ตอนที่ 25 ของขวัญวันเกิดชิ้นแรงของเย่เทียน
บ้านบรรพบุรุษตระกูลเซียว
เวลาเปิดงานใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แขกก็เริ่มเข้ามามากขึ้นเช่นกัน
บรรดานักธุรกิจและผู้นำทางการเมืองจากไห่จิงได้มาเข้าร่วมงานนี้ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก
ด้วยกลุ่มคนที่ตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อ ในที่สุดคุณย่าก็ค่อยๆเดินออกมาจากเบื้องหลังโดยมีหลานสองคนคอยพยุงอยู่ด้านข้าง
เย่เทียนลืมตาขึ้นมอง เขาอดไม่ได้ที่จะตะลึง
สุดยอด!
ร่างกายของคุณย่า...สูงมาก!
ไม่แปลกเลยที่เย่เทียนจะใช้คำนี้ เขาคิดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะได้คำว่า‘สูง’กับคนชราอายุ90ปี เพราะแท้จริงแล้วคุณย่าคนนี้สูงเกือบ 1.9 เมตร แม้ว่าความชราจะทำให้หลังของเธองอลงแต่เธอก็ยังสูงถึง 1.85 เมตรซึ่งสูงกว่าเย่เทียนด้วยซ้ำ ทำให้หลานทั้งสองคน(อาจจะเป็นเหลน)ที่อยู่ข้างเธอดูตัวเล็กลงทันที
ผู้คนต่างยืนยืนขึ้นและปรบมือต้อนรับ
คุณยายเดินด้วยไม้เท้าหัวมังกรดำ เธอยิ้มและพยักหน้า “ขอบคุณทุกท่านที่มางานเลี้ยงวันเกิดของฉัน มาเริ่มงานกันเถอะ”
คำพูดเปิดงานอย่างกระชับทำให้ความชอบของหญิงชราในหัวใจเย่เทียนเพิ่มขึ้น
สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือคนที่ชอบกดดันคนอื่นโดยไม่คำนึงความรู้สึกของผู้คน
งานเลี้ยงฉลองวันเกิดเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ อาหารอันโอชะและไวน์เลิศรสย่อมเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
หลังจากทานอาหารได้ซักพักก็ถึงเวลาแสดงความกตัญญู
ของขวัญมากมายที่มีตั้งแต่ราคาต่ำถึงสูงได้ถูกส่งไปให้คุณย่า
ของขวัญชิ้นแรกเป็นของเด็กตระกูลเซียวที่มีอายุห้าถึงหกขวบ มันเป็นภาพวาดและนกกระเรียนกระดาษที่เขาพับด้วยตัวเอง “ผมของให้คุณย่ามีแต่ความสุขและมีสุขภาพที่แข็งแรง”
“ดี”
คุณย่าลูบหัวของเหลนตัวน้อยด้วยรอยยิ้มที่ใจดี เธอโบกมือให้สาวใช้มอบซองแดง ซึ่งซองแดงแต่ล่ะซองนั้นมีมูลค่าอย่างน้อย 5 หลัก
เมื่อเหลนให้ของขวัญย่าทวดเสร็จ ต่อไปก็เป็นรุ่นหลานอย่างเซียวหรง
ลูกหลานของตระกูลเซียวเป็นรากฐานความมั่นคงของตระกูล และพวกเขายังเป็นกลุ่มคนที่ใหญ่ที่สุด
แน่นอนว่าพวกเขาไม่สามารถให้ของขวัญทำมืออย่างนกกระเรียนกระดาษพันตัวได้ แต่มันจะเป็นของอย่างไข่มุก เพรช พลอย หรืออาจเป็นของเก่าหายาก
เซียวหรงยิ้มและแอบตื่นเต้นอยู่ใสใจ ภาพนี้วาดโดยจิตรกรราชวงศ์ชิงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของภูเขาหนานซานซึ่งมันคือภาพวาดภูเขาหนานซาน ถ้าพูดถึงคุณค่าของมันเกรงว่าจะเป็นได้แค่ของระดับกลางถึงล่าง...หวังว่าคุณย่าจะเห็นมูลค่าของน้ำใจมากกว่ามูลค่าของวัตถุนะ
“ลูกพี่ลูกน้อง ข้างในกล่องของขสัญเธอคืออะไรเหรอ?” ลูกพี่ลูกน้องEมองที่กล่องในอ้อมแขนเย่เทียนอย่างสงสัย มุมปากของเย่เทียนกยกขึ้น “แน่นอนว่ามันเป็นของดี”
“ยิ่งพูดแบบนี้ฉันยิ่งสงสัย บอกกันก่อนไม่ได้เหรอ?” ลูกพี่ลูกน้องEยิ้ม
“ไม่ต้องรีบบรอก ไว้พบกันใหม่นะครับ” เย่เทียนเลียริมฝีปากของเขา
เซียวหรงเหล่มองเขาแล้วกระซิบ “ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าให้ของขวัญที่นายเตรียมมา ฉันเตรียมของขวัญไว้ให้นายแล้วทำไมถึงไม่ฟังกันบ้าง?”
ในมุมมองของเซียวหรง ถึงเย่เทียนจะไปหาหญิงรวยเขาก็หาของดีๆมาไม่ได้แน่นอน เพราะเครื่องประดับทองและเงินในโกดังของคุณย่ามีมากพอที่จะเปิดร้านทองได้เลย และขนาดกล่องของขวัญของเย่เทียนมันดูไม่เหมือนวัตถุโบราณเลยสักนิด....
เย่เทียนยิ้ม “เธอให้ของเธอ ฉันให้ของฉัน มันเหมือนกันไหมล่ะ? ฉันเตรียมของขวัญให้คุณย่าสี่ชิ้น แล้วเธอล่ะ? เธออย่าเอารูปภูเขาหนานซานง่อยๆแบบนั้นมาโชว์ดีกว่า หรือจะพูดให้ดีคือแธอเก็บภาพไปซะจะได้ไม่ขายขี้หน้าคนอื่นเขา”
เซียวหรงกำหมัดแล้วตวาดใส่เขา “เย่เทียน!”
“ภาพวาดภูเขาหนานซาน”
ลูกพี่ลูกน้องCที่กำลังรอให้ของขวัญได้หันหน้ามาพูดด้วยความแปลกใจ “รูปหนานซานที่พวกเราพูดถึงคงไม่ได้เหมือนกันใช่ไหม? เพราะฉันก็เตรียมภาพภูเขาหนานซานมาเหมือนกัน”
“เอ๋?” เซียวหรงประหลาดใจ
“ลูกพี่ลูกน้อง เธอซื้อภาพภูเขาหนานซานมาจากไหน?”
“ได้มาจากร้านขายของเก่า”
“ลูกพี่ลูกน้อง รูปของเธอคงเป็นของปลอมแล้วล่ะ” ลูกพี่ลูกน้องCส่ายหัวและตบไปที่กระเป๋า “ภาพวาด หนานซานของฉันได้รับการประเมิณจากผู้เชี่ยวชาญมากกว่าสิบคนแล้วว่าเป็นของจริง”
“อ่า มีเรื่องสนุกให้ดูอีกแล้ว”
ญาติและลูกพี่ลูกน้องทั้งหมดต่างแสดงสีหน้าร่าเริง รวมถึงเย่เทียนด้วย
เซียวหรงตื่นเต้นและทำอะไรไม่ถูก
ใบหน้าของเซียวหรงเปลี่ยนเป็นซีดขาว “เป็นไปไม่ได้ ฉันใช้เงินไปมากกว่าหนึ่งล้านสำหรับภาพวาดนี้ นี่ต้องเป็นของแท้แน่นอน!”
“มากกว่าหนึ่งล้าน? เฮอะ! ฉันใช้เงินมากกว่าหนึ่งล้านไปกับค่าประเมินอย่างเดียว” ลูกพี่ลูกน้องCส่ายหัวและเยาะเย้ย “ตอนที่พวกเรายังเด็กคุณย่าของเราเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องภาพวาดและอักษรโบราณ ถ้าเธอไม่เชื่อก็ขอให้ท่านตรวจดูได้เลย”
“เธอกล้าเอาไปประเมิณหรือเปล่าล่ะ?” เซียวหรงพูดอะไรม่ออก เย่เทียนเองก็เห็นว่าเธอกำลังตัวสั่นอยู่
นี่คือความรู้สึกไม่มั่นใจ
เย่เทียนยิ้มเยาะ
ของขวัญถูกให้ไปทีละชิ้น ในไม่ช้าก็มมาถึงเซียวหรงและลูกพี่ลูกน้องคนนั้น
เมื่อทั้งสองคนนำภาพวาดภูเขาหนานซานออกมา บรรยากาศในตรงนั้นก็เริ่มดุเดือนขึ้นมาทันที
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่เชี่ยวชาญด้านตัวอักษรและภาพวาดโบราณ ต่างมองขึ้นไปบนเวที
แต่ด้วยระยะห่างของพวกเขา ทำให้เห็นภาพวาดภูเขาหนานซานทั้งสองอันนั้นเหมือนกันทุกประการ และแยกความต่างระหว่างของจริงกับของปลอมได้
คุณย่าสั่งให้สาวใช้ไปหยิบแว่นขยาย และเรียกหลานสาวทั้งสองที่คุกเข่าอยู่ให้ลุกขึ้น “น่าสนใจจริงๆ มาดูกันดีกว่าว่าของใครจะเป็นของปลอม”
เธอส่องแว่นขยายดู
การซื้อของจากร้านขายของเก่าหมายถึงของปลอม
คุณย่าตรวจดูแค่เจ็ดแปดนาทีเท่านั้น
คุณย่าได้รู้ความจริงแล้ว เธอยกมือขึ้นและชี้ไปที่หนึ่งในนั้น “หรงหรง สายตาเธอแย่กว่าลูกพี่ลูกน้อง นี่เป็นภาพวาดของปลอมคุณภาพสูง”
“อะ...อะไรนะ!” เซียวหรงเหมือนถูกฟ้าผ่า หน้าของเธอซีดลง
ลูกพี่ลูกน้องพูดด้วยความภาคภูมิใจ “ฉันบอกเธอแล้ว แต่เธอไม่เชื่อเอง”
“เป็นไปไม่ได้ นี่จะเป็นของปลอมได้ยังไง” เซียวหรงรู้สึกเสียหน้าและอับอายอย่างมาก
คุณย่าพูดต่อ “เรื่องนี้เธอโทษใครไม่ได้หรอกนอกจากช่างจอมปลอมคนนั้น ถ้าฉันไม่ได้เห็นของจริงตั้งแต่แรกก็คงบอกได้ยากว่าอันไหนเป็นของจริง…”
“แต่ว่า...”
"ของปลอมก็คือของปลอม ไม่แปลกใจเลยที่หลายคนบอกว่าเธอสายตาไม่ดี” คุณย่าส่ายหัว
ประโยคที่บอกว่า “หลายคนบอกเธอสายตาไม่ดี” เป็นการเล่นคำใช่ไหม?
เย่เทียนรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย เขาเอียงศีรษะแล้วพูด “คุณย่าไม่ได้พูดประชดผมใช่ไหม?”
ทุกคนต่างตกใจเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้
เซียวหรงเกือบจะล้มลงไปบนพื้นด้วยความตกใจ
พ่อและแม่ของเซียวหรงถึงกับอยากพุ่งออกมาจากประตูในทันที
พระเจ้า!
แกทำอะไรลงไปเย่เทียน แกพูดกับคุณย่าแบบนั้นได้ยังไง แกจะฆ่าพวกเราหรือไง?! ถึงเซียวหรงจะทำผิดแต่แกห้ามโต้กลับแบบนั้น!
คุณย่ามองที่เย่เทียน “เธอเป็นสามีของเซียวหรงชื่อเย่เทียนสินะ”
“ใช่ครับ คุณย่า” เย่เทียนพยักหน้า ท่าทีที่ไม่ถ่อมตัวและไม่เย่อหยิ่งของเขา กระตุ้นความอยากรู้ของคุณย่า
เธอได้ฟังข่าวลือของเย่เทียนมาบ้างแล้ว แต่พอมาเห็นเขาในวันนี้มันกลับไม่ตรงกับข่าวลือเลยสักนิด
ลูกเขยหน้าหล่อที่ทำอะไรไม่ได้จะมีความมั่นใจแบบนี้ได้ยังไง?
เมื่อทุกคนมองที่เย่เทียน พวกเขาก็เห็นเย่เทียนที่มีความั่นใจเต็มเปี่ยม!
เมื่อคุณย่าเห็นสายตานับไม่ถ้วนมองมา เธอก็ยิ้มแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ “หนุ่มน้อย เธอเอาของขวัญอะไรมาล่ะ?”
เย่เทียนยิ้ม เขายกมือส่งสัญญาณให้คนรอบข้างเขาถอยไป เขานั่งลงและเริ่มเปิดของขวัญ “ผมเตรียมของขวัญมาให้คุณย่าสี่ชิ้น คุณย่าต้องชอบมันแน่นอน!”
“โอ้ สี่ชิ้นเลยเหรอ ในบรรดาหลานเธอเตรียมมาเยอะที่สุดเลยนะ” คุณย่ายิ้มและสงสัยเรื่องของขวัญ
เซียวหรงกลัวมากจนขาเธอสั่น เธอแอบอธิษฐานในใจว่า “เย่เทียน...ฉันขอล่ะ อย่าทำให้ฉันต้องขายหน้าไปมากกว่านี้เลย!”
คนอื่นๆต่างเขย่งเท้าและมองเข้าไป ทุกคนอยากรู้ว่าขยะอย่างเย่เทียนจะเอาอะไรมาให้เป็นของขวัญ
“ของขวัญชิ้นแรก! ตึงตึงตึงตึง! นมผงอี้เมิ่งสำหรับผู้สูงอายุ!”
เย่เทียนดึงถุงนมผงออกมาแล้วถือไว้เหนือศีรษะแล้วพูดเสียงดังว่า “ผมซื้อสิ่งนี้มาจากร้านขายนมผงโดยเฉพาะเลยนะ มันเป็นอาหารเสริมแคลเซียม! ดูดซับง่ายและดีต่อร่างกายมาก!”
เมื่อเขาพูดจบ!
เงียบ!
ทุกคนต่างเงียบสนิท!
เงียบจนได้ยินเสียงเข็มหล่นได้!
เงียบกริบ!
คนทั้งสามจากบ้านเซียวหรงรู้สึกอายมาก
จบสิ้นแล้ว!!!