ตอนที่แล้วตอนที่ 13 แกอย่ามาเสแสร้งดีกว่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 15 คนส่งอาหารที่ถ่อมตน

ตอนที่ 14 ฉันยินดีที่จะมอบหัวใจนี้ให้พี่เย่เทียน


ท้ายที่สุดแล้วทุกคนล้วนเป็นคนมีอารยธรรม เมื่อมันเป็นเรื่องเพียงเล็กน้อยเย่เทียนจึงปล่อยให้ผางเหว่ยขู่ซ่งตงหมิงแล้วปล่อยเขาไป

ในเวลาต่อมาเย่เทียนเริ่มเดินไปร้านค้าแบรนด์เนมต่างๆและเอากองเสื้อผ้ารองเท้าถุงเท้ากระเป๋าที่ซื้อมาไปใส่ไว้ในรถโรลส์รอยซ์

แม้ว่าสินค้าในย่านนี้จะมีแต่ของราคาแพง แต่มันถูกเย่เทียนซื้อเหมือนเป็นสินค้าขายส่ง

หลังซื้อเสร็จแล้วทั้งสามก็กลับไปที่อ่าวอิมพีเรียล

สระว่ายน้ำกลางแจ้งชั้น 3 ในวิลล่าA1

“ผางเหว่ย เหล่าฉิน มันจะไม่มีปัญหาเหรอที่พวกนายไม่กลับไปทำงานแล้วมาอยู่กับฉันทั้งวันแบบนี้?” เย่เทียนถามอย่างไม่ใส่ใจ

ผางเหว่ยหัวเราะ “ไม่รู้ว่าเหล่าฉินเป็นอะไหมแต่ฉันเป็นแค่ประธานที่ต้องคอยรับสายอย่างเดียว และจะกลับไปเฉพาะตอนมีประชุมสำคัญเท่านั้น”

“ก่อนหน้านี้ฉันไปลงทุนโปรเจ็กต์หนึ่งมาแต่แล้วมันก็จบลงด้วยการทำให้บริษัทสูญเสียเงินจำนวนมหาศาล ตอนนี้ฉันถูกลงโทษอยู่เลยทำให้ว่างมากๆ” ฉินเยี่ยนไม่ปิดบังความผิดพลาดของเขา

เย่เทียนยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นฉันมีเรื่องรบกวนพวกนายหน่อย”

“ต่อให้พี่เย่สั่งฉันไปขึ้นเขาหรือลงกระทะน้ำมันร้อน ฉันก็จะไม่บ่นสักคำ” ผางเหว่ยกระพริบตาเล็กๆของเขาด้วยสายตาหมาเลียเจ้าของอย่าเต็มที่ ฉินเยี่ยนกลอกตา เจ้าอ้วนนี่มันเลียเก่งจริงๆไม่รู้ว่ามันไปเรียนมาจากไหน

“ฉันสัญญากับฉีซินกั๋วว่าจะให้เงินเขา 800 ล้านเป็นเงินทุนสำหรับโหยวฉินเสี่ยวเหยา แต่ฉันรำคาญเรื่องยิบย่อยเลยว่าจะให้นายไปทำแทน ไม่ว่าจะตั้งมูลนิธิหรืออะไรก็ตามขอแค่บรรลุเป้าหมายก็พอ”

ผางเหว่ยตกตะลึงและพูดด้วยความประหลาดใจ “พี่เย่หมายความว่า...จะให้ฉันดูแลเงินทุน 800 ล้านของเสี่ยวเหยางั้นเหรอ?”

“มีปัญหาอะไรไหม?” เย่เทียนถามกลับ

“ไม่มีแน่…” ผางเหว่ยตื่นเต้นจนตัวสั่นแต่ก่อนจะพูดจบฉินเยี่ยนก็ลุกขึ้นำพูดอย่างรวดเร็ว “สิ่งที่คุณเย่พูดคือฉันกับผางเหว่ยใช่ไหม! ห้ามลืมฉันเด็ดขาดนะ!”

เย่เทียนพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันเห็นว่านายไม่ค่อยว่างเลยไม่อยากรบกวนนายเท่าไหร่”

“ไม่เป็นไร!!!”

ฉินเยี่ยนยืนตัวตรงและกำมือด้วยมือขวาพร้อมวางไว้ตรงที่หัวใจ “ฉันยินดีที่จะมอบหัวใจนี้ให้คุณเย่เทียน!!!”

“เหล่าฉิน...ไอ้เวร! นายมันหน้าไม่อาย!” ผางเหว่นดูถูกเขาด้วยท่าทางเหยีดหยาม

“คิดว่าตัวเองเลียขาคนอื่นเป็นคนเดียวหรือไง?” ฉินเยี่ยนตอบกลับด้วยเสียงต่ำ

“พอแค่นั้นแหละ พวกนายส่งบัญชีมาเดี๋ยวฉันจะโอนเงินให้คนละ 400 ล้าน พวกนายมีสิทธิ์ในเงินนี้เต็มที่ และเป้าหมายมีเพียงหนึ่งเดียวคือให้เสี่ยวเหยามีชื่อเสียง เข้าใจไหม? หาว…ฉันเริ่มง่วงแล้วล่ะ ขอไปงีบหน่อยแล้วกัน”

หลังจากแบ่งเงิน 800 ล้านออกเป็นสองส่วนให้ฉินเยี่ยนกับผางเหว่ยแล้ว  เย่เทียนก็กลับไปที่ห้องนอนบนชั้นสองแล้วไปเข้านอน หลังจากที่วันนี้เดินไปมาทั้งวันเขาจึงรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย

เมื่อเห็นเงิน 400 ล้านในบัญชีของบริษัท ปากของฉินเยี่ยนก็กระตุก "นี่มันเงิน 800 ล้านเลยนะ แต่ทำไมฉันรู้สึกเหมือนพี่เย่ใช้เงินแค่ 800 เอง”

“นี่แหละโลกของคนรวย สามารถเห็นได้แต่ไม่เข้าใจ——เหล่าฉิน นายคิดยังไงกับเงินนี้ล่ะ?” ผางเหว่ยถามพลางถูมือของเขาไปด้วย

“นายหมายความว่ายังไง?” ฉินเยี่ยนตะลึง ดวงตาของเขาเฉียบคมขึ้นในทันที “นายคิดจะทำอะไรกับเงินนี้? ฉันบอกเลยนะว่าฉันไม่เห็นด้วย!”

“ผายลมเถอะ! เห็นฉันเป็นคนแบบนั้นหรือไง? ฉันจะทำให้พี่เย่ผิดหวังที่ไว้ใจฉันได้ยังไง!?” ผางเหว่ยพูดด้วยความโกรธ “ฉันแค่จะถามว่านายจะเอาเงินนี้ไปให้ฉีซินกั๋วทำจริงเหรอ? ถ้าทำแบบนั้นทุกอย่างจะไม่ลงกระเป๋าของมันหมดรึไง?”

ฉินเยี่ยนที่เลิกสูบบุหรี่มาหลายปีก็เริ่มจุดบุหรี่อย่างช้าๆ ดวงตาของเขาคมเหมือนเหยี่ยวและสมองของเขาก็ทำงานอย่างรวดเร็ว “วิธีการของฉีซินกั๋วดูเหมือนจะใช้ได้แต่จริงๆแล้วมีค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นมากมากอย่างเช่นนักร้องแห่งปี ทำไมเราต้องไปหาติวเตอร์พวกนั้นด้วย? ในเมื่อบริษัทนายก็มีสินค้าบริษัทฉันก็มีสินค้า แล้วต้องใช้เงินเท่าไหร่ถึงจะได้สิทธิ์แชมป์โดยตรง? 200~300ล้าน! ทำไมเราไม่เป็นผู้สนับสนุนเองซะล่ะ! เราจะมีสิทธิ์มีเสียงทุกอย่างแล้วทำให้เสี่ยวเหยาเป็นแชมป์แถมยังผลักดันสินค้าได้ด้วย! ยิงหินก้อนเดียวได้นกสองตัว!”

“สมแล้วที่เป็นจิ้งจอกเยี่ยน แต่ฉันมีความคิดที่ดีกว่านี้” ผางเหว่ยที่มีชื่อเล่นในโลกธุรกิจว่า‘ไซจูเก๋อ’ เขาเลียริมฝีปากแล้วพูด "แค่ใช้เงินสองสามร้อยล้านเพื่อเปิดรายการวาไรตี้ใหม่แล้วเชิญดาราดังๆมาอย่างหวงซานจื่อ, ซุนซวงเล่ย,ฮวงโปเพื่อมาดันเสี่ยวเหยา แล้วพอจบซีซั่นนั้นเสี่ยวเหยาต้องดังระเบิดแน่”

“วิธีนี้น่าจะได้ผล” ฉินเยี่ยนเคาะบนโต๊ะเบา ๆ “ฉันจะติดต่อจื่อฉี ระหว่างนี้ที่ไปหาทีมพวกเราควรนัดเจอกันตอนเย็นด้วย”

“ได้ ฉันจะกลับไปที่บริษัทเดี๋ยวนี้ คนในบริษัทผางของฉันมีความสามารถมากมาย”

“ดูเหมือนบริษัทฉินของฉันจะอ่อนแอกว่าบริษัทนายน่ะ”

ฉินเยี่ยนและผางเหว่ยต่างรีบออกไปสรรหาคน

ในตอนเย็นที่แสนสงบ

เย่เทียนตื่นขึ้นเนื่องจากความเหนื่อยล้าของเขาผ่อนคลายลงแล้ว เขาลงไปชั้นล่างเพื่อทานอาหารค่ำแสนอร่อยกับพ่อแม่ของเขา

“ลูก พรุ่งนี้ลูกว่างรึเปล่า?” จู่ๆพ่อก็พูดขึ้น

“ว่างครับ มีอะไรรึเปล่า?”

“เพื่อนของลูกสาวป้าพึ่งเรียนจบมหาลัยปีนี้แถมเธอยังสวยมากด้วย ถ้าพรุ่งนี้ลูกว่างลูกก็ไปเจอเธอหน่อยสิ ลูกประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานแล้วลูกก็ควรจะแต่งงานตั้งแต่เนิ่นๆเพราะพ่อกับแม่อยากอุ้มหลานจนใจจะขาดแล้ว” พ่อพูดอย่างจริงจัง

“นัดบอด…” เย่เทียนไม่ค่อยสนใจนัก “ได้ครับ ผมจะลองไปดู”

แม่ของเย่เทียนโล่งใจ “ดีแล้วเสี่ยวเทียน”

บ้านตระกูลเซียว

วันนี้เป็นวันที่สามที่เย่เทียนหนีออกจากบ้าน

เซียวหรงมีสีหน้าไร้อารมณ์ ที่บริษัทมีหลายอย่างที่ต้องจัดการและเธอก็ไม่ได้สนใจเรื่องเย่เทียนมากนัก แต่เมื่อเธอสงบลงใบหน้าที่โง่เหง้านี้ก็โผล่มาในจิตใจของเธอแล้วยังมาพร้อมเสียง “ช่วยสุภาพกับฉันหน่อยสิ เธอควรเปลี่ยนนิสัยที่หยิ่งของเธอนะ ว่าไหมล่ะ?”

“ก็แค่หาผู้หญิงรวยได้ไม่ใช่รึไง? แล้วนายจะมาเย่อหยิ่งอะไรนักหนา!? มันไม่ใช่ของนายสักหน่อย!” เซียวหรงอดไม่ได้ที่จะด่าเขา

“ผู้หญิงรวยอะไร?” พ่อเซียวหรงถามด้วยความงุนงง

“ไม่ ไม่มีอะไร” เซียวหรงรีบส่ายหัว

"อีกไม่กี่วันข้างหน้าก็ครบรอบวันเกิด 90 ปีของคุณย่าแล้ว ลูกอย่าลืมนะว่าคนสำคัญทางการเมืองและธุรกิจจะมาร่วมงานฉลองวันเกิดด้วย"

"หนูรู้แล้ว หนูเตรียมของขวัญวันเกิดไว้ให้คุณย่าแล้ว"

“ลูกกับเย่เทียนมีปัญหาอะไรกันรึเปล่า??”

“ไม่...ไม่มีค่ะ”

“อย่าลืมบอกเขาให้เขามาร่วมงานนี้ด้วยล่ะ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะกลายเป็นตัวตลกและไม่เข้าใจธรรมเนียมของตระกูล”

“เย่เทียนมีสิทธิ์อะไรถึงมาร่วมงานวันเกิดของคุณย่า?!”

“ลูกยังไม่หย่ากับเขาไม่ใช่เหรอ? เขายังเป็นสามีในนามของลูกอยู่นะ!”

“…”