ตอนที่แล้วคลังสมบัติ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปยุทธภัณฑ์เทวะ

จอมอาคม (อ่านฟรี)


แกรก…

“ระวัง!” เสียงร้องของเอเรเดลที่ดังขึ้นมาทำให้อิซาเบลหันหน้ากลับไปมองด้านหลังพร้อมกับใช้พลังของเธอ จากนั้นร่างกายของหญิงสาวก็มีบางสิ่งเคลื่อนผ่านไป

เมื่อเธอหันหลังกลับไปก็พบว่าพวกคนที่เธอฟันขาดเป็นสองท่อนไปก่อนหน้ากำลังเชื่อมต่อส่วนบนและล่างที่เข้าด้วยกันด้วยรยางค์สีดำสนิทขนาดเท่าเส้นด้ายนับร้อยเส้น ขณะใช้มือที่มีนิ้วที่เต็มไปด้วยกรงเล็บอันแหลมคมกว่า 20 ข้างยืดออกมาโจมตีอิซาเบลหวังทะลวงและฉีกกระชากร่างของเธอให้ขาดจนไม่เหลือชิ้นดี

“ไม่มีเลือด?” อิซาเบลขมวดคิ้วมองดูรอยแผลของพวกมนุษย์ตรงหน้าด้วยความสับสน

“ไอ้พวกโง่ กูบอกให้จับตัวไม่ใช่ฆ่ามันโว้ย เกิดของมีตำหนิขึ้นมาจะทำยังไงวะ!” ชายร่างผอมที่เป็นอิสระจากการถูกอิซาเบลเหยียบตะโกนด่าลูกน้องของตนด้วยความโกรธ แต่ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นก็ถูกรากไม้ที่แทงขึ้นมาจากผืนดินพันร่างของเขาไว้จนขยับไปไหนไม่ได้อีกครั้ง

“อะไรอีกวะเนี่ย!?...อ๊ากกก…!” ชายหนุ่มสบถออกมาอย่างรำคาญ แต่ด้วยสัญชาตญาณของเขาก็ทำให้เขาหันไปมองเอเรเดลที่กำลังกางฝ่ามือมาทางนี้ ก่อนจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดไปทั่วร่าง เมื่อเขามองที่ร่างกายของตนก็พบว่ารากไม้ที่กำลังพันร่างของเขาอยู่มีหนามแหลมปรากฏขึ้นมาจากผิวของมัน

“ทัณฑ์พฤกษา” เอเรเดลเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา หลังจากที่เธอได้ยินคำพูดที่ออกมาจากมนุษย์น่ารังเกียจตรงหน้าก็ไม่คิดที่จะปล่อยให้ชายหนุ่มมีชีวิตอยู่อีกต่อไป จากนั้นหญิงสาวก็หันไปควบคุมรากไม้หนามให้ทะลวงพื้นขึ้นมารัดพันร่างของพวกลูกน้องของเขาไว้จนไม่สามารถทำอะไรได้เช่นกัน

“กรอดดด....กูอุตส่าห์ใจดีจะจับไปแบบไม่ให้เจ็บตัวมากแล้วเชียว พวกมึงหาเรื่องเองนะ!” ชายหนุ่มกัดฟันแน่นจนเส้นเลือดนูนขึ้นมาเต็มใบหน้า ก่อนที่ร่างกายที่ผอมบางของเขาจะขยายใหญ่ขึ้นจนดูราวกับนักเพาะกาย เสื้อผ้าที่เขาสวมอยู่ฉีกขาดออกเผยให้เห็นถึงรอยสักรูปหน้ายักษ์แบบลายไทยสีดำสนิทที่กลางหน้าอกพร้อมกับอักขระที่เกิดขึ้นบนทุกส่วนของร่างกายซึ่งกำลังเปล่งแสงสีดำปนเขียวออกมา จากนั้นปากของชายหนุ่มก็ขยับไปมาแบบไม่ได้เปล่งเสียง

“...”

ทันใดนั้นเองร่างกายของเขาก็ปรากฏเปลวเพลิงสีแดงเข้มขึ้นมาแผดเผารากไม้หนามที่พันร่างของเขาอยู่จนมันไหม้เป็นจุล

“อาคมอสูร...กายาอัคคี” ชายหนุ่มแสยะยิ้มชั่วร้ายก่อนจะเอ่ยต่อว่า

“...อย่ากลัวจนหนีไปซะก่อนล่ะ” เมื่อพูดจบ ดวงตาที่จับจ้องไปที่เอลฟ์สาวทั้งสองก็เปล่างแสงสีแดงก่ำออกมา ชายหนุ่มกางมือไปยังเหล่าลูกน้องของตนแล้วตะโกนออกมาเสียงดังว่า

“อวิชชา...สัมภเวสีผสานร่าง!”

กรร...!

แกรกกก...!

เมื่อชายหนุ่มเอ่ยจบก็มีบางสิ่งลอยออกมาจากร่างของเหล่าลูกน้องที่กำลังถูกมัดอยู่ จากนั้นร่างมนุษย์ของพวกมันก็กลายเป็นของเหลวกองอยู่บนพื้นราวกับอาภรณ์ที่ไร้ซึ่งคนสวมใส่

“ผู้คุมวิญญาณ?” เอเรเดลพูดขึ้นด้วยคิ้วที่ขมวดกันแน่น

สิ่งที่ลอยออกมาจากร่างของคนพวกนี้คือวิญญาณของมนุษย์ทั้งชายหญิงสีเทาเข้มที่เกิดจากการแปดเปื้อนพลังชั่วร้ายที่กำลังใช้มือของพวกเขากุมคอของตนเองด้วยสีหน้าที่เจ็บปวดและทรมานอยู่ เมื่อมองไปที่คอของพวกเขาก็จะเห็นอักขระที่พวกเอเรเดลอ่านไม่ออกรัดไว้อยู่ ซึ่งสิ่งนี้น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขามีท่าทางอย่างที่พวกเธอเห็น

“ผู้คุมวิญญาณ? โลกของพวกแกเรียกกันอย่างนั้นเหรอ? เป็นชื่อที่ดีใช้ได้เลย แต่โทษที พอดีว่าที่นี่คนอย่างพวกข้าถูกเรียกด้วยชื่อโคตรเท่ห์ว่า ‘จอมอาคม’ อยู่แล้วว่ะ ฮี่ๆๆ” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย ก่อนจะโบกมือวูบหนึ่งทำให้วิญญาณที่กำลังลอยอยู่ด้วยความทรมานถูกหลอมรวมเข้าด้วยกัน

ซูมมม...!

จากนั้นไม่กี่วินาที วิญญาณที่ถูกหลอมรวมก็ได้กลายมาเป็นวิญญาณมนุษย์สีดำทะมึนสูงกว่า 10 เมตรที่มีใบหน้าของวิญญาณมนุษย์นับสิบคนติดกันอยู่บนหัวๆเดียว แขนข้างซ้ายและขวาแยกออกมาข้างละ 10 ช้างทำให้รวมกันแล้วมันมีแขนถึง 20 ข้าง แต่ถึงแม้ว่ามันจะมีหน้าและแขนมากมาย ส่วนขาของมันกลับมีเพียงสองข้างซึ่งมีความแข็งแรงมากพอที่จะค้ำยันร่างกายส่วนบนเอาไว้ได้อย่างน่าประหลาดใจ

“ไงล่ะ ข้าได้แรงบันดาลใจในการสร้างมันมาจากหนึ่งในเทพอสูรเผ่ายักษ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดตนหนึ่งเชียวนะ ถึงตอนนี้ท่านผู้นั้นจะหายไปเพราะถูกพวกเทพจอมปลอมนั่นขับไล่ก็เถอะ...เห้ย! แกน่ะไปจัดการนังหัวทองนั่นซะ!” ชายหนุ่มแนะนำวิญญาณร่างยักษ์ด้วยสีหน้าภูมิใจแล้วสั่งมันให้จัดการอิซาเบลแทนเขา ก่อนจะหันไปมองเอเรเดลด้วยสีหน้าหื่นกระหายพร้อมกับระเบิดเปลวเพลิงสีแดงที่เท้าทั้งสองข้างเพื่อดีดตัวไปหาหญิงสาวราวกับไอพ่นของจรวด

“...ส่วนกูจะจัดการนังผมเงินนี่เอง!”

“ข้ามศพข้าไปก่อนเถอะ!...ก้าวพริบตา!” อิซาเบลตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาลที่มนุษย์สารเลวตรงหน้าคิดจะทำร้ายเอเรเดล หญิงสาวเร่งทะยานร่างออกไปประชิดตัวชายหนุ่มภายในพริบตา แล้วเหวี่ยงดาบคู่ฟันใส่คอของเขาเต็มแรง

ชายหนุ่มที่เห็นแบบนั้นก็เหยียดยิ้มแล้วยกแขนที่เต็มไปด้วยอักขระอาคมขึ้นมาป้องกันดาบของอิซาเบล

ครืดดด!

ทันทีที่ดาบของอิซาเบลปะทะเข้ากับแขนของชายหนุ่ม เอลฟ์สาวก็รู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังฟันเข้ากับม่านพลังที่มองไม่เห็นจนทำให้ใบดาบทั้งสองของเธอกระเด็นออกมา

“ตาย!” ชายหนุ่มคำรามออกมาก่อนจะเหวี่ยงแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามปล่อยหมัดขวาใส่อิซาเบล

“...” อิซาเบลที่สัมผัสได้ถึงอันตรายรีบใช้พลังทำให้หมัดของชายหนุ่มพุ่งผ่านร่างของเธอไป

“เป็นความสามารถที่น่ารำคาญชิบหายเลยโว๊ย!” ชายหนุ่มร่างยักษ์สบถออกมา จากนั้นจึงเอ่ยว่า

“‘สิบเศียร’จัดการนังบ้านี่ซะ!” เมื่อเอ่ยจบชายหนุ่มก็ดีดตัวเข้าไปหาเอเรเดลด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิงราวกับอสูรกายจากนรกโดยไม่สนใจอิซาเบลอีก

“อย่าหวัง...!?” อิซาเบลที่กำลังจะเข้าไปขัดขวางชายหนุ่มอีกครั้งแต่ก็ถูกวิญญาณยักษ์หรือสิบเศียรเข้ามาขัดขวางเข้าเสียก่อน

“ไสหัวไปซะ!” หญิงสาวเก็บดาบที่ถืออยู่กลับเข้าไปในแหวนมิติแล้วหยิบดาบศักดิ์สิทธิ์ระดับ S ที่ปู่ของเธอให้ไว้ออกมาฟันดาบตรงใส่สิบเศียร

ดวงตานับสิบคู่ของสิบเศียรไม่ได้มีไว้ประดับเฉยๆ เพราะด้วยการที่มีพวกมันอยู่รอบศรีษะจึงทำให้มันสามารถมองรอบข้างได้แบบ 360 องศา ซึ่งสิบเศียรที่สามารถสัมผัสได้ถึงอันตรายของพลังศักดิ์สิทธิ์ที่แผ่ออกมาจากดาบที่อิซาเบลถืออยู่ก็รีบใช้ดวงตาทั้งหมดจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของอิซาเบลเพื่อประสานงานกับร่างกายเพื่อหลบหลีกการโจมตีของหญิงสาวจนทำให้เธอฟันพลาดไปอย่างน่าเสียดาย

“บ้าจริง!” อิซาเบลสบถออกมา ในขณะที่อิซาเบลกำลังจะโจมตีต่อ หนึ่งในใบหน้าของสิบเศียรที่สบตากับหญิงสาวก็อ้าปากกว้างออกมาเผยให้เห็นฟันแหลมคมราวกับฉลามสีดำสนิทปลดปล่อยลำแสงพลังงานสีดำโจมตีใส่เธอ

“โฮกกก...!”

ตูมมม!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด