่อออกหน้าแทนฉีฉง แต่ไม่นึกฝันเลยว่าจะถูกซูเฉินตบหน้าต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้ เขาอับอายจนลำไส้บิดเป็นเกลียวแล้ว ไหนเลยจะมีหน้ารั้งอยู่ที่นี่อีก?

และการจากไปครานี้ เขาจะประกาศปิดด่านฝึกตนทันที ต้องเก็บตัวอย่างน้อยสามถึงห้าปี รอจนกว่าเรื่องจะซาแล้วค่อยปรากฏตัวอีกครั้ง

รอจนฉีชิงเฉวียนจากไป ซูเฉินเก็บหุ่นเชิดทองคำ หันไปพูดกับฉีมู่เฟิง “พี่ฉี ได้เวลาที่พวกเราต้องไปท้าประลองตระกูลหานกันแล้วกระมัง?”

“ไปสิ” ฉีมู่เฟิงตอบในลมหายใจเดียว คราวนี้เขาไม่เหลือความลังเลอีกต่อไป

ซูเฉินสามารถโค่นได้กระทั่งฉีชิงเฉวียนที่อยู่ในระดับเทวะขั้น 5 การกำจัดหานเจี้ยนอู่ในระดับเทวะขั้น 3 คงไม่ต่างจากการเล่นเกม

ฉีมู่เล่ยและน้องสาวทั้งสองก็ไม่คัดค้านเช่นกัน

หลังจากนั้น ซูเฉินเรียก [รถศึกอัจฉริยะ] ออกมา มุ่งหน้าสู่ที่ตั้งของตระกูลหาน

ระหว่างทาง ฉีมู่เฟิงเดินมาข้างๆซูเฉิน เอ่ยถามเสียงกระซิบว่า “ซูเฉิน เหตุใดเจ้าถึงสามารถยกระดับได้ไวขนาดนี้?”

ใช้เวลาไม่กี่เดือน สามารถยกระดับได้สองครั้งติด แม้แต่อัจฉริยะก็ยังทำไม่ได้

“พี่ฉี ฉันมีสมบัติที่ช่วยยกระดับได้ทันทีอยู่ หากคุณได้มันไป มันจะช่วยให้คุณยกระดับได้ในเวลาสั้นๆเช่นกัน” ซูเฉินกล่าวอย่างมีความหมาย

การดื่ม [โพชั่นกายภาพ] จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถยกระดับได้ในระยะเวลาสั้นๆ ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฉีมู่เฟิง ซูเฉินยินดีแลกเปลี่ยน [โพชั่นกายภาพ] ให้แก่ฉีมู่เฟิง

แม้ตอนนี้แต้มพลังงานที่ใช้จะเป็นแต้มสำรอง  แต่อีกเดี๋ยวเขาก็จะได้รับชิ้นส่วนจำนวนมาก จึงไม่ลังเลที่จะมอบ [โพชั่นกายภาพ ขั้น 13] ให้แก่ฉีมู่เฟิงขวดหนึ่ง ช่วยอีกฝ่ายเลื่อนขั้นสู่เทวะขั้น 2

“ซูเฉิน  ขอบใจเจ้ามาก!” ฉีมู่เฟิงรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เขาเชื่อมั่นในตัวซูเฉินสุดหัวใจ  ว่าจะต้องยกระดับได้อย่างแน่นอน ส่วนเรื่องที่ว่ามันคืออะไร เขาไม่คิดเค้นถาม

ทุกคนล้วนมีความลับ  การถามมากเกินไปอาจทำให้ซูเฉินไม่พอใจได้

ฉีมู่เสวี่ยพอได้ยินว่ามีสมบัติบางอย่างที่สามารถช่วยยกระดับได้อย่างรวดเร็ว ดวงตาเธอเปล่งประกายสดใส เดินเข้ามาข้างกายซูเฉิน กล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มว่า “ซูเฉิน ข้ากับน้องสาวติดอยู่ในขั้น 10 มีหลายปีแล้ว พวกเราทะลวงเสมือนเทวะไม่ได้ซักที เจ้าพอจะช่วยพวกเราได้ไหม?”

“ขอดูผลงานของพวกเธอหลังจากนี้ก่อน”

ซูเฉินหัวเราะฮ่า ฮ่า หันไปพูกกับฉีมู่เฟิงว่า “พี่ฉี พอถึงบ้านตระกูลหานช่วยเรียกฉันด้วย ขอตัวพักผ่อนสักครู่”

ว่าจบ เขาก็ไม่เปิดโอกาสให้ฉีมู่เสวี่ยได้พูดต่อ ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้คนขับ  หลับตาพักผ่อน

“เจ้าคนน่ารังเกียจ!” ฉีมู่เสวี่ยโกรธแค้นในหัวใจ ครั้งก่อนซูเฉินก็พูดแบบนี้กับเธอ  ดังนั้นเธอจึงพยายามอย่างหนักเพื่อแสดงให้เขาเห็น แต่สุดท้ายซูเฉินก็ไม่มอบอะไรกับเธอเลย

คราวนี้เจอประโยคเดียวกันซ้ำอีกครั้ง นี่ไม่ใช่ว่าชัดเจนแล้วว่าเขากำลังล้อเล่นเธอหรือ?

เธอรู้สึกว่าปอดตัวเองกำลังจะระเบิด แต่ไม่กล้าโจมตี อยากจะร้องไห้แต่ก็ไม่มีน้ำตา

สามวันต่อมา

[รถศึกอัจฉริยะ] เดินทางมาถึงหน้าบ้านตระกูลหานได้อย่างราบรื่นไม่มีอุปสรรคใดๆ

ตระกูลห่านคือหนึ่งในสิบตระกูลซ่อนเร้น ด้านกำลังรบโดยรวมแข็งแกร่งกว่าตระกูลฉีเสียอีก เกาะที่พำนัก ใหญ่กว่าตระกูลฉีหลายเท่า เหมือนเป็นทวีปขนาดเล็กเลย

มองจากระยะไกล ที่นั่นไม่ได้มีแค่ตัวอาคาร แต่ยังมีลุ่มน้ำและภูเขา

ซูเฉินกวาดสายตามองจากด้านนอก จากนั้นเรียกทุกคนให้ลงจากรถ

“พวกเจ้าเป็นใคร? มีธุระอะไรกับตระกูลหานของพวกเรา?”

ทหารยามตระกูลหานหลายคน ก้าวออกมาขวางทางซูเฉินและคนอื่นๆเอาไว้  ตะโกนถามเสียงดัง

“เรียกหานเจี้ยนอู่ออกมา ฉันต้องการท้าประลองกับเขา!” ซูเฉินตอบเสียงเย็น

ท้าประลอง?

ทหารยามหลายคนชะงักงันไปครู่หนึ่ง ก่อนพากันหัวเราะพรืดว่า “เด็กน้อย เจ้าเสียสติไปแล้วกระมัง คิดท้าประลองคุณชายอู่ของพวกเรา เจ้าคู่ควรหรือ?”

ตูม!

ใครจะทันคิด ว่าทหารยามเพิ่งพูดจบ ก็ถูกซูเฉินตบเข้าที่ใบหน้า ทั้งหัวกลายเป็นเลือดเนื้อเลอะเลือนทันที

6/10

Ep.996

ทหารยามที่เหลือตกใจตัวแข็งทื่อ

ที่นี่คือหน้าบ้านตระกูลหาน! ทว่าผู้ฝึกตนเผ่ามนุษย์คนหนึ่งกลับกล้าลงมือสังหาร? นี่มันบ้าไปแล้ว

ฉีมู่เล่ยตกใจกับการลงมือของซูเฉิน เพราะถึงอย่างไรเขามาที่นี่เพื่อท้าประลอง แต่ซูเฉินกลับฆ่าคนหน้าประตู นี่ไม่ใช่มารยาทที่ควรกระทำ

ในทางตรงกันข้าม ฉีมู่เฟิงและน้องสาวทั้งสองสงบมาก ทั้งสามตระหนักดีถึงอุปนิสัยของซูเฉิน

ทหารยามคนหนึ่งกล้าอาละวาดต่อหน้าเขา ต้องโทษอีกฝ่ายที่หาเรื่องใส่ตัวเอง

“รีบไสหัวไปเรียกหานเจี้ยนอู่ออกมา ไม่งั้นฉันจะค่อยๆกุดหัวตระกูลหานทีละคน!”

ซูเฉินหรี่ตาลง กวาดสายตามองทหารยามที่เหลือ ข่มขู่เสียงเย็น

‘ช่างปากกล้าอะไรเช่นนี้!’ ทหารยามหลายคนไม่พอใจ แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไรมาก เพราะพวกเขากลัวว่าจะไปยั่วยุให้ซูเฉินโกรธ แล้วถูกกุดหัวตายลงที่นี่

ไม่นาน ทหารยามคนหนึ่งก็วิ่งเข้าไปในอุโมงค์ทางผ่านอย่างรวดเร็ว แจ้งเรื่องที่เกิดขึ้น

ส่วนซูเฉินและคนอื่นๆยืนรออยู่ข้างนอกอย่างสบายๆ

หลังจากนั้นไม่นาน กลิ่นอายทรงพลังสายสองกวาดสวนออกมาจากอุโมงค์ทางผ่าน บ่งบอกว่าทั้งคู่คือระดับเทวะ

“เป็นหานเจี้ยนอู่กับหานเจี้ยนสื่อ!” ฉีมู่เล่ยเตือน

ซูเฉินมองเข้าไปในอุโมงค์ทางเข้า ปรากฏร่างของชายหนุ่มและชายชราหัวล้านในสายตา

ตามข้อมูลที่เขาได้รู้จากฉีมู่เฟิงก่อนหน้านี้ หานเจี้ยนอู่มีอายุไม่ถึง 30 ปี ดังนั้นชายหนุ่มสมควรเป็นหานเจี้ยนอู่

“พี่ฉี ฐานฝึกตนของหานเจี้ยนสื่ออยู่ในขั้นไหน?” ซูเฉินถามเบาๆ

“ระดับเทวะขั้น 4” ฉีมู่เฟิงตอบกลับทันที

ซูเฉินพยักหน้า ไม่ถามอะไรเพิ่มเติมอีก

“ไอ้ปัญญาอ่อนคนไหนกล้าฆ่าคนในตระกูลหานของข้า? สงสัยคงเบื่อชีวิตแล้วใช่หรือไม่?”

หานเจี้ยนอู่ปรากฏตัว ร้องคำรามด้วยความโกรธทันที

เมื่อเขาเห็นว่าคนที่อยู่หน้าทางเข้าคือพวกตระกูลฉี แวบแรกอึ้งไปเล็กน้อย พอได้สติก็กล่าวเยาะเย้ยถากถางว่า “ฉีมู่เฟิง ครั้งที่แล้วเจ้ายังเจ็บไม่พอหรือ ถึงได้บุกมาโดนซ้อมถึงที่อีก?”

“หานเจี้ยนอู่ อย่าอวดดีให้มันมากนัก วันนี้พี่น้องของข้าจะมาขอท้าประลองเจ้า เจ้ากล้ารับหรือไม่?” ฉีมู่เฟิงแค่นเสียงเย็น

พี่น้องเจ้า?

หานเจี้ยนอู่กวาดสายตาเย็นชาไปยังฉีมู่เล่ย ก่อนแผดเสียงหัวเราะอย่างไม่อาจควบคุม

“อาศัยแค่ฉีมู่เล่ย ยังคิดจะท้าประลองกับข้า? ตระกูลฉีของพวกเจ้ามีแต่คนชอบหาเรื่องใส่ตัวหรือ?”

ฉีมู่เล่ยคือรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลฉี อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายอยู่แค่ระดับเทวะขั้น 2 เท่านั้น หานเจี้ยนอู่ไม่ต้องใช้กำลังเต็มที่ ก็สามารถอัดฉีมู่เล่ยจนหมอบได้แล้ว

ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของฉีมู่อวี้และคนอื่นๆเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดยิ่ง

ฉีมู่เล่ยแค่นเสียงเบาๆ “ถึงข้าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า แต่ ‘เขา’ สามารถบดขยี้เจ้าได้อย่างง่ายดาย!”

สิ้นเสียง ก็ยื่นมือชี้ไปทางซูเฉิน

หานเจี้ยนอู่มองตาม เมื่อเห็นว่า ‘เขา’ ที่ถูกชี้มีอายุแค่ราวๆ 20 ปีเท่านั้น ทั้งยังเป็นเผ่ามนุษย์ ก็แสดงท่าทีดูแคลนออกมา

“ตระกูลฉีของพวกเจ้าไม่มีใครแล้วหรือ ถึงได้ส่งเผ่ามนุษย์มาหาที่ตาย!”

ซูเฉินไม่ได้โกรธ เพียงยกนิ้วชี้ขึ้นถูจมูกเขา เอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “หานเจี้ยนอู่ แกกล้ารับคำท้าของฉันไหม?”

อาศัยเพียงเจ้า?

เมื่อได้ยินน้ำเสียงหยิ่งผยองของซูเฉิน หานเจี้ยนฉีต้องหันกลับมามองซูเฉินใหม่อีกครั้ง เอ่ยเสียงเย็น “เจ้าหนู จงประกาศชื่อเจ้ามา! ข้าไม่ฆ่าคนไร้นาม!”

ซูเฉินเบ้ปาก “ตราบใดที่แกสามารถรับหนึ่งกระบวนท่าจากฉันได้แล้วยังไม่ตาย ฉันจะบอกแกเอง”

“ช่างเป็นเด็กน้อยจอมโอหัง!”

หานเจี้ยนสื่อที่ไม่ได้พูดอะไรเลย  เวลานี้ส่งเสียงฮึดฮัดออกมา

หานเจี้ยนอู่คืออัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดในตระกูลหาน แม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับเทวะขั้น 5 ก็ยังไม่กล้าเอ่ยปากว่าจะโค่นเขาในกระบวนท่าเดียว

ขณะที่ซูเฉินเป็นแค่มนุษย์อ่อนแอ เขากล้าดียังไงถึงได้อวดเบ่งเช่นนี้?

“เจ้าหนู ยินดีด้วยเจ้ายั่วโมโหข้าสำเร็จแล้ว ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจที่มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้!”

หานเจี้ยนอู่เผยสีหน้าดุร้าย กัดฟันร้องคำรามด้วยความโกรธ

ทุกคำพูดที่ออกจากปากซูเฉิน สำหรับเขา ล้วนแต่เป็นคำดูถูกที่ทำให้ต้องอับอาย

และในบรรดาคนที่ทำให้หานเจี้ยนอู่ต้องอับอาย ไม่เคยมีใครรอดมาได้เลยซักคนเดียว

ณ จุดนี้ เขาสาบานกับตัวเอง ว่าจะต้องหั่นซูเฉินเป็นหมื่นๆชิ้น!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด