ตอนที่แล้วWS บทที่ 294 เรือของนิโคล่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWS บทที่ 296 พลังแห่งตำนาน PART 2

WS บทที่ 295 พลังแห่งตำนาน PART 1


*บูม!*

เสียงปะทะอันรุนแรงดังขึ้น จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ แคนชูถูกเหวี่ยงลงไปที่พื้นโดยตรงและเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ สัตว์ราชาฉลามดำได้พุ่งมาหาจอมเวทย์แคนชู มันใช้ร่างกายขนาดใหญ่ของมันกดทับบนตัวจอมเวทย์แคนชูอีกครั้ง

ความโกรธปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจอมเวทย์แคนชู จากนั้นเขาก็เอามือแตะพื้นเบา ๆ

*ตูม!*

ทั้งเกาะดูเหมือนจะสั่นสะเทือน เส้นธาตุดินที่ก่อตัวขึ้นมารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว ก่อตัวเป็นยักษ์กลางอากาศซึ่งสูงประมาณสิบเมตร

“ฮึ่ม!! พลังธาตุดิน จงเป็นมือขวาให้ฉัน ยักษ์ปฐพี ไป!”

ไม่มีใครรู้ว่าสิ่งนั้นเป็นคาถาหรือพลังปีศาจแพนโดร่าที่จอมเวทย์แคนชูได้ร่ายออกมา นี่เป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สามารถใช้ได้โดยจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น

ยักษ์ตัวใหญ่ขยับร่างกายและเริ่มวิ่งอย่างรวดเร็ว มันยกมือทั้งสองข้างและกระแทกไปที่สัตว์ราชาฉลามดำ

*ตึง! ตึง! ตึ่ง!"

ยักษ์ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือดบนเกาะและไม่มีนักเวทย์มนต์คนใดกล้าเข้าใกล้ นอกจากนี้ เกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ดูเหมือนจะไม่สามารถรองรับการต่อสู้ระหว่างยักษ์ปฐพีกับสัตว์ราชาฉลามดำได้ เป็นผลให้เกิดรอยแตกขนาดใหญ่บนพื้นราวกับว่ามันจะพังทลายลงทันที

ยักษ์ปฐพีต่อสู้กับสัตว์ราชาฉลามดำอย่างบ้าคลั่ง ดูเหมือนพวกมันจะต่อสู้ได้อย่างเท่าเทียมกัน อย่างไรก็ตาม พลังธาตุดินของยักษ์ปฐพีค่อย ๆ ลดลง ในขณะที่ฉลามดำต่อสู้อย่างดุเดือดมากขึ้น หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ความพ่ายแพ้ของยักษ์ปฐพี คงจะมาถึงในไม่ช้า

จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ แคนชูกัดฟันและพูดกับพ่อมดอูโม่และคนอื่น ๆ ว่า “ฉันทำดีที่สุดแล้ว แต่ยังไม่สามารถฆ่าสัตว์ราชาฉลามดำตัวนี้ได้ ฉันขอแนะนำให้พวกคุณทั้งหมดรีบหนีไปโดยเร็ว อยู่ที่นี่ต่อไปก็มีแต่ตายเท่านั้น! ตามข้อตกลงก่อนหน้านี้ ฉันสามารถหนีไปได้หากฉันเห็นว่าฉันเป็นพ่ายแพ้อย่างเห็นได้ชัด น่าเสียดายที่หมู่เกาะเคิร์ดมันสลา ไม่สามารถอยู่ได้นานกว่านี้…”

ตอนนี้จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ แคนชูกำลังจะจากไปจริง ๆ สีหน้าของพ่อมดอูโม่และคนอื่นๆ เปลี่ยนไป แม้ว่าพวกเขาจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อขัดขวางสัตว์ราชาฉลามดำ แต่หากไม่มีจอมเวทย์แคนชู พวกเขาก็จะไม่มีโอกาสแม้แต่น้อยเมื่อเผชิญหน้ากับสัตว์ราชาฉลามดำทั้งสอง

"ไปซะ พวกเราแพ้แล้ว พันธมิตรปีกเทาถูกยุบที่นี่และตอนนี้ แต่ตราบใดที่เราหลบหนี ก็ยังมีโอกาสที่จะสร้างพันธมิตรปีกเทาขึ้นใหม่ในที่อื่น”

“หอคอยพ่อมดก็ยุบแล้วเช่นกัน เราไม่สามารถเป็นเหมือนคนพวกนั้นจากป้อมอูดอนได้ พวกเขารู้ว่าไม่มีโอกาสแต่พวกเขาก็ป้องกันอย่างสิ้นหวัง รีบหนีไปซะ แม้ว่าเราจะเป็นพ่อมดพเนจรแต่มันก็ดีกว่าต้องมาตายที่นี่”

เมื่อเห็นว่าจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ แคนชู กำลังเตรียมที่จะออกไป เหล่านักเวทย์ของหอคอยนักเวทย์กับพันธมิตรต่างขวัญเสียทันที พวกเขาหมดกำลังใจในการต่อสู้และต้องการหนีไปจากหมู่เกาะเคิร์ดมันสลา

“พวกเขาไปหมดแล้ว อูโม่…ช่างน่าเสียดายจริง ๆ พวกเราสามคนต้องใจว่าจะเลื่อนระดับเป็นจอมเวทย์ เราจึงสร้างป้อมอูดอนโดยหวังว่าจะทิ้งบางสิ่งไว้เบื้องหลัง ตอนนี้แม้แต่ป้อมอูดอนก็จะหายไปในไม่ช้า…” พ่อมดดิป หนึ่งในสามหัวหน้าป้อมของป้อมอูดอนกล่าวอย่างใจเย็น

“ใช่ ป้อมอูดอนเป็นงานหนักของเราสามคน หมู่เกาะเคิร์ดมันสลาเป็นรากฐานของป้อมอูดอน น่าเสียดายจริง ๆ ที่มันจะถูกทำลายในตอนนี้ อย่างไรก็ตามเราสามคนอาศัยอยู่เป็นเวลานานแล้ว มาซื้อเวลาให้เด็ก ๆ หนีกันอีกหน่อยเถอะ”

พ่อมดเฟอร์ หัวหน้าป้อมอีกคนหนึ่งของป้อมอูดอน เขาเห็นว่านักเวทย์บนเกาะจำนวนมากถูกสัตว์ทะเลไล่ตาม เขามองไปรอบ ๆ โดยมีรอยยิ้มตรงมุมริมฝีปากของเขา

พ่อมดอูโม่ก็หัวเราะแล้วพยักหน้าและพูดว่า “ใช่ พวกเราสามคนอยู่กันมานาน แต่น่าเสียดายที่ป้อมอูดอน…”

จากนั้น นักเวทย์ทั้งสามของป้อมอูดอน พ่อมดอูโม่ พ่อมดดิปและพ่อมดเฟอร์ค่อย ๆ ลอยขึ้นไปในอากาศ อักษรรูนลึกลับปรากฏขึ้นบนร่างกายของพวกเขา

อักษรรูนเหล่านี้พันกันและพันกันอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อมต่อทั้งสามเป็นหนึ่งเดียว นี่เป็นเทคนิคที่แข็งแกร่งที่สุดของสามผู้นำป้อมอูดอน ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาได้รับวงแหวนเวทย์ที่มีมนต์ขลังจากที่ใด มันสามารถผสมผสานคาถาที่ร่ายโดยทั้งสามได้อย่างน่าประหลาดใจ ปลดปล่อยพลังที่ไม่มีใครเทียบได้

นี่เป็นเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมป้อมูดอนถึงสามารถปราบปราม หอคอยนักเวทย์กับพันธมิตรปีกเทาได้ หากชายสามคนนี้ยังเป็นน้ำหนึ่งใจดัวยกัน พวกเขาก็อาจจะยังเทียบไม่ได้กับจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ แต่แน่นอนว่าพลังของพวกเขาถือได้ว่าอยู่ในจุดสุดยอดของนักเวทย์ระดับเก้า

อย่างไรก็ตาม เมื่อทั้งสามคนอยู่ต่อหน้าสัตว์อราชาลามดำขนาดมหึมา พลังของพวกเขายังน้อยเกินไป…

“หัวหน้าป้อม…”

นักเวทย์จากป้อมอูดอนหลายคนประทับใจมากเมื่อมองดูร่างทั้งสามกลางอากาศ

ในป้อมอูดอน เหล่านักเวทย์ที่ได้เข้ามา พวกเขาได้เพลิดเพลินกับสิ่งที่เรียกว่าสงบสุขที่ยากจะพบเจอหลังจากกลายเป็นนักเวทย์

ที่ป้อมอูดอน ไม่มีการแทงข้างหลัง ไม่มีการหลอกลวงและไม่มีความอิจฉา มีเพียงบรรยากาศที่สามัคคีและกลมเกลียวกัน ทั้งหมดนี้เป็นเพราะผู้นำป้อมทั้งสามของป้อมอูดอนได้สร้างความไว้วางใจระหว่างกันตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมาอย่างไม่สั่นคลอน

นี่เป็นลักษณะเฉพาะของป้อมอูดอน นักเวทย์ของพวกเขาอาจจะไม่เก่งกาจเป็นพิเศษแต่พวกเขาก็รักใคร่สามัคคีกันอย่างเหนียวแน่น  ดูเหมือนเป็นกลุ่มที่ก่อตั้งโดยนักอุดมคติ

อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ทำให้เหล่านักเวทย์นับไม่ถ้วนรู้สึกอบอุ่นและเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาที่กำลังดับสูญไป

"ฆ่ามัน!"

ในที่สุด พร้อมกับเสียงตะโกนของพ่อมดอูโม่ เปลวเพลิงก็ลุกโชนขึ้นบนร่างของผู้นำป้อมทั้งสามในทันที ราวกับจะห้อมล้อมไปทั่วทั้งเกาะ แม้แต่ท้องฟ้าก็ถูกแต้มสีจาง ๆ ด้วยสีแดงเพลิง

วงแหวนเวทย์ที่ทั้งสามร่ายถูกรวมเข้าด้วยกันพลังของมันเพิ่มขึ้นอย่างมากในทันที อย่างไรก็ตาม ขณะที่พวกเขากำลังเตรียมที่จะโจมตีสัตว์ราชาฉลามดำ เปลวเพลิงที่พวกเขาเพิ่งปล่อยสู่ท้องฟ้าดูเหมือนจะถูกกดขี่ด้วยพลังที่มองไม่เห็นในขณะที่เปลวไฟจำนวนนับไม่ถ้วนเริ่มดับลง

“เอ๊ะ? เดี๋ยวก่อน เกิดอะไรขึ้น”

พ่อมดอูโม่ค้นพบความผิดปกติในทันที เขารู้สึกได้ชัดเจนว่าเปลวเพลิงรอบ ๆ นั้นอ่อนกำลังลงอย่างมากอย่างเห็นได้ชัด ราวกับว่ามีพลังที่มองไม่เห็นซึ่งควบคุมเปลวไฟที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า

“โครงสร้างคาถาธาตุไฟของฉัน ทำไมมันถึงถูกระงับ?”

“ของฉันด้วย เวทมนตร์ธาตุไฟถูกระงับจนไม่สามารถปลดปล่อยได้อีกต่อไป มันเกิดอะไรขึ้น!?”

ไม่เพียงแค่พ่อมดอูโม่และคนอื่น ๆ เท่านั้น แต่นักเวทย์หลายคนที่อยู่บนเกาะก็รู้สึกถึงความผิดปกติเช่นกัน โครงสร้างคาถาในร่างกายของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คาถาธาตุไฟ ดูเหมือนจะถูกปกคลุมไปด้วยพลังที่มองไม่เห็นซึ่งจำกัดพวกเขาจากการร่ายคาถาธาตุไฟ

จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่แคนชูซึ่งยังไม่สามารถออกจากเกาะได้ก็หยุดกลางทาง แววตาแปลก ๆ แวบผ่านดวงตาของเขาด้วย ท้ายที่สุด เขาเป็นจอมเวทย์ที่ยืนอยู่เกือบถึงจุดสูงสุดของโลกนักเวทย์

ตอนนี้เขารู้สึกประหลาดใจกับการปราบปรามของคาถาธาตุไฟในร่างกายของเขา การปราบปรามแบบนี้ยิ่งใหญ่มาก แม้ว่าเขาต้องการปลดปล่อยคาถาธาตุไฟ เขาก็อาจจะสามารถปลดปล่อยมันออกมาได้แต่พลังจะอ่อนแอกว่าปกติมาก

“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? จะมีพลังที่สามารถระงับโครงสร้างคาถาของฉันได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้!”

จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ แคนชูไม่เคยพบกับพลังชนิดใดที่สามารถระงับคาถาในร่างกายของเขาได้ เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่ในต้องมีพลังมากกว่าเขาอย่างแน่นอน

เมื่อนักเวทย์กำลังตื่นตระหนก เปลวไฟก็ปรากฏขึ้นกลางทะเลอันกว้างใหญ่ได้พุ่งขึ้นมา เปลวไฟนี้ดูแปลกมาก มันแพร่กระจายจากก้นทะเล

ทะเลกว้างใหญ่เต็มไปด้วยน้ำทะเล แต่ตอนนี้ เปลวไฟเหล่านี้ดูเหมือนจะแผดเผามหาสมุทร พวกมันปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของทะเล ค่อยๆ กระจายขึ้นไปในอากาศ และบรรยากาศที่แผดเผาก็แผ่ซ่านไปทั่วเกาะในทันที

แม้จะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงได้ระเหยน้ำทะเลเนื่องจากหมอกหนาที่ดูเหมือนจะแผ่ซ่านไปทั่วทะเล

เปลวไฟก็แรงขึ้นเมื่อถูกเผาไหม้ นักเวทย์หลายคนรู้สึกว่าโครงสร้างคาถาของพวกเขาไม่สามารถดูดซับธาตุไฟได้อีกต่อไปเพราะธาตุไฟทั้งหมดรวมตัวกันอยู่เหนือทะเล ก่อตัวเป็นทะเลเพลิงอันรุนแรง

นี่คือทะเลแห่งเปลวเพลิงที่แท้จริง แม้แต่มหาสมุทรก็ยังแผดเผา มีเปลวไฟอยู่ทุกที่ สัตว์ทะเลที่ดุร้ายเมื่อสักครู่นี้ดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่อันตราย พวกเขาเริ่มรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย

“นั่นอะไรน่ะ!!”

ทุกคนไม่รู้ว่าเปลวเพลิงที่ฉับพลันเหล่านี้คืออะไรแต่ในไม่ช้า เปลวเพลิงที่ไม่สิ้นสุดได้ควบรวมกลายเป็นร่างหนึ่งอย่างรวดเร็ว

มันเป็นเหมือนยักษ์ที่ดูแข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ มันสูงหลายกิโลเมตร แม้แต่สัตว์ราชาฉลามดำขนาดมหึมาสองตัวก็ยังมีขนาดเล็กต่อหน้าร่างเปลวไฟที่ควบแน่นนี้

ด้วยการก่อตัวของยักษ์เปลวไฟนี้ ทุกคนรู้สึกถึงพลังที่ไม่อาจจินตนาการได้ ราวกับว่าอยู่ต่อหน้ายักษ์เปลวไฟที่เข้มแข็ง พวกเขามีขนาดเล็กราวกับทรายจำนวนนับไม่ถ้วนบนชายหาด

ยักษ์อัคคียังไม่ก่อตัวเต็มที่ในขณะที่มันยังคงเปลี่ยนโฉมหน้าอย่างเข้มข้น เมฆบนท้องฟ้าถูกไฟดับไปนานแล้ว ทุกอย่างภายในรัศมีหลายสิบไมล์ในทะเลอันกว้างใหญ่ถูกไฟไหม้ทั้งหมด ท้องฟ้าทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิงและแม้แต่ดวงอาทิตย์ก็ดูเหมือนจะถูกแทนที่ กลายเป็นเปลวไฟสีแดงเพลิงที่ลุกโชติช่วง

ในไม่ช้า ใบหน้าขนาดใหญ่ของยักษ์เพลิงก็ก่อตัวขึ้น มันเป็นใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและน่ากลัว ตาของมันยังคงปิดอยู่ แต่มันทำให้นักเวทย์หลายคนกลัวที่จะมองโดยตรง

ในสายตาของนักเวทย์ พระเจ้าไม่มีอยู่จริง ในมุมมองของพวกเขา พวกเขาเองเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุด สำหรับพระเจ้าที่เผยแพร่โดยโบสถ์แห่งแสง แม้แต่นักเวทย์ระดับต่ำสุดก็ยังไม่สนใจ

อย่างไรก็ตาม เมื่อมองดูร่างยักษ์เพลิงขนาดมหึมานี้ พวกเขาต่างก็นึกถึง ‘พระเจ้า’ ในใจพร้อมกัน

เมื่อยักษ์อัคคีสร้างใบหน้า ใบหน้าของพ่อมดดอูโม่ก็ดูงงงวยขึ้น แต่แล้วเขาก็ส่ายหัว ความคิดที่ผุดขึ้นในใจของเขาดูเหมือนจะไร้สาระ เกินไป อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางฝูงชน ยังมีคนคนหนึ่งที่ได้เห็นใบหน้าของยักษ์อัคคีได้เผยสีหน้าประหลาดใจ

“นั่นคือพ่อมดเมอร์ลินเหรอ? เขาจะมีพลังมหาศาลเช่นนี้ได้อย่างไรในการเป็นยักษ์อัคคี?”

พ่อมดเบย์ตันสูดหายใจเข้าลึก ๆ ไม่สามารถระงับความตกใจในหัวใจของเขาได้!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด