ตอนที่แล้วบทที่ 125 พรสวรรค์ด้านมิติระดับสูง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 127 มนุษย์ที่แตกต่าง! 

บทที่ 126 สร้างร่างเทียมสําเร็จ! 


พรสวรรค์ตัวตายตัวแทนเหมือนกับที่เย่เทียนคาดเดาไว้ มันช่วยปกป้องชีวิตของเขาได้ 1 ครั้ง แต่ไม่ใช่ว่ามันไม่มีเงื่อนไข เขาต้องเตรียมวัตถุดิบทดแทน

ตัวอย่างเช่น ศพของสัตว์อสูรหรือศพมนุษย์เพื่อใช้พรสวรรค์ตัวตายตัวแทนสร้างมันเป็นร่างเทียม และร่างเทียมนี้จะสับเปลี่ยนกำลังจริงของเย่เทียนในขณะที่เขาตาย

ดังนั้นเย่เทียนจึงต้องซ่อนร่างเทียมนี้ไว้ที่ไหนสักแห่ง  เมื่อใดก็ตามที่เย่เทียนถูกฆ่าเขาจะสามารถเปิดใช้งานพรสวรรค์ตัวตายตัวแทนได้ทันที

ด้วยคุณสมบัติของพรสวรรค์ตัวตายตัวแทน รากเทียมที่เขาจัดเตรียมไว้มีลักษณะเหมือนร่างจริงทุกประการมันสามารถหลอกศัตรูที่สังหารเขาได้ ศัตรูจะคิดว่าเย่เทียนนั้นถูกสังหารไปแล้วจริงๆ

แน่นอน

พรสวรรค์ที่ท้าทายสวรรค์เช่นนี้มีข้อจํากัดอยู่ เขาสามารถใช้งานพรสวรรค์นี้ได้เพียงหนึ่งครั้งใน 3 ปี อีกทั้งยังมีข้อจํากัดด้านระยะทาง ร่างเทียมต้องไม่อยู่ห่างจากร่างจริงในระยะหนึ่งล้านลี้ มิเช่นนั้นพรสวรรค์ตัวตายตัวแทนจะไม่ทำงาน

บางทีหากพรสวรรค์ตัวตายตัวแทนนี้มีระดับเพิ่มขึ้น ระยะทางก็จะเพิ่มขึ้น ระยะเวลาคูลดาว์ก็อาจจะลดลง แต่สําหรับตอนนี้ เย่เทียนจะต้องใช้พรสวรรค์ตัวตายตัวแทนระดับกลางเท่านั้น

"เราต้องหาเวลาจัดเตรียมวัตถุดิบสร้างร่างเทียมขึ้นมา หากทำสำเร็จเท่ากับว่าเรามีอีกหนึ่งชีวิต!"

เย่เทียนพึมพํา

ทันใดนั้นความสนใจของเขาก็จดจ่ออยู่กับพรสวรรค์ด้านมิติ

[พรสวรรค์ด้านมิติ: ระดับสูง]

"พรสวรรค์ด้านมิติระดับกลางมีการรับรู้มิติ ตราประทับมิติ เคลื่อนย้ายพริบตา ตอนนี้พรสวรรค์ด้านมิติของเรากลายเป็นระดับสูงแล้ว มิติส่วนตัวของเราใหญ่ขึ้นกว่าเดิมถึง 10 เท่า เทียบได้กับลานกว้างขนาดเล็ก อีกทั้งความสามารถตื่นยังเพิ่มขึ้นอย่างมาก สมแล้วกับที่เป็นพรสวรรค์ด้านมิติระดับสูง!"

เย่เทียนพูดอย่างพอใจ

แต่สิ่งที่เขาให้ความสําคัญมากที่สุดคือทักษะดาบมิติ!

" คมดาบมิติ!"

ความคิดของเขาเคลื่อนไหว ดาบสีดําพลันปรากฏขึ้นตรงหน้าของเย่เทียน มันถูกสร้างขึ้นจากพลังแห่งมิติราวกับว่ามันเกิดเป็นรอยแยกมิติ แต่รูปแบบกลับเหมือนใบดาบ

"สลาย!"

เย่เทียนยกเลิกทักษะดาบมิติ เขาไม่กล้าทดสอบดาบมิติที่นี่ ไม่อย่างนั้นราชาคนอื่นๆคงอาจจะรู้ตัว และเขาเองก็คงไม่สามารถอธิบายได้ เย่เทียนไม่ต้องการเปิดเผยพรสวรรค์ด้านมิติระดับสูงของเขาในตอนนี้!

"เวลายังเหลืออีกมากตอนนี้ควรจะฝึกฝนก่อน!" เย่เทียนพึมพํา

วิญญาณของเขาได้รับความเสียหาย ทำให้เขาไม่สามารถทำความเข้าใจทักษะดาบ หรือฝึกฝนเทคนิคได้ แต่การบ่มเพาะด้วยวิชากายาโลหิตม่วงยังคงทำได้อยู่

ดังนั้นเย่เทียนจึงเริ่มฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง เขากินเลือดสัตว์อสูรระดับราชาทุกวันเพื่อฝึกฝนวิชากายาโลหิตม่วง

สิ่งที่เขาต้องทำในตอนนี้คือขัดเกลาเส้นชีพจรลมปราณที่ 2 ซึ่งก็คือเส้นลมปราณหยาง

ใช้เวลาเพียง 10 วัน เย่เทียนก็ประสบความสําเร็จในการขัดเกลาเส้นลมปราณหยาง ในตอนนี้พละกำลังของเขาก็สูงถึง 21 ช้าง จากนั้นเย่เทียนก็เริ่มขัดเกลาเส้นลมปราณเส้นที่สามที่เย่เทียนเลือกซึ่งก็คือคือเส้นลมปราณฉี

แต่ละวันที่ผ่านไปไม่มีเหตุการณ์พิเศษใดๆเกิดขึ้น เย่เทียนออกไปกวาดล้างฝูงสัตว์อสูรเป็นครั้งคราว ผ่านไปไม่นานก็ครบกำหนด 2 เดือนที่เขาต้องเฝ้ารอยแยกมิติ

" 26 ช้าง ตอนนี้หมดเวลาแล้ว!"

เย่เทียนเก็บข้าวของและเดินออกจากที่พักพร้อมกับเสี่ยวเสวียน

วันนี้เป็นวันที่เขาต้องออกจากค่ายกลระดับสูง ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้น แต่ระดับราชาและนักเวทย์ค่ายกลคนอื่นๆก็จะจากไปเช่นกัน เหลือไว้เพียงจอมเวทย์ค่ายกลและผู้พิทักษ์ระดับราชาเพียงคนเดียว

ค่ายกลระดับสูงสุดมั่นคงอย่างสมบูรณ์ และรอยแยกของมิติก็มั่นคงขึ้น ไม่จําเป็นต้องมีคนมาเฝ้ามากเช่นเดิน

ฟูมมม

เรือเหาะเหินวายุบินใกล้เข้ามา

"ฮ่าฮ่าฮ่า มีคนมาประจําการแทนแล้ว พวกเราไปกันเถอะ!"

ราชาคนหนึ่งกล่าว

ไม่นานคนกลุ่มหนึ่งก็มาถึงเรือเหาะเหินวายุ

"มีคนเยอะขนาดนี้เลยเหรอ?"

เย่เทียนขมวดคิ้ว

ไม่ใช่ว่าพวกเขาเป็นเพียงจอมเวทย์ค่ายกลและผู้ฝึกยุทธระดับราชาหรอกหรือ? ทําไมถึงต้องพาคนมาเยอะแยะขนาดนี้ อีกอย่างในหมู่พวกเขามีผู้ชายเพียงสองคนนอกจากนั้นทั้งหมดล้วนแต่เป็นผู้หญิง!

อ้อ!!!

ทันใดนั้น

เขาเข้าใจในทันที

ผู้ฝึกยุทธระดับราชาและนักเวทย์ค่ายกลต้องประจำการอยู่ที่นี่อีกนานซึ่งมันเป็นเรื่องน่าเบื่ออย่างมาก การพาสาวใช้มาด้วยบางครั้งอาจตอบสนองความต้องการทางสรีรวิทยาและความต้องการอื่นๆ ได้

เย่เทียนไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์พวกเขา เพราะเรื่องนี้เป็นสิทธิ์ของพวกเขา

เมื่อภารกิจถูกส่งต่อเสร็จสิ้น เย่เทียน จอมเวทย์ค่ายกลและผู้ฝึกยุทธระดับราชาคนอื่นๆก็เดินทางกลับฐานของตน

เย่เทียนและเสี่ยวจินกลับมาถึงฐานทะเลมารอย่างรวดเร็ว

เมื่อกลับมาถึงบ้านมันเป็นช่วงบ่ายแล้ว

เมื่อเขาเปิดประตูเข้าบ้านเขาก็เห็นเย่หยูที่กําลังฝึกฝนอยู่ ตอนนี้เย่หยูได้ก้าวเข้าสู่นักรบผู้เชี่ยวชาญแล้ว และเธอก็จบการศึกษาจากโรงเรียนนักรบเรียบร้อบ

"ท่านพี่ ท่านกลับมาแล้ว!"

เมื่อเย่หยูเห็นเย่เทียน เธอก็รีบวิ่งเข้าไปในอ้อมกอดของเย่เทียนอย่างรวดเร็ว การไม่ได้เจอกันหลายเดือนทำให้เธอคิดถึงพี่ชายของเธอมาก

"เสี่ยวหยู วันนี้พี่จะทําอาหารอร่อยๆให้น้องกินเอง!"

เย่เทียนลูบหัวเย่หยูและพูดด้วยรอยยิ้ม

"อืมม!!!"

เย่หยูพยักหน้าและดวงตาก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอดูน่ารักมาก

ดังนั้นเย่เทียนจึงเริ่มลงมือทําอาหารด้วยตัวเอง เขาใช้เนื้อสัตว์อสูรและผักผลไม้ต่างๆ ทําอาหารมื้อใหญ่ สองพี่น้องทานอาหารกันอย่างมีความสุข เย่เทียนเพลิดเพลินกับการรับประทานอาหารมื้อนี้แบบครอบครัวอย่างอบอุ่น

"หากอยากจะปกป้องความสุขเช่นนี้ไว้ เราต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้ ในยุคสมัยนี้หากไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้นั่นก็หมายความว่าพร้อมจะพังพินาศได้ทุกเมื่อ!" เย่เทียนมองเย่หยูที่กําลังยิ้มและคิดกับตัวเอง

หลังมื้ออาหาร

เย่เทียนก็เริ่มฝึกฝนอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง เขาต้องการเลื่อนขั้นเป็นระดับราชาโดยเร็วที่สุด และเมื่อก้าวเข้าสู่ระดับราชาเขาก็จะมีคุณสมบัติที่จะออกค้นหาพรสวรรค์อันน่าทึ่งที่ฐานทัพระดับสุดยอด และต่อสู้กับอัจฉริยะนับไม่ถ้วน

เวลาไหลผ่านไปอย่างช้าๆ

ชั้นใต้ดิน.

เย่เทียนกําลังมองศพของสัตว์อสูรระดับสูงที่เขาวางแผนจะนำมันมาสร้างเป็นรากเทียมของเขา แน่นอนว่าศพอย่างเดียวไม่เพียงพอ เขาต้องจัดเตรียมวัสดุสนับสนุนและเลือดของเขาเอง

หลายวันมานี้ เขาฝากคนไปซื้อวัตถุดิบหลายอย่างแม้ว่ามันจะไม่ใช่วัตถุดิบล้ำค่า แต่ก็ต้องใช้เวลาหลายวันในการรวบรวม

ในที่สุดวันนี้เขาก็สามารถรวบรวมวัตถุดิบจนครบแล้ว

ดังนั้นเย่เทียนจึงอดใจรอไม่ไหวที่จะสร้างร่างเทียมเพื่อเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้กับตัวเอง

เย่เทียนแยกส่วนผสมและบดมันเป็นผง จากนั้นเขาก็หยดเลือดของเขาผสมเข้ากับวัตถุดิบทั้งหมด และนําไปใช้กับซากศพของสัตว์อสูร

ทุกอย่างพร้อมแล้ว!

"เริ่มกันเลย!"

เย่เทียนกระตุ้นพรสวรรค์ตัวตายตัวแทนระดับกลางและถ่ายเทพลังเข้าไปในศพของสัตว์อสูร

กึก แคร่ง!!!

ซากศพของสัตว์อสูรเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงและค่อยๆหดตัวลง

หลังจากนั้นไม่นาน ซากศพของสัตว์อสูรก็เปลี่ยนรูปร่างคล้ายกับร่างของมนุษย์

ในที่สุดศพของสัตว์อสูรก็เปลี่ยนเป็นร่างมนุษย์ที่มีลักษณะเหมือนกับเย่เทียนทุกอย่าง แม้กระทั่งกลิ่นอายของเขา "ร่างเทียมสําเร็จแล้ว!"

เย่เทียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เขาสามารถสัมผัสถึงสายใยเชื่อมโยงระหว่างเขากับร่างเทียมตรงหน้า ร่างเทียมนี้สามารถใช้ได้ 3 ปี หลังจากนั้นเขาต้องสร้างใหม่อีกครั้ง เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว เย่เทียนก็ปิดห้องลับใต้ดินและวางค่ายอาคมป้องกันและค่ายกลกําบังเอาไว้

สามเดือนผ่านไปอย่างเงียบ ๆ

หลังจากผ่านไปสามเดือนจิตวิญญาณของเขาที่ได้รับบาดเจ็บตอนนี้หายดีแล้วและไม่มีผลกระทบใดๆทั้งสิ้น

นอกจากนี้ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เย่เทียนก็ใช้เวลาเกือบทั้งหมดในการฝึกฝนในห้องฝึกปราณระดับกลางภายในบ้าน พละกำลังของเขาเพิ่มมาอีก 27 ช้าง ในตอนนี้เขามีพลังทั้งหมด 53 ช้าง นอกจากนี้เมื่อจิตวิญญาณของเขาหายดี เขาก็สามารถเรียนรู้และฝึกฝนทักษะดาบระดับเงินได้แล้ว