ตอนที่ 111 เข้าถ้ำโจร
ตอนที่ 111 เข้าถ้ำโจร
กายกำลังมองดูกลุ่มโจรกระทิงโลหิตนับร้อยคนทยอยกันออกมาจากรังอยู่ด้านหลังหิน ห่างออกยังจุดที่โจรพวกนี้ยากจะสังเกตเห็น
พวกโจรไม่ได้มีมากนัก เพราะม้าส่วนใหญ่ถูกพวกกลุ่มโจรชุดแรกเอาออกไปเกือบหมดแล้ว ดังนั้นเกินกว่า 80 เปอร์เซ็นต์
ภาพตรงหน้าทำเอาเขากลัวเล็กน้อย ถ้าปะทะกับกลุ่มโจรนับร้อยคงยากจะรอด แต่ยังดีที่กายไม่ได้เข้าปะทะ กายกำลังรอให้โจรพวกนี้ออกจากค่ายไปไกล ๆ ก่อนจะเข้าไปขโมยเอาสมบัติพวกมันออกมา และวางแผนใช้สมบัติเหล่านั้นเป็นเหยื่อล่อ เพื่อสังหารกระทิงโลหิต
“นับดูแล้วน่าจะมีอยู่ประมาณ 100 กว่าคน เราจัดการไปก่อนหน้านี้ประมาณ 50 คนแล้ว ถ้าตามข้อมูลในนั้นต้องมีอีก 50 คน เจ้าแน่ใจนะว่าจะเข้าไปจัดการแบบนี้” ลูก้าที่วิ่งไปนับจำนวนโจรใกล้ ๆ กลับมาบอกกับทุกคน
“ถ้าเข้าไปแล้วพวกมันทีละไม่มาก พวกเรา 5 คนน่าจะจัดการได้อย่างไม่มีปัญหา อีกอย่างกระทิงโลหิตออกมาจากรังของมันด้วย” กายกล่าว
ทุกคนมองไปที่กระทิงโลหิต หัวของกระทิงโลหิตคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ
แต่ในตอนสายตาของกายก็หันไปเห็นยังจุด ไกล ๆ ซึ่งมีกองกำลังทหารรับจ้างจำนวนมากได้เคลื่อนที่ขึ้นมาบนภูเขา ซึ่งอยู่ห่างจากโจรกระทิงโลหิตไม่ไกล และดูเหมือนกำลังจะเผชิญหน้ากันอีกไม่นาน
พวกนั้นมันใครกัน...ทำไมถึงมีกองกำลังขึ้นมาที่ภูเขาของกระทิงโลหิต หืมอย่าบอกนะว่าเป็นพวกที่มาล่าหัวโจรพวกนี้ด้วย... กายมองดูอย่างสงสัย
“แผนเราจะเป็นอะไรไหม” ลิลี่ถามออกมาอย่างกังวล
“ไม่ พวกนั้นจะช่วยเราได้มากถ้าพวกเขาปะทะกัน น่าเสียดายที่เราไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้นี้ด้วย” อาลีน่าที่อยู่ในกลุ่มพูดออกมา มีอาก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
การต่อสู้จะทำให้พวกเธอพัฒนาได้เร็วขึ้น
“ปล่อยพวกมันสู้กันไป เราเข้าไปข้างในกัน” กายพูดพร้อมกับลุกขึ้นและเดินอ้อมออกไปยังถ้ำของโจรกระทิงโลหิต
...
ขณะเดียวกันทางด้านของสเวนที่ตอนนี้ขี่อยู่บนหลังม้า ใบหน้าของเขานั้นซีดขาวราวกับไก่ต้ม เพราะบาดแผลที่ไหล แม้จะเจ็บแต่สเวนกลับกังวลมากกว่าว่าจะหลอกคนพวกนี้ได้อีกนานแค่ไหน
“เจ้าบอกว่าพวกมันมีกัน 50 คนใช่ไหม แล้วตอนนี้อยู่ไหน” กระทิงโลหิตถามด้วยน้ำเสียงดุดัน
“ข้า...ข้าหนีมันออกมาและตอนนั้นข้าเห็นพวกมันกำลังพากองกำลังขึ้นมาที่นี่ บางทีมันอาจจะซ่อนตัวอยู่ก็ได้” สเวนหาทางตอบกลับไปอย่างถ่วงเวลา ตอนนี้เขาก็ไม่รู้เช่นกันว่ากายและพวกหายไปไหน
แต่สเวนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองจะโดนทิ้งซะแล้ว
“ส่งคนนำออกไปหาร่องรอยของพวกมัน”
“หัวหน้ากระทิงโลหิต ท่านดูนั้นสิ มีกองกำลังกลังขึ้นมาที่นี่จริง ๆ ด้วย” หนึ่งในสมุนโจรรายงาน
กองกำลัง?
บัดซบกองกำลังไหน เจ้านักล่าค่าหัวเดวินมันไปหากองกำลังมาตอนไหน...ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาสงสัยแล้ว กองกำลังไหนก็ช่างในเมื่อขึ้นมาที่นี่ก็แสดงว่าเตรียมสู้อยู่แล้ว ดีละข้านายท่านสเวนผู้นี้จะเอาพวกมันไปให้พวกเจ้าเชือดเอง
สเวนแสยะยิ้มมุมปาก
“นั้นพวกมัน พวกที่สังหารที่น้องของพวกเรา ดูเหมือนมันจะพากันมาตัดหัวท่านด้วย ตอนนั้นข้าหนีมาอย่างยากลำบากแต่ข้าจำหน้าพวกมันได้ ไอ้คนที่น้าตาดี ๆ นั้นคือคนที่บอกท่านก็แต่หมาบ้านเท่านั้น มันจะตัดหัวตอนไหนก็ได้” สเวนร้องตะโกนรีบสุมไฟใส่ร้ายกองกำลังพวกนั้นในทันที
ในใจของสเวนร้อนรนเพราะกลัวว่ากระทิงโลหิตจะไม่เชื่อมัน แต่ดูเหมือนสเวนคิดมากไป เพราะตอนนี้กระทิงโลหิตกำลังกัดฟันกึด ๆ ก่อนจะสั่งลูกน้อง
“ฆ่าพวกมัน!ปล้นเอาเสื้อผ้า ชุดเกราะและอาวุธพวกมันมาให้หมด!!! ใครปล้นได้มากสุด สามารถเลือกของพวกมันได้ 5 ชิ้น”
เสียงของกระทิงโลหิตดังลั่น สมุนโจรจำนวนทั้ง 100 พอได้ยินว่าได้เลือกของที่ปล้นมากก่อนทุกคน มันก็พากันเลือดลมสูบฉีด ต่างพากันเล็งไปยังอาวุธและชุดเกราะของเด็กหนุ่มทั้งสามคน
“ฆ่า!!!”
โจรนับร้อยควบม้าวิ่งเข้าหากองกำลังปริศนาที่พวกมันเองก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่มีเรื่องหนึ่งที่พวกมันรู้นั้นก็คือ คนพวกนี้กำลังพากันมากำจัดโจรอย่างพวกมัน
ทางด้านของวิลเลียมลูคัส โจชัวและกองกำลังทหารรับจ้างต่างก็ตกใจที่เห็นว่ากลุ่มโจรกระทิงโลหิตได้พากันยกพวกมาสังหารพวกมันแล้ว
“บ้าเอ๊ยพวกมันรู้ตัวแล้ว แถมยังมันมากกว่า 100 คนอีก”
“รีบตั้งรับเร็ว”
สถานการณ์บีบไม่ให้พวกเขาสามารถถอยได้ เพราะห้าหันหลังหนีในตอนนี้ก็มีแต่ตายกับตายเท่านั้น ดังนั้นวิลเลียมและคนอื่น ๆ จำใจต้องสู้กลับไปเท่านั้น
ขณะที่ทั้งสองกองกำลังหนึ่งคือกระทิงโลหิตและอีกหนึ่งทหารรับจากของวิลเลียมต่างสู้กันอย่างวุ่นวาย กายที่ตอนนี้แอบเข้ามาถึงหน้าประตูถ้ำพวกกระทิงโลหิตแล้ว
“เข้าไปด้านในระวังตัวด้วยตอนนี้ยังมีรองหัวหน้าอีกคนอาจจะอยู่ด้านใน รีบจัดการโจรแล้วขนสมบัติออกมากัน” กายกล่าวออกมา ทั้ง 4 คนก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ
โจรที่เหลือไม่มากต่างมองออกไปอย่างกระวนกระวายใจ พวกมันได้ยินเสียงการต่อสู้มาจากไกล ๆ อยู่ตลอดเวลา แต่ในตอนนั้นเองอยู่ ๆ ก็มีคนลอบเข้ามาข้างหลัง
“ใคร!” มันได้พูดเพียงคำเดียว ดาบของมีอาก็ฟันไปที่คอของมันหัวขาดออกจากตัว ล้มลง ตุบ! เลือดสาดกระจาย
โจรอีกคนมองไปด้วยความตกใจ มันอ้าปากคิดจะร้องเตือนโจรคนอื่น ๆ แต่ลูกศรก็พุ่งปักเข้าไปที่ปลิดชีพมันในทันที
ทั้งมีอาและอาลีน่าต่างหันไปมองและพยักหน้าให้กัน ลึก ๆ แล้วอาลีน่ายังคงต้องการแข่งขันกับมีอาอยู่
...
กายไม่ได้สนใจท่าทีของทั้งสอง เพราะอย่างไรพวกเขาก็เป็นฝ่ายเดียวกัน และการแข่งขันกันนั้นก็ถือเป็นเรื่องของมีอาและอาลีน่าเท่านั้น
ทั้งห้าเดินเข้าอย่างระวังตัว โดยกายยังคงเป็นคนเดิมนำหน้าสุดมีค้อนสั่นสะเทือนอยู่ในมือและดาบหักสังหารอยู่ด้านหลัง
ส่วนคนที่เหลือนั้นเดินตามกายมา
“ถ้ำนี้ไม่เหมือนกับถ้ำ ใหญ่พอสมควรเลย ถ้าเราไม่แยกกันคงยากจะสำรวจหมด” ลูก้าพูดออกมาขณะที่ กวาดสายตามองไปรอบด้าน
“ที่จริงแล้วไม่จำเป็น ถ้ำพวกนี้น่าจะมีเส้นทางหลักที่ตรงไปยังที่พักของกระทิงโลหิต เราแค่เดินตรงไปยังทางนั้นก็พอ ในระหว่างทางค่อยจับโจรสักคนมาถามเอา” กายตอบกลับไป
“เราไม่ควรจะแยกกัน เพราะไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง” มีอาเห็นด้วยกับความคิดของกาย
“ถ้าอย่างนั้นก็มาเลือกกันเถอะว่าจะไปทางไหน ตรงนั้นมีทางแยกสองเส้นทาง” อาลีน่าชี้ไปยังเบื้องหน้าของพวกเขา มันเป็นถ้ำที่มีไฟติดรอบ ๆ ทั้งสองฝั่ง
“ไปทางซ้าย” ลิลี่พูดออกมาอย่างมั่นใจ ทุกคนหันไปมองเธอ
พวกเขาไม่เชื่อข้าอย่างนั้นเหรอ
ลิลี่เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยก่อนจะอธิบาย “พวกเจาดูที่พื้นสิมันมีรอยเดินมากมาย จะต้องเป็นที่พักอย่างแน่นอน”
“นั้นก็จริง” ลูก้าคิดตาม เขาก้มลงไปดู พื้นมีรอยสึกมากจากการเดินเข้าออกเป็นประจำ แต่อีกทางก้มีเช่นกันแต่ไม่มากนัก
“งั้นก็ไปทางซ้ายกัน เรายังไม่อาจจะแน่ใจว่าเส้นทางนี้คือที่พักของกระทิงโลหิตและคลังสมบัติ แต่ค่อยไปถามพวกเขาอย่างสุภาพเอา”
พอได้ยินกายพูดออกมาว่าจะไปถามอย่างสุภาพ ทั้งสี่คนก็พากันกรอกตามองบนในทันที
กายเนี่ยนะจะไปถามอย่างสุภาพ เอาค้อนไล่ทุบละสิก็ไม่ว่า ลิลี่คิดในใจเบา ๆ
เฮ้อหวังว่าจะมีคนรอดให้ถามบ้าง ลูก้าก็คิดแบบเดียวกัน
แต่พอทั้งสองหันมามองก็เห็นว่าทั้งกาย มีอาและอาลีน่าเดินเข้าไปก่อนแล้ว
“เฮ้ รอด้วย”
ลิลี่และลูก้าพูดออกมาพร้อมกันก่อนจะวิ่งตามหลังไป
กายคว้าเอาคบเพลิงจากปากทางมาด้วย เพราะด้านในนั้นมืดมาก
แปลกทำไมที่อยู่ของพวกนี้ถึงมืดแบบนี้ มันคงไม่มืดไปทั้งถ้ำหลอกนะ...แต่ดูที่พื้นแล้วก็คงเป็นเส้นทางเข้าออกหลังจริง ๆ โอ้มันมีห้องด้วย
เมื่อกวาดสายตามอง ตามทางเดินด้านหน้าเป็นห้องที่ถูกเจาะเพิ่มขึ้นมาแต่ละห้องมีประตูปิดไว้อยู่กายส่งสายตาให้กับคนในกลุ่มเพื่อระวังตัว
ก่อนที่จะพากันเดินไปสำรวจทีละห้อง ห้องแทบจะทั้งหมดไม่ได้ล็อกเพราะมันไม่มีใครอยู่ แต่กายก็เจอห้องหนึ่งที่มันล็อกไว้อยู่
ดูเหมือนจะมีคนอยู่ด้านใน
ก่อนที่เขาจะเดินไปหยุดอยู่หน้าห้องและเคาะประตูสองสามครั้ง
“เฮ้มีใครอยู่ไหม พอดีข้าจะเดินไปที่คลังสมบัติแต่ไปไม่ถูก” กายถามไปตรง ๆ
แต่คนทั้งสี่ที่อยู่ด้านหลังไม่คิดว่ากายจะพูดจริงที่ว่าถามอย่างสุภาพ
กายรอสักพักไม่มีใครตอบเขาจึงเคาะรัว ๆ อีกหลายครั้ง จนประตูแทบจะพัง ในที่สุดก็มีเสียงตอบกลับมาจากในห้องด้วยความโมโห
“หยุดนะเว้ย ไอ้บ้าที่ไหนมาเคาะประตูวะ ข้าเฝ้ายามมาทั้งคืน วันนี้วันหยุดข้าจะนอนพักไปที่อื่นเลยไป”
กายขมวดคิ้วก่อนจะยกค้อนขึ้นมาทุบดัง ตูม!ไปที่ประตูทำเอาประตูไม้หน้าห้องแหลกไม่มีชิ้นดีเลย แต่แล้วในตอนนั้นก็มีเสียงเหมือนใครกำลังสำลักเลือดมาจากด้านในห้อง พร้อมกับเสียงกรีดร้องของหญิงสาว เมื่อกายส่องไฟเข้าไปก็เห็นว่าชายเจ้าของห้องที่ตะโกนพูดกับกายเมื่อกี้จะเอามือกุมคอของตัวเองอยู่ ที่คอมีเศษไม้จากประตูที่แตกกระจายเพราะการโจมตีปักคาคออยู่
โจรคนนั้นเหมือนจะพยายามพูดด้วยความไม่พอใจบางอย่าง ก่อนที่มันจะล้มลงหน้าทิ่มตายไป กายเองก็ไม่รู้ว่าไอ้โจรในห้องมันจะกากขนาดหลบเศษไม้ไม่พ้น
“ข้าว่าแล้ว” ลิลี่และลูก้าพูดออกมาพร้อมกัน
กายหันไปมองทั้งสองและพูดออกไป “มันเป็นอุบัติเหตุนะ แต่ยังมีรอดอีกคนหนึ่งดูสิ”
กายชี้ไปที่ด้านใน มีหญิงสาวอีกคนที่ใบหน้ามีรอยฟกช้ำกำลังเปลือยเปล่าอยู่ ดูเหมือนเธอจะไม่ได้เป็นพวกเดียวกับโจรพวกนี้