ตอนที่แล้ว877-878
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป881-882

879-880


5/10

Ep.879

“ซูเฉิน ไว้ชีวิตข้าเถอะ!” ชาวเผ่าเทพร้องอ้อนวอน

เขารู้ดี ว่าลำพังตนย่อมไม่สามารถหยุดซูเฉินได้ หากอยากมีชีวิตรอด มีแต่ต้องขอความเมตตาจากซูเฉินเท่านั้น

ซูเฉินแค่นเสียงหัวเราะในลำคอ ชก [ชีวิตเมามายจมอยู่ในห้วงฝัน] สะกดให้ชาวเผ่าเทพตกอยู่ในห้วงภวังค์ แล้วโฉบกายไปเบื้องหน้า สะบั้นหนึ่งคมดาบตวัดเป็นแนวนอน

หลังจากอัพเกรด [ดาบเสริมมนตรา] มันก็ได้กลายเป็นสิ่งประดิษฐ์เทวะแล้ว แม้จะไม่อัดฉีดพลังเวทย์ลงไป แต่ก็ยังคมกริบ

พรวดดดด!

ศีรษะชาวเผ่าเทพกระเด็นขึ้นฟาก ซูเฉินระเบิดหมัดตามออกไป ปลิดชีพเขาตายคาที่

หลังจากสังหารชาวเผ่าเทพ ซูเฉินหันกลับมาสังหารชาวปีศาจราตรีต่อ

เมื่อซูเฉินทั้งสองผนึกกำลังกัน อำนาจสังหารเพิ่มพูนขึ้นหลายเท่า พริบตาเดียวกดดันจนชาวปีศาจราตรีหายใจไม่ออก

เห็นชาวเผ่าเทพกับชาวมายาตกตายลงด้วยน้ำมือของซูเฉินในไม่กี่ลมหายใจ ชาวอสูรศักดิ์สิทธิ์และ ชาวอมตะต่างเกิดความตื่นตระหนกในจิตใจ เริ่มพยายามที่จะหนีจากที่นี่

ทว่าฉีมู่เฟิงและหุ่นเชิดทองคำล้วนแข็งแกร่งกว่าพวกเขา อันที่จริงทั้งสองถูกสะกดมานานแล้ว ไม่มีโอกาสหลบหนีได้เลย

ชาวอสูรศักดิ์สิทธิ์ถึงกับยอมเปิดเผยร่างที่แท้จริงออกมา กลายร่างเป็นวานรขาวขนาดสิบจั้ง แต่ก็ยังถูกฉีมู่เฟิงจับทุ่มลงไปกองกับพื้น ตามร่างกายมันตอนนี้ถูกกรีดเฉือนด้วยคมกระบี่นับไม่ถ้วน เลือดอาบไปทั้งตัวและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดไหล

“อ๊ากกกก!”

ในตอนนั้นเอง ภายใต้เสียงกรีดร้องอันน่าสังเวช เห็นแค่เพียงชาวปีศาจราตรี ถูกซูเฉินสองคนร่วมมือกัน สับสังหารเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

แทบจะในทันทีหลังจากนั้น ตามมาด้วยเสียงหวีดหวิว ซูเฉินสองคนกระโจนขึ้นฟ้า ตรงเข้าสังหารชาวอมตะต่อไม่มีหยุดพัก

เดิมชาวอมตะก็ถูกข่มโดยหุ่นเชิดทองคำอยู่แล้ว สุดท้ายจึงจบชีวิตลงโดยไม่อาจต่อต้านใดๆ

ณ เวลานี้ ซูเฉินเรียกคืนจิตจำลอง ก้าวช้าๆเข้าหาวานรขาว

ฉีมู่เฟิงเองก็หยุดเคลื่อนไหวเช่นกัน

ศัตรูเหลือเพียงวานรขาว ต่อให้มันมีกลวิธีเทียมฟ้า ก็มิอาจเล็ดลอดหนีไปได้

ตูม!

ระหว่างซูเฉินก้าวเข้ามา ใครจะคิดว่าวานรขาวจะคุกเข่าลงกับพื้น มันเริ่มอ้อนวอนขอความเมตตาจากซูเฉิน

“ซูเฉิน ได้โปรดไว้ชีวิตข้า! ข้ายินดีเป็นสัตว์เลี้ยงวิญญาณของเจ้า!”

ดวงตาของซูเฉินทอประกายวูบวาบ แต่ไม่ตกปากรับคำในทันที กลับยื่นมือชี้ไปทางต้นไม้ยักษ์ที่เหี่ยวเฉาแทน แล้วเอ่ยถามว่า “ต้นไม้ใหญ่นั่นใช่ต้นไม้แห่งชีวิตรึเปล่า?”

“ใช่” วานรขาวตอบทันที

“แล้วแก่นอสูรของมันอยู่ที่ไหน?” ซูเฉินถามต่อ

วัตถุประสงค์หลักของการเดินทางครั้งนี้คือต้นไม้แห่งชีวิต แต่เนื่องจากต้นไม้แห่งชีวิตได้ตายไปแล้ว  การได้รับแก่นอสูรของมันมาจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก

“พวกเราไม่ได้เคลื่อนย้ายแก่นอสูรของมัน ดังนั้นสมควรอยู่ในที่เดิม” วานรขาวกล่าวตามสัตย์จริง

หัวใจของซูเฉินรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง แต่ในขณะเดียวกันก็เกิดร่องรอยของความสงสัยขึ้นในใจ

แก่นอสูรของต้นไม้แห่งชีวิต ถือเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างแน่นอน แล้วพวกวานรขาวจะไม่หวั่นไหวเลยหรือ?

“ทำไมพวกแกถึงไม่เอาแก่นอสูรของมันออกไป?” ซูเฉินถาม

“เพราะนี่คือคำสั่งของนักพรตเทียนซ่าน เขาต้องการใช้แก่นอสูรของต้นไม้แห่งชีวิตล่อลวงเจ้ามาที่นี่”

วานรขาวไม่กล้าที่จะปกปิดแม้แต่น้อย

นักพรตเทียนซ่าน?

ดวงตาของซูเฉินค่อยๆหรี่ตา จมเข้าสู่ห้วงความคิด

ก่อนหน้านี้ เขาเคยได้ยินชื่อนี้มาจากบรรพชนตระกูลเจิ้ง ว่าสมุนไพรกำเนิดเซียนคือสิ่งที่นักพรตเทียนซ่านต้องการ แต่เขากลับขโมยมันมา ถ้างั้นเป็นไปได้รึเปล่าว่านักพรตเทียนซ่านอยากจะล้างแค้น?

คิดได้แบบนี้ ซูเฉินกล่าวเสียงเย็นว่า “ถ้าอย่างนั้น การที่พวกแกมาที่นี่เพื่อปิดล้อมโจมตีฉัน นักพรตเทียนซ่านเป็นคนจัดฉากใช่ไหม?”

“ใช่”

วานรขาวก้มศีรษะลง ตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

ซูเฉินเริ่มปั่นความคิดเล็กน้อย จากนั้นถามว่า “แล้วทำไมพวกแกถึงต้องเชื่อฟังนักพรตเทียนซ่านด้วย?”

ฉีมู่เฟิงเคยกล่าวไว้ ว่านักพรตเทียนซ่านพเนจรเพียงลำพังเฉกเช่นหมาป่าเดียวดาย ไม่มีผู้ใต้บังคับบัญชาใดๆ

“เขาบังคับเราให้ทำเช่นนี้ หากไม่ทำตาม เขาก็จะฆ่าพวกเรา” วานรขาวอธิบาย

6/10

Ep.880

โดนบังคับงั้นหรอ?

ซูเฉินพึมพำ

วานรขาวกับอีกสี่คนไม่เพียงแค่อยู่ในระดับเทวะเท่านั้น แต่ยังมาจากสุดยอดห้าเผ่าพันธุ์  มีกำลังรบเหนือกว่าเผ่าพันธุ์ต่างๆ แต่กลับถูกนักพรตเทียนซ่านบังคับ?

“นักพรตเทียนซ่านมีฐานฝึกตนขั้นไหน?” ซูเฉินเอ่ยถามเสียงต่ำ

“ข้าเองก็ไม่แน่ใจ” วานรขาวส่ายหัว แต่เหมือนมันกลัวว่าซูเฉินจะไม่พอใจกับคำตอบนี้ จึงอธิบายว่า “กำลังรบของนักพรตเทียนซ่านอยู่ในขอบเขตของระดับเทวะแน่นอน แต่เขาสามารถกดดันพวกเรา แล้วบีบบังคับให้ยอมจำนนได้”

แข็งแกร่งขนาดนั้นเชียว?

ซูเฉินเดาะลิ้น หันไปพูดกับฉีมู่เฟิงว่า “ระดับเทวะขั้น 5 สามารถทำแบบนั้นได้ไหม?”

“เกรงว่าจะทำไม่ได้”

ฉีมู่เฟิงตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง

“ถ้างั้นนักพรตเทียนซ่านอย่างน้อยต้องเป็นระดับเทวะขั้น 6 ขึ้นไป …” ซูเฉินสูดหายใจลึก

ระดับเทวะขั้น 6 สามารถบดขยี้เขาได้อย่างแน่นอน ซูเฉินอดไม่ได้ที่จะเริ่มรู้สึกกดดันในหัวใจ

อย่างไรก็ตาม ไม่นานเขาก็สามารถสลายความกังวลเหล่านั้นลง ไม่เหลือแรงกดดันในใจอีกต่อไป

นักพรตเทียนซ่านคือระดับเทวะขั้น 6 แล้วอย่างไร? ไม่ช้าก็เร็วซูเฉินก็จะก้าวสู่ระดับเทวะขั้น 6 เหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นด้วยลูกเล่นมากมายของเขา ตราบใดที่ขึ้นไปถึงระดับเทวะขั้น 4 ย่อมสามารถรับมือกับนักพรตเทียนซ่านได้

“แล้วแกรู้รึเปล่าว่าทำไมนักพรตเทียนซ่านถึงต้องการกำจัดฉัน?” ซูเฉินถาม

จะใช่เพราะสมุนไพรกำเนิดเซียนแค่เรื่องเดียวรึเปล่า ซูเฉินยังไม่แน่ใจ ดังนั้นอยากจะทราบจากปากศัตรู

“เขาแค่จัดแจงสถานที่ให้พวกเราลงมือ แต่ไม่ได้บอกเหตุผล” วานรขาวส่ายหัว

ซูเฉินไม่ได้คิดมากกับคำตอบนี้ ถามต่อว่า “งั้นทำไมนักพรตเทียนซ่านไม่ลงมือด้วยตัวเอง?”

ด้วยกำลังรบของนักพรตเทียนซ่านในระดับเทวะขั้น 6 ขึ้นไป หากคิดสังหารเขาจริงๆ ไม่น่าจะยากอะไรเลย แล้วทำไมถึงต้องส่งคนอื่นมาฆ่าเขาด้วย?

นี่คือจุดที่ซูเฉินค่อนข้างสงสัย

วานรขาวอธิบาย “เพราะมิติแห่งนี้ สามารถรองรับพลังสูงสุดได้ไม่เกินระดับเทวะขั้น 1 เท่านั้น หากอยู่ในขั้นที่สูงกว่า มันจะพังทลายลง”

“อ้อ”

ซูเฉินค่อยเข้าใจถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น เขาหรี่ตามองวานรขาว ในสมองค่อยๆปั่นความคิด

วานรขาวคืออสูรระดับเทวะ หากเขายอมรับมันเป็นสัตว์เลี้ยงวิญญาณ ย่อมช่วยเพิ่มพูนกำลังรบโดยรวมได้อย่างไม่ต้องสงสัย

อย่างไรก็ตาม ในสายตาเขา วานรขาวเป็นเพียงสิ่งของธรรมดา ไม่มีศักยภาพใดๆ ต่อให้ชุบเลี้ยงมันต่อไป แต่เมื่อสัตว์เลี้ยงตัวอื่นของเขาไต่ระดับมาอยู่ในขั้นเดียวกับมัน วานรขาวก็จะไร้ประโยชน์ทันที

คิดได้แบบนี้ เขาจึงลอบเปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] อย่างเงียบๆ สนทนากับด้วงเขมือบทองคำ

“เสี่ยวฉง ถ้านายกลืนกินอสูรระดับเทวะขั้น 1 มันจะช่วยเพิ่มระดับฐานฝึกตนให้นายได้ไหม?”

“เจ้านาย นั่นน่าจะมากพอให้สามารถเลื่อนขั้นเป็นเสมือนเทวะได้” ด้วงเขมือบทองคำกล่าวอย่างนอบน้อม

ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย  ตัดสินใจได้ในที่สุด

หากด้วงเขมือบทองคำเลื่อนขั้นเป็นเสมือนเทวะ กำลังรบย่อมไม่ด้อยไปกว่าวานรขาว  อีกทั้งการสังหารวานรขาวยังได้รับหินพลังงานระดับ 12 และชิ้นส่วนอีกจำนวนมาก ซึ่งมันคุ้มค่ายิ่งกว่าการรับวานรขาวเป็นสัตว์เลี้ยงวิญญาณซะอีก

มุมปากของซูเฉินค่อยๆยกโค้งเป็นรอยยิ้มพิศวง เบนมองไปยังวานรขาวแล้วถามว่า “ฉันจะออกจากมิตินี้ได้ยังไง?”

วานรขาวเห็นรอยยิ้มของซูเฉิน เกิดอาการขนลุกซู่ แต่ยังคงตอบอย่าซื่อตรง “เมื่อมิติแห่งนี้เปิดใช้งาน มันสามารถอยู่ได้เพียงหนึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นก็จะพลังทลาย และส่งคนข้างในออกไป”

“ที่ว่าส่ง ส่งออกไปที่ไหน?” ซูเฉินถามต่อ

“ส่งกลับไปยังดินแดนเดิมที่เข้ามา” วานรขาวกล่าวตามความจริง

“งั้นก็เป็นเทือกเขาหยุนหลัว” ซูเฉินงึมงำ

สิ่งที่ควรถามก็ถามแล้ว  ไม่จำเป็นต้องเก็บวานรขาวไว้อีกต่อไป

วินาทีถัดมา เขาซัดหมัดเข้าสังหารวานรขาวอย่างไม่ลังเล ขุดหินพลังงานจากศพมัน หลังจากรวบรวมชิ้นส่วน ก็ตรงไปยังต้นไม้แห่งชีวิต

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด