ตอนที่แล้วตอนที่ 28
ทั้งหมดรายชื่อตอน

ตอนที่ 29


ตอนที่ 29

ทันทีที่เรย์มอนด์ได้ยินคำพูดของจินมันก็เกิดความรู้สึกตื้นตันขึ้นมาภายในจิตใจของเขา จากนั้นเขาก็ได้ตัดสินใจทำตามคำแนะนำของเด็กหนุ่ม

“ไปนำของเหลวพลังงานหมายเลข 2 มาให้ฉัน”

“รับทราบครับ”

“คอรีย์นายไปขับยานอวกาศและทุกคนออกจากห้องควบคุมกลางเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้” เรย์มอนด์ออกคำสั่ง

คอรีย์เคยเห็นความสามารถของจินมาบ้างแล้วและเขายังเป็นหนึ่งในคนที่เรย์มอนด์รู้สึกไว้วางใจมากที่สุด ดังนั้นเรย์มอนด์จึงสามารถไว้วางใจคอรีย์ได้อย่างแน่นอนและสิ่งที่สำคัญคือยานอวกาศลำนี้จำเป็นที่จะต้องมีคนคอยบังคับอยู่ตลอดเวลา

ถึงแม้ว่าเรย์มอนด์จะเป็นคนที่ขับยานอวกาศได้ค่อนข้างดีเช่นกัน แต่เขาก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการปกป้องจินอยู่เสมอ เขาจึงไม่สามารถที่จะไปบังคับยานอวกาศด้วยตัวเองได้

“รับทราบครับ”

ทันทีที่ได้รับคำสั่งคอรีย์ก็รีบเข้าไปยังตำแหน่งที่นั่งคนขับยาน ในขณะที่ทหารที่ได้รับคำสั่งให้ไปนำของเหลวพลังงานหมายเลข 2 ก็รีบปฏิบัติตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว ซึ่งหลังจากที่เขาได้นำของเหลวพลังงานมามอบให้กับเรย์มอนด์แล้วเขาก็รีบออกจากห้องควบคุมกลางเพื่อไปเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้

“ฉันต้องการใช้ของเหลวพวกนั้นทั้งหมด” จินกล่าว

เมื่อได้ยินดังนั้นเรย์มอนด์ก็ได้เปิดกล่องของเหลวพลังงานหมายเลข 2 อย่างว่องไวแล้วคว้าของเหลวพลังงานจำนวน 10 แท่งออกมาจากกล่องก่อนที่จะหักครึ่งมันเพื่อยื่นให้กับจิน

จากนั้นอดีตหอยทากน้อยก็ได้เอื้อมมือของเขาเพื่อดูดซับพลังงานสีเขียวทั้ง 10 แท่งแล้วเสริมการป้องกันของยานอวกาศทันที

“เอามาอีก”

เรย์มอนด์รีบหักของเหลวพลังงานหมายเลข 2 อีก 10 แท่งแล้วยื่นให้เด็กหนุ่มตรงหน้าดูดซับมันเหมือนครั้งก่อน ส่วนทางด้านของจินก็ได้นำพลังงานจากของเหลวเหล่านี้มาเสริมความแข็งแกร่งให้กับยานอวกาศอีกครั้ง

"ไม่นะ!!" ทันใดนั้นคอรีย์ก็ได้ส่งเสียงร้องตะโกนออกมาอย่างฉับพลัน

แม้ว่าทักษะในการขับยานอวกาศของคอรีย์จะอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างดี แต่หลังจากที่เขาพยายามหลบหลีกการโจมตีอยู่หลายครั้งในที่สุดเขาก็ไม่สามารถที่จะหลบเลี่ยงการโจมตีในครั้งนี้ได้และกำลังมองดูลูกกระสุนปืนใหญ่พุ่งเข้าใส่ยานอวกาศอย่างไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เลย

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเวลาจะได้ผ่านพ้นไปสักพักแต่มันกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย…

“มันเป็นไปได้ยังไง?!”

ทันใดนั้นคอรีย์ก็ได้เหลือบมองไปที่หน้าจอห้องควบคุมอีกครั้งแล้วเขาก็ได้เห็นกับตาเต็ม ๆ ว่าการโจมตีเมื่อสักครู่มันได้กระแทกเข้าที่ด้านข้างของยานอวกาศแล้วจริง ๆ

แต่ในขณะที่เขากำลังอยู่ในอาการสับสนอยู่นั้นยานอวกาศก็ได้ถูกจู่โจมเป็นครั้งที่ 2 แต่สถานการณ์ก็ยังคงไมีมีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่นิดเดียว!

จู่ ๆ คอรีย์ก็ได้นึกถึงอะไรบางอย่างเขาจึงรีบหันกลับไปมองยังคู่รักของท่านจอมพลด้วยความรวดเร็ว

“อย่าเสียสมาธิ!!” เรย์มอนด์พูดอย่างเย็นชา

"ครับผม!”

ด้วยความตกใจคอรีย์ก็ได้รีบหันศีรษะของเขากลับมาเหมือนเดิมและตั้งใจขับยานอวกาศด้วยความระมัดระวังอีกครั้ง

แต่ในขณะเดียวกันคอรีย์ก็อดที่จะคิดภายในใจขึ้นมาไม่ได้ว่ายานอวกาศได้ถูกโจมตีอย่างเห็นได้ชัด แต่การที่เขาไม่รู้สึกถึงการโจมตีเหล่านี้เลยมันก็มีโอกาสเป็นไปได้ว่าคู่รักของท่านจอมพลกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่

ซึ่งนี่มันก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคู่รักของท่านจอมพลถึงต้องการของเหลวพลังงานที่มากขนาดนั้น!

ใช่แล้ว!!

ทันใดนั้นคอรีย์ก็เกิดความมั่นใจขึ้นมาภายในจิตใจว่าของเหลวพลังงานหมายเลข 2 จะต้องเป็นของเหลวพลังงานที่เหมาะสำหรับสภาพร่างกายของคู่รักของท่านจอมพลอย่างแน่นอน

ท่านจอมพลเรย์มอนด์ใช้ของเหลวพลังงานหมายเลข 4 และในตอนนี้ท่านจอมพลก็กำลังเปิดใช้ของเหลวพลังงานหมายเลข 2 จำนวนมาก ซึ่งในเมื่อท่านจอมพลไม่สามารถใช้มันเองได้แล้วของเหลวพลังงานเหล่านั้นมันจะหายไปได้ยังไง

ของเหลวพวกนั้นมันจะต้องถูกใช้โดยคู่รักของท่านจอมพลอย่างแน่นอน!

“โอ้มายก้อด!!”

คู่รักของท่านจอมพลสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าออกมาได้อีกทั้งยังสามารถรักษาบาดแผลให้หายได้ในทันทีและในตอนนี้เขายังทำให้ปืนใหญ่ของฝ่ายตรงข้ามสร้างความเสียหายให้กับยานอวกาศไม่ได้อีกด้วย

“นี่เขาเป็นพระเจ้าหรือเปล่า?!”

ถ้าเป็นแบบนี้ก็แสดงว่าคู่รักของท่านจอมพลเก่งกว่าท่านจอมพลนะสิ!

ทันใดนั้นคอรีย์ก็ปฏิญาณภายในใจว่าตั้งแต่นี้ต่อไปไอดอลของเขาจะไม่ใช่ท่านจอมพลเรย์มอนด์อีกต่อไป แต่จะต้องเป็นคู่รักของท่านจอมพลเรย์มอนด์เท่านั้น

เมื่อจินได้ดูดซับของเหลวพลังงานธาตุไม้ต่อเนื่องมามากถึง 210 แท่ง เขาก็รู้สึกได้ว่าการป้องกันของยานอวกาศน่าจะแข็งแกร่งเพียงพอแล้ว

“ถึงตาพวกเราแล้วสินะ ฉันจะขับหุ่นยนต์รบออกไปจัดการกับพวกมันเอง!” เรย์มอนด์กล่าวออกมาพร้อมกับเผยรอยยิ้มอันชั่วร้าย

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปกับนายด้วย ฉันจะคอยปกป้องนายเอง!!”

เป็นอีกครั้งที่เรย์มอนด์รู้สึกซาบซึ้งใจกับการกระทำของเด็กหนุ่มตรงหน้าและคำพูดของจินก็มักที่จะทำให้เขารู้สึกอบอุ่นหัวใจอยู่เสมอ

ตั้งแต่ที่แกนพลังงานของเรนน์ได้แตกสลายและกลายเป็นผู้พิการ เรย์มอนด์ก็มีบทบาทในการเป็นผู้นำครอบครัวและต้องคอยปกป้องผู้อื่นอยู่เป็นประจำ

และเนื่องจากภายในตระกูลไพธอนเขาถือว่าเป็นออร์คที่มีความสามารถและความแข็งแกร่งมากที่สุดภายในตระกูล ดังนั้นมันจึงไม่มีใครพูดว่าจะคอยปกป้องเขามาตั้งนานแล้ว

หลังจากนั้นเรย์มอนด์ก็อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปขยี้ผมของจินเบา ๆ เพื่อแทนความรู้สึกขอบคุณที่อยู่ภายในหัวใจของเขา

“นี่นายทำอะไร! อย่ามายุ่งกับทรงผมสุดหล่อของฉันนะ!!” จินปัดมือของเรย์มอนด์ออกจากผมของเขาและมองค้อนไปที่ออร์คหนุ่มตรงหน้าด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย

ในอดีตเมื่อตอนที่จินยังคงมีร่างเป็นหอยทากเขาไม่เคยมีเส้นขนที่มีลักษณะแบบนี้มาก่อน แต่เมื่อเขาได้กลายร่างมาเป็นมนุษย์เขากลับมีเส้นผมที่นุ่มสลวยสวยงาม มันจึงทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจและหวงแหนกับเส้นผมของเขาเป็นอย่างมาก

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ คอรีย์พวกเราจะใช้หุ่นยนต์รบของนายนะ” เรย์มอนด์กล่าวด้วยรอยยิ้มโดยไม่ได้ใส่ใจความโกรธที่จินมีต่อเขาเลย

ทันใดนั้นคอรีย์ก็ได้สะดุ้งลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ!

นี่ไอดอลคนใหม่ของเขาต้องการที่จะใช้งานหุ่นยนต์รบของเขาอย่างนั้นหรอ?!

นี่เขาจะโชคดีจนเกินไปแล้ว!

“นายน้อยฉันยังมีของเหลวพลังงานหมายเลข 1 สำรองอยู่ในหุ่นยนต์รบของฉัน ถ้าหากคุณต้องการคุณสามารถใช้มันเท่าที่ต้องการได้เลย” คอรีย์กล่าวด้วยความกระตือรือร้น

“ตั้งใจทำหน้าที่ของนายไป” เรย์มอนด์กล่าว

“ครับผม!”

เมื่อจอมพลเรย์มอนด์และจินได้เดินไปถึงโกดังของคอรีย์ มันก็มีทหารที่มีลักษณะเป็นหัวหน้าทีมวิ่งเข้ามา

“ท่านนายพลพวกเราเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว โปรดสั่งการมาได้เลย”

“เพื่อความปลอดภัยให้พวกคุณรอฟังคำสั่งอยู่ภายในยานอวกาศ” เรย์มอนด์กล่าว

“แต่ว่าท่านจอมพล…”

“ห้ามเคลื่อนไหวถ้าไม่มีคำสั่งของฉัน!”

หลังจากที่เรย์มอนด์ได้ออกคำสั่งย้ำกับหัวหน้าทหารเรียบร้อยแล้ว เขาก็ได้พบกับหุ่นยนต์รบของคอรีย์ในโกดัง

หุ่นยนต์รบของคอรีย์มีลักษณะภายนอกเป็นโลหะที่ถูกเคลือบด้วยสีดำซึ่งเหมาะสำหรับการซุ่มโจมตีในช่วงเวลานี้เป็นอย่างมาก

จากนั้นเรย์มอนด์ก็ได้เปิดกลไกลของหุ่นยนต์รบพร้อมกับดึงอดีตหอยทากน้อยเข้าไปในหุ่นด้วยกัน

ในขณะเดียวกันทางฝั่งของหัวหน้าทหารที่เข้ามารายงานก็กำลังรู้สึกงุนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้าเป็นอย่างมาก

ท่านจอมพลเรย์มอนด์ยืนยันที่จะให้พวกเขารอฟังคำสั่งอยู่ภายในยานอวกาศ ในขณะที่ตัวของเขาเองจะขับหุ่นยนต์รบออกไปโจมตีฝั่งตรงข้าม ซึ่งการเคลื่อนไหวด้วยตัวเองของท่านจอมพลจะว่องไวและยากต่อการมองเห็นของศัตรูและเหมาะสำหรับการลอบโจมตีมากกว่าการเคลื่อนกำลังพลแบบกลุ่ม

แต่ที่เขาไม่เข้าใจคือทำไมท่านจอมพลต้องพาคู่รักของเขาไปด้วย?

นี่ท่านจอมพลไม่รู้หรือว่าพวกสายพันธุ์อ่อนแอเป็นพวกที่บอบบางและป้องกันตัวเองไม่ได้?

ในขณะที่ทางจอมพลเรย์มอนด์ก็ไม่ได้มีเวลามาคาดเดาความคิดของหัวหน้าทหารที่อยู่เบื้องหลังเลยเพราะในตอนนี้เขากำลังจะใช้หุ่นยนต์รบของคอรีย์ขับออกไปซุ่มโจมตีศัตรูแต่เนื่องจากเขามีรูปร่างที่สูงกว่าคอรีย์เล็กน้อยและมีอดีตหอยทากน้อยเพิ่มเข้ามาอีกคน มันจึงทำให้พื้นที่ในหุ่นยนต์รบที่มีขนาดเล็กอยู่แล้วกลับยิ่งคับแคบมากยิ่งขึ้นไปอีก

เมื่อพวกเขาทั้งสองคนต้องอยู่ภายในหุ่นยนต์รบคันเดียวกันแบบนี้มันก็ทำให้การบังคับกลไกภายในหุ่นยนต์รบติด ๆ ขัด ๆ เป็นอย่างมาก

“เออ… หรือว่านายมานั่งตักฉันไหม?” เรย์มอนด์กระซิบบอกจินในขณะที่หูของเขาค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ

จินจำเป็นต้องเดินทางออกไปพร้อมกับเรย์มอนด์ไม่เช่นนั้นจะเป็นเรื่องยากที่จะคอยปกป้องเรย์มอนด์จากปืนใหญ่ของศัตรู

ซึ่งเมื่อเขาได้ยินคำแนะนำของเรย์มอนด์เขาก็ได้รีบปีนขึ้นไปบนขาของเรย์มอนด์ทันที จากนั้นจินก็พยายามปรับท่าทางการนั่งให้สบายและไม่เกะกะเรย์มอนด์ให้มากที่สุด

“นายโอเคหรือเปล่าถ้าฉันจะนั่งแบบนี้”

“โอเค” เรย์มอนด์ตอบเบา ๆ พร้อมกับกระแอมออกมา 2-3 ครั้งเพื่อพยายามกลบเกลื่อนความวุ่นวายใจของเขา

“ไปเลย!” เมื่อได้รับคำยืนยันจากเรย์มอนด์จินก็ได้ส่งเสียงตะโกนออกมาพร้อมกับเงยหน้าขึ้นและชี้นิ้วมือยื่นไปข้างหน้า

จากนั้นดาดฟ้าของยานอวกาศก็ได้ค่อย ๆ เปิดออกอย่างช้า ๆ แล้วหุ่นยนต์รบสีดำก็ได้บินขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความรวดเร็ว

ในขณะเดียวกันเรย์มอนด์ก็ได้ทำการส่งคลื่นการเชื่อมต่อของหุ่นยนต์ให้กับจิน มันจึงทำให้จินสามารถมองเห็นสถานการณ์ด้านนอกของหุ่นยนต์รบด้วยเช่นเดียวกันและเมื่อหุ่นยนต์รบตัวนี้ได้อยู่ในการควบคุมของเรย์มอนด์มันก็สามารถที่จะเคลื่อนที่เข้าไปในดงกระสุนปืนใหญ่โดยไม่สัมผัสกับการจู่โจมจากจอมโจมกาเล็คซี่เลยแม้แต่น้อย

แต่ในทันใดนั้นเองจินก็ได้กล่าวออกมาว่า

“ไม่ต้องเสียเวลาในการหลบการโจมตีพวกนั้นหรอก มุ่งหน้าเข้าไปตรง ๆ ได้เลย”

เรย์มอนด์: "..."

ในตอนนี้ผมที่นุ่มสลวยของจินอยู่ในระดับเดียวกับคางของเรย์มอนด์และด้วยเส้นผมที่นุ่มประหนึ่งขนนกแบบนี้มันจึงทำให้เรย์มอนด์รู้สึกจั๊กจี้ทุกครั้งที่จินขยับตัว เขาจึงกระแอมออกมาเบา ๆ แล้วกล่าวว่า

“โอเค”

ถึงแม้ว่าหุ่นยนต์รบของคอรีย์จะมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับยานอวกาศที่พวกเขาอาศัยอยู่ แต่มันก็สามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็วเป็นอย่างมากจนในตอนนี้พวกเขาก็อยู่ใกล้ ๆ กับยานอวกาศของจอมโจรกาเล็คซี่เรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากหุ่นยนต์รบนี้มีขนาดที่เล็กเป็นอย่างมากมันจึงทำให้ทางฝั่งของศัตรูยังไม่สามารถตรวจพบการมีตัวตนของพวกเขา

จากแผนการที่เรย์มอนด์ได้คิดเอาไว้เขาก็ตั้งใจที่จะทำลายโกดังเก็บพลังงานของยานอวกาศศัตรูเพื่อให้ได้รับชัยชนะ

“เดี๋ยวก่อน! นี่นายกำลังจะทำอะไร” จินกล่าวถาม

จากนั้นเรย์มอนด์ก็ได้อธิบายแผนการของเขาให้กับจินได้ฟังอย่างคร่าว ๆ

“มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าโกดังเก็บพลังงานของยานถูกทำลาย” จินถามเรย์มอนด์ด้วยความสงสัย

“ยานอวกาศก็จะระเบิด”

“โธ่! แบบนั้นก็ไม่สนุกเลยน่ะสิ”

“เอ่อ… แล้วนายมีแผนจะทำยังไงกับพวกมัน” เรย์มอนด์ถามกลับ

“ถ้าสมมติว่ายานอวกาศระเบิดพวกมันก็จะตายกันหมดเลยใช่ไหมล่ะ” จินกล่าวถามเรย์มอนด์เพื่อขอคำยืนยัน

เมื่อเห็นแบบนั้นเรย์มอนด์ก็พยักหน้าเป็นการยืนยันความคิดของจิน เพราะถึงแม้ว่ายานอวกาศทุก ๆ ลำจะได้ติดตั้งแคปซูลกู้ภัยเอาไว้อยู่เสมอ แต่โดยปกติแล้วในกรณีที่ยานอวกาศระเบิดอย่างกระทันหันมันก็ไม่มีเวลามากพอที่จะทำให้ทุกคนหนีเข้าไปในยานแคปซูลกู้ภัยได้ทันเวลา

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็เป็นฝ่ายที่เสียเปรียบอยู่ฝ่ายเดียวนะสิอย่างน้อยพวกเขาก็จะต้องมีชีวิตอยู่เพื่อชดใช้สิ่งที่พวกเขาได้ทำกับพวกเรา ซึ่งฉันก็จะทำให้พวกเขาสูญเสียอะไรบางอย่างไปด้วยเช่นกัน”

“แน่นอนว่าฉันมีแผนที่คิดไว้ในใจอยู่แล้ว ฉันจะแอบส่งกระแสไฟฟ้าเข้าไปข้างในยานของพวกเขาและหลังจากที่อุปกรณ์ทั้งหมดภายในยานของพวกเขาใช้การไม่ได้ พวกเราก็จะแอบเข้าไปสร้างความโกลาหลนิด ๆ หน่อย ๆ ซึ่งในตอนนั้นมันก็ถึงเวลาที่นายจะต้องออกโรงแล้ว” จินอธิบายแผนการของเขาอย่างมีความสุข

“เยี่ยม เอาตามที่นายว่าเลย” เรย์มอนด์ตอบพร้อมกับดวงตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

เรย์มอนด์คุ้นเคยกับโครงสร้างของยานอวกาศเป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจึงสามารถเคลื่อนที่ไปถอดอุปกรณ์สลายพลังไฟฟ้าของยานอวกาศได้อย่างง่ายดาย ซึ่งหลังจากนี้ยานอวกาศก็จะไม่สามารถสลายคลื่นไฟฟ้าที่กระทบกับตัวยานได้อีกต่อไปและมันก็จะทำให้จินสามารถทำตามแผนการที่เขาวางเอาไว้ได้อย่างราบรื่น

ในระหว่างที่เรย์มอนด์ถอดอุปกรณ์สลายพลังไฟฟ้าเขาก็ทำการสอนเรื่องเกี่ยวกับอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าของยานอวกาศเหล่านี้ไปด้วย

หลังจากที่เรย์มอนด์อธิบายเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็ได้หยิบของเหลวพลังงานหมายเลข 1 ที่คอรีย์ได้เก็บสำรองเอาไว้ภายในห้องนักบินออกมา

ใช่แล้ว มันคือของเหลวพลังงานสีทองนั่นเอง!

“นายต้องการเท่าไหร่?”

“น่าจะประมาณ 30 แท่งนะ” จินกล่าวขณะที่ประเมินขนาดของยานอวกาศด้วยสายตา

หากเขาต้องการที่จะทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรภายในยานอวกาศ เขาก็ต้องส่งกระแสไฟฟ้าไปให้เพียงพอที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวาย เพราะถ้าหากเขาส่งกระแสไฟฟ้าน้อยเกินไปมันก็จะมีผลกระทบกับยานอวกาศเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น

จากนั้นเรย์มอนด์ก็ได้เปิดของเหลวพลังงานหมายเลข 1 จำนวน 30 แท่งให้กับเด็กหนุ่มตรงหน้า ซึ่งเมื่อจินได้ดูดซับพลังงานเรียบร้อยแล้วเขาก็ค่อย ๆ ยื่นมือออกไปตรงหน้าต่างเล็ก ๆ ข้าง ๆ ห้องนักบิน

ทันใดนั้นมันก็ได้มีลูกบอลไฟฟ้าขนาดใหญ่และมีความรุนแรงหลายหมื่นโวลต์ก่อตัวขึ้นมาภายในมือของเขา จากนั้นจินก็ได้ขว้างลูกบอลไฟฟ้าภายในมือเข้าใส่ยานอวกาศของจอมโจรกาเล็คซี่ด้วยความรวดเร็ว

-----

ณ ห้องควบคุมภายในยานอวกาศของจอมโจรกาเล็คซี่

ในขณะนี้ออร์คผู้รับผิดชอบการยิงปืนใหญ่กำลังกดปุ่มยิงออกไปอีกครั้ง แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้พบว่ากระสุนปืนใหญ่ไม่ได้พุ่งออกไปเหมือนเช่นเคย

ด้วยเหตุนี้เขาจึงพยายามกดปุ่มยิงปืนใหญ่ออกไปอีกครั้งด้วยความสับสน แต่มันก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ เกิดขึ้นมาเลย

เมื่อเห็นว่าปืนใหญ่ภายในยานยังไม่ถูกยิงออกไป ออร์คผู้รับผิดชอบก็ได้พยายามกดปุ่มยิงอยู่หลายครั้งซ้ำ ๆ แต่ทันใดนั้นมันก็ได้มีเสียงระเบิดดังขึ้นมา

ตูม!

สิ้นเสียงการระเบิดอุปกรณ์ทั้งหมดภายในห้องควบคุมกลางก็ได้ส่งเสียงซ่า ๆ ออกมาพร้อมกับไฟเหนือศีรษะของเขาที่ได้กระพริบ 2-3 ครั้งแล้วดับลงไป

"เกิดอะไรขึ้น?!"

ทันใดนั้นมันก็ได้มีกลิ่นเหม็นไหม้ลอยเข้ามาภายในอากาศ

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันหรือว่าวงจรไฟฟ้ามันจะมีปัญหาหรือเปล่า?”

“บ้าเอ้ย! ทำไมยานอวกาศลำนี้มันถึงห่วยขนาดนี้เนี่ย!!”

จากนั้นพวกออร์คทหารก็ได้นำแหล่งจ่ายไฟสำรองออกมาใช้งานและทำให้ภายในห้องมีแสงสว่างกลับคืนมาอีกครั้ง

“หัวหน้าพวกเราควรจะทำยังไงต่อกันดี?”

ในตอนนี้เป้าหมายที่พวกเขาได้รับงานมายังไม่เสียชีวิตแต่ยานอวกาศของพวกเขากลับมาพังเสียก่อน ซึ่งแม้ว่าพวกเขาจะเคยรับงานแบบนี้มาแล้วบ้างแต่มันก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่โชคร้ายขนาดนี้

ใช่แล้วกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ใช่จอมโจรกาเล็คซี่ธรรมดาเหมือนกับที่เรย์มอนด์ได้คิดไว้ เพราะพวกเขาเป็นทหารรับจ้างระหว่างดวงดาว

“ฉันเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าฉันไม่ต้องการยานอวกาศมือ 2 ที่น่าจะถูกทำลายทิ้งมารีไซเคิลใช้งานแบบนี้ นี่พวกเราเพิ่งยิงปืนใหญ่ไปเพียงแค่ 4 ระลอกเท่านั้น แต่จู่ ๆ ไฟฟ้ากลับลัดวงจรเนี่ยนะ!” ผู้บัญชาการออร์คตัวสูงที่อยู่ภายในห้องตะโกนออกมาด้วยความโมโห

เมื่อได้ยินเช่นนั้นรองผู้บัญชาการที่ได้ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ถึงกับก้มหน้าด้วยความรู้สึกผิดเนื่องจากเขาเป็นคนแนะนำผู้บัญชาการในการซื้อยานอวกาศเหล่านี้ตั้งแต่เริ่มเพราะมันมีราคาที่ถูกและดูทนทานเป็นอย่างมาก แต่เมื่อจู่ ๆ มันได้เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นมาแล้วเขาจึงไม่สามารถที่จะโต้แย้งใด ๆ ออกมาได้อีก เขาจึงรีบทำการเปลี่ยนเรื่องเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจทันที

“พวกเรายิงปืนใหญ่เข้าใส่พวกเขาไปตั้งนานแล้วทั้ง ๆ ที่มันเป็นเพียงแค่ยานอวกาศสำหรับพลเรือนธรรมดา ๆ แต่ทำไมยานอวกาศลำนั้นมันถึงยังไม่ระเบิดสักที?”

“นายลืมไปแล้วรึไงว่าออร์คที่อยู่ภายใต้การปกครองของเรย์มอนด์มีหลายคนที่เชี่ยวชาญในการบินเป็นอย่างมาก”

“นี่พวกเขาจะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้พวกเราจะจัดการต่อไปยังไงล่ะ”

“ทุกคนเตรียมตัวออกไปโจมตีเดี๋ยวนี้!!” ผู้บัญชาการไทรอนกล่าวสั่งการอย่างเย็นชา

เมื่อทุกคนได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการออร์คทุกคนก็ได้รีบวิ่งไปยังโกดังเพื่อเข้าไปในหุ่นยนต์รบของพวกเขาแล้วเปิดดาดฟ้าของห้องโดยสารเพื่อเตรียมพร้อมที่จะบินออกไป

แต่ก่อนที่หุ่นยนต์รบตัวแรกจะได้บินออกไปมันก็ได้ถูกยิงด้วยปืนใหญ่เลเซอร์จากมุมมืดมุมหนึ่ง

เนื่องจากหุ่นยนต์รบตัวนี้ไม่ได้ระมัดระวังตัวไว้ก่อนจึงทำให้มันไม่สามารถที่จะหลบกระสุนปืนใหญ่ได้ทันและได้รับการโจมตีเข้าไปเต็ม ๆ พร้อมกับกระแทกลงไปกับพื้นอย่างรุนแรง

ตูม!

ทันใดนั้นมันก็ได้มีเสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วทั้งประตูภายในห้องโดยสาร

จากนั้นเหล่าหุ่นยนต์รบที่เหลือที่อยู่ด้านหลังก็ได้รีบถอยกลับไปข้างหลังพร้อมกับเริ่มจู่โจมโต้กลับไปยังการโจมตีปริศนา

แน่นอนว่าบุคคลปริศนาคนนี้นั่นก็คือหุ่นยนต์ของเรย์มอนด์กับจินนั่นเอง

เมื่อถูกหุ่นยนต์รบของศัตรูระดมโจมตีเข้าใส่แบบนี้ เรย์มอนด์ก็ไม่สามารถที่จะหลบหลีกการจู่โจมได้ทุกครั้งและในที่สุดปืนใหญ่เลเซอร์ของศัตรูก็ได้ยิงกระทบเข้ากับหุ่นของพวกเขา

แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าปืนใหญ่เลเซอร์ของศัตรูจะยิงเข้าใส่หุ่นยนต์รบของเรย์มอนด์เต็ม ๆ แต่มันก็ไม่มีความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย

“นี่มันเป็นไปไม่ได้!!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด