ตอนที่แล้ว985-986
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป989-990

987-988


5/8

Ep.987

ฉีมู่สือไม่อาจข่มความโกรธในใจได้อีกต่อไป พุ่งเข้าประชิดซูเฉิน เริ่มโจมตีด้วยหมัดหนัก

หมัดนี้รวดเร็วมาก อีกทั้งกระแสลมที่ปลดปล่อยออกมา ยังผสมผสานไปด้วยพลังตัดมิติ นี่ถือได้ว่าเป็นกระบวนท่าสังหารที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา

ซูเฉินเห็นแบบนี้แต่ก็ยังหัวเราะออกมา ไม่ได้ตั้งใจมองด้วยซ้ำ เพียงยื่นมือออกไปคว้าแบบส่งๆ

ในคราเดียว  การโจมตีทั้งหมดของฉีมู่สือกระจัดกระจายไปในอากาศ หมัดหนักอันทรงพลังหยุดกึกลงอย่างกะทันหัน

“พละกำลังของเจ้า ..!”

ดวงตาของฉีมู่สือเบิกกว้าง มองลึกเข้าไปจะเห็นได้ถึงระลอกคลื่นของความตกใจและไม่อยากจะเชื่อ

เขานึกไม่ออกจริงๆ ว่าหมัดอันทรงพลังของเขา ไฉนภายใต้ฝ่ามือของซูเฉินจึงไม่อาจขยับเขยื้อนได้

ซูเฉินต้องมีพละกำลังมากมายขนาดไหนกันจึงจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้?

ระหว่างช่วงเวลาเหม่อลอย ทันใดนั้นเขารู้สึกได้ถึงพลังมหาศาลกำลังโถมเข้ามา ถูกยกตัวลอยขึ้นไปในอากาศอย่างไม่อาจขัดขืนใดๆ

“กลับไปสงบสติอารมณ์ซะนะ”

มุมปากของซูเฉินยกโค้งเป็นรอยยิ้มหยอกเย้า จากนั้นเหวี่ยงแขนออกไป

วูบบบบ!

ฉีมู่สือราวกับดาวหาง ถูกขว้างหายวับไปจากสายตา

หลังจากนั้นไม่นาน ก็บังเกิดเสียงปะทะอย่างแรง ดังสะท้อนกลับมาจากระยะไกล

“…”

เห็นภาพนี้ ฉีมู่เสวี่ยและอีกสองคนต่างอ้าปากค้าง เป็นเวลานานก็ไม่สามารถหุบได้

ทุกคนต่างรู้ดีว่าฉีมู่สือไม่ใช่คู่มือของซูเฉิน แต่ไม่คาดหวังว่าจะเลวร้ายถึงขนาดนี้

มันคงไม่เกินจริงเลยหากจะบอกว่า ถ้าซูเฉินเอาจริง การสังหารฉีมู่สือ ไม่ต่างอะไรจากการบี้มด

“ผู้ชายคนนี้ … แข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว!”

ฉีมู่เสวี่ยพึมพำด้วยอาการเหม่อลอย แม้เธอจะเกลียดซูเฉินมาก แต่ก็ต้องยอมรับ ว่าซูเฉินคือผู้มากพรสวรรค์ที่สุดที่เธอเคยพบเจอมา

ซูเฉินเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นทุกครั้งที่พบกัน ไม่เจอแค่ไม่กี่เดือน เขาก็แกร่งพอที่จะเล่นตลกกับระดับเทวะขั้น 1 แล้ว

บางที อาจจะสู้กับหานเจี้ยนอู่ได้จริงๆ

“ไปต่อเถอะ”

ส่งฉีมู่สือถึงที่หมาย ซูเฉินกล่าวอย่างสงบ จากนั้นเดินเข้าไปในคฤหาสน์

ฉีมู่อวี้ได้สติกลับมา รีบวิ่งไปข้างหน้า เพื่อนำทางซูเฉิน

ไม่นาน ทั้งสี่ก็เข้ามาถึงห้องเล็กๆที่ดูเรียบง่าย มีเพียงคนเดียวรออยู่ในห้อง

–เป็นฉีมู่เฟิง

ขณะนี้เขากำลังนอนอยู่บนเตียงไม้ ใบหน้าซีดเซียวเล็กน้อย

“ซูเฉิน ในที่สุดเจ้าก็มา!”

เมื่อเห็นซูเฉิน ดวงตาของฉีมู่เฟิงเป็นประกาย กัดฟันลุกขึ้นนั่ง

“พี่ฉี อาการบาดเจ็บร้ายแรงรึเปล่า?”

ซูเฉินก้าวเข้าไป เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

“แค่บาดเจ็บเล็กน้อย ไม่ใช่เรื่องใหญ่”

ฉีมู่เฟิงเค้นรอยยิ้ม

ซูเฉินสำรวจมอง เห็นสีหน้าของฉีมู่เฟิงไม่ค่อยดี แต่บาดเจ็บไม่สาหัสมาก ก็ถอนหายใจโล่งอก

ต่อมา เขาหยิบ [โพชั่นรักษา] ออกมาถึงสามขวด วางบนมือของฉีมู่เฟิง แล้วสั่งให้ดื่ม

[โพชั่นรักษา] มาจากระบบ ไม่ว่าผู้ฝึกตนขั้นไหนดื่มไปก็ล้วนได้ผล

สำหรับสิ่งที่ซูเฉินให้มา ฉีมู่เฟิงไม่เคลือบแคลงสงสัยแม้แต่น้อย เงยหน้ากระดกซดทันที

ไม่นาน ใบหน้าของเขาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ร่างกายเปี่ยมไปด้วยพละกำลัง ลุกจากเตียงได้อย่างไม่ตัดขัด และการเดินเหินไปรอบๆไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

ฉีมู่อวี้และอีกสองคนตกตะลึง พวกเธอเคยได้ยินเกี่ยวกับสมบัติล้ำค่าที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ แต่สิ่งมหัศจรรย์อย่าง [โพชั่นรักษา] ที่เห็นผลทันตาได้อย่างกับภาพฝัน เพิ่งเคยพบเคยเจอเป็นครั้งแรก

“พี่ฉี หานเจี้ยนอู่ขอท้าประลองกับคุณ ถ้างั้นพวกเราก็ขอท้าประลองเขาได้เหมือนกันสิใช่ไหม?”

รอจนฉีมู่เฟิงฟื้นตัวดี ซูเฉินก็เริ่มเข้าประเด็น

“ต้องทำได้อยู่แล้ว แต่หานเจี้ยนอู่คือยอดฝีมือรุ่นเยาว์ หากเราต้องการท้าทาย คงทำได้แค่ให้รุ่นเยาว์ไปท้าเท่านั้น” ฉีมู่เฟิงกล่าว

ในบรรดารุ่นเยาว์ของตระกูลฉี ผู้แข็งแกร่งที่สุดคือฉีมู่เล่ย แต่ฉีมู่เล่ยเพียงอยู่ขั้น 2 ระดับเทวะ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหานเจี้ยนอู่

ด้วยประการฉะนี้ จึงไม่มีผู้ใดเหมาะสม

แม้จะรู้สึกหดหู่ใจ แต่ก็ทำได้เพียงกล้ำกลืนฝืนทน

6/8

Ep.988

“พี่ฉี แล้วถ้าเป็นฉันล่ะ ฉันสามารถขอท้าประลองในนามตระกูลฉีได้รึเปล่า?” ซูเฉินลองเลียบเคียงถาม

“เจ้าน่ะหรือ?” สีหน้าของฉีมู่เฟิงชะงักงันไปครู่หนึ่ง

ซูเฉินคือพี่น้องร่วมสาบานกับเขา หากเป็นตัวแทนขอท้าประลอง ก็ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ

แต่ประเด็นก็คือ ไม่ใช่ว่าซูเฉินมีฐานฝึกตนอยู่แค่ระดับเทวะขั้น 1 หรอกหรือ? ต่อให้แข็งแกร่งกว่าในลำดับชั้นเดียวกันมากแค่ไหน ก็ไม่น่าจะสู้กับหานเจี้ยนอู่ได้กระมัง?

“ทำได้ ย่อมทำได้อยู่แล้ว แต่หานเจี้ยนอู่อยู่ในระดับเทวะขั้น 3–”

“ไม่เป็นไร” ฉีมู่เฟิงยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกซูเฉินขัดจังหวะ  “ในสายตาฉัน หานเจี้ยนอู่ก็แค่มดปลวกตัวหนึ่งเท่านั้น ใช้มือเดียวก็บดขยี้ได้แล้ว!”

ระดับเทวะขั้น 3 เป็นแค่มดปลวก?

ฉีมู่เฟิงตกใจ อีกสามคนที่เหลือพากันอ้าปากกรามค้างเช่นกัน

ซูเฉินเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้  ว่าเทวะขั้น 1 ไม่ถือเป็นมดปลวกในสายตาเขา ซึ่งหลังจากทั้งสามได้เห็นฝีมือของซูเฉิน ต่างก็เห็นด้วยกับคำนี้

ทว่าหานเจี้ยนอู่มีระดับสูงกว่าซูเฉินถึง 2 ขั้น แต่ซูเฉินก็ยังพูดเช่นนี้ มันจะโอ้อวดไปหน่อยกระมัง?

“ซูเฉิน นี่เจ้าพูดจริงหรือ?”

ฉีมู่เฟิงกลืนน้ำลาย  เหม่อมองซูเฉินอย่างว่างเปล่า ลองถามย้ำเพื่อความแน่ใจ

“พี่ฉีแค่บอกให้ใครสักคนไปส่งคำเชิญท้าประลองก็พอแล้ว”

ใบหน้าของซูเฉินเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มมั่นใจ

ฉีมู่เฟิงลังเลเล็กน้อย เขารู้จักกับซูเฉินมาซักพักหนึ่งแล้ว และรู้ดีว่าซูเฉินไม่ใช่คนพูดอะไรพล่อยๆ

ทุกครั้งที่ซูเฉินบอกว่าจะทำอะไรซักอย่าง แสดงว่าอีกฝ่ายมั่นใจว่าทำได้อย่างแน่นอน

กระนั้น หานเจี้ยนอู่ถือเป็นยอดฝีมือในบรรดาผู้แข็งแกร่งเช่นกัน พรสวรรค์ของเขาสูงกว่าหานเจี้ยนฉีซะอีก ฉีมู่เฟิงกลัวจริงๆว่าซูเฉินจะพลาดท่า

“ซูเฉิน หานเจี้ยนอู่ไม่ใช่ธรรมดา แข็งแกร่งยิ่งกว่าซอมบี้ระดับเทวะขั้น 3 ที่เจ้าเคยสังหารหลายเท่า” ฉีมู่เฟิงเตือน

เขาเกิดความสงสัยขึ้นมา ว่าที่ซูเฉินมั่นใจขนาดนี้ ใช่เป็นเพราะเคยสังหารซอมบี้เทวะขั้น 3 มาก่อนหรือไม่?

ซูเฉินรู้ดี ว่าหากไม่ยอมสารภาพเรื่องฐานฝึกตนของตัวเองออกไป เกรงว่าพวกฉีมู่เฟิงคงจะไม่เชื่อ

แต่ขณะที่กำลังจะสารภาพ ในตอนนั้นเอง เสียงตะโกนด้วยความโกรธดังเข้ามาจากนอกคฤหาสน์

“ซูเฉิน! ออกมาหาเราผู้เฒ่าเดี๋ยวนี้!”

“ไม่ได้การ! นั่นเสียงของลุงสอง!” สีหน้าของฉีมู่เสวี่ยและคนอื่นๆเปลี่ยนไปเล็กน้อย

ผู้ตะโกนมีชื่อว่าฉีฉง เป็นลุงสองของพวกเธอ ทั้งยังเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทวะขั้น 3 อีกด้วย

ฉีฉงผู้นี้เป็นคนอารมณ์ร้อน ทั้งยังรักลูกหลานอย่างกับไข่ในหิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉีมู่สือ เขายิ่งชอบเอาอกเอาใจเป็นพิเศษ ทุกคนจึงรู้ได้ทันที ว่าที่เขามา คงเป็นเพราะฉีมู่สือนำเรื่องที่ตนถูกรังแกไปฟ้องแน่ๆ

“ซูเฉิน เจ้าของเสียงคือลุงสองของพวกเราฉีฉง เขาเป็นคนใจร้อนวู่วาม เจ้าอย่าได้ถือสา” ฉีมู่เฟิงอธิบายด้วยรอยยิ้มเจื่อน

“ไม่เป็นไร” ซูเฉินกล่าวอย่างเฉยเมย เขาเคยเห็นคนอารมณ์ร้อนอย่างว่ามานักต่อนักแล้ว แต่จะเป็นคนแบบนั้นก็เป็นไป ตราบใดที่ไม่มาหัวร้อนต่อหน้าเขา แค่นั้นก็พอ ไม่งั้นก็เตรียมเป็นเหมือนกับเผ่าอสูรอัคคีได้เลย

แน่นอน ถึงอย่างไรฉีฉงเป็นลุงสองของฉีมู่เฟิง ด้วยความสัมพันธ์นี้ ซูเฉินอย่างมากสุดทำได้แค่มอบบทเรียนแก่อีกฝ่าย

“ซูเฉิน ลุงสองของข้ามาเพื่อช่วยทวงคืนความยุติธรรม เจ้าไม่กล้าออกมาหรือ?”

เห็นเรียกตั้งนานแล้วแต่ซูเฉินก็ยังไม่ออกมา ฉีมู่สือตะโกนบ้าง

“ดูเหมือนน้องชายของคุณก็กำลังขาดคนอบรมสั่งสอนเหมือนกัน” ซูเฉินถอนหายใจเบาๆ ค่อยๆก้าวออกไปนอกห้อง

สีหน้าของฉีมู่เฟิงแปรเปลี่ยนไปทันที ผลลัพธ์ของการทำให้ซูเฉินขุ่นเคืองร้ายแรงมาก ฉีมู่สือกระตุ้นซูเฉินซ้ำแล้วซ้ำเล่า คราวนี้หากอยากรักษาชีวิต เกรงว่าคงต้องมีกรีดเลือดเฉือนเนื้อกันบ้าง

ทางหนึ่งเป็นพี่น้องร่วมสาบาน ทางหนึ่งเป็นน้องชายเขา ตอนนี้ฉีมู่เฟืงตกอยู่ในสภาวะลำบากใจมาก ได้แต่ด่าทอฉีมู่สื่อในใจ

ซูเฉินเดินออกจากห้อง หรี่ตากวาดมองไปทางฉีฉง  เผยรอยยิ้มบาง “ผมคือซูเฉิน ไม่ทราบผู้อาวุโสต้องการชี้แนะสิ่งใด?”

ฉีฉงมองซูเฉิน กล่าวเสียงเย็น “ซูเฉิน เห็นแก่ที่เจ้าเป็นพี่น้องร่วมสาบานของมู่เฟิง จงขอโทษมู่สือเสีย แล้วเรื่องนี้เป็นอันเลิกรา”

ซูเฉินเบ้ปาก ผุดยิ้มดูแคลน  “คนที่ต้องการให้ผมก้มหัวขอโทษ–

–ในชาตินี้ตายหมดแล้ว และยังไม่มีใครได้กลับมาเกิดใหม่เลยซักคนเดียว!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด