ตอนที่แล้วระบบทักษะพลิกชีวิต - ตอนที่ 29 เซี่ยเฉียง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบทักษะพลิกชีวิต - ตอนที่ 31 ชายหัวโล้นผู้น่าสงสาร

ระบบทักษะพลิกชีวิต - ตอนที่ 30 พี่เย่


ตอนที่ 30 พี่เย่

ปัง!

สิ้นเสียงปังก็ตามมาด้วยเสียงอู้อี้ ในเวลานั้น หวังยู่หยางกำลังพยายามใช้มือของตนเองสัมผัสหน้าอกขนาด 36D ของพนักงานสาวเป็นช่วงๆ แต่เสียงดังนั้นทำให้เขาถึงกับต้องตกใจตื่น และเมื่อลุกขึ้นมานั่งก็พบกับเด็กสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่งกำลังวิ่งตรงเข้ามาในห้องของตัวเอง

“วิ่งไปเลย! ฉันก็อยากจะรู้นักว่าแกจะวิ่งหนีพวกเราได้มั๊ย?”

ชายหนุ่มสองสามคนที่แค่เห็นหน้าก็รู้ว่าเป็นคนไม่ดี ได้วิ่งตามถิงถิงมาทันที และเมื่อเห็นกลุ่มผู้ชายหน้าตาดุร้ายสองสามคนวิ่งกรูเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว พนักงานนวดสาวทั้งสองที่กำลังนวดให้กับเย่โม่และหวางยู่หยางอยู่นั้น ก็ถึงกับตกใจและรีบถอยหนีทันที

“ฮ่าๆๆ คิดจะหนีงั้นเหรอ? จะหนีไปไหนได้แม่สาวน้อย? วันนี้ต่อให้เง็กเซียนมาด้วยตัวเองก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้หรอก!” เซี่ยเฉิงร้องตะโกนบอกพร้อมกับแสยะยิ้มชั่วร้ายราวกับปีศาจ

“มาน่าคนสวย! ตามพวกเราไปง่ายๆอย่าดื้อ ถ้าเธอตั้งใจบริการพวกเราให้ดีๆ ไม่แน่ว่าพวกเราอาจจจะเมตตาไว้ชีวิต แล้วส่งเธอไปอยู่ซ่องแทน แต่ถ้าเธอยังขืนดื้อดึง คงต้องถูกฆ่าแล้วเอาอวัยวะไปขายแน่!”

ชายหนุ่มร่างอ้วนท้วนผมทองร้องตะโกนข่มขู่เด็กสาว

“ฉันไม่ไป! ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น!”

เด็กสาวที่ชื่อถิงถิงเข้าไปนั่งยองๆข้างหวังยู่หยางด้วยร่างกายสั่นเทา ปากก็ร้องตะโกนตอบไปเสียงสั่น

แต่แล้วจู่ๆ น้ำเสียงที่ดูเหมือนจะไม่พอใจนักก็ดังขึ้นภายในห้อง!

“นี่! ไอ้พวกสวะเดนคน พวกแกเป็นใครกัน? จู่ๆก็บุกเข้ามาในห้องคนอื่นแบบนี้ แถมยังมาวางท่าใหญ่โตอีก พวกแกเชื่อมั๊ยว่า ฉันสามารถโทรเรียกคนมาจัดการกับพวกแกได้เลยนะ จะเอาให้อ้วกอาหารของเมื่อวานออกมาเลยล่ะ!”

หวังยู่หยางร้องตะโกนออกมาเสียงดัง ใบหน้าของเขาในตอนนี้เขียวคล้ำไปด้วยความโกรธ หลังจากที่ถูกขัดจังหวะจากการสัมผัสหน้าอกขนาด 36D ของพนักงานนวดสาว

“โวะ! ในห้องนี้มีคนไม่กลัวตายด้วยว่ะพวกเรา! แหมๆๆ อยากทำตัวเป็นพระเอกาขี่ม้าขาวมาช่วยนางเอกหรือไงเราอ่ะ? ฮ่าๆๆๆ”

ระหว่างที่พูดนั้น หนุ่มร่างอ้วนผมทองก็ได้เดินตรงเข้าไปหาหวังยู่หยาง พร้อมกับยกมือขึ้นตบหน้าเบาเป็นการหยอกเย้า

“ไอเ้วร!”

หวังยู่หยางสบถใส่หน้า พร้อมกับคว้าแก้วชาที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมารดใส่ศรีษะของหนุ่มร่างอ้วนทันที

หนุ่มผมทองร่างอ้วนที่กำลังอวดดีถึงกับตกตะลึงไปชั่วครู่ ในขณะที่คนอื่นๆกับมีปฏิกิริยาก่อน และพากันวิ่งกรูเข้าไปหาหวังยู่หยางราวกับฝูงผึ้ง!

“สัตว์เอ๊ย! วันนี้กูฆ่ามึงแน่!”

ทันทีที่หนุ่มร่างอ้วนผมทองได้สติ สีหน้าของมันก็เปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียมดุดันขึ้นมาทันที พร้อมกับล้วงเอามีดพับเล่มเล็กๆออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ก่อนจะกระซวกเข้าใส่ร่างของหวังยู่หยางในทันที!

ในเวลานั้นเอง เย่โม่ที่กำลังนอนหลับอยูนั้น จู่ๆก็ลุกขึ้นโผเข้าคว้าข้อมือของหนุ่มร่างอ้วนนั้นไว้ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับออกแรงดึงเพียงแค่เล็กน้อยก็ทำให้แขนทั้งแขนของมันเคล็ดขึ้นมาทันที

“อ๊าก! แขน.. แขนของกู! มึงทำแขนกูหัน!”

หนุ่มผมทองร่างอ้วนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดราวกับหมูถูกเชือด ก่อนจะถูกเหวี่ยงร่างจนหมุนติ้วออกไปกระแทกเข้ากับผนังห้อง ปากก็ร้องครวญครางออกมาอย่างน่าเวทนา ทั่วทั้งตัวเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ

แต่เย่โม่ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เขายังคงตรงเข้าจัดการกับพวกอันธพาลทั้งหมด ที่ได้กรูกันเข้ามาล้อมหวังยู่หยางไว้จนล้มกลิ้งกันไปทีละคน จากนั้น จึงค่อยๆก้าวเดินไปหาเซี่ยเฉิงพร้อมกับพูดขึ้นว่า

“พวกแกมันน่ารำคาญมากจริงๆ จะปล่อยให้ฉันได้พักผ่อนอย่างสงบกันบ้างไม่รึไง?”

เมื่อเซี่ยเฉิงได้เห็นลูกน้องทั้งหกของตัวเองลงไปนอนกลิ้งกับพื้นกันหมดนั้น มันก็เริ่มเกิดความกลัวขึ้นภายในจิตใจ แต่เมื่อนึกถึงเซี่ยเฉียงพี่ชายกับลูกน้องของเขาที่ยังอยู่ข้างนอก ความกล้าในใจก็พวยพุ่งขึ้นมาแทน

“นี่ไอ้หนู! ฉันรู้ว่าแกเองก็ไม่เบา แต่กรุณาอย่าเสือกเรื่องของคนอื่น เข้าใจมั๊ย? แกคิดว่าตัวเองจะเก่งไปได้กี่น้ำ แกจะเอาชนะคนอื่นไปได้สักกี่ครั้ง? ฉันขอเตือนไว้ก่อน เรื่องวันนี้ไม่เกี่ยวกับแก เพราะฉะนั้นรีบๆพาเพื่อนของแกออกไปจากที่นี่ซะ ไม่อย่างนั้น ฉันจะสั่งสอนแกให้รู้ว่า… อุ๊บ.. ปล่อย.. ปล่อยกู!”

แต่ยังไม่ทันที่เซี่ยเฉิงจะพูดจบ เย่โม่ก็เอื้อมมือออกไปคว้าไหล่ข้างหนึ่งของมันไว้ พร้อมกับออกแรงบีบเพียงแค่เล็กน้อย เซี่ยเฉิงก็ถึงกับเจ็บปวดจนพูดไม่ออก และเวลานี้เหงื่อของมันก็ไหลท่วมตัว

“พวกแกต่างหากที่ต้องออกไป!”

หลังจากพูดจบ เย่โม่ก็ยกขาขึ้นถีบเซี่ยเฉิงกระเด็นลอยลิ่วออกไปจากห้องทันที จากนั้น เขาก็ได้หันไปพูดกับลูกน้องของเซี่ยเฉิงด้วยน้ำเสียงเย้นหยันว่า

“ไอ้พวกสวะ อยากให้พ่อของแกเชิญออก หรือพวกแกจะเดินออกไปดีๆห๊ะ?”

ทันทีที่เย่โม่พูดจบ บรรดานักเลงหัวไม้ที่นอนกองอยู่กับพื้น ก็พากันลุกขึ้นและรีบวิ่งออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว!

“กลับห้องไปนอนพักผ่อนกันดีกว่า บรรยากาศไม่เป็นใจแล้ว!” เย่โม่หันไปบอกกับหวังยู่หยาง

“พี่เย่! ทำไมวันนี้พวกเราสองคนเจอแต่เรื่องซวยๆ? เบื่อจริงๆเลย!”

หวังยู่หยางได้แต่บ่นพึมพำอย่างหัวเสีย ในขณะเดียวกันก็ล้วงเอาบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ แต่เมื่อนึกถึงเด็กสาวที่ยังคงนั่งยองๆอยู่ข้างเตียงของตนเอง เขาก็หันไปพูดด้วยอย่างอ่อนโยน

“นี่สาวน้อย! พวกเราช่วยคุณได้แค่นี้ล่ะ หลังจากนี้จะโชคดีหรือโชคร้ายก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาของคุณแล้วนะ!”

“พี่ชายคะ! ฉันรู้ว่าพี่ชายทั้งสองคนต้องไม่ใช่ชาวบ้านทั่วไปแน่ๆ ได้โปรดเถิดนะคะ! ได้โปรดช่วยฉันสักครั้ง ถ้าวันนี้ฉันถูกพวกมันจับตัวไปได้ ชีวิตของฉันก็คงต้องจบลงไปด้วยแน่!”

ถิงถิงคลานเข้าไปกอดขาของหวังยู่หยางไว้แน่น พร้อมกับอ้อนวอนของร้องให้เขาช่วยด้วยน้ำตานองหน้า

“เอ่อ…” หวังยู่หยางได้แต่อ้ำอึ้งและหันไปมองเย่โม่

เย่โม่ส่ายหน้าไปมาแทนคำตอบ เขาไม่ต้องการที่จะเข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นอีก แต่ในขณะที่เขากำลังจะหันหลังเดินจากไปนั้น จู่ๆ เสียงจากระบบก็ดังขึ้นในหัวของเขา

[บี๊บ! ภารกิจใหม่ปรากฏขึ้น! ช่วยถิงถิงแก้ปัญหา]

“เวรเอ๊ย! ดูท่าฉันคงไม่มีทางเลือกแล้วสินะ นอกจากต้องช่วยแม่สาวน้อยตรงหน้า!”

หลังจากรับปฏิบัติภารกิจแล้ว เย่โม่ก็หันกลับมา และเดินตรงเข้าไปหาถิงถิงที่กำลังกอดขาของหวังยู่หยางอยู่ พร้อมกับพูดขึ้นว่า

“เอาล่ะ ลุกขึ้นได้แล้ว ผมจะช่วยคุณเอง!”

ภายในห้องโถงด้านนอก ทั้งเซี่ยเฉียงและซูไป๋ต่างก็พากันตกอกตกใจเมื่อเห็นเซี่ยเฉิง และลูกน้องของมันรวมเจ็ดคน วิ่งหัวซุกหัวซุนกลับมา และแต่ละคนต่างก็บาดเจ็บกันมาหมด

ซูไป๋กรอกตาไปมาและเข้าใจสถานการณ์ได้ในทันทีว่า คืนนี้ ลูกค้าที่มาใช้บริการน่าจะมีใครบางคนที่ไม่ธรรมดา และดูเหมือนว่าคืนนี้สองพี่น้องแซ่เซี่ยคงจะมีจุดจบที่ไม่สวยแน่

ด้วยเหตุนี้ ซูไป๋จึงได้แต่ยืนมองด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างผ่อนคลายมากกว่าเดิม

“พี่ใหญ่ พวกเราถูกคนทำร้ายมา! หมอนั่นโคตรเก่งแล้วก็แข็งแรงมากๆ” เซี่ยเฉิงมาถึงก็ร้องตะโกนฟ้องพี่ชายด้วยความโมโหเดือดดาล

“มันเก่งแล้วยังไง? พวกแกมีกันตั้งมากมายยังไม่สามารถคว่ำมันได้รึไง? ห่วยชิบหาย! วันนี้มันเป็นวันซวยอะไรของฉันนักวะ! พวกเราไป ไปดูว่ามันเป็นใครกันแน่?”

หลังจากพูดจบ เซี่ยเฉียงก็เดินนำทุกคนเข้าไปที่ห้องนวดด้านในทันที โดยมีซูไป๋เดินตามาข้างหลัง เพื่อหวังจะได้ดูการแสดงสนุกๆ

และทันทีที่เปิดประตูห้องเข้าไป เซี่ยเฉิงก็ยกมือขึ้นชี้ไปที่แผ่นหลังของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง พร้อมกับร้องตะโกนบอกพี่ชายด้วยความโมโห

“พี่ใหญ่! ไอ้หมอนั่นล่ะที่มันทำร้ายพวกเรา!”

เซี่ยเฉียงพยักหน้ารับรู้ ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งจะถูกคนที่เหนือกว่าทำร้ายมา เวลานี้จึงค่อนข้างเข้าใจคำพูดที่ว่า ‘เหนือฟ้ายังมีฟ้า’ ได้เป็นอย่างดี จึงได้แต่พูดออกไปด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบปกติ

“สหาย… ฉันขอแนะนำตัวเองก่อน ฉันชื่อว่าเซี่ยเฉียง เป็นคนสนิทของคุณชายฉู่! เมื่อครู่น้องชายของฉันไม่ได้มีเรื่องกับเธอก่อนไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเธอถึงต้องทำร้ายเขากับลูกน้องขนาดนี้ด้วย ดูท่าเธอคงจะไม่เห็นแก่หน้าคุณชายฉู่เลยสินะ? เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เพื่อเห็นแก่หน้าคุณชายฉู่ ฉันจะให้เงินเธอหนึ่งร้อยหยวน แล้วก็ปล่อยให้เรื่องนี้จบๆไปซะ ไม่อย่างนั้น…”

เย่โม่ค่อยๆหันหลังกลับมา และทันทีที่เห็นหน้าเซี่ยเฉียงเข้า เขาก็จดจำได้ทันทีว่า เป็นคนเดียวกับชายหัวโล้นที่ถูกเขาทำร้ายที่คลับก่อนหน้านี้!

เซี่ยเฉียงเองก็ถึงกับดวงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจเช่นกัน เขาคิดไม่ถึงว่าจะได้เห็นใบหน้าของคนที่เขาไม่อยากจะพบเจออีกเลยในชีวิตนี้ คำพูดดุดันที่ตั้งใจจะพูดต่อจากนั้น ถึงกับถูกกลืนกลับเข้าไปในลำคอดังเดิม

เซี่ยเฉียงกลืนน้ำลายอึกใหญ่ และร่างทั้งร่างก็สั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัว แต่ก็ฝืนยิ้มและพูดออกไปว่า

“เอ่อ.. พี่.. พี่เย่! ผมคิดไม่ถึงจริงๆว่าจะเป็นพี่ชาย! ถ้าผมรู้ว่าพี่เย่อยู่ในห้องนี้ ต่อให้ผมกินดีหมีหัวใจเสือเข้าไปก็คงไม่กล้าเข้ามาแน่!”

“ไอ้เวรเอ๊ย! ไอ้น้องชั่ว! ทำไมแกไม่รู้จักแหกตาดูก่อนจะมีเรื่องกับใคร?”

หลังจากขอโทษขอโพยเย่โม่แล้ว เซี่ยเฉียงก็รีบหันไปตวาดน้องชาย พร้อมกับยกเท้าขึ้นถีบลูกน้องของเซี่ยเฉิงทีละคน และเวลานี้ เขาก็ได้แต่นึกเสียใจอย่างมากที่ตัดสินใจผิดพลาด เขาไม่ควรมาที่นี่ตั้งแต่แรก!

“พี่ใหญ่! นี่พี่กลัวอะไรมัน? พี่เป็นคนสนิทของคุณชายฉู่นะ?”

เซี่ยเฉิงร้องตะโกนถามออกมาด้วยความงุนงง เวลานี้ มันได้แต่คิดว่า พี่ชายของตนเองกำลังยกย่องคนอื่นมากเกินไป จนทำให้ตัวเองดูต่ำต้อยไปในทันที

“แกจะไปรู้อะไรไอ้น้องเวร? แกบังอาจมีเรื่องกับพี่เย่ ฉันนี่ล่ะจะสั่งสอนแกเอง!”

ทันทีที่พูดจบ เซี่ยเฉียงก็ยกมือขึ้นตบหน้าน้องชายทันที

เพียะ!

“โอ๊ย! พี่ใหญ่ นี่พี่ตบฉันทำไม? ถ้าพี่สู้มันไม่ได้ ก็แค่โทรบอกเรื่องนี้ให้คุณชายฉู่รู้ก็ได้นี่นา!”

เซี่ยเฉิงยกมือขึ้นกุมแก้มตัวเองไว้ พร้อมกับร้องออกมาด้วยสีหน้าน้ำเสียงที่ไม่พอใจนัก

“แกยังกล้าถามอีกเหรอว่าฉันตบแกทำไม? แกยังไม่รู้ตัวอีกว่าทำอะไรลงไปบ้าง? อย่าว่าแต่ฉันเลย ตอนนี้แม้แต่คุณชายฉู่ก็คงคุ้มกะลาหัวแกไม่ได้เหมือนกัน!”

เซี่ยเฉิงร้องคำรามออกไปด้วยความเดือดดาล พร้อมกับยกมือขึ้นตบหน้าน้องชายเข้าไปอีกหนึ่งฉาด

--------------------------

ติดตามนิยายแปลสนุกๆอีกหลายเรื่องได้ที่เพจ  : แปลสนุก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด