ตอนที่แล้วบทที่ 365 ข้าต้องการอิสรภาพของพวกเขา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 367 ทางออก

บทที่ 366 พร้อมจะแลกแล้วหรือยัง


บทที่ 366 พร้อมจะแลกแล้วหรือยัง

เมื่อได้ยินคำพูดของเย่จงหมิง บรรยากาศในเต็นท์ก็ลดลงจนถึงจุดเยือกแข็ง

แม้มรณาชนจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เย่จงหมิงพูด แต่น้ำเสียงของเขาไม่ว่าใครก็ตามก็สามารถสัมผัสได้ว่าไม่ใช่เรื่องดี

หานอี้หาวกับซุนหยางมองหน้ากัน ทั้งคู่มองเห็นความสุขในดวงตาของกันและกัน

วันนี้ น่าจะได้รับอิสรภาพ!

อาเถาเลิกคิ้ว เมื่อเห็นสายตาของต๋าปู้ตกลงมาที่เขา เขาก็แอบคร่ำครวญอยู่ในใจ

ในฐานะหัวหน้าเผ่าเล็กๆ สถานะของเขาต่อหน้าต๋าปู้นั้นไม่สูงอย่างที่คิด แม้ว่ามรณาชนจะยังคงรวมกันเป็นหนึ่ง เนื่องจากความยากลำบากในการเอาชีวิตรอด แต่ก็อยู่บนพื้นฐานบางอย่าง อย่างเช่น หากมีผลประโยชน์ทับซ้อนก็จะเป็นเผ่าเล็กที่จะต้องทนทุกข์

เผ่าต๋าปู้ถือได้ว่าเป็นเผ่าขนาดกลาง ซึ่งมีความแข็งแกร่งมากกว่าเผ่าอาเถาหลายเท่า อาเถาไม่สามารถขัดแย้งด้วยได้ หากแปลสิ่งที่เย่จงหมิงพูดตามความจริง ความขัดแย้งจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

แต่อาเถาต้องการจะขัดแย้งกับเย่จงหมิงงั้นหรือ? ไม่ ไม่อย่างแน่นอน ชายชรายังเชื่ออยู่ในใจว่า แม้การเก็บเย่จงหมิงไว้ในเผ่าจะทำให้หวางจุนขุ่นเคือง พวกเขาก็จะไม่ยอมปล่อยมือจากเย่จงหมิง

เพราะไม่ว่าจะเป็นต๋าปู้หรือว่าหวางจุน พวกเขาช่วยคนเผ่าอาเถาให้มีชีวิตดีขึ้นได้หรือ? ทำให้ไม่เสื่อมถอยได้หรือ? ช่วยชีวิตคนในเผ่าของเขาได้หรือ?

ไม่เลย แม้ว่าพวกเขาจะให้ความช่วยเหลือใดๆ แต่ความช่วยเหลือนั้นก็มีค่อนข้างจำกัด

เวลานี้เนื่องจากเย่จงหมิงมาเข้าร่วมกับเผ่าของเขา พวกเขาได้อะไรมาบ้าง? อาวุธที่ยอดเยี่ยม อาหารที่เพียงพอ ขวัญกำลังใจของทุกคนในเผ่า การพัฒนาความแข็งแกร่งของเผ่า และความหวังในอนาคต

ทุกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อาเถารู้สึกว่าเผ่าของเขาเต็มไปด้วยอนาคตที่สดใส

แล้วเขาจะทำให้บุคคลเช่นนี้ตกอยู่ในอันตรายได้อย่างไร

อาเถาขยับดวงตาและพูดว่า “ต๋าปู้ ข้าสามารถใช้ชีวิตเป็นประกันว่าเย่ไม่ได้เป็นคนของอารามรุ่งอรุณ และทั้งสองคนนี้เป็นเพื่อนของเย่ พวกเขาไม่มีวันเป็นศัตรูของเรา หากเจ้าต้องการรักษาความเป็นผู้ทรงอำนาจและประเพณีอันดี ก็ขอให้ปล่อยสองคนนี้ไป ข้าสามารถตอบสนองเงื่อนไขบางอย่างของเจ้าได้ สิ่งที่เย่พูดมีความหมายแบบนี้ แต่เขากังวลมากเกินไปถึงได้พูดด้วยน้ำเสียงแบบนั้น โปรดยกโทษให้ด้วย”

แม้จะมีความหมายเหมือนกับคำพูดของเย่จงหมิง แต่หลังจากผ่านการประมวลผลของอาเถา ดูเหมือนว่าอย่างน้อยที่สุดมันก็ฟังดูไพเราะมากขึ้น

แม้บรรยากาศในเต็นท์จะดีขึ้น แต่หานอี้หาวกับภรรยาไม่เชื่อว่ามันจะดีขึ้นจริง

แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีความประทับใจที่ดีต่อมรณาชน แต่พวกเขาก็อยู่ที่นี่มานาน และพวกเขาก็รู้ว่าหัวหน้าเผ่าต๋าปู้ผู้นี้แข็งแกร่งเพียงใด แม้ว่าจะไม่สามารถประเมินระดับความแข็งแกร่งของเขาได้ แต่เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับคนอื่นๆแล้ว พวกเขาได้ใช้ระดับความแข็งแกร่งของคนอื่นๆในเผ่ามาเปรียบเทียบกับตัวเอง แล้วสรุปว่า หัวหน้าเผ่ามรณาชนผู้นี้อย่างน้อยก็มีระดับความแข็งแกร่งอยู่ที่ 5 ดาว และหากอยู่ที่โลก ก็จะเป็นระดับ 6 ดาว!

ระดับหกดาว! ตอนที่พวกเขาเข้าสู่อาณาจักรลับ กลุ่มของพวกเขาเป็นกลุ่มเล็กๆ ที่มีวิวัฒนาการเร็วที่สุด และพวกเขาก็มีระดับวิวัฒนาการอยู่ที่ 3 ดาว หลังจากเข้ามาที่นี่ก็ถูกระงับไว้ที่ระดับ 2 ดาว ดังนั้นต่อหน้า ต๋าปู้ผู้นี้ พวกเขาไม่มีทางสู้กลับได้เลย

แต่เพื่อนร่วมชาติคนนี้ใช้น้ำเสียงเช่นนั้นพูดกับต๋าปู้ผู้ทรงพลัง มันอันตรายเกินไปแล้ว

ดังนั้นทั้งคู่จึงขยิบตาบอกใบ้เย่จงหมิง

ทั้งคู่รู้สึกขอบคุณชายหนุ่มที่ไม่รู้จักคนนี้ ที่กล้ายืนหยัดเพื่อพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องการให้มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา

ต๋าปู้ส่ายหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว ปฏิเสธข้อเสนอของอาเถา

สองคนนี้เป็นใคร? สายลับของอารามรุ่งอรุณ! แล้วเขาจะได้อะไรจากอาเถา? อย่างมากที่สุดก็แค่อาหาร เผ่าอ่อนแอนี้มีอะไรดีบ้าง

แต่ถ้าเขามอบพวกมันให้กับเหล่าหวางจุน (ราชา) ของเผ่าใหญ่ทั้งหลายล่ะ? เขาจะได้มากกว่านั้นมาก!

ต๋าปู้คำนวณเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจน ดังนั้นเขาจึงยืนยันว่าคนทั้งคู่คือสายลับของอารามรุ่งอรุณ

ไม่เพียงเท่านั้น ต๋าปู้ยังโบกมือสั่งชนชั้นระดับกลางนับสิบที่อยู่ในเต็นท์ พวกเขารีบเข้าไปโอบล้อมเย่จงหมิงทันที เห็นได้ชัดว่าต้องการจับกุมเย่จงหมิง

เย่จงหมิงดูเย็นชา และกำลังจะลงมือเช่นกัน

ระดับห้าแล้วไง? นักรบหกร้อยคนแล้วไง? หากทำให้ฉันหงุดหงิดขึ้นมา ฉันจะหยิบไพ่ทั้งหมดที่มี อย่างเช่น สายเลือด ปืนระดับสีม่วง เสียงคำรามของเครื่องจักรกล ไม้เท้าแห่งธรรมชาติ อาวุธผลึกวิเศษ ฯลฯ ออกมาฆ่าพวกแกทั้งหมด!

อาเถารีบก้าวออกมาขวางระหว่างทั้งสองฝ่าย จากนั้นก็จ้องมองไปยังต๋าปู้ แล้วกลิ่นอายของเขาก็ค่อยๆเพิ่มขึ้น

“ต๋าปู้ การที่ข้าอดทนต่อเจ้ามานานหลายปี ไม่ได้หมายความว่าข้ากลัวเจ้า!”

เมื่อได้ยินคำพูดของอาเถา ไคนั่ว มี่หยาและคนอื่นๆ ก็เข้ามายืนอยู่ข้างๆเย่จงหมิง ส่วนตี๋นั่วก็ผิวปากเสียงดังออกไปนอกเต็นท์ ไม่นานนักก็มีเสียงดังมาจากข้างนอก จากนั้นก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นทีละเสียงๆ คนทั้งสองฝ่ายรีบเข้าไปในเต็นท์ ผ่านม่านหนังสัตว์ที่ถูกยกขึ้น จะเห็นว่า คนเผ่าอาเถากับคนเผ่าต๋าปู้ กำลังเผชิญหน้ากันอย่างดุเดือด

“ต๋าปู้ ข้ายอมรับว่าเผ่าของข้าไม่แข็งแกร่งเท่าเจ้า แม้ว่าจะไม่มีใครในพวกข้ารอดจากวันนี้ไปได้ แต่ข้ารับรองได้เลยว่าสำหรับคนมากมายที่ต้องตายไป เจ้าจะต้องจ่ายในราคาที่เท่ากัน! ข้าจะจัดการกับเจ้าอย่างดีที่สุด! ทำให้เผ่าขนาดกลางกลายเป็นเผ่าขนาดเล็ก นี่คือคำสาบานของข้า หัวหน้าเผ่าที่อ่อนแอ!”

อาเถาส่งเสียงดัง กลิ่นอายบ่งบอกตัวตนกระจายไปทั่ว ขโมยผลงานมาจากเว็บ ThaiNovel   การแสดงออกของเผ่าต๋าปู้เปลี่ยนไปทันที พวกเขาตกใจ ในขณะที่นักรบเผ่าอาเถาร้องตะโกนพร้อมเพรียงกันด้วยพลังขับเคลื่อนอันยิ่งใหญ่!

ใช่ พวกเราอ่อนแอแล้วไง? อยากกลืนกินเรา เจ้าก็ต้องหายไปด้วยเช่นกัน! ถ้าเจ้าฆ่าพวกเรามากกว่าหนึ่งร้อยคน พวกเจ้าก็ต้องชดใช้มากกว่าหนึ่งร้อยคนเช่นกัน ด้วยราคาหนึ่งในหกของเผ่าเจ้า นี่เป็นการสูญเสียที่เจ็บปวด เจ้าทนได้ไหมล่ะ? ถ้าทนได้ ก็มาเลย!

ตอนนี้พวกเขามีอุปกรณ์ใหม่เอี่ยม คนเผ่าอาเถาจึงมั่นใจแม้กระทั่งว่า พวกเขาสามารถฆ่าคนเผ่าต๋าปู้ได้ 200- 300 คน!

อำนาจในการตัดสินใจกลับคืนมาสู่มือของต๋าปู้ทันที ผู้นำระดับ 5 นั่งนิ่งด้วยท่าทางเคร่งขรึม หลังจากจ้องมองเย่จงหมิง เขาก็เลื่อนสายตามาจ้องอาเถา

เขาคาดไม่ถึงว่า ชายชราช่างพูดและขี้ขลาดคนนี้จะหันหลังให้กับเขา เพื่อคนที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า!

ฆ่าพวกเขา?

ต๋าปู้คิดถึงราคาที่เผ่าของเขาต้องจ่าย และคำแก้ตัวที่ต้องบอกกล่าวต่อเหล่าหวางจุนหลังจากนั้น เขาก็ค่อยๆล้มเลิกความคิดนี้

“อาเถา บอกให้คนของเจ้าสงบลงเถอะ เราต่างเป็นมรณาชน เจ้ายั่วยุให้เกิดความขัดแย้งเช่นนี้ เจ้าไม่กลัวการลงโทษจากหวางจุนหรือไง?” ต๋าปู้ลุกขึ้นยืนและเดินช้าๆไปหาอาเถา พร้อมกับเหลือบมองไปที่ข้อมือและข้อเท้าของอาเถา แล้วขยับมือไปข้างหลัง

ชายชราแข็งแกร่งขึ้น ไม่แปลกใจเลยที่เขากล้าท้าทายข้า!

“งั้นเราก็ให้หวางจุนตัดสินว่าจะทำอย่างไร เจ้าคิดยังไงกับวิธีนี้?”

อาเถาจ้องมองต๋าปู้แล้วพยักหน้าช้าๆ

……

เนื่องจากความขัดแย้งก่อนหน้า ถึงทั้งสองเผ่าจะอยู่รวมกันในค่ายเดียวกัน แต่เผ่าอาเถาได้แยกที่พักห่างออกไป 200 เมตร

เย่จงหมิงมองเผ่าต๋าปู้ผ่านรั้วไม้เรียบง่าย และตัดสินใจจะไปพบกับมนุษย์โลกทั้งคู่อย่างลับๆ

เขาต้องการค้นหาว่าพวกเขาเป็นใคร เข้ามาที่นี่ได้อย่างไร จากนั้นจึงค่อยตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป

อีกครั้งที่เขามองไปยังเต็นท์ที่สูงที่สุดฝั่งตรงข้าม ในขณะที่กำลังหันกลับเย่จงหมิงก็มีแววตาที่อธิบายไม่ถูก

.

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด