ตอนที่แล้ว313 - ความแข็งแกร่งของบุตรศักดิ์สิทธิ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป315 - อาณาจักรลับที่สองของตำหนักเต๋า

314 - 20 วัน


314 - 20 วัน

ท่ามกลางการต่อสู้ที่วุ่นวายบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงชูหมัดขึ้นสู่ท้องฟ้า แสงศักดิ์สิทธิ์แผ่ออกมาปกคลุมทั่วบริเวณ ท้องฟ้าสั่นสะเทือนกลืนกินสวรรค์และปฐพี!

หนึ่งในยอดฝีมืออาวุโสที่พุ่งเข้ามาถูกกระแทกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในทันที

ในขณะเดียวกันอีกคนหนึ่งก็ตะโกนด้วยความโกรธเกรี้ยวพร้อมโฉบลงมาตัดผ่านท้องฟ้าออกเป็นสองส่วน โดยต้องการสังหารบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงในการโจมตีเพียงครั้งเดียว

อย่างไรก็ตาม บุตรศักสิทธิ์แสงโชติช่วงไม่ใช่บุคคลที่มีระดับบ่มเพาะเท่ากันจะสามารถต่อสู้กับเขาได้ เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ล้อมรอบตัวเขาอย่างรุนแรงและทันใดนั้นกำปั้นของเขาก็กระแทกขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้ง

"บูม"

ท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงสว่างไสวอย่างไม่รู้จบ อาวุธที่น่าสะพรึงกลัวของยอดฝีมืออาวุโสคนนั้นระเหยไปในทันที และร่างกายทั้งหมดของเขาก็แหลกสลายกลายเป็นเนื้อบด

เมื่อชายชราคนสุดท้ายเห็นดังนั้นเขาก็หันหลังกลับและวิ่งหนีด้วยความกลัวอย่างรวดเร็ว

บุตรศักสิทธิ์แสงโชติช่วงไม่มีความเมตตาแม้แต่น้อย รัศมีศักดิ์สิทธิ์ของเขาแผ่ออกมารอบตัวในขณะที่เขาคำรามเสียงดัง

"ฆ่า!"

"ปัง!"

ยอดฝีมืออาวุโสคนสุดท้ายที่กำลังหลบหนีถูกกำปั้นของบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงกระแทกกลายเป็นหมอกเลือดในลมหายใจต่อมา

"นี่ ...... มันน่ากลัวเกินไป!"

“ผู้แข็งแกร่งทั้งห้า ทุกคนได้รับการฝึกฝนในดินแดนลับที่สาม แต่ทุกคนถูกสังหารง่ายๆแบบนี้ พลังของบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงสามารถสั่นสะเทือนทั้งสวรรค์และปฐพียากที่จะหาคนรุ่นเดียวกันต่อสู้ได้!”

“น่ากลัว น่าสยดสยอง! โชคดีที่ข้าไม่ใช่ศัตรูของเขา ข้าคิดว่าคงมีเพียงร่างศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลจี้เท่านั้นที่พอจะเทียบเคียงได้”

“เรื่องนั้นมันก็ไม่แน่นักหรอก ตระกูลจี้มีจี้ฮ่าวเยว่ แต่ตระกูลเจียงก็มีร่างศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน โดยเฉพาะร่างศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลจี้ที่เคยหลบหนีจากการไล่ล่าของราชานกยูงได้ คนคนนี้จะเป็นคนธรรมดาได้อย่างไร”

ในเวลานี้บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงดูราวกับเทพเจ้าจริงๆ ร่างกายของเขาเปล่งประกายสดใส แม้แต่เส้นผมของเขาก็ยังเปลี่ยนเป็นสีทองดูน่ากลัวอย่างยิ่ง

พลังโลหิตของเขาไหลเวียนและเดือดพล่านเหมือนเพลิงใต้พิภพ ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่ผู้คนจะเข้าใกล้!

“ข้าทนความกดดันนี้ไม่ได้!” ผู้ฝึกตนบางคนส่งเสียงคร่ำครวญ ร่างกายของพวกเขาอ่อนแอและถอยกลับด้วยความกลัว

“พลังชีวิตของเขาแข็งแกร่งมาก เพียงแค่รัศมีพลังของเขาก็สามารถทำร้ายผู้ฝึกฝนอาณาจักรกงล้อแห่งทะเลได้แล้ว”

อู๋จงเทียนถอนหายใจและกล่าวว่า “ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา เมื่อแสงศักดิ์สิทธิ์ปลดปล่อยออกมา ข้าเกรงว่าข้าจะไม่มีโอกาสได้ลงมือแม้แต่ครั้งเดียว นี่ไม่ใช่คนที่ผู้คนรุ่นเดียวกันสามารถต้านทานได้”

“ตอนนี้ มีเพียงคนเดียวที่สามารถแข่งขันกับเขาได้ ข้าเกรงว่าจะเป็นองค์ชายต้าเซี่ยที่ฝึกฝน”ปราณมังกรจักรพรรดิเท่านั้น"

"น่าเสียดายที่วิธีการโจมตีศักดิ์สิทธิ์ของ ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียง ได้หายไปตลอดกาล ...... "

เมื่อญาณวิเศษของราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ไม่ปรากฏ ใครจะแข่งขันกับเขา? บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงได้รับการพิจารณาว่าเหนือกว่าปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงในวัยหนุ่มเสียอีก

ดินแดนรกร้างตะวันออกในปัจจุบัน ตระกูลจี้ และตระกูลเจียง ต่างก็มีร่างศักดิ์สิทธิ์ที่ถือว่าแข็งแกร่งที่สุด ซึ่งคนพวกนี้จะรับประกันได้ว่าตระกูลของพวกเขาจะดำรงความยิ่งใหญ่ไปอีกสามพันปีเป็นอย่างน้อย

การได้เกิดในยุคเดียวกับร่างศักดิ์สิทธิ์นั้นย่อมเป็นความทุกข์แก่ผู้บ่มเพาะคนอื่นๆ ไม่ว่าเจ้าจะเก่งกาจแค่ไหน เจ้าก็จะถูกกดขี่ตลอดไป

แต่ในเวลานี้นอกเหมืองโบราณคุนอวิ๋น หลายคนมีความรู้สึกแปลกๆ บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงมีความแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ทำให้ทุกคนต้องประเมินเขาสูงขึ้นอีกครั้ง

ผู้อาวุโสห้าคนพยายามซุ่มโจมตีขัดขวางไม่ให้เขามีความก้าวหน้าซึ่งเป็นเรื่องที่น่าละอายอย่างยิ่ง แต่สุดท้ายเขาก็ตอบโต้คนพวกนั้นด้วยความโหดร้าย

เขาเป็นเหมือนเตาหลอมแห่งแดนสวรรค์ เมื่อยืนอยู่ใต้ฟ้าผู้คนที่อยู่รอบๆไม่สามารถสบตากับเขาได้!

“น้องเย่ พวกเราภูมิใจในตัวเจ้าอย่างยิ่ง” หลี่เหอสุ่ยและคนอื่นๆเห็นเย่ฟ่านแต่ไม่ได้เข้ามาไกล้ๆ และแอบส่งเสียงแทน

“นักพรตผู้น่าสงสารต้องภูมิใจอะไร?” เย่ฟ่านไม่เข้าใจ

“เจ้าลูกวัวจอมปลอม อย่าล้อเล่นต่อหน้าเรา ตอนนี้ข้าสงสัยจริงๆว่าเจ้าเป็นนักพรตไร้ยางอายคนนั้นหรือเปล่า ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าเจ้าชั่วร้ายกว่าเขาเสียอีก” หลี่เหอซุ่ยคำราม

“ข้าเต็มไปด้วยความยุติธรรม เจ้าจะลบหลู่ข้าแบบนี้ได้อย่างไร”

เย่ฟ่านประท้วง

"ข้าพูดเจ้าหนูเย่ เจ้าขาดเจ้าธรรมจริงๆ แม้ว่าจะอายุยังน้อยแต่ก็ใจดำกว่าหลี่เหอสุ่ยเสียอีก เหยาซีรู้หรือไม่ว่าเจ้าปลอมตัวมา ข้าแทบจะรอดูสีหน้าของนางไม่ไหวแล้ว”

หลี่เหอซุ่ยได้ยินตู้เฟยกล่าวหาเขา เขาก็ตอบโต้ด้วยความไม่พอใจว่า

"หัวใจข้าเป็นเช่นไร อย่าเอาข้าไปเปรียบกับเด็กน้อยคนนี้"

“นักพรตผู้น่าสงสารเพียงเข้าไปที่นั่นอย่างบังเอิญเท่านั้น พวกเจ้าจะโวยวายอะไรกัน” เย่ฟ่านส่ายศีรษะทอดถอนใจ

“อย่าพูดเลย ยิ่งเจ้าอธิบายข้าก็ยิ่งจะกระอักเลือดออกมา เด็กคนนี้ยิ่งหน้าซื่อใจคด แม้แต่พวกเราพี่น้องเขาก็ยังไม่จริงใจด้วย” เจียงฮั่วเหรินยังส่งเสียงต่อ

"ต่อหน้าองค์ชายต้าเซี่ยแม้แต่น้องสาวเขาเจ้าก็ยังกล้าล่อลวง นั่นแสดงให้เห็นว่าไม่มีเรื่องใดในโลกที่เจ้าไม่กล้าทำ ในอนาคตหากเจ้าไม่อยู่ในสายงานของพวกเราเจ้าจะไปที่ใดได้น้องชาย"

“ตอนนี้เจ้าและสตรีศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงกำลังฟื้นคืนมิตรภาพเก่าๆหรือไม่” หลิวคุนหัวเราะด้วยสีหน้าประหลาด

“อะไรคือฟื้นคืนมิตรภาพเก่าๆ?”

“โดยธรรมชาติ เจ้าและนางต่างก็เกี่ยวพันกัน แต่อย่าหลงเสน่ห์ความงามมากเกินไป เจ้าต้องแฝงตัวและโจมตีพวกเขาให้ถูกเวลา เราจะร่วมมือกันอย่างดีและหวังว่าเจ้าจะเชื่อใจได้”

......

เย่ฟ่านไม่ได้ปฏิเสธคำพูดของพวกเขา แน่นอนว่าการคบหาลูกหลานของโจรผู้ยิ่งใหญ่แบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร ดังนั้นเขาจึงยินดีรับไว้อย่างเต็มใจ

“เจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องทำตัวสนิทสนมกับพวกเรา ตามปกติแล้วจะไม่มีใครกล้ารังแกพวกเราดังนั้นจึงมีผู้คนมากมายที่สนิทสนมกับพวกเราอยู่บ้าง” อู๋จงเทียนส่งเสียงลับๆ

“เมื่อตกลงกันแล้วพวกเราก็ขอแยกทางกันตอนนี้!” ตู้เฟย หลี่เหอสุ่ยและคนอื่น ๆ ส่งเสียงอำลาเย่ฟ่านและจากไปพร้อมกัน

ในเวลานี้บุตรศักสิทธิ์แสงโชติช่วงก้าวเข้ามาอย่างยิ่งใหญ่ รัศมีที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขาเชื่อมต่อกันเป็นดวงดาวมากมายส่องแสงไปทุกทิศทุกทาง

อู๋จงเทียนไม่ได้จากไปในทันที เขาและบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงจ้องมองกันจากระยะไกล จากนั้นอู๋จงเทียนจึงเคลื่อนตัวจากไปพร้อมกับพี่น้องของเขา

บุตรศักดิ์สิทธิแสงโชติช่วงยิ้มอย่างสดใสราวกับดวงอาทิตย์ยามเช้า ทิ้งแสงแดดสีทองไว้บนท้องฟ้าทอดยาวและพุ่งตรงไปยังเหมืองคุนอวิ๋น

“เมื่อข้าไปถึงอาณาจักรลับที่สามข้าจะขอต่อสู้กับเจ้าสักครั้ง.” เย่ฟ่านพูดกับตัวเองและบินขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับแยกย้ายจากไปท่ามกลางฝูงชนที่อลหม่าน

ญาณวิเศษลับทั้งเก้าเป็นสุดยอดวิชาในแต่ละสาขา และเย่ฟ่านได้เชี่ยวชาญทั้งสองวิชา มันทำให้เขาสามารถพัฒนาความแข็งแกร่งได้อย่างไม่จำกัด

เขาเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้ เมื่อเขาก้าวข้ามได้ ทั้งสองวิธีลับนี้จะเป็นที่พึ่งอันทรงพลังของเขา!

เย่ฟ่านพอใจมากกับการเดินทางไปยังคุนอวิ๋นในครั้งนี้เพราะมันเป็นโอกาสที่สำคัญให้เขาได้เข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยก และตอนนี้เขากำลังเดินทางกลับไปยังนิกายชิงเซี่ย

สาเหตุที่เขาไม่เข้าไปในทะเลสาบหยกในทันทีก็เพราะเขาต้องการที่จะป้องกันความผิดพลาด

ทักษะเปลี่ยนสวรรค์สามารถปกปิดจากทายาทของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่ไม่อาจสหลบหนีสายตาเซียนผู้อาวุโสทะเลสาบหยก และหากตัวตนของเขาถูกเปิดเผยก็ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสเหล่านั้นจะคิดอย่างไร

แน่นอนเขาไม่มีเวลามากที่จะล่าช้าจำเป็นต้องแก้ปัญหานี้ทันทีอาจกล่าวได้ว่าไม่มีเวลาให้เสียอีกแล้ว

……..

นิกายชิงเซี่ยก็เหมือนวันเก่าๆ ภูเขาเขียวขจี น้ำก็สีมรกต ยอดเขาสิบแปดยอด เมฆหมอก น้ำพุร้อน ทิวทัศน์สวยงามน่ารื่นรมย์

เย่ฟ่านกลับสู่สภาพร่างกายที่แท้จริงของเขา เมื่อเขามาถึงยอดเขาชิงเซี่ยผู้คนจากนิกายดั้งเดิมก็มีความรู้สึกผสมปนเปกันไป

“นิกายหลี่ฮัว นิกายหลี่เซี่ย ศาลาเจ็ดดาวและนิกายซวนเยว่ไม่ได้มารุกรานหรือ?”

“พวกเขาแวะมาอยู่บ้างแต่ตอนนี้พวกเขาก็กลับไปหมดแล้ว” ผู้อาวุโสดั้งเดิมของนิกายชิงเซี่ยตอบกลับ

เย่ฟ่านมีสีหน้าจริงจังและกล่าวว่า “พวกเจ้าออกจากนิกายชิงเซี่ยทั้งหมดในวันนี้ หลังจากนี้อีกยี่สิบวันพวกเจ้าค่อยกลับมาข้าจะแก้ปัญหาทั้งหมดเอง”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด