ตอนที่แล้วตอนที่ 34 ประธานหลิว เย่เทียนมาแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 36 ขอโทษ! ฉันไม่คู่ควร!

ตอนที่ 35 เซียวหรง:ใจของฉันมันยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว!


หลิวหรูเยียนเริ่มทำใจให้สงบลงและหันไปคุยกับเซียวหรง “รอสักครู่นะคะคุณเซียว ฉันขอไปจัดการเรื่องบริษัทก่อนเดี๋ยวฉันกลับมานะคะ”

“โอเค” เซียวหรงพยักหน้าเล็กน้อย

หลิวหรูเยียนรีบเดินไปห้องโถงอย่างรวดเร็ว และเธอก็เห็นเย่เทียนที่กำลังเอามือล้วงกระเป๋าและเดินไปดุรอบๆ

เขาดูหนุ่มและหล่อกว่าในรูปมาก โดยเฉพาะออร่ารอบตัวของเขา ช่างน่ากลัวจริงๆ!

แต่!

ในฐานะผู้หญิงสมัยใหม่ ด้วยความภาคภูมิใจของหลิวหรูเยียนเธอจึงไม่ยอมก้มหัวให้ชายคนอื่นๆ มุมปากของเธอยกขึ้นเล็กน้อยและเริ่มกล่าวทักทายเขา “ขอโทษนะคะที่ไม่ได้จัดคนมาต้อนรับคุณเย่”

เย่เทียนไม่ใช่คนโง่ เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าหลิวหรูเยียนเป็นผู้ถือหุ้นลำดับสองของบริษัทต้าเฟิง และเธอยังเป็นประธานบริษัทนี้ด้วย เขายิ้มตอบกลับไป “มาที่บริษัทตัวเองทั้งทีแต่ไม่มีคนต้อนรับเหรอเนี่ย”

“เอ่อ...”

หลิวหรูเยียนตะลึงจนพูดไม่ออก

“ที่บริษัทเป็นยังไงบ้าง? เงินทุนพอหรือเปล่า?”

เย่เทียนเมินเฉยหลิวหรูเยียนที่กำลังเขินอายอยู่ เขาถามเข้าประเด็นหลักโดยตรงเพราะที่เขามาที่นี่ก็เพื่อใช้เงินกับบริษัทต้าเฟิงโดยเฉพาะ

หลิวหรูเยียนตอบกลับว่า “คุณเย่ไม่ต้องกังวล ตอนนี้บริษัทดำเนินงานได้ตามปกติ เมื่อไม่กี่วันก่อนเราเพิ่งกู้ เงิน 500 ล้านกับธนาคารเพื่อทำวิจัยและพัฒนาโครงการใหม่ ทุกอย่างกำลังพัฒนาไปในทางที่ดี”

“ต้องการเงินทุนก็แค่บอกฉันมา จะไปกู้กับธนาคารทำไม?” เย่เทียนถอนหายใจ “เงินแค่ 500 ล้านเอง เงินแค่นี้ต้องไปกู้เลยเหรอ?”

คำพูดที่บ้าคลั่งนี้ทำให้หลิวหรูเยียนตะลึงอีกครั้ง

เงินแค่ 500 ล้านเอง?

แม่นายเถอะ!

บริษัทต้าเฟิงที่อ้างว่ามีมูลค่าทางตลาด 6,000 ล้าน แต่แท้จริงแล้วมันมีค่าแค่ 4,000 ล้าน และส่วนใหญ่เป็นอสังหาริมทรัพย์ หุ้น และอื่นๆ สภาพคล่องภายในของบริษัทมีแค่ห้าร้อยล้านเท่านั้น ถ้าไม่เป็นอย่างนี้แล้วจะไปกู้เงินกับธนาคารทำไม

หลิวหรูเยียนกลอกตาเงียบๆ เย่เทียนก็หยิบบัตรของเขาออกมา “ฉันจะอัดฉีดเงิน 500 ล้านให้บริษัทต้าเฟิง ถ้ามีเวลาเธอก็เขียนหนังสือโครงการมาให้ฉันด้วย นอกจากนี้ฉันชอบผู้จัดการเหลียงกวนของChina World เทรดเซ็นเตอร์ ฉันขึ้นเงินเดือนให้เขาเป็นปีล่ะ 1.6 ล้าน”

เหลียงกวนคือใคร?

หลิวหรูเยียนขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่เธอก้ไม่ได้ใส่ใจอะไร ก็แค่คนธรรมดาที่มีเงินเดือนปีล่ะ 1.6 ล้านหยวนต่อปี แต่การลงทุน 500 ล้านหยวนทำให้เธอตกใจจริงๆ

“ฉันจะส่งหนังสือโครงการให้คุณเย่ภายในสามวัน” หลิวหรูเยียนพูดอย่างเร่งรีบ

“ok แต่ไม่ต้องหรอก เธอทำงานได้ดีแล้วหรูหยาน ฉันโล่งใจมากที่บริษัทอยู่ในมือเธอ!”

เย่เทียนยิ้มและเตรียมจากไป

ดีจริงๆที่ได้ใช้เงินตั้ง 500 ล้าน!

ในอนาคตถ้ามีเงินมากเกินไปแล้วไม่ได้ใช้ ก็เอาตั้งบริษัทได้แล้วกัน!

“เดี๋ยวก่อนคะคุณเย่ อาจมีใครบางคนที่คุณต้องการพบอยู่” หลิวหรูหยานรีบวิ่งตามเย่เทียนมา

“ใคร?”

“ประธานบริษัทเซียว ภรรยาของคุณ เซียวหรง” หลิวหรูหยานพูดอย่างไม่มั่นใจ

“เซียวหรงมาทำอะไรที่นี่?”

เป็นอย่างที่คิดไว้ เย่เทียนขมวดคิ้วลง

“เธอต้องการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับบริษัทต้าเฟิงของเรา และเงื่อนไขก็เอื้ออำนวยกัน ฉันตั้งใจจะสร้างพันธมิตรกับเธอแต่เนื่องจากคุณอยู่ที่นี่ แน่นอนว่าการตัดสินใจต้องเป็นของคุณ”

“พาฉันไปหาเธอ”

“เชิญทางนี้”

เมื่อหลิวหรูเยียนและเย่เทียนไปที่ลิฟต์พิเศษ พนักงานที่ผ่านไปมานับไม่ถ้วนต่างก็ตกตะลึง ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความสงสัย หลิวหรูเยียนที่เป็น ‘Misandry’ และ ‘Feminism’ ไปชอบหนุ่มหล่อคนนั้นได้ยังไง? แล้วผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?

“เป็นน้องชายประธานหลิวหรือเปล่า?”

“คงอธิบายได้แค่นี้แหละ แต่ฉันไม่เคยได้ยินว่าประธานหลิวมีน้องชายนะ”

"..."

ณ ห้องประชุมชั้นบนสุด

เมื่อเห็นหลิวหรูเยียนเข้ามา เซียวหรงก็ยิ้มแล้วยืนขึ้น “คุณหลิว เอ่อ…”

รอยยิ้มของเซียวหรงหยุดนิ่งเมื่อเห็นเย่เทียนเดินเข้ามา ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นมกริบ “เย่เทียน!”

เย่เทียนหันไปมองเธอ หลิวหรูเยียนไปยืนอยู่ข้างๆเพื่อรอดูการแสดง

ความสนุกกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!

“ได้ยินมาว่าเธอกำลังจะเป็นพันธมิตรกับบริษัทต้าเฟิงเหรอ? เรื่องใหญ่แบบนี้ทำไมเธอไม่บอกฉันบ้างล่ะ” เย่เทียนยิ้มและนั่งบนเก้าอี้ เขาเอาขาขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ แม้ว่าท่านี้จะดูไม่สุภาพแต่มันในทำให้เขาเท่ห์ขึ้นไม่น้อย

“นายคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ทำไมฉันต้องบอกนายด้วย? คิดว่าพอจับผู้หญิงรวยที่มีเงินเหม็นๆนั่นได้แล้วจะทำให้นายทำอะไรก็ได้หรือไง? ฉันบอกไว้เลยนะเย่เทียน นายมันไม่มีวันทำสำเร็จหรอก! แล้วอีกอย่าง นายรู้เรื่องธุรกิจบ้างหรือเปล่า?” เซียวหรงกลอกตาขึ้นบน

“ผู้หญิงคนนี้…” หลิวหรูเยียนพยักหน้าอย่างลับๆ แม้ว่าเซียวหรงจะว่าร้ายใส่ประธานของเธอ แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะปรบมือให้เซียวหรง

ผู้หญิงควรพัฒนาตัวเอง!

ฉันยกนิ้วให้เธอเลย เซียวหรง!

“ฉันไม่เข้าใจเรื่องธุรกิจจริงๆนั่นแหละ” เย่เทียนยังทำตัวสบายๆอยู่เหมือนเดิม เขากระดิกเท้าอยู่บนโต๊ะ “แต่ฉันมีเงิน เงินที่สามารถทำให้ได้ทุกอย่างตามที่ต้องการ เธอเคยได้ยินประโยคนี้ไหมล่ะ?”

“เฮอะ!” เซียวหรงเยาะเย้ยใส่เขา “รวยแล้วยังไงล่ะ นายหยุดการร่วมมือระหว่างบริษัทเซียวกับบริษัทต้าเฟิงได้หรือไง?”

“เฮ้อ เขาทำได้จริงๆ...” หลิวหรูเยียนพูดอยู่ในใจ

“ถ้าฉันรบกวนการร่วมมือระหว่างเธอกับบริษัทต้าเฟิง เกรงว่าฉันจะกลายเป็นคนใจแคบไปซึ่งฉันไม่ใช่คนแบบนั้น หรูเยียนเธอคงตรวจดูการตลาดของบริษัทเซียวมาแล้วใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นเธอช่วยบอกฉันที เธอจะทำอย่างไรถ้าเธอเป็นประธานของบริษัทเซียว?” เย่เทียนยังกระดิกเท้าอยู่

หลิวหรูเยียนตอบตามความจริง “สินทรัพย์รวมของบริษัทเซียวคาดว่าอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้าน ไม่กี่ปีที่ผ่านมามีแนวโน้มว่ามีการพัฒนาที่ค่อนข้างดี แต่ข้อบกพร่องก็ชัดเจนเช่นกัน การจัดการภายในของบริษัทเซียววุ่นวายมากและมีอยู่หลายฝ่าย ถ้าฉันประธานบริษัทเซียวฉันคงเปลี่ยนบุคลากรเกือบทั้งหมด ไล่แกะดำออกจากบริษัท ในขณะเดียวกันก็เปิดสมัครรับคนใหม่ๆเข้ามา และหาHeadhunterที่มีความสามารถจากบริษัทอื่นเข้ามาบริหารแทน...”

"..."

หน้าของเซียวหรงเปลี่ยนไปเล็กน้อย ปากของเธอเริ่มรู้สึกขมขึ้นมา

ที่หลิวหรูเยียนพูดนั้นเป็นเรื่องจริง และมันเป็นสิ่งที่เธออยากทำเช่นกัน

แต่...เธอทำได้แค่คิดอย่างเดียว เพราะยังไงก็ทำไม่ได้!

แกะดำพวกนั้นต่างเป็นทายาทของตระกูลเซียว ผู้อาวุโสของเธอ หรือแม้แต่ผู้อาวุโสของพ่อแม่เธอ! ถ้าเธอทำแบบนั้น ภายในไม่กี่ชั่วโมงญาติพวกนี้ต้องมาที่บ้านของเธอเพื่อบ่นใส่พ่อแม่ของเธอและประณามเธอในฐานะทายาทนอกสมรสของตระกูลเซียว

“ใช่” เย่เทียนพยักหน้า “ถ้าฉันซื้อหุ้น 51% ของบริษัทเซียว แล้วให้เธอควบตำแหน่งประธานของบริษัทเซียวด้วย เธอจะแบ่งเวลาได้หรือเปล่า?”

คำพูดของเย่เทียนกลายเป็นเสียงฟ้าผ่าอยู่ในใจของผู้หญิงทั้งสอง

หลิวหรูเยียนรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก “ให้ฉันควบตำแหน่งประธานบริษัทเซียว? คุณจริงจังหรือเปล่า?”

“ฉันไม่ได้พูดเล่น เธอทำได้หรือเปล่า?” เย่เทียนยิ้มตอบ

“ถ้าจะทำน่ะทำได้แต่ฉันมีวิธีที่ดีกว่านั้น จะดีกว่าไหมที่ถ้ารวมบริษัทเซียวเข้ามาแล้วทำเป็นบริษัทย่อยของบริษัทต้าเฟิง?” หลิวหรูเยียนกระพริบตาให้เขา

เซียวหรงตะลึง

ใจของฉันมันยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว!

ฉันยืนอยู่หน้าพวกนาย แต่พวกนายพูดต่อหน้าฉันว่าต้องการรวมบริษัทของฉันเนี่ยนะ?

ทำเป็นเหมือนครอบครัวสามคนที่ดูทีวีอย่างมีความสุข แล้วก็มีกลุ่มโจรยืนอยู่หน้าประตูคุยเรื่องเข้ามาปล้นในบ้าน แม่มึงเถอะพวกแกบ้าไปแล้วหรือไง?!

“โอ้! ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องธุรกิจนักหรอก จะใช้เงินเท่าไหร่ในการรวมบริษัทก็มาบอกฉันแล้วกัน” เย่เทียนอ้าปากหาว “พวกเธอคุยกันไปก่อนเลย ฉันง่วงแล้วขอกลับไปงีบก่อน มีอะไรก็โทรหาฉันนะหรูเยียนหรือจะไปหาฉันที่บ้านโดยตรงเลยก็ได้”

หลังจากเย่เทียนพูดจบ เขาก็หันหลังเดินจากไปโดยไม่หันมองเซียวหรงแม้แต่น้อย

เซียวหรงกลายเป็นโง่งม

ฉันมาที่นี่วันนี้เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือ ...

ทำไมอยู่ๆถึงกลายไปเป็นเหยื่อได้ล่ะ...

ทำไม?