ตอนที่แล้ว961-962
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป965-966

963-964


7/8

Ep.963

ทุกคนในที่นี้ ไม่มีเลยสักคน ที่ทันคิดว่าระดับเทวะขั้น 3 แห่งเผ่าปีศาจราตรีอันทรงเกียรติ จะไม่อาจต้านทานการโจมตีได้แม้กระบวนท่าเดียว  ถูกซูเฉินฆ่าตายในไม่กี่วินาที

หลังจากเปลี่ยนร่างแล้ว ซูเฉินแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้ แล้วยังจะมีใครอีกเล่าที่กล้าหยุดเขา?

นี่น่ะหรือคือการต่อสู้ของผู้ที่ได้สมญาว่าเทพสังหาร!

ทุกคนในที่นี้ต่างหวาดผวาและตื่นตระหนก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าระดับเทวะ ในหัวใจของทั้งหมดสั่นเทาด้วยความกลัว

ชายชราเผ่าปีศาจราตรีเสียชีวิต เป้าหมายต่อไปของซูเฉินย่อมเป็นพวกเขา แล้วพวกเขาจะมีโอกาสรอดชีวิตหรือ?

อีกด้านหนึ่ง ซูเฉินเบนสายตามายังร่างของสวี่เหมาและชายเผ่าเทพ

เมื่อครู่ ทั้งสองคนนี้กระดี้กระด้า ดูมีความสุขมากที่สุด หลังจากกำจัดชายชราเผ่าปีศาจราตรีแล้ว ก็ถึงเวลากำจัดพวกมันต่อ

“ซูเฉิน เผ่าเทพของพวกเรามีผู้แข็งแกร่งระดับเทวะขั้น 5 คอยคุ้มครองอยู่ เจ้าไม่สามารถฆ่าข้าได้!”

ซูเฉินจิกสายตามอง ทันใดนั้นชายเผ่าเทพรู้สึกเย็นวาบตามไปถึงกระดูกสันหลัง

เขารู้ว่าซูเฉินมีเจตนาจะฆ่าเขา จึงรีบเอ่ยปากถึงผู้แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าพันธุ์ออกมา เพื่อขู่ให้ซูเฉินหวาดกลัว

“อาศัยแค่ระดับเทวะขั้น 5 แกยังกล้าเอามันมาขู่ฉัน ช่างรนหาที่ตาย!”

ซูเฉินยิ้มดูแคลน ระเบิดพลังจิตออกมาทันที กวาดไปยังชายเผ่าเทพ

แม้คำพูดของเขาจะดูจองหองอยู่บ้าง แต่มันไม่ใช่น้ำลายคุยโว เพราะด้วยแต้มพลังงานจำนวนมากที่มี เขาสามารถเลื่อนขั้นสู่เทวะขั้น 3 ได้ตลอดเวลา แล้วหากใช้ [เทคนิคปลุกศูนย์รวมวิญญาณสวรรค์] ก็จะกระโดดขึ้นเป็นขั้น 4 ทันที

การสังหารศัตรูข้ามขั้นหนึ่งขั้น สำหรับซูเฉินแล้ว มันง่ายพอๆกับการยกน้ำขึ้นดื่ม

“อ๊าาาาา!”

ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องน่าสังเวช ชายเผ่าเทพถูกพลังจิตของซูเฉินบดขยี้โดยไร้ซึ่งเรี่ยวแรงต่อต้านขัดขืนใดๆ

ผู้ฝึกตนนับหมื่นมิอาจทานทนต่อแรงกดดันนี้ หลบหนีกระจัดกระจายไปทุกทิศทาง

สำหรับพวกมัน ซูเฉินไม่สนใจ เพราะเป้าหมายหลักของเขาคือผู้แข็งแกร่งระดับเทวะเบื้องหน้าเท่านั้น

แทบจะในทันที เขาเบนสายตาไปยังร่างของสวี่เหมา พูดติดตลกว่า “มดปลวกอย่างแกคิดจะฆ่าฉัน ไหนลองแสดงให้ดูหน่อยสิว่าแกมีความสามารถพอจะทำได้ไหม?”

อึก!

สวี่เหมากลืนน้ำลาย สั่นเทิ้มไปทั้งร่าง เขาตระหนักดี ว่าซูเฉินไม่มีทางยอมปล่อยเขาไป ได้แต่กัดฟันแน่น ร้องตะโกนว่า “ทุกคนร่วมมือกัน สู้กับเขา!”

กระนั้น ไม่มีผู้แข็งแกร่งระดับเทวะคนใดเลยที่ตอบสนอง บางคนถึงกับเริ่มชักฝีเท้าถอยกลับไปอย่างช้าๆ

“นี่พวกเจ้า …”

เห็นภาพนี้ ใบหน้าของสวี่เหมาซีดเผือด ข้างในหัวใจบังเกิดความเย็นเยียบ

“ไม่มีซักคนเดียวที่ยอมช่วยเหลือแกก่อนตาย ช่างน่าเศร้าจริงๆ”

ซูเฉินเยาะเย้ย  จากนั้นซัด [หมัดดาวตก] ออกไป ระเบิดร่างสวี่เหมาเป็นผุยผง

ผู้แข็งแกร่งระดับเทวะที่เหลือ ได้แต่มองหน้ากัน ก่อนหันหลังหลบหนีไป

เหลือเพียงระดับเทวะเผ่ามนุษย์คนเดียวที่ยังยืนอยู่ที่เดิม ไม่ขยับเขยื้อนแม้สักก้าว

ซูเฉินเหลือบตามองเขา เอ่ยเสียงเย็นว่า “รอฉันอยู่ที่นี่ ถ้าแกกล้าหนี ต่อให้เป็นสุดปลายขอบฟ้า ฉันก็จะตามไปฆ่าแกอย่างแน่นอน”

“ขอรับ”

ระดับเทวะเผ่ามนุษย์สั่นสะท้านไปทั้งร่าง ตอบรับด้วยน้ำเสียงเคารพ

ซูเฉินไม่สนใจ เปิดใช้งาน [รองเท้าเพิ่มความเร็ว] ไล่ตามไปยังทิศทางที่ระดับเทวะคนอื่นๆหลบหนี

เนื่องจากอีกฝ่ายค่อนข้างกระจัดกระจาย ซูเฉินจึงเรียกหุ่นเชิดทองคำออกมาช่วยจัดการ

หลังจากติดตั้งหุ่นเชิดระดับเทวะอีกสองตัวเข้าด้วยกัน ระดับความแข็งแกร่งของมันก็เพิ่มเป็นเทวะขั้น 3 หากให้จัดการกับระดับเทวะขั้น 2 ไม่ใช่เรื่องยาก

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ระดับเทวะทั้งหมดที่หลบหนีถูกฆ่าตาย  ซูเฉินรวบรวมชิ้นส่วนและกลับมา

ระดับเทวะเผ่ามนุษย์ ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมอย่างซื่อตรง ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ขยับเขยื้อนเลย

“แกมาจากขุมกำลังไหน แล้วชื่ออะไร?”

ซูเฉินมาหยุดหน้าระดับเทวะเผ่ามนุษย์ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

8/8

Ep.964

“ข้าชื่อมู่เซี่ยงข่าย มาจากตระกูลมู่แห่งเกาะชิงหยุน”

มู่เซี่ยงข่ายไม่กล้าปิดบังแม้แต่น้อย สารภาพตามตรง

ตระกูลมู่แห่งเกาะชิงหยุน …

ซูเฉินนึกทบทวนครู่หนึ่ง จากนั้นเอ่ยต่อว่า “เหล่ามู่ ระดับเทวะของเผ่ามนุษย์ยังเหลืออีกกี่คน?”

“สิบสี่” มู่เซี่ยงข่ายตอบอย่างรวดเร็ว

เดิมที ระดับเทวะเผ่ามนุษย์ไม่ได้มีแค่นี้ แต่เพราะบางส่วนถูกซูเฉินฆ่าไป จึงเหลือแค่ 14 คนเท่านั้น

ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย กล่าวต่อว่า “แล้วระดับเทวะจากสี่ขุมกำลังใหญ่ในทวีปเสวียนเทียนยังเหลืออีกกี่คน?”

ระดับเทวะเผ่ามนุษย์ที่ไล่ล่าเขา ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่มาจากทวีปเสวียนเทียน คนเหล่านั้น ซูเฉินจะไม่ยอมปล่อยพวกมันไป

สำหรับระดับเทวะเผ่ามนุษย์จากที่อื่นๆ ซูเฉินยังพอยอมไว้ชีวิตสุนัขของพวกมันได้!

เพราะท้ายที่สุดแล้ว หากระดับเทวะของทวีปมนุษย์ถูกสังหารจนหมดสิ้น คงเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นแน่

ในฐานะสมาชิกเผ่ามนุษย์ ซูเฉินไม่ต้องการเห็นเหตุการณ์นี้

“ที่เหลือก็มีระดับเทวะจากพันธมิตรนักฆ่า , วิหารศักดิ์สิทธิ์หมานหยู , วังสุริยันจันทรา อย่างละคน” มู่เซี่ยงข่ายตอบ

“ฉันจะให้โอกาสแกรอดชีวิต แต่ต้องตั้งใจฟังให้ดี” ซูเฉินเอ่ยเสียงเบาราวกระซิบ

พอได้ยินว่าจะมีโอกาสรอด  สีหน้าของมู่เซี่ยงข่ายแปรเปลี่ยนไป เงี่ยหูตั้งใจฟัง

“ขอให้แกกลับไป แล้วติดต่อกับระดับเทวะเผ่ามนุษย์คนอื่นๆ ว่าให้ฆ่าระดับเทวะของพันธมิตรนักฆ่าและวิหารศักดิ์สิทธิ์ซะ นอกจากนี้ให้พาบรรพชนจ้านเทียนแห่งวังสุริยันจันทราไปยังตระกูลฉี”

“ถ้าทำทั้งสองเรื่องเสร็จ พวกแกทุกคนก็ไม่ต้องตาย” ซูเฉินสั่ง

“ไว้ใจได้ ข้านำข่าวนี้ไปบอกทุกคนให้”

มู่เซี่ยงข่ายพยักหน้าอย่างแรง เอ่ยปากให้สัญญา

สังหารระดับเทวะของพันธมิตรนักฆ่าและวิหารศักดิ์สิทธิ์ แม้อาจผิดจรรยาบรรณอยู่บ้าง แต่เพื่อเอาชีวิตรอด มีแต่ต้องทำแบบนี้เท่านั้น

นอกจากนี้ ผู้ริเริ่มคิดต่อต้านซูเฉิน หลักๆก็มาจากระดับเทวะของสองฝ่ายนี้เช่นกัน กระทำเช่นไรได้ผลลัพธ์เช่นนั้น ทั้งหมดเป็นความคิดของพวกเขาเอง

“แกไปได้แล้ว” ซูเฉินโบกมือ ยอมเลิกรา

“ขอบพระคุณเจ้ามาก!” มู่เซี่ยงข่ายคล้ายได้รับการนิรโทษกรรม บินหนีออกไปด้วยความเร็วสุดขีดที่จะรีดเร้นออกมาได้

รอจนมู่เซี่ยงข่ายหายลับไปจากสายตา  ซูเฉินหันไปเปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] สนทนากับหงส์เพลิง

“เสี่ยวเหยียน ในมิติท้ารบมีอันตรายอะไรบ้างไหม?”

อีกเดี๋ยวเขาต้องเข้าสู่มิติท้ารบแล้ว เพื่อป้องกันไว้ก่อน จึงตั้งใจจะทราบข้อมูลของมิติท้ารบ

และในบรรดาสัตว์เลี้ยงวิญญาณ  มีเพียงหงส์เพลิงเท่านั้นที่เคยเข้าสู่มิติท้ารบ

“เจ้านาย มีพื้นที่อันตรายมากมายอยู่ในมิติท้ารบ นอกจากนี้ยังมีสัตว์ร้ายมิติเข้ามาเช่นกัน แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้านายในตอนนี้ ไม่น่ามีปัญหาใดๆ” หงส์เพลิงกล่าว

ได้รับคำตอบจากหงส์เพลิง ซูเฉินไม่คิดอะไรมากอีก ก้าวเข้าประตูเมืองโดยตรง

แต่เดิม มีทหารยามจำนวนมากอยู่ในเมือง ทว่าตอนนี้ข้างในอาคารกลับรกร้างว่างเปล่า

ซูเฉินกวาดสายตามอง และพบทางเข้าสู่มิติท้ารบ พุ่งเข้าไปทันที

เมื่อเขาสู่มิติท้ารบ ดวงตาของซูเฉินพร่ามัว เห็นแค่เพียงชั้นหมอกสีเทาลอยอยู่รอบๆ ขอบเขตการมองเห็นมีจำกัดมาก สูงสุดประมาณ 100 เมตรเท่านั้น

แล้วอีกอย่าง ซูเฉินสามารถตระหนักได้อย่างชัดเจน ว่าระดับฐานฝึกตนของเขาถูกสะกดลงเหลือแค่ขั้น 10  เหมือนกับตอนอยู่บนแผ่นดินใหญ่เลย

ในส่วนของเรื่องนี้ ซูเฉินไม่สนใจ  เพราะหากในกรณีที่ทุกคนข้างในคือขั้น 10 เท่ากับว่าไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้กับเขาได้

จากนั้น ซูเฉินเดินหน้าไปในทิศทางเดียว วัตถุประสงค์หลักของการมาที่นี่คือการปลุกพลังพิเศษ และหนทางเดียวที่จะปลุกมันให้ตื่นขึ้น  มีแต่ต้องต่อสู้เท่านั้น

เฉพาะในการต่อสู้จึงจะสามารถปลุกพลังได้

ณ ตอนนี้ เขาจึงเอาแต่มุ่งหน้าตามหาสัตว์ร้ายมิติ

หลังจากวิ่งไปได้ประมาณสิบไมล์ จู่ๆเงาร่างหลายร้อยชีวิตปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา แม้จะยังมองไม่เห็นรูปลักษณ์ แต่มั่นใจได้เลย ว่าพวกมันต้องเป็นสัตว์ร้ายมิติอย่างไม่ต้องสงสัย

เพราะผู้ฝึกตนจากหมื่นเผ่าพันธุ์ต่างหวาดกลัวจนหลบหนีกันไปหมดแล้ว

–ในหมื่นเผ่าพันธุ์ เกรงว่าจะมีแค่ซูเแินคนเดียวในสนามรบ!

*พรุ่งนี้งดประจำสัปดาห์จ้า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด