ตอนที่แล้วตอนที่ 33 ความกระหายของจ้าวเถี่ยจู้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 35 เซียวหรง:ใจของฉันมันยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว!

ตอนที่ 34 ประธานหลิว เย่เทียนมาแล้ว


หลังจากนั้นเย่เทียนก็นั่งดูจ้าวเถี่ยจู้กินและคุยกับเธอไปด้วย เธอนั่งกินตั้งแต่ 09.00 ถึง 12.00 รวมเป็นเวลาสามชั่วโมงแล้ว แต่จ้าวเถี่ยจู้ก็ยังไม่หยุดกิน

“เถี่ยจู้ เธอนี่เก่งจริงๆ!”

ตอนนี้เย่เทียนไม่มีอะไรข้องใจในตัวจ้าวเถี่ยจู้แล้ว ด้วยเทพในร่างคนแบบนี้ แม่ของเขาคงไม่ต้องห่วงเรื่องที่เขาเบื่ออาหารของเธออีกต่อไป “เธอมาติดตามฉันเถอะ! ฉันจะให้เธอกินอาหารสามมื้อต่อวัน! จากนี้ไปฉันจะร้านนี้จะเป็นโรงอาหารของเธอด้วย!”

เมื่อได้ยินสิ่งที่เย่เทียนพูด จ้าวเถี่ยจู้ที่กำลังกินอยู่ถึงกับผงะและเริ่มร้องไห้ออกมา

“เถี่ยจู้? ฉันพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า?”

จ้าวเถี่ยจู้สำลัก “พี่เย่เทียน พี่เป็นคนแรกที่ทำดีกับฉันแบบนี้ เพราะฉันกินได้มากเกินไปพ่อกับแม่และญาติต่างทำกับฉันว่าเป็นเทพแห่งกาฬโรค ขนาดตอนที่ไปร่วมงานปีใหม่พวกเขายังไม่อยากให้ฉันเข้าร่วม…”

เป็นเขาเองก็จะพูดแบบนั้นแน่นอน

คนธรรมดาที่ไหนจะจ่ายเงินค่าอาหารจนทำให้เธออิ่มได้ ต่อให้เป็นเศรษฐีสิบล้านก็คงไม่มีปัญหาจ่ายแน่ อย่างน้อยต้องเป็นอภิมหาเศรษฐี

เย่เทียนเช็ดน้ำตาให้จ้าวเถี่ยจู้ “เธอมาติดตามฉัน ฉันสัญญาว่าจะทำให้เธอได้กินอิ่มทุกวัน”

“ขอบคุณคะพี่เย่เทียน!” จ้าวเถี่ยจู้หลั่งน้ำตาด้วยความขอบคุณ จากนั้นเธอก็ก้มกินต่อไปโดยไม่ลดความเร็วลง

“เหลียงกวน”

เย่เทียนเรียกเหลียงกวนที่ยืนอยู่ข้างๆให้นั่งลง คนที่ถูกเรียกก็เต็มไปด้วยความตกใจ “คุณเย่”

“นายได้ยินที่ฉันพูดแล้วใช่ไหม หลังจากนี้ไปเถี่ยจู้เป็นน้องสาวของฉัน พวกนายต้องทำให้เธออิ่มสามมื้อต่อวัน และถ้าพวกนายเอาส่วนผสมขยะมาให้เธอกินหละก็...”

ตาของเย่เทียนเปลี่ยนเป็นเย็นชา เหลียงกวนจึงรีบพูดขึ้น “คุณเย่มั่นใจได้เลย ผมจะทำให้ดีที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการของน้องเถี่ยจู้”

“คนฉลาดและมีความสามารถแบบนายบริษัทจะต้องไม่ลืมแน่นอน ตอนนี้นายได้เงินเดือนเท่าไหร่ล่ะ?” เย่เทียนถามอย่างสบายๆ

เหลียงกวนตอบด้วยความระมัดระวัง “บริษัทให้ความสำคัญกับผมเสมอมา ดังนั้นผมจึงได้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการของโรงแรมเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ เงินเดือนประจำปีของผมอยู่ที่ 800,000 ถ้าทำกำไรได้มากสิ้นปีก็จะได้เงินปันผลรวมเป็นเงินประมาณ 1.5 ล้าน

“งั้นขึ้นให้เลย!” เย่เทียนยกมือขึ้น “จากนี้ไป เงินเดือนประจำปีของนายคือ1.6 ล้าน”

ขาของเหลียงกวนอ่อนยวบและคุกเข่าไปตรงหน้าเย่เทียน เขาพูดด้วยความตื่นเต้น “คุณเย่ครับ!!”

“ลุกขึ้นมาเถอะ ฉันไม่ใช่พวกนิยมเรื่องสังคมศักดินา” เย่เทียนเหลือบมองที่จ้าวเถี่ยซูที่กินอย่างบ้าคลั่งและถามว่า “สำนักงานใหญ่ของบริษัทต้าเฟิงอยู่ที่ไหน ฉันซื้อบริษัทต้าเฟิงมายังไม่เคยเข้าไปเลย”

เหลียงกวนตอบอย่างรวดเร็ว “อยู่ทางฝั่งนั้นของถนนการค้า ขับรถจากที่นี่ไปใช้เวลาแค่ 20 นาที คุณเย่ต้องการให้ผมไปส่งที่นั่นหรือเปล่าครับ? ผมจะพาคุณไปเอง!”

“ไม่ต้อง!”

เย่เทียนโบกมือปฎิเสธ “นายอยู่ที่นี่คอยดูแลเถี่ยจู้เถอะ ให้เธอกินจนกว่าเธอจะอิ่มนั่นแหละ ฉันมีบางอย่าต้องไปทำเดี๋ยวจะมารับเถี่ยจู้ทีหลัง”

“ได้ครับ!”

“เถี่ยจู้” เย่เทียนเรียกด้วยรอยยิ้ม

“พี่เย่เทียน!” จ้าวเถี่ยจู้เงยหน้าขึ้น ตาของเธอเต็มไปด้วยความขอบคุณส่วนปากของเธอก็เต็มไปด้วยคราบน้ำมัน

“เธอกินให้อิ่มได้เลย ถ้าจะกินเวลาไหนก็บอกเหลียงกวนเอา ฉันมีเรื่องต้องไปทำไว้จะกลับมารับเธอทีหลัง”

“ได้เลย!” จ้าวเถี่ยจู้พยักหน้ารัวๆ

เดิมทีเย่เทียนอยากจะไปรับไปส่งจ้าวเถี่ยจู้กินอาหาร แต่ความอยากอาหารของเธอน่ากลัวเกินไปซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองสามชั่วโมงเพื่อทำให้เธออิ่มและเขาก็ไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้น เขามีเงิน 2,100 ล้านอยู่ในธนาคารจึงต้องหาวิธีที่จะใช้มันโดยเร็วไม่อย่างนั้นเงินจะมากขึ้นเรื่อยๆ—จนใช้มันไม่หมด!!!

……

ห้องประชุมชั้นบนสุดของสำนักงานใหญ่บริษัทต้าเฟิง

“ขอจบกาประชุมแต่เพียงเท่านี้!”

หลิวหรูเยียนประกาศสิ้นสุดการประชุม

ขณะที่เธอเดินออกไป เลขาก็ตามออกมาอย่างรวดเร็วและพูดว่า “คุณหลิวคะ คุณเซียวจากบริษัทเซียวได้โทรหาคุณหลายครั้งโดยบอกว่าเธอต้องการร่วมงานเชิงกลยุทธ์กับบริษัทของเรา คุณหลิวต้องการคุยกับเธอหรือเปล่าคะ? แม้ว่าเงินทุนของบริษัทเซียวจะไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แต่การพัฒนาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็ค่อนข้างโดดเด่น โดยเฉพาะ...”

“โดยเฉพาะ?”

หลิวหรูเยียนเลิกคิ้ว “ไม้ต้องอ้อมค้อม พูดมาเลย”

หลิวหรูเยียนอายุ 25 เป็นประธานของบริษัทต้าเฟิงและถือหุ้นบริษัทอยู่ 25% เธอเป็นประธานหญิงที่แข็งแกร่งที่สุดในไห่จิง เธอเป็นหนึ่งไม่มีสอง

แม้ว่าจะเธอเป็นวัยรุ่นสาว แต่ถ้าพูดถึงความเฉียบแหลมทางธุรกิจแล้ว ต่อให้เป็นฉินเยี่ยนกับผางหว่ยซึ่งเป็นที่รู้จักในนามไซจูเก๋อก็จะถูกเธอบดขยี้ในทันที

เมื่ออยู่ในตำแหน่งระดับสูงเป็นเวลานาน เธอจึงมีออร่าของราชินีที่เย่อหยิ่ง

เมื่อหลิวหรูเยียนจ้องมองที่เธอ เลขาสาวก็ตัวสั่นทันทีและพูดอย่างเร่งรีบ “เมื่อคืนนี้เป็นวันฉลองครบรอบวันเกิดของคุณย่าตระกูลเซียว ว่ากันว่าเย่เทียนสามีของเซียวหรงที่ไม่ได้เป็นที่รู้จักมาก่อนได้ดังขึ้นมาเมื่อคืนนี้ เขาให้ลูกท้อทองคำหนึ่งตันและของมีค่าต่างๆรวมเป็นเงินหลายร้อยล้าน ถ้าไม่มีเย่เทียนพวกเราอาจไม่จำเป็นต้องร่วมมือกับบริษัทเซียว แต่เนื่องจากมีเย่เทียนฉันจึงคิดว่าการร่วมมือครั้งนี้คุ้มค่า...”

หลิวหรูเยียนหยิบบุหรี่ไฟฟ้าออกจากแขนแล้วสูบมัน นัยน์ตาที่สวยงามของเธอฉายแววประหลาดใจ

เย่เทียน...

นี่ไม่ใช่เศรษฐีลึกลับที่ซื้อหุ้น 51% ของบริษัทต้าเฟิงก่อนหน้านี้เหรอ?

สองคนนี้มีชื่อนามสกุลเดียวกันเหรอ?

ถ้าเป็นคนเดียวกันคงเป็นเรื่องบังเอิญ

“ฟู่ว...”

หลิวหรูเยียนพ่นควันออกมาและพูดด้วยเสียงเบา “ไปเชิญเซียวหรงมาที่บริษัท ฉันจะคุยกับเธอเอง”

“ได้คะ ฉันจะติดต่อคุณเซียวเดี๋ยวนี้” เลขารีบเดินออกไป

หลังจากนั้นไม่นาน ภายในสำนักงานใหญ่บริษัทต้าเฟิง

เซียวหรงเงยหน้าขึ้นโดยไม่ทำตัวต่ำต้อยหรือทำตัวเย่อหยิ่ง เธอนั่งลงตรงข้ามกับหลิวหรูเยียนตำนานประธานหญิงของเมืองไห่จิง

หลิงหรูเยียนวางเอกสารลงและพูดด้วยรอยยิ้ม “ประธานเซียว บริษัทของคุณมีเงื่อนไขที่ดีมากฉันจะพิจารณาเรื่องความร่วมมืออย่างแน่นอน”

เซียวหรงถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ถ้าอย่างนั้นขอขอบคุณคุณหลิวล่วงหน้า”

“จะขอบคุณกันทำไมล่ะ ยังไงพวกเราก็เป็นพันธมิตรกันอยู่แล้ว” หลิวหรูเยียนเปลี่ยนเรื่องอย่างชาญฉลาด “ได้ยินมาว่าคุณเซียวแต่งงานแล้ว สามีของคุณนามสกุลเย่และชื่อของเขาคือเทียนใช่ไหม?”

เซียวหรงคิดไม่ถึงว่าหลิวหรูเยียนจะพูดเรื่องเย่เทียนขึ้นมากระทันหัน เธอจึงชะงักอยู่ครู่หนึ่งและพยักหน้าตอบกลับไป “ใช่”

“คนนี้หรือเปล่า?” หลิวหรูเยียนต้องการตรวจสอบว่าสามีของเซียวหรงกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทต้าเฟิงใช่คนเดียวกันหรือไม่ เธอจึงหยิบรูปออกมาให้เซียวหรงดู

เมื่อเซียวหรงดูรูปของเย่เทียน เธอก็เริ่มโกรธและถามด้วยความสงสัย “ทำไมคุณถึงมีรูปของเขา?”

หลิวหรูเยียนตกตะลึง

เป็นเขาจริงด้วย!

เย่เทียน!

สามีของเซียวหรง!

เขาคือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทต้าเฟิง!

แม้ว่าหน้าของหริวหรูเยียนจะเป็นปกติ แต่ในใจของเธอวุ่นวายเป็นอย่างมาก และเธอก็สงสัยอย่างมาก

เพราะมันไม่มีเหตุผลเอาซะเลย

สามีของเธอเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่ของบริษัทต้าเฟิง เขากุมชีวิตและความตายของทุกคนในบริษัทนี้เอาไว้ แล้วเธอจะมาคุยเรื่องความร่วมมือกับตัวเองทำไม? แค่ไปคุยกับเย่เทียนสองสามคำก็ได้แล้วไม่ใช่หรือไง?

นอกจาก...เซียวหรงจะไม่รู้ว่าเย่เทียนคือผู้ถือหุ้นรายใหญ่บริษัทต้าเฟิง!

เป็นได้ได้หรือเปล่า?

หลิวหรูเยียนขมวดคิ้ว ทำให้เธอดูซับซ้อนอย่างมาก

“คุณหลิวคะ” เลขาสาวก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและกระซิบข้างหูของหลิวหรูเยียน “มีคนชื่อเย่เทียนอยู่ที่โถงต้อนรับ เขาบอกว่าต้องการพบคุณ…”